เหตุการณ์....ของแม่ ตอน แม่เข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว...
วันรุ่งขึ้น แพทย์ประจำตึกมาตรวจแม่ เราเองก็ใจจด ใจจ่ออยู่ว่า ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว คิด...คิด..คิดหนัก ถึงกับหนักมากค่ะ...แพทย์จะให้แม่เข้าห้องผ่าตัดตอนไหน และแล้วตอนเช้า ก็บอกว่า แม่ไม่ต้องผ่าตัดแล้วหล่ะ เพราะอาการของแม่ดีขึ้น (อ้าว...ว่าไป นี้เรื่องจริงค่ะ) นี้แค่ผ่านไป ไม่กี่ชั่วโมงเองน้อ... แล้วครั้งนี้แม่ก็นอนโรงพยาบาล ประมาณ หนึ่งอาทิตย์ก็กลับบ้าน ครั้งนี้แม่ก็นั่งๆๆ นอนๆ เพราะไม่มีแรงทำอะไรแล้ว...แม่เราหมดแรงตอนแก่อ่ะ..อือ.. อยู่บ้าน ไม่นาน ประมาณ เดือนตุลาคม แม่ก็มีอาการ แบบเดิมอีก แม่เลยบอกพี่สาว (แม่ดีอย่าง เวลาที่แม่รู้สึกไม่ไหว แม่จะรู้ตัว) แม่...พาแม่ไปโรงพยาบาลหน่อย แม่ไม่มีแรง (ตอนนี้เราเองกลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะ) ไม่ทำแล้วงาน แม่มาก่อน... หลังจากนั้นพี่สาวกับพวกเราก็พาแม่ไปโรงพยาบาล มาถึงห้องฉุกเฉิน ก็พยาบาลก็ให้รอๆๆๆๆๆๆ เป็นชั่วโมงก็แล้ว ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า อาการของแม่ครั้งนี้ แม่จะปวดท้อง แน่นหน้าอก มีลมที่ท้องมากๆๆ ขาบวม แม่ก็ได้แต่ร้องๆๆๆๆโอ๊ยยยยยยยย อยู่แบบนี้ เราก็ทำอะไรไม่ถูก (คิดอคติค่ะยอมรับ ...เอ๋...เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกะญาติเขาจะทำไง) แล้วเราก็ยืนข้างเตียงแม่ในห้องฉุกเฉิน..ได้แต่นวดผ่ามือให้แม่ เพื่อที่แม่จะได้ช่วยอาการเกร็งของแม่ บรรเทาขึ้น จนแล้ว จนรอด แม่ก็อยู่แบบนี้ เรางี้นะ....อืม ไม่เป็นญาติพวกแกให้มันรู้ไป ....โมโห ค่ะ โมโห โมโห..ม๊ากเลย..ขอบอก....มากม๊ากเลย ครั้งนี้แม่จะนอนที่โรงพยาบาล นานเกือบเป็นเดือน เพราะแม่ไม่มีแรง แม่ต้องให้เครื่องช่วยหายใจทางปากช่วย (เครื่องที่ใช้ช่วยหายใจ)มันก็แสนจะใช้งานมานานแล้วหล่ะ (เราเองก็นอนตอนตี ห้าทุกวัน เพราะไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแม่แต่พี่สาวนะ...ดูแม่กลางคืน ดูว่าเครื่องช่วยหายใจที่ใส่ปากแม่นะ กะตัวเครื่อง พอดีกันไหม เราก็จะดูจะเช็คของเราตลอดเวลานะ) และก็คอยนั่งดูว่าแม่หายใจเร็ว หรือช้าไปหรือเปล่า เพราะแม่นอนไม่รู้สึกตัวเลย วันหนึ่ง.... แม่...พูด หล้า..เป็นสรรพนาม...ที่เรียกลูกคนเล็กจ๊ะ...แม่ไม่ไหวแล้ว แม่หายใจไม่ได้..แม่ซิตายแล้ว... เราเอง...แม่ทำใจเข็มแข็งนะ เข็มแข็งไว้...แม่บ่ตายดอก..แม่หายใจลึกๆๆๆเด้อแม่ หายใจลึกๆๆ แม่ ...แม่ไม่ไหว หายใจไม่ออก แม่จะตายแล้ว เราเอง หมอ(เรียกพยาบาลค่ะ) ช่วยด้วยค่ะ แม่หายใจไม่ออก หมอ ก็คือพยาบาลประจำเวรนั้นหล่ะ ก็มาดู อ๋อ เครื่องช่วยหายใจ ไม่พอกะแม่ (คือเครื่องช่วยหายใจ มันอันเก่าค่ะ มันไม่รับกับความดันของแม่ มันก็ตีกลับคืนตลอด) เราเองก็นั่งดูตัวนี้แหละทั้งคืนค่ะ ดูการหายใจของแม่...มีขึ้นบ้าง ลงบ้าง.เป็นแบบนี้เรื่อยๆๆ...(ดูเหมือนแม่จะไม่ดีขึ้นเลย) ทำไงดีหล่ะ ไม่มีเครื่องใหม่ด้วย พยาบาลบอก...เพราะมันอยู่ที่ห้องฉุกเฉินหมดนะ จากนั้นก็ถอดเครื่องออก มาปั้มมือเอง เอาว่ะเรา..คราวนี้เป็นพยาบาลจำเป็นไปเลยเรา..แล้วเรากะพี่สาวคนที่สอง ก็สลับกันทำ ปั้มแทนเครื้่อง จนแม่สบายขี้น..เราเองถึงถอดหายใจได้..เอ้อ..แม่เรา แม่เราจะเป็นคนที่เข็มแข็งมาก ไม่เคยเจ็บป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาลเลย ครั้งนี้ ครั้งแรก ที่แม่เป็นมากแบบนี้ ช่วงที่แม่ นอนที่โรงพยาบาล ใช้เครื่องช่วยหายใจ แม่จะพูดไม่ค่อยได้ ต้องเขียนใส่กระดาษเอา บางครั้งเราก็รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็จะพยายามให้รู้เรื่อง บ้างครั้งไม่รู้เรื่อง ใช้เวลานาน แม่ก็จะเหนื่อย แม่ก็จะโมโห เราก็ออกมานั่งน้ำตาไหลข้างนอก....แม่เรา เพราะน้อยใจ แต่ก็ทำใจเอา เพราะแม่เราเอง....บ่อยครั้งเลย จนแม่ออกจากโรงพยาบาล ตอนที่เฝ้าไข้แม่นะ เห็นเตียงโน้น เตียงนี้ตายตลอด เราเองก็ไม่อยากให้แม่เห็น เพราะกลัวแม่ใจหดหู่...ต้องบอก แม่อย่าไปดูเด้อ...เห็นจนชินเลย หลังจากนั้นแม่ก็นอนประมาณเดือนก็ออกจากโรงพยาบาล ตอนที่แม่นอนรักษาตัวอยู่ พี่สาวที่ทำงานอยู่ทหารเรือก็บ่นๆๆๆๆ อยากเอาแม่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช เพราะหมอและพยาบาลเยอะดูและพยาบาลเอาใจใส่คนไข้ดี เราก็เฮ้อ...แค่เอาแม่ออกไปบ้านนี้ ไม่รู้แม่จะมีแรงหรือเปล่า...และแล้วพอแม่ออกจากโรงพยาบาล พี่สาวก็พาแม่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช...ตอนนี้แม่ก็ยังต้องไปที่โรงพยาบาล...แรกๆๆ ก็ไปทุกเดือน ตอนนี้ดีขึ้นก็สอง สามเดือนไปครั้งไปรับยา.. สรุป เราก็ได้แต่งงานค่ะ และแม่ก็ได้ไปรับปริญญาด้วย หลังจากนั้นแมค่อยยังช่วย พี่สาวก็ ย้ายแม่มารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช อาการของแม่ก็ดีขึ้นค่ะเรื่อยๆๆๆ ตอนนี้แม่ก็ทำงานได้ปกติ แต่เป็นงานไม่หนักมาก..ทำงานโน้นนี้ รอบๆๆบ้านเอา..เราก็ฝันอยากพาแม่ไปเที่ยวให้มีความสุข..แต่ยังหาเงินไม่ได้เลย...อือ..งานนะก็หายากส์ๆๆ จริ๊งงงงงงง แม่ของเรา
แม่ของเราเอง ไม่อายที่มีแม่เป็นคนบ้านนอก ไม่อายที่มีพ่อเป็นชาวนา ไม่อายใครต่อใครที่จะจูงมือพ่อแม่เที่ยวห้าง พ่อแม่มีได้แค่คนเดียว หาไม่ได้อีก ไม่มีใครมาทดแทนท่านทั้งสองได้
พาแม่ไปทำบุญ แม่จะได้สบายใจว่างั้นนะ..
พ่อกับแม่ปอเองค่ะ..พ่อนะไม่ค่อยจะถุกกันกะกล้องเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้เก็บรูปแกเลย เพราะแกไม่ค่อยไปไหนด้วย แกบอกแกอ้วน เจ็บขา เดินลำบาก เลยไม่ค่อยอยากไป. ..รับปริญญาหลานสาวคนโตค่ะ...
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
12 comments |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2551 23:49:39 น. |
Counter : 579 Pageviews. |
|
|
|
แม่หนูเจ็ดสิบห้า หลังหง่อมแล้ว ยายยังยืนตัวตรงแน่วเลย