|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สมาบัติ ตอนที่ 1
สมาบัติ
ขณิกสมาธิ, ฌาน, อุปจารสมาธิ, ปฐมฌาน, นิวรณ์ ๕ ทุติยฌาน, ตติยฌาน, จตุตถฌาน (ฌาน ๔) รูปฌาน, อรูปฌาน, สมาบัติ ๘, นิโรธสมาบัติ, เข้าผลสมาบัติ
คำว่า สมาบัติ แปลว่าถึงพร้อม แปลเหมือนกันกับคำว่า สมบัติ ศัพท์เดิมว่า สัมปัตติ แปลว่าถึงพร้อม มาแปลงเป็นบาลีไทย หมายความว่าศัพท์นั้นเป็นศัพท์บาลี แต่เรียกกันเป็นไทย ๆ เสีย ก็เลยเพี้ยนไปหน่อย เล่นเอาผู้รับฟังปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน
สมาบัติ แปลว่าเข้าถึงนั้น หมายเอาว่าเข้าถึงอะไร ข้อนี้น่าจะบอกไว้เสียด้วย ขอบอกให้รู้ไว้เลยว่า ถึงจุดของอารมณ์ที่เป็นสมาธิหรือที่เรียกว่า ฌาน นั่นเอง เมื่ออารมณ์ของสมาธิที่ยังไม่เข้าระดับฌาน ท่านยังไม่เรียกว่า สมาบัติ เช่น
ขณิกสมาธิ
ขณิกสมาธิ แปลว่า ตั้งใจมั่นได้เล็กน้อย หรือนิดๆ หน่อยๆ คำว่า สมาธิ แปลว่าตั้งใจมั่น ต้องมั่นได้นิดหน่อย เช่น กำหนดจิตคิดตามคำภาวนา ภาวนาได้ประเดี่ยวประด๋าว จิตก็ไปคว้าเอาความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ภายนอกคำภาวนามาคิด ทิ้งองค์ภาวนาเสียแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าจิตซ่าน ก็คิดตั้งบ้านสร้างเรือนเสียพอใจ อารมณ์ตั้งอยู่ในองค์ภาวนาไม่ได้นานอย่างนี้ ตั้งอยู่ได้ประเดี๋ยวประด๋าว อารมณ์จิตก็ยังไม่สว่างแจ่มใส ภาวนาไปตามอาจารย์สั่งขาดๆ เกินๆ อย่างนี้แหละที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ ท่านยังไม่เรียก ฌาน เพราะอารมณ์ยังไม่เป็นฌาน ท่านจึงไม่เรียกว่า สมาบัติ เพราะยังไม่เข้าถึงกฎที่ท่านกำหนดไว้
ฌาน
ขอแปลคำว่าฌานสักนิด ขอคั่นเวลาสักหน่อย ประเดี๋ยวเลยไปจะยุ่ง จะไม่รู้ว่า ฌาน แปลว่าอะไร คำว่า ฌาน นี้ แปลว่า เพ่ง หมายถึงการเพ่งอารมณ์ตามกฎแห่งการเจริญกรรมฐานถึงอันดับที่ ๑ เรียกว่าปฐมฌาน คือ ฌาน ๑ ถึงอันดับที่ ๒ เรียกว่าทุติยฌาน แปลว่า ฌาน ๒ ถึงอันดับที่ ๓ เรียกว่า ตติยฌาน แปลว่าฌาน ๓ ถึงอันดับที่ ๔ เรียกว่า จตุตถฌาน แปลว่า ฌาน ๔ ถึงอันดับที่แปด คือ ได้อรูปฌานถึงฌาน ๔ ครบทั้ง ๔ อย่าง เรียกว่า ฌาน ๘
ถ้าจะเรียกเป็นสมาบัติก็เรียกเหมือนฌาน ฌาน ๑ ท่านก็เรียกว่า ปฐมสมาบัติ ฌานที่ ๒ ท่านก็เรียกว่า ทุติยสมาบัติ ฌาน ๓ ท่านก็เรียก ตติยสมาบัติ ฌาน ๔ ท่านก็เรียกจตุตถสมาบัติฌาน ๘ ท่านเรียก อัฎฐสมาบัติ หรือสมาบัติแปดนั่นเอง
อุปจารสมาธิ อุปจารสมาธินี้เรียกอุปจารฌานก็เรียก เป็นสมาธิที่มีความตั้งมั่นใกล้จะถึงปฐมฌานหรือปฐมสมาบัตินั่นเอง อุปจารสมาธิคุมอารมณ์สมาธิไว้ได้นานพอสมควร มีอารมณ์ใสสว่างพอใช้ได้ เป็นพื้นฐานเดิมที่จะฝึกทิพยจักษุญาณได้ อารมณ์ที่อุปจารสมาธิเข้าถึงนั้นมีอาการดังนี้
๑. วิตก คือความกำหนดจิตนึกคิดองค์ภาวนาหรือกำหนดรูปกสิณ จิตกำหนดอยู่ได้ไม่คลาดเคลื่อน ในเวลานานพอสมควร
๒. วิจาร การใคร่ครวญในรูปกสิณนิมิต ที่จิตถือเอาเป็นนิมิตที่กำหนด มีอาการเคลื่อนไหวหรือคงที่ มีสีสันวรรณะเป็นอย่างไร เล็กหรือใหญ่ สูงหรือต่ำ จิตกำหนดรู้ไว้ได้ ถ้าเป็นองค์ภาวนา ภาวนาครบถ้วนไหม ผิดถูกอย่างไร กำหนดรู้เสมอ ถ้ากำหนดลมหายใจ ก็กำหนดรู้ว่า หายใจเข้าออกยาวหรือสั้น เบาหรือแรง รู้อยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ เรียกว่าวิจาร
๓. ปีติ ความปลาบปลื้มเอิบอิ่มใจ มีจิตใจชุ่มชื่นเบิกบาน ไม่อิ่มไม่เบื่อในการเจริญภาวนาอารมณ์ผ่องใส ปรากฏว่าเมื่อหลับตาภาวนานั้นไม่มืดเหมือนเดิม มีความสว่างปรากฏคล้ายใครนำแสงสว่างมาวางไว้ใกล้ๆ บางคราวก็เห็นภาพและแสงสีปรากฏเป็นครั้งคราว แต่ปรากฏอยู่ไม่นานก็หายไป อาการของปีติมีห้าอย่างคือ
๓.๑ มีการขนลุกขนชัน ท่านเรียกว่าขนพองสยองเกล้า
๓.๒ มีน้ำตาไหลจากตาโดยไม่มีอะไรไปทำให้ตาระคายเคือง
๓.๓ ร่างกายโยกโคลง คล้ายเรือกระทบคลื่น
๓.๔ ร่างกายลอยขึ้นเหนือพื้นที่นั่ง บางรายลอยไปได้ไกลๆ และลอยสูงมาก
๓.๕ อาการกายซู่ซ่า คล้ายร่างกายโปร่ง และใหญ่โตสูงขึ้นอย่างผิดปกติ
อาการทั้งห้าอย่างนี้ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอาการของปีติ ข้อที่ควรสังเกตก็คืออารมณ์จิตชุ่มชื่นเบิกบานแม้ร่างกายจะสั่นหวั่นไหว บางรายตัวหมุนเหมือนลูกข่างแต่จิตใจก็เป็นสมาธิแนบแน่นไม่หวั่นไหว มีสมาธิตั้งมั่นอยู่เสมอ การกำหนดจิตเข้าสมาธิก็ง่าย คล่อง ทำเมื่อไร เข้าสมาธิได้ทันที อาการของสมาธิเป็นอย่างนี้
๔. สุข ความสุขชื่นบาน เป็นความสุขที่ละเอียดอ่อน ไม่เคยปรากฏการณ์มาก่อนเลยในชีวิตจะนั่งสมาธินานแสนนานก็ไม่รู้สึกปวดเมื่อย อาการปวดเมื่อยจะมีก็ต่อเมื่อคลายสมาธิแล้ว ส่วนจิตใจมีความสุขสำราญตลอดเวลา สมาธิก็ตั้งมั่นมากขึ้น อารมณ์วิตกคือการกำหนดภาวนา ก็ภาวนาได้ตลอดเวลา การกำหนดรู้ความภาวนาว่าจะถูกต้องครบถ้วนหรือไม่เป็นต้น ก็เป็นไปด้วยดี มีธรรมปีติชุ่มชื่นผ่องใส ความสุขใจมีตลอดเวลา สมาธิตั้งมั่น ความสว่างทางใจปรากฏขึ้นในขณะหลับตาภาวนา อาการตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้แหละ ที่เรียกว่า อุปจารสมาธิ หรือเรียกว่า อุปจารฌาน คือเฉียดๆ จะถึงปฐมฌานอยู่แล้ว ห่างปฐมฌานเพียงเส้นยาแดงผ่า ๓๒ เท่านั้นเอง ตอนนี้ท่านยังไม่เรียกฌานโดยตรงเพราะอารมณ์ยังไม่ครบองค์ฌาน ท่านจึงยังไม่ยอมเรียกว่าสมาบัติ เพราะยังไม่ถึงฌาน
********************** ปล. สมาบัติ มีทั้งหมด 5 ตอนโปรดติดตามอ่านนะครับ ที่มา เวปพลังจิต ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว
Create Date : 27 กรกฎาคม 2552 |
|
58 comments |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 20:23:20 น. |
Counter : 1038 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 27 กรกฎาคม 2552 20:27:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: golo_me 27 กรกฎาคม 2552 21:35:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: wbj 27 กรกฎาคม 2552 23:39:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 28 กรกฎาคม 2552 6:23:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธู 28 กรกฎาคม 2552 9:14:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 กรกฎาคม 2552 10:21:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: tukta (tukta510 ) 28 กรกฎาคม 2552 10:43:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 28 กรกฎาคม 2552 10:58:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 28 กรกฎาคม 2552 13:29:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 28 กรกฎาคม 2552 15:40:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 28 กรกฎาคม 2552 21:03:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 28 กรกฎาคม 2552 21:12:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: golo_me 29 กรกฎาคม 2552 0:32:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 29 กรกฎาคม 2552 5:02:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 29 กรกฎาคม 2552 6:53:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 29 กรกฎาคม 2552 8:18:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 กรกฎาคม 2552 11:26:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) 29 กรกฎาคม 2552 16:06:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 30 กรกฎาคม 2552 7:13:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 กรกฎาคม 2552 8:07:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 30 กรกฎาคม 2552 8:32:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 30 กรกฎาคม 2552 9:49:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาลีอา 30 กรกฎาคม 2552 23:25:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: golo_me 31 กรกฎาคม 2552 0:20:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 31 กรกฎาคม 2552 0:31:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 กรกฎาคม 2552 8:08:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 31 กรกฎาคม 2552 9:47:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 1 สิงหาคม 2552 7:19:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 1 สิงหาคม 2552 12:25:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 1 สิงหาคม 2552 17:56:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 1 สิงหาคม 2552 18:28:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: deawdai 1 สิงหาคม 2552 19:33:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 2 สิงหาคม 2552 15:43:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 2 สิงหาคม 2552 21:32:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มาศึกษาเรื่องสมาบัติค่ะ
มีธรรมปีติชุ่มชื่นผ่องใส ความสุขใจมีตลอดเวลา สมาธิตั้งมั่น ความสว่างทางใจปรากฏขึ้น
เป็นจริงตามนั้นเลยค่ะ รู้สึกได้ว่า สดชื่น สดใส
แบบบอกไม่ถูกน่ะค่ะ
โมทนานะคะ พี่ไผ่
ขอส่งเข้านอนเลยนะคะ
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ