Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

Trip to Guilin

โอว มีบุญได้ถึงเพียงนี้ ... วันที่ 17 เมษายน 2549 หลังจากช่วงสงกรานต์เริ่มเงียบสงบลง ผมและผองเพื่อนก็มีโอกาสไปเรียนภายใต้โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมของทางมหาวิทยาลัย ณ เมืองกุ้ยหลิน มณฑลกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองที่มีคนไทยอยากไปเที่ยวมากๆ แห่งหนึ่ง เนื่องจากชื่อเสียงในด้านความสวยงามนั่นเอง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เลยคับ ประทับใจมากๆ

ล้อของเครื่องบิน A320 เที่ยวบิน PG618 จากกทม. แตะพื้นรันเวย์ของสนามบินเมืองกุ้ยหลินแบบไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ (บางกอกแอร์เวย์เป็นสายการบินเดียวที่มีบินตรงไปกลับ กทม กุ้ยหลินคับ) ตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มของเมืองกุ้ยหลิน เมืองไทยก็ 1 ทุ่ม เวลาของเขาเร็วกว่าของไทย 1 ชั่วโมง หรือ 60 นาทีพอดีเปี๊ยะ



ไอ้ตอนที่ลงเครื่องพวกเราก็จัดแจงเตรียมเสื้อกันหนาวกันใหญ่ หลังจากศึกษาสภาพอากาศมาเป็นอย่างดี ว่าในระยะนี้ถึงกุ้ยหลินจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ หรือเปรียบได้กับฤดูเริ่มร้อนบ้านเรา แต่อุณหภูมิก็ยังประมาณ 20 กว่าองศาเซลเซียส แถมเมืองนี้เป็นเมืองประเภทฝนแปดแดดสี่ วันใดที่ฝนตกอุณหภูมิจะลดต่ำลงจนถึง 10 องศาได้เลยเชียว เลยต้องไม่ประมาทกัน

หลังจากได้ทานอาหารจีนมื้อแรกในภัตตาคารสุดหรู (ที่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าแพงก็ร่อยขึ้นมานิดนึง) เราก็เข้าที่พักของเรา ซึ่งจะต้องใช้ชีวิตอยู่กันที่นี่ไปอีก 2 อาทิตย์ ... โรงแรมชื่อ ... ชื่ออะไรหว่า ... เหอๆ ไม่เคยจำได้เลย ...



โรงแรมนี้เป็นประเภทไร้ดาว - -" ในห้องพักเป็นแบบแสตนดาร์ด มีตู้ เตียง ครบ (ไม่มีตู้เย็น) ก็พออยู่ได้แต่ห้องน้ำเข้าขั้นหดหู่เล็กน้อย ... เช่น ประตูห้องน้ำไม่มีกลอน อาบน้ำทีต้องใช้ผ้าขนหนูยัดรูเอา แถมน้ำอุ่นก็ไม่เคยอุ่นเลยสักวัน 555 แต่ช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้ห้องพักชั้น 5 ซึ่งเป็นส้วมชักโครก ไม่ใช่ส้วมหลุมแสนน่ากลัวเหมือนพวกที่ได้ชั้น 1 2 3 แต่ก็โชคร้ายเหลือเกินที่โรงแรมนี้ไม่มีลิฟต์ - -" ถ้าลงมาถึงล็อบบี้แล้วลืมของไว้ที่ห้อง ถ้าไม่สำคัญเท่าไหร่ก็ตัดใจไปได้เลย

วิวนี้ถ่ายจากห้องพักคับ (วิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่) แต่ถ้าสังเกตก็ทำให้เรารู้ว่าคนจีนนี่ขยันกันจริงๆ ถ่ายวันแรกสร้างกันไปถึงเท่านี้ พอวันจะกลับเขาสร้างขึ้นชั้นสองกันแล้ว (สี่ทุ่มห้าทุ่มยังมีเสียงคนงานทำงานอยู่เลย)



ไม่รู้เมืองจีนเป็นยังเมืองนี้กันหมดหรือเปล่าแต่เพราะไปมาแค่เมืองเดียวเลยได้เห็นมุมมองจากเมืองนี้เท่านั้น บล็อกวันนี้ขอแค่พาทัวร์รอบมหาวิทยาลัยกุ้ยหลินหรือ Guilin University of Technology นะครับ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเดินเพียง 5 นาทีก็ถึง แต่ทำไมเข้าเรียนสายตลอดเลยก็ไม่รู้ - -"



วันแรกที่ได้ไปเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยกุ้ยหลิน ก็ตะลึงกับความใหญ่โต อลังการ ของมหาลัยแห่งนี้มากๆ นอกจากแต่ละตึกจะโอ่โถงกว้างใหญ่ ดูภูมิฐานสมเป็นมหาวิทยาลัย บรรยากาศโดยรอบยังได้รับการดูแล วางแผนผังอย่างดี ด้านหน้าติดถนนใหญ่ ประตูเหล็กอัตโนมัติ เดินเข้ามาเป็นลานจอดจักรยาน พาหนะยอดนิยมทั้งสองฝั่ง ด้านหน้าเป็นสวนดอกไม้ มีเก้าอี้ยาวตั้งเอาไว้อยู่โดยทั่ว ใต้ร่มไม้ครึ้มโดยรอบ ในแต่ละวัน ที่แห่งนี้คือสถานที่มานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือที่ดีที่สุด ในแต่ละคืนมันจะถูกเปลี่ยนเป็นลานกอดสาว ที่ซึ่งหนุ่มสาวจะมานั่งเป็นคู่ๆ แล้วจีบกัน ตามสไตล์คู่ใครคู่มัน - -" บางทีก็น่ารัก บางทีก็เลยเถิด แบบที่ว่าเมืองไทยทำได้เฉพาะในที่ลับเท่านั้น ...



รูปเนี้ย ตึกตรงกลางทั้งตึกเป็นตึกออกกำลังกายเลยนะนั่น ชั้นล่างมีห้องเรียนแด๊นซ์ กับลานแบดมินตัน ชั้นสองก็ลานแบดมินตัน ชั้นบนๆ มีสนามบาส โรงยิม อะไรต่อมิอะไรเยอะไปหมด ที่นี่มีสนามบาสมากมายนับแป้นบาสได้ไม่ต่ำกว่า 30 คู่ สนามบอลใหญ่ๆ 2-3 สนาม และทุกเย็นที่อากาศดีจะมีหนุ่มสาวจีนมาออกกำลังกายกันอย่างแน่น ใช้พื้นที่ได้คุ้มจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่แต่ละคนจะหุ่นดีกันทั้งนั้น และสินค้าเกี่ยวกับกีฬาที่นี่จะขายดีมาก และการกีฬาก็จะบูมมาก โดยเฉพาะ แบด บาส ปิงปอง จะนิยมเล่นกันมากที่สุด ส่วนบอล กับเบสบอล วอลเล่ย์ก็มีให้เห็นทีมใหญ่ๆ เล่นกันทุกวันเหมือนกัน



กล่องจดหมายอะไรไม่รู้ ถ่ายมาทำไมก็ไม่รู้ - -"



รูปบนเป็นอาคารเรียนคับ และไม่ใช่ตึกใหญ่ที่สุดด้วย ส่วนไกลๆ มีหน้าต่างกระจกหลายๆ ชั้นเขาบอกว่าเป็นห้องสมุด แต่พอไปดูจริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ ขนาดนี้ ต้องเรียกว่าหอสมุดตะหาก ...



ท่ามกลางอาคารเรียนสมัยใหม่ ด้านในยังมีตึกเก่าๆ ด้วย ที่ตั้งอยู่โดดๆ นี้และอีกหลายๆ ตึกเป็นหอพักนักศึกษาคับ แตกละตึกสร้างด้วยอิฐ ดูเก่า ขลัง แถมไม่ยอมทาสี ดิบๆ ดี ชอบ ... ในแต่ละตึกจะประกอบด้วยห้องแคบๆ แคบมากๆ อยู่ได้แค่คนเดียวก็รู้สึกอึดอัดแล้ว แต่นี่นักเรียนต้องอยู่ร่วมกัน 6 คน ต่อห้อง โดยแบ่งเป็นเตียงสองชั้นสามเตียงเรียงติดกันและมีโต๊ะหนังสืออยู่โต๊ะเดียว ไม่มีพื้นที่สำหรับอย่างอื่นเลย และถึงจะมีห้องน้ำในตัวแค่ห้องเดียวก็ยังรู้สึกว่าแออัดมากๆ อยู่ดี คิดดูว่าถ้าทุกคนมีเรียนตอน 8 โมง คนแรกต้องตื่นมาเช้าห้องน้ำตั้งแต่ตี 5 เหอๆ เหนื่อยน่าดู แต่ก็คงไม่ลำบากขนาดนั้นเพราะคนจีนเช่นเมืองนี้จะไม่ค่อยอาบน้ำเท่าไหร่ ถ้าอยู่เฉยๆ ละก็เหงื่อไม่ออกเลย ผ่านไปสามวันค่อยอาบที ยกเว้นจะไปเล่นกีฬาอย่างนี้ก็อาบนะ ... แค่พวกเราคนไทยอาบน้ำน้อยสุดก็วันละครั้ง มันเป็นนิสัยน่ะ แต่บางคนก็อาบมันเช้าเย็นเลย ...

การที่แต่ละคนยินดีมาเรียน และย้ายมาใช้ชีวิตกินอยู่อย่างแออัดกับคนที่ไม่รู้จักอีก 5 คนในห้องพักเดียวกันถึงสี่ปี สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องยินยอมนั้นก็คือ ประเทศจีนเป็นประเทศที่กว้างใหญ่มีประชากรมาก เพราะฉะนั้นในแต่ละปีเมื่อมีการสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา (ก็คือเอ็นทรานซ์น่ะเอง) ก็เลยย่อมมีการแข่งขันกันสูงมากๆ ในมหาวิทยาลัยหนึงอาจมีการรับนักเรียนใหม่เข้าแค่ไม่กี่พันคนแต่ยอดคนสมัครเข้ามักพุ่งทะลุบางทีอาจหลายหมื่นคนเลยทีเดียว เมื่อได้เข้ามาเรียนสมใจก็เหมือนไดชิงชัยชนะมาจากคนอื่นอีกมากมย เท่านั้นก็ภูมิใจแล้ว และแน่นอน นักเรียนที่นี่ทุกคนไม่เน้นการแต่งตัวแต่งหน้าหรือเกเรเลย ทุกคนจะตั้งใจเรียนตลอด เมื่อถึงพักกลางวันก็จะเดินทน แห่กันไปโรงอาหาร รีบกิน รีบออก แล้วก็ไปติวหนังสือ เตรียมเรียนต่อ เพราะการแข่งขันมีสูงมากนั่นเอง

นอกจากนี้ด้านหลังมหาลัยยังเป็นภูเขา มีบันไดจากในมหาลัยขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเลย ซึ่งก็สูงมากๆ เลยอะนะ เหนื่อยแฮ่กๆ ได้ขึ้นไปเดินเล่นถึงข้างบน ได้เห็นวิวแทบทั้งเมือง กุ้ยหลินมีภูเขาลูกเล็กใหญ่ขึ้นสลับกันไปทั่ว รวมแล้วเขาว่ามีมากกว่าหมื่นลูกเลยทีเดียว เป็นหนึ่งเดียวบนโลกที่มีวิวภูเขารูปทรงแปลกๆ อยู่ไปทั่วขนาดนี้ แปลกดี นั่งรถไปหน่อยก็เจอภูเขา เลี้ยวตรงนี้ก็เจอภูเขา มองไปทางไหนก็เป็นวิวภูเขาไกลๆ สวยจัง

เดินขึ้นเขากันวันที่ 19 ถ่ายรูปมาให้ดูกันหน่อย



เชื่อแล้วว่าคนจีนแข็งแรงจริง สองสาวนี้เดินหอบหนังสือขึ้นมาอ่านถึงยอดเขา ในขณะที่พวกเราคนไทยหอบแฮ่กพักเหนื่อยกันสองสามรอบ ... อุตสาหะกันจริ๊ง


มหาลัยกุ้ยหลินครับ


สวยมะคับ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รูปอื่นๆ ของวัน

มาม่าคับ - -" เผื่อเอาไว้ ไม่เสียหาย

ห้องพัก

อาหารมื้อแรกของวันที่หนึ่ง ... หมี่ ฟ่าน คับ บะหมี่หมู (หมูจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) อันนี้ถือเป็นอาหารหลักของคนที่นี่คับ รสชาติหรือก็อร่อยน้อยหน่อย แต่ถ้าเลียนแบบการกินของคนจีน คีบเส้นเข้าปากแล้วทำเสียง ซู้ด ซี้ด ให้ได้ดังที่สุด จะอร่อยขึ้นแบบไม่น่าเชื่อเลย โฮะๆๆ


ทัวร์จบละ เดี๋ยวมาเล่าต่อวันอื่น...




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2549
10 comments
Last Update : 4 พฤษภาคม 2549 14:28:30 น.
Counter : 2012 Pageviews.

 

 

โดย: โสมรัศมี 4 พฤษภาคม 2549 15:33:19 น.  

 

ตามมาเที่ยวกุ้ยหลินคับ

 

โดย: .. IP: 58.9.59.66 4 พฤษภาคม 2549 19:32:27 น.  

 

อ่านเพลินเลย นี่อาจเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอ่านบล็อคนี้เพลินมากกกกกกกกกกกก
ช่วงนี้สบายดีนะเรา?

 

โดย: BAYROCKU 5 พฤษภาคม 2549 7:52:33 น.  

 

ตามมาเที่ยวกุ้ยหลินด้วยคนครับ

 

โดย: kaazanova 5 พฤษภาคม 2549 12:56:13 น.  

 

ตามมาดูมหาวิทยาลัยที่นี่ครับ ดูอากาศดีนะครับ

 

โดย: ตงเหลงฉ่า 5 พฤษภาคม 2549 18:27:48 น.  

 

รอตามอ่านวันต่อไปครับ

 

โดย: นายเบียร์ 6 พฤษภาคม 2549 3:53:22 น.  

 

แวะตามเข้ามาอ่านครับ เห็นว่าเจ้าของบล็อกสนใจเรียนภาษาจีน ก็กำลังชอบและกำลังเรียนภาษาจีนอยู่เหมือนกันครับ

ดีนะครับได้มีโอกาสไปเรียนภาษาจีนที่นั่น เรียนคอร์สนานเท่าไหร่ครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวการเรียนนะครับ แล้วเอามาเล่าให้ฟังกันต่ออีกนะครับ จะตามๆมาอ่านครับ

 

โดย: Tempting Heart 7 พฤษภาคม 2549 7:33:37 น.  

 

อยากลองไปดูมั้งอ่ะ คงสนุกมากเลย

 

โดย: JaBaNr IP: 203.118.74.19 15 ตุลาคม 2550 2:48:59 น.  

 

รบกวนคนที่ไปมา มีเบอร์ติดต่อมั้ย ค่ะ พอดี อยากจะถามข้อมูล รายละเดียดหน่อยค่ะ กรุณา เมล์มาบอกก็ได้ค่ะ minna_tabo69@hotmail.com ขอบคุณคะ

 

โดย: minna IP: 203.154.96.182 1 ธันวาคม 2550 15:10:51 น.  

 

ค่าตั๋วเครื่องบินเท่าไหร่ค่ะ

 

โดย: minna IP: 202.69.139.194 11 ธันวาคม 2550 14:54:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


++peter++
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





You Always Give Me Rights
Make Me See the Truths
For This Fascinate Life
I Also Got From You

In This Crazy World
And the Books of Lies
Without You Here With Me
I would Defenitely Die....







ส่งหลังไมค์ถึง ++peter++
Friends' blogs
[Add ++peter++'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.