รับราชการมาจนจะเกษียณ เลยหาอะไรไว้ทำที่ได้ตังด้วย พรรคพวกไปทำสวนบ้าง เป็นที่ปรึกษาบริษัทบ้าง เราไม่เอาดีกว่าไม่อยากเหนื่อยหรือเป็นขี้ข้าใครอีก เคยเล่นหุ้นก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งบางตัวขายทัน ที่ขายไม่ทันจากห้าหมื่นเหลือบาทเดียวหุ้นเดียว เร็วๆนี้มีคนมาเทคโอเวอร์แบงก์ที่ถืออยู่เขาขอซื้อเจ็ดบาทห้าสิบเลยขายไป เว้นไปเป็นสิบๆปีกลับมาปัดฝุ่นอีกที เริ่มที่หุ้นเมื่อเดือนก.ค.ที่แล้ว ได้เรื่องเลยมันเริ่มลงอีกแล้วเลยขายล้างพอร์ตขาดทุนไปซัก7% หันมาศึกษาtfexจะได้ไม่ต้องวอรี่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง ขอแรงๆหน่อยละกัน คิดว่าเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วสำหรับกิจกรรมหลังเกษียณ
|
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันที่ 12 มีนาคม 2556 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 29.71/72 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (11/3) ที่ 29.72/74 บาท/ดอลลาร์ สกุลเงินบาทนั้นแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯตั้งแต่ช่วงการซื้อขายวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทฟิทช์ เรทติ้ง ได้ทำการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือให้ประเทศไทยจาก BBB เป็น BBB+ ในเย็นวันศุกร์โดยในช่วงเช้าของวันนี้ ค่าเงินบาทได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างมากและแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.57 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็วในช่วงเช้านั้นได้รับแรงหนุนจากการที่ยังมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และการที่กองทุนต่างประเทศเข้าซื้อเงินบาทจำนวนมากภายหลังจากที่เงินบาทแข็งค่าเกินระดับ 29.70 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่มีความสำคัญทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน อย่างไรก็ดี เงินบาทได้ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงบ่ายจากการที่นักลงทุนทำการขายเงินบาทและกลับเข้าซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อปรับสถานะการลงทุนและรับรู้กำไรบางส่วน โดยตลอดทั้งวันค่าเงินบาทมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 29.57-71 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 29.62/63 บาท/ดอลลาร์
สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1.3031/32 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 1.3005/08 ดอลลาร์/ยูโร สกุลเงินยูโรนั้นได้ปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงการซื้อขายตลาดยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาและลงสู่ระดับ 1.2987 ดอลลาร์/ยูโร จากการที่นักลงทุนรับข่าวการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีโดยบริษัท ฟิทช์ เรทดิ้ง จากระดับ A- สู่ระดับ BBB+ อย่างไรก็ดีเงินยูโรได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากนั้น จากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเกือบทุกสกุลเงินจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะยุติการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน QE3) เร็วกว่ากำหนด อย่างไรก็ดี เงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลี่ที่อาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีประจำเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งได้รับการเปิดเผยในช่วงบ่ายวันนี้ ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 0.6% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ซึ่งอาจทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปในการประชุมครั้งต่อไป โดยกรอบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโรระหว่างวันนั้นอยู่ที่ระดับ 1.2990-1.3053 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3000/02 ดอลลาร์/ยูโร
สำหรับค่าเงินเยนวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 96.50/52 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 96.07/11 เยน/ดอลลาร์ โดยเงินเยนนั้นอ่อนค่าลงอย่างมากภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์นิกเคอิของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ว่าที่ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คนต่อไปได้ให้สัญญาณว่าเขาจะทำการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเชิงรุกมากขึ้นทันทีหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งต่อจากนายมาซาอากิ ชิรากาวา ผู้ว่าฯคนปัจจุบันที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 19 มีนาคม ที่จะถึงนี้ แทนที่จะรอให้ถึงการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นครั้งถัดไปในวันที่ 4 เมษายน โดยเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงถึงระดับ 96.71 เยน/ดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในรอบ 3 ปีครึ่ง ทั้งนี้ค่าเงินเยนมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 96.02-96.71 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 96.16/21 เยน/ดอลลาร์
อนึ่ง ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน, ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (13/3), ตัวเลขการจ้างงานของยูโรโซน, ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐ (14/3), อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ (15/3)
อัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +6.3/6.5 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +5/6 สตางค์/ดอลลาร์