Group Blog
|
ถึงนิพพาน โจทย์ "คุณวางแผนพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง " ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิให้ได้ฌาน เจริญในฌาน ให้ได้ฌาน1-8 ให้เห็นอริยสัจ4 ให้เห็นโพธิปัฏขิยธรรม37 ให้เห็นปฏิจสมุธบาท ทำมิโรธสมาบัติ ถึงนิพพาน ในภพนี้ หมดชาติ คนโง่ยังต้องยึดทุกข์อยู่ พระอริยะไม่ยึดทุกข์
คนโง่ยังต้องศึกษาทุกข์อยู่ พระอริยะไม่ต้องศึกษาทุกข์ คนโง่ไม่เห็นทุกข์ พระอริยะเห็นทุกข์ คนโง่เกลียดทุกข์ พระอริยะไม่เกลียดทุกข์ คนโง่ยังต้องยึดทุกข์อยู่ พระอริยะไม่ยึดทุกข์ คนโง่ยังต้องศึกษาทุกข์อยู่ พระอริยะไม่ต้องศึกษาทุกข์ คนโง่ไม่เห็นทุกข์ พระอริยะเห็นทุกข์ คนโง่เกลียดทุกข์ พระอริยะไม่เกลียดทุกข์ คนโง่ไม่พ้นทุกข์ พระอริยะพ้นทุกข์ โดย: คนโง่ไม่พ้นทุกข์ (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2559 เวลา:18:42:58 น.
ในทางธรรมปฏิบัติ ท่านจึงสอนหลัก สมดุล เอาไว้โดยเตือนว่า
สมาธิต้องเข้าคู่กับความเพียร ศรัทธาต้องเข้าคู่กับปัญญา และสมาธิ ความเพียร ศรัทธา ปัญญา ต้องอยู่ในสายตาของ สติ เพราะ สติ คือตัวจัดปรับให้องค์ธรรมทุกข้อเกิดดุลยภาพ ศรัทธามากไปก็กลายเป็นงมงาย ปัญญามากไปก็กลายเป็นหยิ่งทะนง หลงตัว หยาบกระด้าง อหังการ เพียรมากไปก็กลายเป็นเคร่งเครียด ฟุ้งซ่าน สมาธิมากไปก็กลายเป็นดำดิ่งนิ่งลึก ติดอยู่ในความสุขจากความสงบ ต่อเมื่อองค์ธรรมทุกข้อถูกปรับให้พอดีโดยมีสติเป็นพี่เลี้ยงดุลยภาพทางกาย ทางจิต ทางปัญญาจึงจะเกิดขึ้น และนั่นก็คือจุดเริ่มของการรู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมหรือต้นทางของมรรคผลนิพพาน โดย: สมดุล (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2559 เวลา:20:19:51 น.
การทำสมาธิให้ยึดในขันธ์5 อย่าไปติด อย่าไปนึกละ
ยึดไว้เพื่อเป็นพื้นฐานในการ ปฏิบัติ วิปัสสนา จิตไปนึกละในขันธ์5 จิตจะหลงในการ ปฏิบัติ วิปัสสนา จิตจะหลงคิดว่าตนสำเร็จได้มรรคผล เป็นวิปัสสนูปกิเลส โดย: วิปัสสนูปกิเลส (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2559 เวลา:17:29:13 น.
พระอริยเจ้ารักษาใจ
พระอริยเจ้าไม่ได้รักษาศีล เมื่อสำรวมใจ กาย วาจา ก็ไม่ประพฤติ ล่วงละเมิดศีล โดย: พระอริยเจ้ารักษาใจ (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2559 เวลา:16:30:05 น.
มีคนถามหลวงปู่มั่นว่าถือศีล 227ข้อหรือ กี่ข้อ
หลวงปู่มั่นบอก ท่านรักษาข้อเดียว คือรักษาใจ ศีลรักษาที่ไหน ศีลเกิดที่ใจ ธรรมเกิดที่ใจ สมาธิเกิดที่ไหน สมาธิเกิดที่ใจ ปัญญาเกิดที่ไหน ปัญญาเกิดที่ใจ ให้ดูที่ใจที่เดียว อย่าไปดูที่อิ่น โดย: ศีลเกิดที่ใจ (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2559 เวลา:19:11:20 น.
สมถะละราคะ เป็น เจโตวิมุติ จิตมีราคะย่อมไม่หลุดพ้น วิปัสสนาเกิดปัญญา ละอวิชชา เป็นปัญญาวิมุติ จิตมี อวิชชาย่อมไม่เจริญ
สมถะวิปัสสนาเป็นไปเพื่อวิชชา เจริญธรรมทั้งสองให้ยิ่งขึ้นไป สมถะวิปัสสนา อบรมจิตจะเกิดปีติ ปราโมทย์ แทงตลอดซึ่งธาตุเป็นเอนก สมถะวิปัสสนาต้องเป็นธรรมที่เคียงคู่กันไป บุคคลในโลกนี้มี4จำพวก 1.บุคคลผู้มีปกติมีความสงบแห่งใจในภายใน( เจโตวิมุติ ) ไม่มีความเห็นแจ้งในธรรมด้วยปัญญาอันยิ่ง 2.บุคคลผู้มีปกติ ไม่มีความสงบแห่งใจในภายใน มีความเห็นแจ้งในธรรมด้วยปัญญาอันยิ่ง(ปัญญาวิมุติ) 3.บุคคลผู้มีปกติมีความสงบแห่งใจในภายใน ( เจโตวิมุติ ) มีความเห็นแจ้งในธรรมด้วยปัญญาอันยิ่ง(ปัญญาวิมุติ) 4.บุคคลผู้มีปกติไม่มีความสงบแห่งใจในภายใน ไม่ มีความเห็นแจ้งในธรรมด้วยปัญญาอันยิ่ง โดย: สมถะ วิปัสสนา (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2559 เวลา:13:26:38 น.
ธรรมะง่ายนิดเดียว
เจริญสมาธิ ให้จิตตั้งมั่น ให้จิตรู้ถึงความเป็นจริง จิตจะเป็นฌาน ธรรมะเกิดที่จิต ธรรมะแก้ที่จิต สมมุติคนติดบุหรี่ ใครอยากบุหรี่ กายอยากบุหรี่ ใจอยากบุหรื่ ใครเพลิดเพลินในรสบุหรี่ ใครดื่มด่ำในรสบุหรี่ ใครพร่ำถึงในรสบุหรี่ ใจไม่เพลิดเพลินในรสบุหรี่ ใจไม่ดื่มด่ำในรสบุหรี่ ใจไม่พร่ำถึงในรสบุหรี่ ใจก็ไม่อยากบุหรื่ ความอยากในใจก็ดับ อุปาทานดับ ภพ ชาติ ดับ โสกะปริเทวะ ทุกข์ ทั้งหลายดับไป โดย: ธรรมะง่ายนิดเดียว (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2559 เวลา:15:23:50 น.
ธรรมะเป็นของยากสำหรับบุคคลบางจำพวก
บุคคลบางจำพวก ชอบพร่ำถึง ชอบดื่มด่ำ ชอบเพลิดเพลิน ในรูป นาม จึงมีอุปาทาน มีภพชาติ มีทุกข์ โดย: ธรรมะเป็นของยากสำหรับบุคคลบางจำพวก (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2559 เวลา:15:25:05 น.
ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ควรละ ควรทำให้เจริญ ควรทำให้แจ้ง
ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงกำหนดรู้ คืออุปาทานขันธ์5 ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงละเสีย คือ อวิชชา ภวตัณหา ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงทำให้เจริญ คือ สมถะ และวิปัสสนา ธรรมที่รู้ยิ่งด้วยปัญญาแล้วพึงทำให้แจ้ง คือวิชชาและวิมุติ โดย: ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ควรละ ควรทำให้เจริญ ควรทำให้แจ้ง (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 8 ธันวาคม 2559 เวลา:19:54:39 น.
จิตรู้อุปาทานขันธ์ ในวิญญาน
ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ตัวรู้ เห็นอารมณ์ รู้รสอารมณ์ รู้แล้ววาง ไม่เจตนาปรุงแต่ง ไม่คิดปรุงแต่ง ไม่มีเวร กรรม ไม่มีแล้วภพ ชาติ โดย: ไม่มีแล้วภพ ชาติ (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 9 ธันวาคม 2559 เวลา:9:56:11 น.
จิตยึดนิพพาน เพื่อรู้ว่านิพพานมีอยู่
นิพพานตั้งอยู่ ทางไปนิพพานมีอยู่ จิตรู้ว่านิพพาน มีอยู่ แต่จิตไม่ไปยึดติดนิพพาน จิตเห็นนิพพาน แล้วปล่อยวาง จิตเห็นว่านิพพานเป็นอนัตตา นิพพานไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตน ไม่ใช่จิต ไม่ใชคน สัตว์ สิ่งของ โดย: จิตยึดนิพพาน เพื่อรู้ว่านิพพานมีอยู่ (สมาชิกหมายเลข 3481473 ) วันที่: 16 ธันวาคม 2559 เวลา:21:59:10 น.
|
Link
|
เอาแต่เดินจงกรมค่ะ