Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
14 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
4 เล่มข้างหมอน

บล๊อกนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณรัชชี
เพื่อนบล๊อกที่รู้สึกว่าเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่ง
ในสังคมออนไลน์คุณภาพของผม เธอเขียนเล่าถึงหนังสือแต่ละเล่ม
ที่ได้มากจากงานหนังสือ ทำให้ผมหันมามองข้างหมอนของผม
และริที่จะลองเขียนดูบ้าง เพราะผมเองก็เป็นคนหนึงที่
มีหนังสือเป็นเพื่อนสนิทมานานโข

ผมเองชอบอ่านหนังสือและใช้เวลาอย่างมีความสุขกับการอ่านหนังสือ
พอคเก็ตบุ๊คเล่มเล็ก มาสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
ที่มักไปยืนอ่านฟรีในร้านดอกหญ้า ตอนโดดเรียนฟิสิกส์ที่ PEP สาวรีย์ชัย
แต่พอมีกำลังซื้อดันเป็นเมมเบอร์ร้านนายอินทร์ ซะงั้น หุหุ
และเวลาอ่านจะชอบแนว ธรรมะแนวใหม่ ๆ เขียนทันสมัย
หรือไม่ก็แนวประวัติศาสตร์ หรือสารคดีท่องเที่ยว

ผมมักจะซื้อหาหนังสือเล่มโปรดมาบำรุงสมองสม่ำเสมอเพราะว่า
กิจกรรมก่อนนอนที่ดีที่สุดของคนโสดอย่างผมคือการ
หยิบหน้งสือมาอ่านซักสิบกว่าหน้าก่อนที่จะผล็อยหลับไป
ผมมีหนังสือหลาย ๆ เล่ม ไว้เพื่ออ่านสลับไปมา
โดยจะไม่อ่านเล่มใดเล่มหนึ่งให้จบไปก่อนค่อยซื้อมาอีกเล่ม
มันได้ฟิลเหมือนดูละครไงคับ ดูหลาย ๆ ช่อง
แต่ดีกว่าละครโทรทัศน์ก็ตรงที่หนังสือมันวางอยู่ใกล้มือ
จะไม่จบไปก่อนหรือไม่หนีไปก่อนเหมือนตอนเรา
พลาดละครสักตอน

ที่อ่านค้างอยู่ตอนนี้มี 4 เล่ม
เริ่มที่เล่มแรกก่อน ได้มาหลายเดือนแต่อ่านยังไม่จบซะที
เพราะว่าเล่มหลัง ๆ ที่ได้มาเร้าใจกว่ามากมาย

เล่มแรกคือ "ถ้ารู้กูทำไปนานแล้ว"



ผู้เขียนคือ คุณณัฐพบธรรม เป็นวิศวกรจบจากมช.
แล้วก็มาเรียน MBA ที่จุฬา หลังจากนั้นก็ได้ร่ำเรียนกรรมฐานจากสำนักต่าง ๆ รวมทั้งวิชาธรรมกาย ของหลวงปู่สดวัดปากน้ำอีกด้วย

เนื้อหาจะเขียนตามภาษาของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจง่าย กระชับ
อธิบายด้วยภาษาง่ายแต่ลึกซึ้ง มีภาพประกอบที่น่าสนใจ
ชื่อเรื่องจะเป็นคำถามชวนติดตาม เช่น บางคนทำความดี แต่ทำไมยังไม่รวย ?
จุดเด่นของงานเขียนเรื่องนี้อยู่ที่
การเขียนภาพประกอบที่เข้าใจง่าย
อืมม์ ท้ายเล่มเค้ามีการประมวลสถานที่ปฏิบัติธรรมแยกเป็นภูมิภาค
มีเบอร์โทรให้โทรไปสอบถามกันได้อีกด้วย

ผมว่าเค้าเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่น่าจะไปได้ไกลกับงานเขียนแนวนี่
จุดเด่นอีกประการคือ การอ้างอิงพระไตรปิฎก แทรกเป็นระยะที่ทำให้งานเขียนน่าเชื่อถือมาก

ผมว่าปัจจุบันงานเขียนแนวนี้มีมากมายเหลือเกิน ต้องเลือกสรรกันหน่อย
แต่อย่างน้อยข้อดีก็คือธรรมะสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายแพร่หลายกว่าเมื่อก่อนมากมาย อืมม์เล่มนี้ไม่แพงคับ ราคา 259.-

เล่มที่ 2 คือ "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่"
ผู้เขียนคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์



ขอย้อนหน่อยว่างานเขียนของคุณชายคึกฤทธิ์ผมได้อ่านแล้วหลายเล่ม
ไม่เคยผิดหวังเลยคับ ได้ความรู้ละเอียดลึกซื้ง เช่น ซูสีไทเฮา กฤษดาภินิหารอันบดบังมิได้ ยิว ฉากญี่ปุ่น สี่แผ่นดิน พม่าเสียเมือง
แต่ที่สนุกและโปรดมากมายคือ
โครงกระดูกในตู้ อันเป็นวีรกรรมของท่านป้าฉวีวาด อันลือลั่นถึงกรุงกัมพูชา !

งานเขียนเรื่องนี้ เป็นการเขียนเชิงวิพากษ์ตั้งแต่ฉากของเรื่อง
และคนที่แต่งเสภา และเล่าเรืองต่อ ๆ กันมา น่าจะเป็นคนที่อยู่ในคุก !!!!
เพราะมีข้อความระหว่างบรรทัดที่สื่อไปถึงได้ เนื้อเรื่องจะเขียนถึงสมัยขุนช้างขุนแผน และลากยาวต่อไปถึงยุคพลายงามลูกชายโน้นแนะ

ใครที่เคยได้ยินได้เรียนเรืองนี้มาบ้างแล้ว สมัยเด็ก ๆ
แล้วยังคาใจ แนะนำให้ไปหามาอ่านเล้ยย ไม่ผิดหวังแน่นอน
เพราะว่าจะทะลุปรุโปร่งเรื่องตัวละคร ความเป็นอยู่ของคนสมัย
อยุธยาตอนปลาย เรียกว่าเกร็ดประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จะร้อยเรียงแทรกผ่านตัวอักษร และความบันเทิง อ่านแล้ววางไม่ลงเลย

จุดเด่นเล่มนี้คือการยกบทเสภามาอธิบายเป็นระยะ ๆ ไม่มากเกินไป
จะเห็นความงามของภาษา พร้อมกับความงามจากจินตนาการของฉาก
ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีอยู่จริงในปัจจุบัน
อ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังคงร่วมสมัยมากกมาย
ทั้งที่เขียนมานานนม แปลกมาก !!!

อืมม์สนนราคา เล่มนี้ก็ 260.- ถ้ามีบัตรส่วนลดก็ถูกลงไปอีกนะ

เล่มที่ 3 คือ "สิ้นแสงฉาน"

เล่มนี้เป็นงานแปลด้วยภาษาที่สวยมากฝีมือชั้นครู ของ มนันยา
แปลมาจาก Twilight over Burma my life as Shan princess



ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่เขียนอิงประวัติศาสตร์
อันเป็นบันทึกของ สุจันทรี (อิงเง่) มหาเทวีผมทอง ชาวออสเตรีย
ของเจ้าฟ้าหลวงแห่งแคว้นสีป่อในรัฐฉานของพม่า
ซึ่งน่าแปลกที่หญิงสาวชาวตะวันตกจะพบรักและกลายเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าองค์หนึ่งของโลกตะวันออก ในคราวที่ทั้งสองเป็นนักศึกษาด้วยกัน
จึงน่าจะเรียกว่า "ครั้งหนึ่งที่แสนงดงามเมื่อ ตะวันตก มาบรรจบ ตะวันออก"

จุดเด่นของเล่มนี้คือ
สำนวนแปลที่สวยมากของคุณมนันยา และเรืองราวที่เบื้องหลังอันอึมครึม
และความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศพม่าที่บ่มเพาะมาตั้งแต่คราวกระโน้นจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะจบลง

จริง ๆ เล่มนี้ผมจดๆ จ้อง ๆ มาหลายหนแระ คราวนี้ตัดสิ้นใจซื้อด้วยประโยคนี้เลยครับ

....ความผันผวนทางการเมือง ด้วยเพลิงอำนาจ ความโลภ ตัณหา ความเห็นแก่ตัว และความทะยานอยากไม่รู้จบของคนกลุ่มหนึ่งพรากเขาไปจากทุกอย่าง ดอกไม้ต่างถิ่นที่เป็นปิ่นปักเกล้าของคนทั้งปวงอย่างเธอจะทำอย่างไร ?

เล่มนี้ยังอ่านไม่จบเล้ย อ่านได้สัก 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลัง ๆ เพื่อนฝูงมาพักค้างถี่ขึ้น เวลาของการอ่านหนังสือก่อนนอนจึงถูกแทนที่ด้วยการ เม้าท์ 555

อืมม์ เล่มนี้ พิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนะ เหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจซื้อหนังสือที่ง่าย ๆ คือดูครั้งที่พิมพ์จะช่วยบอกความนิยม และคุณภาพของหนังสือได้ทางหนึ่ง สนนราคาอยู่ที่ 220.- ผมใช้แสตมป์ส่วนลดลดได้มาโข จ่ายจริงสักประมาณ 150.-

เล่มล่าสุด เล่มที่ 4 มาช้าแต่อ่านจบก่อนวางไม่ลงจริง ๆ ครับ น่าจะอ่านแค่สองคืนก็จบ ดีจนต้องหยิบไปให้พี่อีกคนที่ชอบพอกันอ่านต่อ
จริง ๆ หนังสือหนึ่งเล่มถ้าอ่านคนเดียวมูลค่าก็เท่าราคาปก
ผมจึงมักจะแบ่งปันพรรคพวก คอหนังสือให้ได้อ่านเสมอเพื่อเป็นการเพิ่ม
มูลค่าให้หนังสือ สองเท่า สามเท่าก็สุดแล้วแต่

ชื่อหนังสือคือ "ที่เกิดเหตุ : บันทึก 1 ปีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"
เขียนโดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ซึ่งลงไปใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับประชาชนทหาร ตำรวจ ชาวบ้าน และโดยเฉพาะอิหม่าม ทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
หาใช่เพียงการนั่งเขียนภายในห้องสี่เหลืยมไม่

เล่มนี้หนังสือที่ผมสะดุดตาเพราะภาพปกของเด็กหญิงสามคนที่คลุมฮิหญาบพร้อมกับส่งแววตาที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา...



จริง ๆ แล้วผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด แต่ชีวิตมักจะต้องเกี่ยวข้องกับเพื่อนพ้องชาวมุสลิมเสมอ ทั้งชีวิตเล้ยนะ ตั้งแต่อ.ที่ปรึกษาโปรเจคป.ตรี
หัวข้อที่สีสป.โทที่เกี่ยวกับภาษาอาหรับ หรือแม้แต่โรงเรียนที่สอนก็คือโรงเรียนสุเหร่าแห่งหนึ่งในเขตบางกะปิ กรุงเทพ ฯ

ผมจึงค่อย ๆ ซึมซัมและเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวมุสลิมที่ละนิด
จนเข้าใจว่าในความต่างของมุสลิมกับศาสนาอื่น ๆ
อิสลามคือศาสนาที่แยกไม่ออกจากชีวิตประจำวัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เป็นอัตลักษณ์ที่มีระเบียบยิ่ง และเข้มแข็งมากที่สุดในบรรดาศาสนาที่ผมเคย
รู้จัก

และแน่นอนครับอัตลักษณ์และความงามของวิถึชีวิตเหล่านี้หาอ่านได้ในเล่ม
ในเล่มจะสะท้อนสองด้านคือ เรื่องที่ชวนหดหู่ของเหยื่อความไม่สงบของไฟใต้ เช่นเรื่องของครูสาวสองคนที่ถูกฆ่าตายหมู่ และเรื่องราวของพระที่ถูกปาดคอคากุฎิ และอีกด้านที่ขาดไม่ได้คือชีวิตของโต๊ะอิหม่ามคนหนึ่งที่ถูกจับขังคุกฟรี ๆ โดยปราศจากความผิดใด ๆ ถึงสิบกว่าวันโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐ...

ความหมายระหว่างบรรทัดของเล่มนี้จะทำให้ผมเข้าใจปัญหาไฟใต้ได้
แต่ไม่มีคำตอบหรอกครับว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง จากใคร และจะจบอย่างไร

อ่านแล้วให้รู้สึกชื่นชมผู้เขียนที่มีความเป็นกลางมาก ไม่มีอคติ เข้าข้างใดข้างหนึ่งนอกจากนี้ยังมีการเขียนถึง วิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิม เช่น ชีวิตหนุ่มสาวชาวปอเนาะ การทำสุนัตของเด็กชาย ฯลฯ อันเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่งดงามของสามจังหวัดชายแดน เป็นความงามท่ามกลางเสียงปืน กลิ่นคาวเลือด และเสียงระเบิด !!!

ข้อสรุปที่ได้จากเล่มนี้คือ ในทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี และคนเราต้องเคารพในความต่าง อ่านแล้วนึกถึงคำว่า "ดอกไม้หลากสี"
ของพ่อใหญ่ชวลิต ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมอยุ่ในขณะนี้ จริงจริ๊งง 555

จุดเด่นของเล่มมีสองอย่างคือ
อย่างแรกคือการตั้งชื่อเรืองและภาษาง่าย ๆ ที่ใช้ดูน่าติดตามเช่น
ปืนกับปลา กาแฟกับเบียร์ เดือนดาวในคาวเลือดสุนัต บัญชาของพระเจ้า

อีกอย่างคือ ภาพขาวดำประกอบที่เป็นเสน่ห์ของเล่มนี้เป็นฝีมือของ
ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ช่างภาพอิสระ ที่ก้าวพ้นคำว่า "กลัวตาย" มาแล้ว
ภาพแสงเงา ดูมีพลัง และรู้สึกว่าหนึ่งภาพของเค้ามันแทนคำอธิบายได้เป็นร้อยเป็นพันคำจริง ๆ

เล่มนี้ราคาถูกมาเมื่อเทียบกับเนื้อหาในเล่ม
ที่กว่าจะสรรหาข้อมูลมาได้ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ท่ามกลางกระสุนปืน ควันไฟ และลูกระเบิด ราคา แค่ 195.- เท่านั้นเอง






Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 11:00:01 น. 51 comments
Counter : 1583 Pageviews.

 

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
เจิมทันมั้ยจ๊ะ



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:19:24 น.  

 
พอดีแวะมาดูเน็ตแว้บหนึ่ง ทันเจิมพอดี
เดี๋ยวว่าง ๆ มาอ่านนะ


โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:20:52 น.  

 
ดีนะคะ ขยันอ่านหนังสือดี อยากอ่านถ้ารู้(กู) ทำไปนานแล้ว กับขุนช้างขุนแผน ขอบคุณที่แนะนำค่ะ


โดย: ยิ้มยิ้ม IP: 61.7.145.251 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:30:23 น.  

 
อืม! เข้าใจเปรียบเทียบนะว่าอ่านหนังสือสลับไปมาเหมือนดูละคร เป็นเหมือนกัน บางทีคงด้วยเพราะเป็นคนขี้เบื่อมั้งเนาะ ยิ่งเวลาซื้อมาหลายเล่มนะ จะหลายใจมากเลย เล่มนี้ก็อยากอ่าน เล่มนั้นก็อยากอ่าน

“ถ้ารู้กูทำไปนานแล้ว” เห็นตามร้านหนังสือเหมือนกัน ยังไม่ค่อยได้เปิด ๆ เพราะเกรงว่าจะคล้าย
“เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน” งานเขียนของ ดังตฤณ นักเขียนคนโปรดหรือเปล่า แต่พูดถึงเดี๋ยวนี้หนังสือแนวนี้มีเยอะมากเลยนะ ขึ้นอยู่กับใครชอบสไตล์ไหนก็หาซื้อกันไปของแนวนั้นนะ

สำหรับหนังสือเรื่องแนวอดีต อย่างเช่น ขุนช้างขุนแผน รามเกียรติ์ หรืออะไรก็ตามที่เรียนในวิชาภาษาไทยตอนเด็กๆ แปลกจัง ทำไมไม่ค่อยโดนใจรัชชี่เท่าไหร่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วถ้าเราอ่านเป็น แล้วชอบอ่าน เราคงได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์เยอะแยะเลย
แต่ดั๊น…ไปชอบอ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์ยุโรปแทน

แต่เคยอ่าน “พม่าเสียเมือง” นะ ชอบ สนุกดี อ่านติดพันเลยตอนนั้น

“สิ้นแสงฉาน” ดูน่าสนใจนะ เพิ่งรู้นะคะว่ามีชาวออสเตรียที่เคยเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าพม่าด้วย ถ้าอย่างนี้คุณพีร์น่าจะชอบอ่าน “แคทยาและเจ้าฟ้าสยาม” นะ

รู้สึกจะมีนิยายเรื่อง “เขมรินทร์ อินทิรา” จำไม่ได้ว่าใครแต่งเรื่องนี้ เป็นสาวไทยกับเจ้าชายต่างแดนมั้ง
ลืม ๆ ไปแล้ว แต่เป็นเรื่องแต่งน่ะนะ พูดถึงแล้วอยากอ่านใหม่ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว เพราะเคยอ่านนานแล้วล่ะ

ส่วนเล่มสุดท้ายเหรอ แนวนี้ไม่ค่อยอยากอ่านเท่าไหร่ กลัวว่าอ่านแล้วจะเศร้าหรือหดหู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

พูดถึงคุณพีร์รีวิวหนังสือโอเคนะคะ ไว้มีเล่มต่อ ๆ ไป เอามาอัพบล็อกสลับกับเรื่องอื่นก็ดีนะคะ เหมือนละครสลับช่องไง

ว่าแต่…ตอนนี้ดูซีรีย์ “ซินยุนบก” มั้ยคะ น้องที่ office ตั้งชื่อเรื่องให้ใหม่ว่า “อาจารย์คิดไม่ซื่อ”

อ้อ! คุณพีร์อ่านเรื่องแปลมั่งเปล่า ตอนนี้พลเชียร์ยิก ๆ ให้อ่าน Blu และ Rosso แถมยังบอกว่าชื่อบล็อก aoiagota ส่วนหนึ่งมีที่มาจาก 2 เล่มนี้ด้วย








โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:07:30 น.  

 
ได้อ่านเล่ม "ทีเ่กิดเหตุ" ครับ
ผมเป็นแฟนงานเขียนพี่วรพจน์ครับ
ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่เล่มเดียวครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:39:12 น.  

 
เราก็เป็นคนนึงที่ชอบอ่านหนังสือสลับกันไปมา..
เล่มนึงเล็กๆ บางใส่กระเป๋าอ่านระหว่างเดินทางไปทำงานได้
อีกเล่มหนาหน่อย ก็วางไว้บนหัวเตียง หยิบอ่านก่อนนอน
ก็ประมาณเีดียวกับคุณนั่นแหละ

เรากำลังมองหา สิ้นแสงฉาน กับ ที่เกิดเหตุ อยู่ค่ะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:44:35 น.  

 
ลืมไป ...อยากจะบอกว่า ถ้า้ได้อ่าน ขุนช้างขุนแผน เวอร์ชั่นคุณชายคึกฤทธิ์แล้ว
ต้องไปดูละครเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนประกอบด้วย จะอินมาก
หนังสือเล่มนี้ เราเสียดายมากที่ไม่ได้ซื้อฉบับของสนพ.สยามรัฐ ซึ่งตอนนั้นมีเทป (หรือซีดี) ละครเสภาประกอบด้วยล่ะ
มาซื้อเอาตอนเค้าแยกขายเฉพาะหนังสือแล้ว...
แต่อาศัยว่าเคยดูละคร อ่านไปก็นึกเห็นหน้าตัวละครพระเอกกรมศิลป์ไปด้วย ..


โดย: นัทธ์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:47:20 น.  

 
มีความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อยู่ห่างมากจากโลกของวรรณกรรมน่ะค่ะ ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรหมด


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:17:13 น.  

 
น่าสนใจทั้งสี่เล่มเลยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:01:56 น.  

 
วันนี้ไม่ไ่ด้ไปไหนเลยครับพี่
พักผ่อนอยู่ที่บ้านนี่ล่ะครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:43:10 น.  

 
สบายดีค่ะ... ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมน๊าค๊า..
แล้วทางนี้เป็นไงบ้าง สบายดีนะคะ
หนังสือ น่าอ่านทั้ง ๔ เล่มเลย ยังไม่เคยอ่านเลย
เดี๊ยวไปหามาอ่านมั้งดีกั๋ว ^_^


โดย: naragorn วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:55:23 น.  

 
เคยอ่านเรื่อง"เรื่องเล่าจากใต้ถุนบ้าน"
เกี่ยวกับปัญหาไฟใต้เหมือนกันค่ะ
แต่ปกติจะไม่ค่อยอ่านหนังสือแนวที่พี่บอกมาเลย
(เสพติดแต่นิยาย)
เรื่องไฟใต้มันคงเป็นไฟใต้เหมือนฝนใต้ละมั้งพี่
ตกได้ทุกเวลาไม่จำกัดฤดูว่าต้องฤดูฝน
มีหลายสิ่งเลยค่ะที่อยากเมนต์
แต่คงเมนต์ไม่ได้แบบว่าเดี๋ยวโดนสั่งปิดบล็อกซวยเลย

...โรงเรียนสุเหร่าแถวบางกะปิ ถ้าบอกชื่อมานี่นาห์คงไปถูกแน่ๆ
ว่าแต่ตอนนี้เจ้าซุกร็อนเป็นยังไงบ้างแล้วพี่ ยังดื้อยังซนอีกไหม


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:31:55 น.  

 
หวัดดียามเช้าเด้อน้องพีร์

แวะมาดูก่อน เดี๋ยวมาใหม่อีกที ต้องรีบไปเตรียมตัวไปเรียน นักเรียนโข่งไม่อยากไปสาย วันนี้มีสอบด้วย ไปแล้วเด้อ


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:47:49 น.  

 
เป็นคนที่อ่านหนังสือหลากหลายดีนะคะ

แต่ละเล่มที่เล่ามาน่าสนใจทุกเล่มเลย อยากจะลองอ่าน ขุนช้างขุนแผน บ้าง (เคยอ่านฉบับการ์ตูนเมื่อสมัยเด็ก ฮา)



โดย: ฑาม (ThaMN ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:31:57 น.  

 
...หลังไมค์ค่ะ...


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:42:34 น.  

 
กลับมาอ่านจนจบแล้วเด้อน้องพีร์

ที่อยากแจมอ่านด้วยมีอยู่สองเล่มคือ "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเม้นต์ไว้ที่บล็อกคุณรัชชี่ทีแล้วว่า เคยอ่านเรื่อง "หลายชีวิต" ของท่าน แล้วชอบสุด ๆ เป็นหนังสือไทยหนึ่งในไม่กี่เล่มที่อ่านแล้วชอบมาก จำติดตามาถึงทุกวันนี้ อ่านตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน และยังจำอยูเสมอว่าหนังสือเล่มนี้ อ่านสนุกจริง ๆ

เล่มต่อมาเป็นเรื่อง "สิ้นแสงฉาน" พวกหนังสือเกี่ยวกับมุมมองของฝรั่งต่างชาติในโลกตะวันออกโบราณอย่างนี้ บอกตรง ๆ ว่าชอบ อยากรู้ว่าเค้าจะมีมุมมองสำหรับโลกตะวันออกของเรา ๆ อย่างไร แถมไม่ใช่โลกของสามัญชนอีกต่างหาก โลกของเจ้าขุนมูลนายน่าจะยิ่งสนุก แปลก ๆ ใหม่ ๆ แบบที่เรา ๆ ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อน ว่าแต่ที่อ่านยังไม่ถึงไหนเพราะมัวเม้าท์กะเพื่อนก่อนนอนเนี่ย มันไม่สนุกด้วยหรือยังไงหะ เอามาเม้าท์ให้อ้ายฟังอีกทีตอนอ่านจบหน่อยเด้อ อยากรู๊อยากรู้

วันนี้สอบเสร็จแล้วสบายใจไปหนึ่งยก พรุ่งนี้คาดว่าน่าจะได้รู้ผลคะแนน ดีใจได้โล่ห์หรือเปล่า เดี๋ยวรู้กันเด้อ


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:19:08 น.  

 
รอชมภาพนายซุกร็อนนะคะพี่
รู้จักบางกะปิกับสุเหร่าแถวนั้นเพราะเคยไปหรือ?
แถวคลองจั่นไปแค่สองสามครั้งค่ะ
แต่ถ้าแถวบางกะปินี่ถิ่นเลย
ก็เรียนจบจากรามคำแหงนี่คะพี่


แต่แปลกดีนะคะในขณะที่ภาคกลางทั้งกรุงเทพฯทั้งอยุธยายังเรียกชื่อเดิมกันว่าสุเหร่า
แถวบ้านนาห์เค้าเลิกเรียกกันไปหมดแล้วอ่ะพี่
แต่ก่อนตอนเด็กๆยังมีเรียกเวลาพูด ว่าไปสุเหร่า
แต่เดี๋ยวนี้กลับบอก ไปมัสยิด
แล้วป้ายชื่อก็กลายเป็นมัสยิดไปหมดแล้วค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:57:29 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

อากาศเชียงใหม่ตอนนี้ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกก
เลยครับ

ผมงงมากครับ
เดือน 11 แล้วยังไม่หนาวเลย










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:57:17 น.  

 
ยิ่งเชียร์ยิ่งอยากอ่านค่ะ

แต่ขอตัวไปเคลียร์คิวก่อน



ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ


โดย: ThaMN วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:40:28 น.  

 


สวัสดีครับ พีร์

แวะมาทักทายพร้อมกับข่าวร้าย ถ้าว่างลองแวะมาอ่านนะครับ



โดย: Mega-Batt วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:34:36 น.  

 
น้องพีร์เอ๊ย พี่มีข้อแนะนำมาให้ ว่าถ้าได้อ่านบทโรมรันพันตู แล้วถึงขนาดต้องวิ่งไปตะกายข้างฝานะ แค่ตะกายมันไม่หายหรอกน้อง คนโสดอย่างน้องพี่แนะนำว่าต้องวิ่งเข้าไปชนข้างฝาเลย พอเจ็บตัวเดี๋ยวอาการต่าง ๆ นานาจะหายเป็นปลิดทิ้ง

เชื่อพี่เหอะ พี่เคยทำมาก่อน ความรู้สึกอะไรยังไงนะหรอ ไม่ได้แอ้มพี่ร๊อก


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:10:51 น.  

 


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:30:12 น.  

 
ที่เชียงใหม่อากาศร้อนเชียวครับพี่
ปีนี้ร้อนมาก
ยังไม่หนาวเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:56:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ พีร์
หอบความคิดถึงมาฝากนะคะ
พักนี้วุ่นๆ หวังว่ายังมิลืมกันหร้อกน๊า

title=

ปล.ขอบคุณที่คิดถึงน๊าา
เห็นหัวข้อนึกว่า 4 เล่ม แทนหมอน ซะอีก 555


โดย: พ่อระนาด วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:56:35 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณพีร์


ป้ากุ๊กกลับมาแล้วค่ะหลังจากที่คอมลาป่วยไปหลายวัน
ขอบคุณ ที่ช่วยไปเฝ้าบ้านให้ในช่วงที่คอมป้าป่วยค่ะ
…………………….

อันที่จริงจะคอมป่วยหรือคนป่วยก็ครือกัน
เพราะล้วนย้ำให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ว่า ……
ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราเลย


ต่อให้เก่งเหนือฟ้าก็ยังต้องอยู่ใต้กฎธรรมดา
คือเกิดขึ้น ….ตั้งอยู่ …..แล้วก็ดับไป
………………………..

วันนี้ได้เจอนักอ่านอีกคน
ป้ากุ๊กเมื่อก่อนก็ชอบอ่านเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็ยังชอบอ่านอยู่ค่ะ
แต่เพราะไม่ค่อยมีเวลา แถมการอ่านก็ช้าลง กว่าจะอ่านได้จบแต่ละเล่มจึงนานมาก


ของคุณชายคึกฤทธิ์ป้าเคยอ่าน….สี่แผ่นดิน
ของคุณมนันยาก็เคยอ่าน ..อุดมการณ์บนเส้นขนาน
ส่วนนักเขียนอีกสองท่านผู้เฒ่าไม่รู้จัก แฮะ …แฮะ


วันนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนอีกแล้ว
ดูแลและรักษาสุขภาพนะคะ

คมคำ : ความขัดแย้งจะตามมา หากเหตุผลของสองฝ่ายสวนทางกัน




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:41:13 น.  

 


ขอบคุณมากครับ พีร์

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม

เห็นด้วยครับว่า "ความตาย" เป็นสิ่งมนุษย์ทุกคนต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจกก็ตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ย้ำว่า เราต้องดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท



โดย: Mega-Batt วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:45:06 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:59:35 น.  

 
แวะมาแอบรอดูของในกระเป๋าบ้าง

มีคุณพีร์กะพลที่บอกว่าบล็อกของในกระเป๋าแม้จะเรียบ ๆ
ง่าย ๆ แต่น่าสนใจ จนจะเอามุขนี้ไปใช้บ้าง

มีบล็อกเกอร์อีกท่านหนึ่งบอกว่าอยากให้รัชชี่เปิดท้ายรถดูบ้าง เพื่อดูว่านักอ่านอยางรัชชี่ ข้างท้ายรถจะมีอะไรบ้าง

ตอบไปเหมือนเคยตอบคุณพีร์เรื่องตู้หนังสือ ว่าขอไปสร้างภาพก่อน

เพราะตอนนี้ท้ายรถรกค่ะ เพราะที่บริษัททำ 5 ส. จนต้องโยกย้ายของจาก office กลับบ้าน แต่ว่าดองอยู่ในรถแทน


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:28:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:21:55 น.  

 
มาชวนอ่านบล็อกใหม่ค่ะ


รออ่านบล็อกใหม่แล้วนา ให้ไว ให้ไว


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:27:59 น.  

 
เห็นเม้นต์คุณรัชชี่ข้างบน อ้ายขอมั่งละกัน

ให้ว่อง ๆ อัพบล็อกใหม่ได้แล้ว

เน่ ๆ มาแซวนะเรื่องเนื้อด่งเนื้อเด็กนะ อ้ายนะบ่ชอบเด้อเนื้อเด็ก มันอ่อนไป ชอบเคี้ยวอะไรที่ต้องใช้เวลานิดนึง เด็ก ๆ นะ เคี้ยวแป็บเดียวก็ต้องกลืนลงคอ ไม่ไหว ๆ

พูดถึงไข่หงส์ ไข่ห่าน อยากกินขนมอรีตุยมากเลยอะ รู้จักปะ น่าจะรู้จักนะ แต่อาจจะเรียกไม่เหมือนกัน อยากกินว้อยยยย ส่งมาให้หน่อยดิ ได้ปะ พลีสสสสส


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:49:18 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:50:42 น.  

 
เชียงใหม่อากาศเย็นเลยล่ะครับพี่
เดี่ยวผมก็เตรียมวิ่งผ่านน้ำแล้วล่ะครับ อิอิอิ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:03:17 น.  

 
อู๊ยยยยยยยยยยย

กิจกรรมก่อนนอนที่ดีที่สุดของคนโสดอย่างผมคือการ


หยิบหน้งสือมาอ่าน


แอบลุ้นกับประโยคนี้อ่ะ อิอิ แหม๋ มีการขึ้นบรรทัดใหม่ชวนให้เดา


โดย: i_am_np วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:54:39 น.  

 
อาการตามที่เขียนในบล็อก ก็หลังจากหลับไปคืนนั้นแล้วตื่นมาอาบน้ำ ก็ค่อยยังชั่วค่ะ ตื่นมาอีกวันก็หายแล้ว

เป็นคนขี้หนาวกว่าชาวบ้าน (โดยปกติ) เหมือนกันค่ะ

หลังไมค์ค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:37:34 น.  

 
ผมยังไม่มีโครงการปั๊มน้องให้หมิงหมิงเลยคตรับพี่ 555
เศรษฐกิจแบบนี้
มีคนเดียวก็พอแล้วล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:37:47 น.  

 
สวัสดียามสายนะครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:19:06 น.  

 





โดย: พ่อระนาด วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:23:59 น.  

 
บอกหรือยังน้ออออออ ชักเบลอ
เดี่ยวนี้มาแนวใหม่คะ จะมีบล็อกหลัก 1 อัน (เอาไว้ดองเป็นช่วง ๆ )

แต่เดี๋ยวนี้ถ้าสะดวก จะเพิ่มเนื้อหาตอนท้าย ๆ บล็อก เผื่อให้มาติดตามได้ค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:03:49 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณพีร์

สี่เล่มข้างหมอนตอนนี้จบกี่เล่มแล้ว ???????


วันนี้ป้ากุ๊กมากับความอืดดดดดดดของเน็ต
กว่าจะเปิดได้แต่ละหน้า…แต่ละบ้าน รอกันเงกกกกกกกกกกกค่ะ
ยังไม่รู้เหมือนกันว่าคืนนี้จะกระย่องกระแย่งไปได้กี่บ้าน


ช่วงนี้อากาศออกจะเย็นๆ
บางคนอาจจะชอบ แต่บางคนก็ชักจะฟึดฟั๊ดเพราะหวัดถามหา
คุณพีร์ ชอบอากาศแบบนี้ไหม
จะอย่างไรก็ดูแลและรักษาสุขภาพนะคะ


คมคำ : เราไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขจุดเริ่มต้นที่ผิดพลาดได้
แต่สามารถเริ่มต้นเพื่อสร้างตอนจบที่มีความสุขได้





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:58:54 น.  

 
ฮ่า ฮ่า ตอนนี้สายตาไม่อำนวยเลยไม่ค่อยได้อ่านแล้ว


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:18:51 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:43:10 น.  

 
หวัดดีจ้า พีร์

จากบล๊อก ถ้าอ่านแล้ว งงๆ คงต้องอ่านตอนก่อนหน้าค่ะ
เพราะเป็นประวัติของพระนางพิมพา
แบบว่าคนละเวอร์ชั่น กับ นางแก้วคู่บารมี ที่พี่เคยลงไปค่ะ

ปล.ร้อนมากแล้วค่ะ
พีร์ล่ะ เป็นไงบ้าง ผลงานผ่านหมดยัง แล้วยุ่งแค่ไหนแร่ะตอนนี้
รึคอยจับปูใส่กระด้งอยู่


โดย: พ่อระนาด วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:11:25 น.  

 
อัสลามูอาลัยกุม
ขอบคุณมากค่ะพี่สำหรับคำอวยพรในบล็อก
ทายว่าวันนี้พี่คงได่ทานขนมจนอิ่มแล้วก็เป็นวันสบายอีกหนึ่งวันแน่ๆเลย
ออกบวชใหญ่ที่นี่เค้าไม่แจกตังค์เด็กกันค่ะ อาจทีบ้างให้ลูกหลานตัวเอง
แต่ของมัสยิดหรือคนอื่นๆที่เอามาแจกหลังละหมาดไม่มี
มีแต่แจกเนื้อวัว เนื้อแพะกันค่ะ

ส่วนนาห์ไม่ได้แจกเงินหลานๆเลยออกบวชนี้ แล้วก็ไม่ได้รับเลยด้วย
เพราะเค้าไม่ให้คนที่มีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว
แต่ที่จริงก็คือพอโตเกินสิบสองไปแล้วเค้าก็ไม่ให้กันแล้วอ่ะ
ยิ่งพอทำงานได้มีรายได้ก็ต้องไปแจกหลานๆอีก

ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่
ปล.เมื่อไหร่สี่เล่มนี้จะอ่านจบน๊า


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:13:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:44:49 น.  

 
พีร์เอ๊ย บอกอ้ายหลายวันแล้วเน้อเรื่องจะอัพบล็อกเนี่ย อ้ายก็รอแล้วรอเล่า ไหงมาหลอกอ้ายจั๋งสี๊ ให้ว่อง ๆ

เรื่องครกกะสากนะ ไม่ใช่ครกจากอ่างศิลงศิลาอะไรที่ไหนหรอก แค่นั้ก็หนักจะแย่อยู่แล้ว เป็นครกดิน กะ สากไม้ธรรมดา ๆ แต่เธอทั้งสองช่างมีค่ากะพี่ยิ่งนัก ขาดกันไปนี่ น้ำตาคงต้องร่วงกันเลยละ ของเค้าดีจริง ๆ เน้อ

ตัวผอมก็อย่างนี้ เวลาหนาวก็จะหนาวมากกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้านิ๊ดสนึง ห่มผ้าหนา ๆ หรือไม่ก็หาผ้าห่มตราคนมาห่มสะเน้อ มันช่วยได้จริง ๆ เชื่ออ้ายเถอะ อ้ายบ่จุ๊หร๊อกกกกกก


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:53:00 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:03:51 น.  

 
ช่วงนี้ตื่นตี 5 ตี 5 กว่าๆทุกวันครับพี่
ตื่นมาอัพบล็อกจนชินแล้วครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:09:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ พีร์

ทักทายกันก่อนไปทำงานนะคะ

title=

ปล.ตอนนี้ยังไม่มีโปรแกรมเลยค่ะ พีร์ล่ะไปไหนรึเปล่า?


โดย: พ่อระนาด วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:11:05 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:50:21 น.  

 
ในบล็อกเอาเพลงมาแปะให้อีกเพลงค่ะ และอัพเดทเรื่องราวซินยุนบกเพิ่มอีกนิด

เรื่องย่อ พ่อแม่ซินยุนบกถูกฆ่าตาย ตอนนางเอกยังเด็ก พ่อเป็นช่างเขียนเหมือนกัน คนที่ชุบเลี้ยงนางเอก เห็นแววความเป็นช่างเขียน จึงเอามาเลี้ยงดู เผื่อเข้าวังในอนาคต และให้แต่งตัวเป็นชาย (สมัยนั้นช่างเขียนต้องเป็นหญิง)
ส่วนพระเอกคือเพื่อนพ่อนางเอก สมัยโน้น ปัจจุบันเป็นครูของนางเอก
เพิ่งรู้ว่านางเอกเป็นหญิงเมื่อวันเสาร์ที่แล้วเอง
หนุกเหมือนกันนะเรื่องนี้

ช่วงเย็นถ้าสะดวก อาจจะอัพ Journal เพิ่มต่อจากบล็อก


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:43:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
แจกฟรีแบ๊คกราว
Friends' blogs
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.