วิกฤติน้ำท่วมมมมมม!!!!! (ชีวิตริมฝั่งเจ้าพระยา)
วันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2549 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 12 ห๊า! ขึ้น 3 ค่ำ หมายความว่าน้ำขึ้นอีกแล้วล่ะสิ (เป็นคำพูดเมื่อตอนอ่านปฏิทินในคืนวันเสาร์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่หอเพื่อน แถวประตูน้ำ)ก่อนอื่นจะเล่าให้ฟังก่อนว่า ผมทำงานอยู่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (หรือที่รู้จักกันว่า กรมทรัพยากรธรณีในอดีต) ประจำกลุ่มแต่งแร่และใช้ประโยชน์แร่ ซึ่งออฟฟิสผมเนี่ย อยู่ที่ต.ตลาด อ.พระประแดง มีอาณาบริเวณติดแม่น้ำเจ้าพระยา (ติดจริงๆ เลย) มีสะพานเทียบเรือ ซึ่งในอดีตใช้สำหรับเรือขนแร่ดีบุกของกรมฯ นำตัวอย่างทดสอบวิเคราะห์ หาเปอร์เซนต์ เพื่อเก็บค่าภาคหลวงแร่ ไอ้จุดที่มันอยู่ติดแม่น้ำ และใกล้ปากน้ำอันหมายถึงความใกล้ชิดกับทะเลนั่นเอง ทำให้เมื่อวันที่พระจันทร์ใกล้โลกจะมีอิทธิพลให้เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง ประกอบกับช่วงเวลาน้ำเหนือไหลทะลักสู่ กทม. ด้วยแล้ว น้ำหนุนขึ้นด้วยแล้ว...โอ...ชาวประชาที่อยู่ริมน้ำทั้งหลายเราเข้าใจจิตใจท่านมากขึ้นโขทีเดียว อีกอย่างเมื่อเดือนสิงหาคม บ้านผมที่จังหวัดน่านก็ได้ผ่านประสบการณ์น้ำท่วมบ้านมาแล้วยิ่งช่วยให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้นไปอีกมาถึงเรื่องวันนี้กัน ผมตื่นหกโมงเช้าก็นั่งรถเมล์กลับบ้านพัก(ก็อยู่ติดกับที่ทำงานนั่นแหละ) ด้วยจิตใจหวาดหวั่น ว่าน้ำขึ้นในช่วงวิกฤติบ้านเมือง (ไม่เกี่ยวนี่นา) เช่นนี้ บ้านที่เราอยู่จะรอดรึป่าววะเนี่ย (เพราะเมื่อปีที่แล้วซึ่งไม่มีข่าวคราวน้ำไหลหลากขนาดนี้ยังโดนน้ำเข้าบ้านไปประมาณ 0.5 เซนติเมตร) ว่าแล้วก็บอกให้คนขับรถเมล์ให้รีบเหย๊ยบ(หน่อย...เอ่อ อันนี้มุขนะ) พอมาถึงตลาดเราก็ลงขึ้นสามล้อทันที แต่ไม่วายอยากกินเจ ร่วมเทศกาล ก็ซื้ออาหารเจติดไม้ติดมือไปด้วย ปรากฎว่าเป็นไปดังคาดครับพี่น้อง...เมื่อสามล้อเคลื่อนตัวจากตลาดมาได้เพียง 500 เมตร ก็เจอกับฝูงชนมากมายออกันอยู่บริเวณสี่แยกโรงหมู หรือสนามเด็กเล่นนี่แหละ(เมื่อก่อนเป็นโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งถูกทุบทำสนามเด็กเล่น มีวิญญาณหมูสิงสถิตย์มากมาย...ฮ่า) น้ำครับน้ำท่วมเอ่อมาถึงนี่เลยหรือ ไม่เคยพบเคยเห็น บ้านกรูเสร็จแล้วบ้านกรู...(ต้องขออภัยด้วยช่วงนี้ตื่นเต้น มือไม้อ่อนและกลัวโทรศัพท์ตกน้ำจึงไม่ได้ถ่ายรูปมาเป็นหลักฐาน)ด้วยความที่สามล้อกลัวเปียก จึงลัดเลาะไปตามที่สูงส่งผมที่หน้าบ้านอย่างปลอดภัย (ขอบคุณครับสามล้อจ่ายตังตามระเบียบไป) จากนั้นผมก็รีบเข้าบ้านไป...เฮ้อค่อยโล่งอก เหลืออีกประมาณ 17.8 เซนติเมตร น้ำจึงจะเข้าบ้านครับ แต่วิกฤติยังไม่หมดแค่น้ำ น้ำเข้ามาในห้องน้ำเต็มไปหมด แล้วกรูจะทำธุระส่วนตัวที่ไหนวะเนี่ย...โอวววว สงสัยต้องไปอาศัยน้ำหลวงอาบซะแล้ว พรึ่บๆๆ..จัดการเก็บข้าวของเปลี่ยนชุดทำงาน คว้ารองเท้ายางกันน้ำจ้ำอ้าวไปยังที่ทำงาน (ขณะนั้นเวลา 7.50 น.) ว๊ากกกกก!... น้ำจะถึงหัวเข่าแล้ว คงจะเห็นสภาพที่ทำงานผมแล้วนะครับ (ตึกขาวซ้ายมือของภาพนั่นแหละ) นี่ยังไม่ใช่เลวร้ายที่สุดนะ ยังมีหนักกว่านี้ เข้าที่ทำงานได้แล้ว ปรากฎว่าน้ำเข้ารองเท้าครับ ปลายขากางเกงที่อยู่ในรองเท้ายางก็ไม่รอดเช่นกัน เข้าห้องน้ำของตึก...พระเจ้า...น้ำไม่ไหล...โนโนโน!!! ป้าที่ทำงานบอกว่าเค้าเปิดน้ำตอนแปดโมงครึ่ง...โอเค รอได้ แล้วก็นั่งกินเจรอเวลาต่อไป พอถึงเวลาก็ได้อาบน้ำ ล้างหน้าสมใจ น้ำยังคงขึ้นสูงเรื่อยๆ ครับเฉลี่ย 1 เซนติเมตร ต่อ 10 นาที วันนี้คงไม่เข้าบ้าน (ปลอบใจตัวเอง)นี่เป็นรูปตอนที่น้ำสูงมากๆ ตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ครับตอนนี้ก็ 10.33 น. แล้วรู้สึกน้ำจะเริ่มลดลงแล้วล่ะ แต่สภาวะปกติคงจะกลับมาราวๆ เที่ยงวัน เนื่องจากน้ำลงช้ามาก สำหรับวิกฤติในวันนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี...แต่เย็นนี้คงต้องเหนื่อยกับการล้างห้องน้ำอีกแล้ว และในอีก 2-3 วันนี้ก็คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปสุดท้ายนี้ชาวประชาที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในทุกพื้นที่ก็ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติไปอย่างราบรื่น และได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐและคณะผู้ใจบุญอย่างท่วมท้น โดยกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว เป็นกำลังใจ และเข้าใจผู้ประสบภัยทุกคนครับ....วันที่ 25 ตุลาคม 2549 (9.00 น.)ว๊ากก....น้ำมาแล้ว...จะรอดป่าวเนี่ยจะออกไปยังไงเนี่ย...ติดเกาะซะแล้วเราอ๊ะ..มีคนใจกล้าออกไปหาความช่วยเหลือแล้วขอขอบคุณป้าจุกใจดี ยอมเป็นพรีเซนเตอร์ (ที่จริงแอบถ่าย) และตัวผมเอง (ดูหน้าตามีความสุขดีมั้ยครับ...ไม่ทุกข์ร้อน)
ไปบริจาคมาแล้วเจ้าค่ะ..