Bloggang.com : weblog for you and your gang
หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระธรรม
พระอริยสงฆ์
แผ่เมตตา
เฉพาะกิจ
เที่ยววัด ~ ทัวร์บุญ
หนังสือน่าอ่าน
กรรมฐาน 40
อานิสงส์
ประกาศบอกบุญ
ฝากประชาสัมพันธ์
คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน
หนังสืออ่านเล่น
<<
สิงหาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
7 สิงหาคม 2552
สมาบัติ ตอนที่ 4
All Blogs
กรรมฐาน 40 โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
กสิณ 10
กฎการปฏิบัติกรรมฐาน
เทวตานุสสติกรรมฐาน
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๘ / ๑๘ (ตอนจบ)
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๗ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๖ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๕ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๔ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๓ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๒ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๑ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑๐ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๙ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๘ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๗ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๖ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๕ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๔ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๓ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๒ / ๑๘
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑ / ๑๘
พุทธานุสติถึงสมาบัติ
อานาปานสติ ในหนังสือกรรมฐาน ๔๐
มรณานุสติกรรมฐาน
อาหาเรปฏิกูลสัญญา หน้าที่ 2
อาหาเรปฏิกูลสัญญา หน้าที่ 1
สมาบัติ ตอนที่ 5
สมาบัติ ตอนที่ 4
สมาบัติ ตอนที่ 3
สมาบัติ ตอนที่ 2
สมาบัติ ตอนที่ 1
คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ๔๐ กอง
๔. อัชฌาสัยปฏิสัมภิทัปปัตโต
๓. อัชฌาสัยฉฬภิญโญ
๒. อัชฌาสัยเตวิชโช ตอนที่ 2
๒. อัชฌาสัยเตวิชโช ตอนที่ 1
๑. อัชฌาสัยสุกขวิปัสสโก
พระกรรมฐาน ๔๐
สมาบัติ ตอนที่ 4
ตติยฌานหรือตติยสมาบัติ
ปฐม แปลว่าที่ ๑ ทุติยะ แปลว่าที่ ๒ ตติยะ แปลว่าที่ ๓
ตติยฌาน
จึงแปลว่า
ฌานที่ ๓ ตติยสมาบัติ
แปลว่า
การเข้าถึงอารมณ์ฌานที่ ๓
ฌานที่ ๓ นี้ มีอารมณ์ ๒ คือ
๑. สุข ได้แก่ความสุขที่ปราศจากปีติ คือความสุขทางจิตโดยเฉพาะ ไม่มีความสุขที่เนื่องด้วยกาย
๒. เอกัคคตา มีอารมณ์เป็นหนึ่ง ที่ไม่มีอารมณ์ห่วงใยในกาย เป็นอาการที่สงัดจากกายฌานนี้ท่านว่าเป็นฌานที่กายกับจิตแยกกันเด็ดขาด
อาการของฌานที่ ๓ นี้ เป็นอาการที่จิตตัดปีติ ความเอิบอิ่มใจในฌานที่ ๒ ออกเสียได้เมื่ออารมณ์จิตเข้าถึงฌานที่ ๓ นี้ จะรู้สึกว่า อาการขนพองสยองเกล้าก็ดี น้ำตาไหลก็ดี กายโยกโคลงก็ดี อาการซู่ซ่าทางกาย คล้ายกายเบา กายใหญ่ กายสูงจะไม่ปรากฏเลย มีอาการทางกายเครียดคล้ายกับใครมาจับมัดไว้จนแน่น หรือคล้ายหลักที่ปักจนแน่นไม่มีการโยกโคลงได้ฉันนั้น จงจำไว้ว่าตั้งแต่ฌานที่ ๒ เป็นต้นมา ไม่มีการภาวนาเลย ถ้ายังภาวนาอยู่ และหูได้ยินเสียงชัด แต่ไม่รำคาญในเสียง เป็นฌานที่ ๑ ตั้งแต่ฌานที่ ๒ มาไม่มีการภาวนา และเรื่องเสียงเกือบไม่มีความหมาย คือไม่มีความสนใจในเสียงเลย เสียงมีอยู่ก็เหมือนไม่มี เพราะจิตไม่รับเสียง ลมหายใจจะค่อยๆ น้อยอ่อนระรวยลงทุกขณะ ในฌานที่ ๓ นี้ลมหายใจยังปรากฏ แต่ก็รู้สึกเบาเต็มที่มีอาการคล้ายจะไม่หายใจ แต่ก็พอรู้สึกน้อยๆ ว่าหายใจ จิตสงัดไม่มีการหวั่นไหว ไม่มืด มีความโพลงอยู่มีอารมณ์แน่นในสมาธิมากจนรู้ตัวว่าอารมณ์แนบแน่นกว่าสองฌานที่ผ่านมา อย่างนี้ท่านเรียกว่าเข้าถึงฌานที่ ๓ ต้องฝึกเข้าฌานออกฌานให้แคล่วคล่องว่องไวตามที่กล่าวมาแล้ว
เสี้ยนหนามของฌานที่ ๓
ปีติ
เป็นเสี้ยนหนามของ ฌานที่ ๓ เพราะฌานที่ ๓ ตัดปีติเสียได้ แต่ถ้าอารมณ์ ตกลงไปปีติจะปรากฏขึ้น ถ้าปีติปรากฏขึ้นเมื่อไร พึงทราบเถิดว่า ขณะนี้อารมณ์จิตเคลื่อนจากฌานที่ ๓ มาอยู่ระดับฌาน ๒ แล้วถ้าปรากฏว่ามีการภาวนาด้วย แต่จิตยังไม่รำคาญในเสียงก็ยิ่งร้ายใหญ่ เพราะอารมณ์สมาธิไหลออกจนเหลือเพียงฌาน ๑ ท่านให้ระมัดระวังด้วยการทรงสติสัมปชัญญะ อย่าให้อารมณ์สมาธิรั่วไหลเป็นอันขาด เพราะจะเป็นอันตรายแก่ฌาน ๓
อานิสงส์ฌานที่ ๓
ฌานที่ ๓ นี้ ถ้าทรงไว้ได้จนตาย ในขณะตาย ตายในระหว่างฌานที่ ๓ ท่านว่าจะไม่หลงตาย เมื่อมีชีวิตอยู่ ก็จะเป็นคนมีอารมณ์แช่มชื่นเบิกบานตลอดเวลา หน้าตาสดชื่นผ่องใส เมื่อตายแล้ว ฌาน ๓ ย่อมส่งผลให้เกิดเป็นพรหม คือ
๑. ฌานที่ ๓ หยาบ ให้ผลไปเกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๗
๒. ฌานที่ ๓ กลาง ให้ผลไปเกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๘
๓. ฌานที่ ๓ ละเอียด ให้ผลไปเกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๙
ฌาน ๓ ที่เป็นโลกียฌานให้ผลอย่างนี้ ถ้าเอาฌาน ๓ ไปเป็นกำลังของวิปัสสนาญาณวิปัสสนาจะมีกำลังกล้า ตัดกิเลสให้เด็ดขาดได้โดยรวดเร็ว อาจได้บรรลุมรรคผลเบื้องสูงในชาตินี้โดยไม่ชักช้านัก ผลของท่านที่ทรงฌาน ๓ ไว้ได้มีผลดังกล่าวมาแล้วนี้
จตุตถฌาน หรือ จตุตถสมาบัติ
จตุตถะ แปลว่าที่ ๔ จตุตถฌานจึงแปลว่าฌานที่ ๔ ฌานที่ ๔ นี้มีอารมณ์ ๒ เหมือนฌาน ๓ แต่ผิดกันที่ฌาน ๓ มีสุขกับเอกัคคตา สำหรับฌานที่ ๔ นี้ ตัดความสุขออกเสียเหลือแต่เอกัคคตา และเติมอุเบกขาเข้ามาแทน ฉะนั้น อารมณ์ของฌาน ๔ จึงมีอารมณ์ผิดแผกจากฌาน ๓ ตรงที่ตัดความสุขออกไป และเพิ่มการวางเฉยเข้ามาแทนที่
อาการของฌาน ๔ เมื่อปฏิบัติถึง
ฌาน ๔ เมื่อนักปฏิบัติ ปฏิบัติถึงมีอาการดังนี้
๑. จะไม่ปรากฏลมหายใจเหมือนสภาพฌานอื่นๆ เพราะลมละเอียดจนไม่ปรากฏว่ามีลมหายใจ ในวิสุทธิมรรคท่านว่าลมหายใจไม่มีเลย แต่บางอาจารย์ท่านว่า ลมหายใจนั้นมี แต่ลมหายใจละเอียดจนไม่มีความรู้สึกว่าหายใจ ตามนัยวิสุทธิมรรคท่านกล่าวถึงคนที่ไม่มีลมหายใจไว้ ๔ จำพวกด้วยกัน คือ ๑. คนตาย ๒. คนดำน้ำ ๓. เด็กในครรภ์มารดา๔.ท่านที่เข้าฌาน ๔ รวมความว่า ข้อสังเกตที่สังเกตได้ชัดเจนในฌาน ๔ ที่เข้าถึงก็คือ ไม่ปรากฏว่ามีลมหายใจการที่ฌาน ๔ เมื่อเข้าถึงแล้ว และขณะที่ทรงอยู่ในระดับของฌาน ๔ ไม่ปรากฏว่ามีลมหายใจนี้เป็นความจริง มีนักปฏิบัติหลายท่านที่พบเข้าแบบนี้ถึงกับร้องเอะอะโวยวาย บอกว่าไม่เอาแล้ว เพราะเกรงว่าจะตายเพราะไม่มีลมหายใจ บางรายที่อารมณ์สติสมบูรณ์หน่อย ก็ถึงกับค้นคว้าควานหาลมหายใจ เมื่ออารมณ์จิตตกลงระดับต่ำกว่าฌานที่ ๔ ในที่สุดก็พบลมหายใจ ที่ปรากฏอยู่กับปลายจมูกนั่นเอง
๒. อารมณ์จิตเมื่อเข้าสู่ระดับฌาน ๔ จะมีอารมณ์สงัดเงียบจากอารมณ์ภายนอกจริง ๆดับเสียง คือ ไม่ได้ยินเสียง ดับสุข ดับทุกข์ทางกายเสียจนหมดสิ้น มีอารมณ์โพลงสว่างไสวเกินกว่าฌานอื่นใด มีอารมณ์สงัดเงียบ ไม่เกี่ยวข้องด้วยร่างกายเลย กายจะสุข จะทุกข์ มดจะกิน ริ้นจะกัดอันตรายใดๆ จะเกิด จิตในระหว่างตั้งอยู่สมาธิที่มีกำลังระดับฌาน ๔ จะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เพราะฌานนี้กายกับจิตแยกกันเด็ดขาดจริงๆ ไม่สนใจข้องแวะกันเลย ดังจะเห็นในเรื่องของลมหายใจ ความจริงร่างกายนี้จำเป็นมากในเรื่องหายใจ เพราะลมหายใจเป็นพลังสำคัญของร่างกาย พลังอื่นใดหมดไปแต่อัสสาสะ ปัสสาสะ คือลมหายใจยังปรากฏ ที่เรียกกันตามภาษาธรรมว่า ผัสสาหารยังมีอยู่ ร่างกายก็ยังไม่สลายตัว ถ้าลมหายใจที่เรียกว่าผัสสาหารหยุดเมื่อไร เมื่อนั้นก็ถึงอวสานของการทรงอยู่ของร่างกายฉะนั้น ผลการปฏิบัติที่เข้าถึงระดับฌาน ๔ จึงจัดว่าลมหายใจยังคงมีตามปกติ ที่ไม่รู้ว่าหายใจก็เพราะว่าจิตแยกออกจากกายอย่างเด็ดขาดโดยไม่รับรู้อาการของร่างกายเลย
อาการที่จิตแยกจากร่างกาย
เพื่อให้เข้าใจชัดว่า จิตแยกออกจากร่างกายได้จริงเพียงใด เมื่อท่านเจริญสมาธิถึงฌาน ๔ จนคล่องแคล่วชำนิชำนาญดีแล้ว ให้ท่านเข้าสู่ฌาน ๔ แล้วถอยจิตออกมาหยุดอยู่เพียงอุปจารฌานแล้วอธิษฐานว่า ขอร่างกายนี้จงเป็นโพรงและกายอีกกายหนึ่งจงปรากฏ แล้วเข้าฌาน ๔ ใหม่ ออกจากฌาน ๔ มาหยุดอยู่เพียงอุปจารฌาน ท่านจะเห็นกายเป็นโพรงใหญ่ มีกายของเราเองปรากฏขึ้นภายในกายเดิมอีกกายหนึ่ง ที่ท่านเรียกในมหาสติปัฏฐานว่ากายในกาย จะบังคับให้กายในกายท่องเที่ยวไปในร่างกายทุกส่วน แม้แต่เส้นประสาทเล็กๆ กายในกายก็จะไปได้สะดวกสบายเหมือนเดินในถ้ำใหญ่ ๆต่อไปจะบังคับกายใหม่นี้ออกไปสู่ภพใด ๆ ก็ไปได้ตามประสงค์ ที่ท่านเรียกว่า "มโนมยิทธิ แปลว่ามีฤทธิ์ทางใจนั่นเอง" พลังของฌาน ๔ มีพลังมากอย่างนี้ ท่านที่ได้ฌาน ๔ แล้วท่านจะฝึกวิชชาสาม อภิญญาหก หรือปฏิสัมภิทาญาณ ก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะวิชชาการที่จะฝึกต่อไปนั้น ก็ใช้พลังจิตระดับฌาน ๔ นั่นเอง จะแตกต่างกันอยู่บ้างก็เพียงอาการในการเคลื่อนไปเท่านั้น ส่วนอารมณ์ที่จะใช้ก็เพียงฌาน ๔ ซึ่งเป็นของที่มีอยู่แล้วเปรียบเสมือนนักเพาะกำลังกาย ถ้ามีกำลังกายสมบูรณ์แล้วจะทำอะไรก็ทำได้ เพราะกำลังพอ จะมีสะดุดบ้างก็ตรงเปลี่ยนแนวปฏิบัติใหม่ จะยุ่งใจบ้างในระยะต้นพอเข้าใจเสียแล้วก็ทำได้คล่อง เพราะกำลังพอ ท่านที่ได้ฌาน ๔ แล้วก็เช่นเดียวกัน เพราะงานส่วนอภิญญาหรือวิชชาสาม ก็ใช้พลังจิตเพียงฌาน ๔ เท่านั้น ท่านที่ได้ฌาน ๔ จึงเป็นผู้มีโอกาสจะทำได้โดยตรง
เสี้ยนหนามของฌาน ๔
เสี้ยนหนาม หรือศัตรูตัวสำคัญของฌาน ๔ ก็คือ "ลมหายใจ" เพราะถ้าปรากฏว่ามีลมหายใจปรากฏเมื่อเข้าฌาน ๔ ก็จงทราบเถิดว่า จิตของท่านมีสมาธิต่ำกว่าฌาน ๔ แล้ว จงอย่าสนใจกับลมหายใจเลยเป็นอันขาด
อานิสงส์ของฌาน ๔
๑. ท่านที่ทรงฌาน ๔ ไว้ได้ ในขณะที่มีชีวิตอยู่ จะมีอารมณ์แช่มชื่นตลอดวันเวลา จะแก้ปัญหาของตนเองได้อย่างอัศจรรย์
๒. ท่านที่ได้ฌาน ๔ สามารถจะทรงวิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทาญาณได้ถ้าท่านต้องการ
๓. ท่านที่ได้ฌาน ๔ สามารถจะเอาฌาน ๔ เป็นกำลังของวิปัสสนาญาณชำระกิเลสให้หมดสิ้นไป อย่างช้าภายใน ๗ ปี อย่างกลางภายใน ๗ เดือน อย่างเร็วภายใน ๗ วัน
๔. หากท่านไม่เจริญวิปัสสนา ท่านทรงฌาน ๔ ไว้มิให้เสื่อม ขณะตาย ตายในระหว่างฌานที่จะได้ไปเกิดในพรหมโลกสองชั้นคือ ชั้นที่ ๑๐ และชั้นที่ ๑๑
**********************
ปล. สมาบัติ มีทั้งหมด 5 ตอนโปรดติดตามอ่านนะครับ
ที่มา
เวปพลังจิต
ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว
Create Date : 07 สิงหาคม 2552
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 22:34:11 น.
21 comments
Counter : 837 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดียามดึกค่ะ พี่ไผ่
มาอ่านสมาบัติ ตอนที่ 4 ค่ะ
อารมณ์จิตเมื่อเข้าสู่ระดับฌาน ๔ จะมีอารมณ์สงัดเงียบจากอารมณ์ภายนอกจริง ๆดับเสียง คือ ไม่ได้ยินเสียง ดับสุข ดับทุกข์ทางกายเสียจนหมดสิ้น
เคยได้อารมณ์นี้ค่ะ รู้สึกสงบมากๆ
และมีความสุขมากด้วยค่ะ
โมทนานะคะ
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:22:37:21 น.
ยากมากนะคะ
แค่ได้เข้ามาอ่านก็เป็นบุญแล้ว
ส่วน"หมึกดำ"ผู้สรรหามาฝากเพื่อนๆบล็อค
ยิ่งได้บุญหนัก...
สาธุ สาธุ สาธุ
Keep on doing..the good things
อย่าลืมดูและตัวเองด้วยนะคะ
ปิกจมูกและปากเมื่ออยู่ในที่ชุมชน
โดย:
เริงฤดีนะ
วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:23:01:58 น.
สาธุ สาธุ สาธุ...
สวัสดีค๊าพี่ไผ่....
อ่านแล้วซาบซึ่งด้วยอารมณ์อันอ่อนไหว
ในรู้สึกแห่งธรรม หนุนนำสู่แสงสว่างแห่งใจ
ปล...ชอบงานเรื่องเล่าที่พี่ไผ่ไปวางที่บ้านจังเลยยยค่ะ
Good Night naka--> juppppp..
**
★★★` mastana mastana mastana. `★★★
*♥´¨)
¸.-´¸.-♥´¨) ¸.-♥¨)
(¸.-´ (¸.-` ♥♥´¨) ♥.-´¯`-.- ♥
โดย:
mastana
วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:23:30:10 น.
เอาคำแปล ตงหมงเหมียวขือ มาฝาก ก๊ากๆๆๆ
แถมรอยยิ้มเพิ่มด้วย ต้นฉบับ อาร์ตตัวแม่
คลิกที่ภาพก็จะทะลุมิติไปคลังพี่โน้ตเยย 555+
">
โจจัง
โดย:
พลังชีวิต
วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:23:31:06 น.
คุณพี่ไผ่คะ
จากรูปนั้น
ถ่ายที่ไหนหรอคะ
ไม่เคยเห็นเลย
เป็นวัดอะไรหรอคะ
โดย:
บุปผาลีลาวดี
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:0:24:34 น.
ราตรีอรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านหมึกฯ
โดย:
คนสาธารณะ
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:3:10:34 น.
ธัญอ่านแล้ว..ซึ้งค่ะ
และจะพยายามทำให้ได้นะคะ
.............
วันนี้คุณไผ่มีความสุขกับวันพักผ่อนให้มากๆนะคะ
โดย:
tanjira
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:8:35:12 น.
๐ ยามแสงทองผ่องฟ้า.........อำไพ
เรืองรุ่งขับขานไข................ทั่วหล้า
มวลวิหกผกผินไกล.............แดนถิ่น
รีบรุดหมายเติบกล้า.............พักพร้อมเผชิญฯ
๐ เจริญรอยพวกพ้อง...........สืบมา
บาทวิถีนำพา......................แต่ครั้น
กาลเลยล่วงนานนา..............เวียนว่าย จริงนอ
จักหยุดวังวนนั้น..................เนิ่นช้าเพียงใดฯ
สวัสดียามเช้าค่ะ พี่ไผ่
วันนี้ขอยกโคลงมาแจมนะคะ
แต่งเล่นๆ แต่กลายเป็นลงท้ายด้วยธรรม ซะง้าน
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:9:26:00 น.
เอาน้ำขิงร้อนๆ มาฝากค่ะ พี่ไผ่ จะได้มีแรงลุยงาน
โดย:
พ่อระนาด
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:9:44:25 น.
เมื่อคืนอัพบล๊อกใหม่ชะด้วย......
ไม่ได้เข้ามาตอนดึก เลยไม่ได้ติดตามข่าวสาร
สงสัย....เมื่อคืนนอนดึก
เลยยังไม่ตื่น.......
เอากาแฟมาเตรียมไ้ว้ให้ดีกว่า........อย่าลืมทานนะค่ะ
เมื่อคืนคงดึกมาก สงสัยต้องหลายถ้วยหน่อย
โดย:
นุ่มณอ่อนนุช
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:12:33:50 น.
สวัสดีครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:12:47:28 น.
สวัสดี ค่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำชาค่ะคุณไผ่
ทานมื้อเที่ยงยังเอ่ย
โดย:
นางฟ้าในโลกไซเบอร์
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:13:03:25 น.
มาอ่านสมาบัติ ตอนที่ 4 ค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ นับว่าเป็นบุญวาสนาได้ความรู้และรู้จักคำว่า สมาบัติ เพิ่มขึ้นค่ะคุณไผ่ ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
โดย:
Budratsa
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:13:52:09 น.
สมองเสื่อมตามวัย แต่ก็พยายามอ่านนะค่ะ
หลานให้แต่สิ่งดีๆ มีประโยชน์
สาธุ สาธุ สาธุ.......ค่ะ
โดย:
กัดหมอน
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:18:20:15 น.
หวัดดียามเย็นวันเสาร์ค่ะพี่ไผ่
พี่ไผ่ ไปถึงขั้นไหนแล้วคะ
มันยากจริง ๆ เลยนะคะมินว่า
โดย:
มินทิวา
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:18:30:35 น.
โดย:
tanjira
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:19:44:18 น.
คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรก็เป็นทุกข์อยู่ดี
แต่โดยแท้ที่จริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเป็นทุกข์ก็ได้
ดังตฤณ
สุขสันต์วันหยุดค่ะ
วันนี้คุณไผ่มอบยิ้มให้คนใกล้ตัวแล้วหรือยังคะ
คมคำ : ยิ้ม เป็นสิ่งดีๆที่เรามอบให้กันได้โดยไม่ต้องซื้อหา
โดย:
ร่มไม้เย็น
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:20:14:50 น.
มาขอบคุณ สำหรับน้ำชาค่ะ
โดย: tukta IP: 125.24.223.176 วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:22:17:02 น.
ราตรีสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:22:39:42 น.
นึกว่าวันนี้จะไม่เจอคุณไผ่ชะแล้ว......
ตอบคำถามนะค่ะ....ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าคืออะไร
เมื่อกี้เพิ่งเดินจงกรมเสร็จ เมื่อก่อนสองชั่วโมงนานมาก แต่พอได้เดินบ่อยเข้า ชักจะเริ่มคุ้น อะไรๆก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนจริงๆเลยนะค่ะ......
หลับฝันดีค่ะ.......
โดย:
นุ่มณอ่อนนุช
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:22:48:30 น.
ขอบคุณค่ะ.....
ว่าแต่ยังไม่นอนอีกเหรอ.......
โดย:
นุ่มณอ่อนนุช
วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:23:42:14 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
พ่อระนาด
tukta510
คนสาธารณะ
พธู
ดอกฝิ่นในสายลมหนาว
กะว่าก๋า
JohnV
หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง
ป้าอิ่ม
ปลิวตามลม
อาลีอา
หนูดำจำมัย
mastana
มินทิวา
ชีวิตมีลีลา
kun_isara
นายกุหลาบ
อุ้มสี
busabap
พี่รี่+ต๊อก
redclick
กิ่งไม้ไทย
Arinchaya
ตัวp_box
sawkitty
กัดหมอน
หมวยเล็ก_รักไม่ช่วยอะไร
เริงฤดีนะ
Budratsa
catt.&.cattleya..
นางฟ้าในโลกไซเบอร์
ร่มไม้เย็น
tanjira
นุ่มณอ่อนนุช
pinuaoo2006
หน่อยอิง
Beee_bu
ลุงแว่น
ข้ามขอบฟ้า
กระป๋องแป้งฝุ่น
sandseasun
อะนิตา
mamamodern
รัชชี่
maxpal
nathanon
puppy_art
yosa
ลุงนาฬิกา
ขึ้น15ค่ำ
CrackyDong
addsiripun
คนผ่านทางมาเจอ
ooybangyom
บ้านต้นอ้อ
JinnyTent
zeedhama
ปลายแป้นพิมพ์
NateUnbreakable
ผมชอบกินข้าวมันไก่
c_nia
บ้าได้ถ้วย
ไม่รวยสักที
หนึ่งลมหายใจ
ooyporn
wind_drizzle
creamcheese57
โซดาบ๊วย
nootikky
cengorn
ณรินทร์รัตน์ชนา
นาฬิกาสีชมพู
อัสติสะ
Moon OF JulY
The Anis
อ๋อซ่าส์
cd2lucky
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
Heart&Home
*~ต้นกล้า...ของหัวใจ~*
ณ ปลายฉัตร
Webmaster - BlogGang
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
บอร์ดพลังจิต
อกาลิโก
พระรัตนะตรัย
คนเมืองบัว
แดนนิพพาน
วัดถ้ำเมืองนะ
พุทธธรรม
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มาอ่านสมาบัติ ตอนที่ 4 ค่ะ
อารมณ์จิตเมื่อเข้าสู่ระดับฌาน ๔ จะมีอารมณ์สงัดเงียบจากอารมณ์ภายนอกจริง ๆดับเสียง คือ ไม่ได้ยินเสียง ดับสุข ดับทุกข์ทางกายเสียจนหมดสิ้น
เคยได้อารมณ์นี้ค่ะ รู้สึกสงบมากๆ
และมีความสุขมากด้วยค่ะ
โมทนานะคะ
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ