ถึงเวลาที่หมอต้องแปลงกายเป็นสถาปนิก
ที่ผมใช้หัวข้อว่าปรับแบบบ้านเนื่องมาจากผมใช้แบบบ้านสำเร็จรูปครับ แล้วมาตัดลดเพิ่มห้องตามความต้องการเข้าไปจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำไมถึงไม่ออกแบบบ้านใหม่ ผมเชื่อว่า หลายๆคนคงเคยคิดว่าสถาปนิกจะสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้แต่สำหรับผมไม่ครับหลายๆครั้งผมรู้สึกสถาปนิกไม่สามารถออกแบบได้ตรงตามที่เราต้องการเสมอไปเนื่องมาจาก ความคิด สไตล์และความชอบของสถาปนิกแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผลงานมันจึงออกมาในลักษณะที่สถาปนิกชอบแต่ไม่รู้เราจะชอบหรือไม่ ซึ่งในกรณีหากเราคิดว่าแบบนี้ดีแต่เค้าออกแบบให้เราแล้วเราชอบมากกว่าอันนั้นถือว่าดีไป แต่ผมชอบคำพูดนึงที่พ่อเคยสอนไว้เสมอและใช้ได้จริงว่า อยากทำสิ่งใดให้ดีที่สุด ต้องลงมือทำเอง 5555 เพราะอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรซ่อมบ้านซ่อมรถ ผมทำเองกับมือหมด (ถ้าทำได้นะ) ดังนั้น ผมจึงพยายามออกแบบบ้านเองทั้งหมด ส่วนสถาปนิกผมเอาไว้ปรึกษาในเรื่องที่ผมไม่รู้จริงๆ เช่น ประตูระยะต้องเท่าไหร่ slope ลานจอดรถต้องไม่ชันเท่าไหร่ซึ่งส่วนมากผมมักจะหาคำตอบเองจากอินเตอร์เน็ทอยู่แล้ว และห้องชายคาของพันทิพย์นี่แหละที่มีกูรูคอยให้ถามเสมอ แต่บางจุดก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองทำได้ทุกอย่างผมพยายามร่างแบบสำเร็จ ระบบน้ำระบบไฟ ทำแบบ 3D จนพอเสร็จก็ต้องเอาไปให้น้องสถาปนิกดูอีกทีว่ามีอะไรตกหล่นไหม ซึ่งก็มีแน่ๆ เช่นเรื่องเบิ้ลผนังไม่ให้มีสันกำแพง (ผมคงไม่รู้ลึกขนาดนั้นหรอก)และก็มีบางอย่างที่แม้แต่สถาปนิกยังไม่รู้ เช่น งานเดินไฟฟ้าแปลงระบบฝักบัวเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะคนเราคงไม่เก่งทุกอย่าง ทางที่ดีต้องมีที่ปรึกษาหลายๆคนลักษณะแบบบ้านที่ผมได้มา ด้วยความโชคดีหลายๆอย่าง เช่นในเรื่องทิศ ฮวงจุ้ย โดยรวมถือว่าผ่านเกือบหมดซึ่งผมถือว่าน่าจะเป็นโชคที่จะได้อยู่บ้านหลังนี้เพราะจากประสบการณ์หากคุณจะให้ทุกอย่างมันถูกต้องหมดคงเป็นไปไม่ได้ เช่นจะเอาหลังบ้านเป็นภูเขา หน้าบ้านมีน้ำ แต่แบบบ้านหลังนี้ถือว่าแก้น้อยมากเช่นทิศหัวนอนห้องนอนหลังบ้าน จากทิศตะวันตกไปทิศเหนือกับทิศใต้ ที่จะแก้ lay out เยอะๆก็มีอยู่จุดเดียว คือผมไม่เอาห้องแม่บ้านเลยจะแปลงเป็นลักษณะห้องครัวที่สามารถทำอาหารได้ เหมือนครัวนอกแหละครับแต่อยู่ในตัวบ้านและมีที่กั้นชัดเจนเวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่ฟุ้งทั่วบ้านแต่ก็อีกนั่นแหละ ครัวที่ดีจริงจะผัดอะไรมากๆไปผัดข้างนอกเลยดีกว่าผมเลยเตรียมจะทำครัวนอกจริงๆไว้ในอนาคต แต่ไม่คำนึงถึงความสวยงามมากนักครัวในจึงต้องสวยหน่อย (ขนาดสวยหน่อย แฟนผมก็ไม่ค่อยจะพอใจอีกแระสงสัยเธอจะนอนในครัว)

เริ่มต้นเราก็โหลดโปรแกรมการวาดแบบง่ายๆมาจากgoogle ชื่อ Sweet 3D Home แล้วเราก็นำแปลนคร่าวๆของบ้านที่ขอมาจกบริษัททำการ scan แล้วนำมาเป็นพื้นหลัง

จากนั้นเราก็กำหนดระยะเท่าของจริงแล้วก็ลงมือวาดๆ ตามรูปแบบ

จากนั้นก็ตกแต่งไปเรื่อย จนเป็นดังภาพ

ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวง่ายมากๆแถมยังสามารถลองจินตนาการเปลี่ยนรูปแบบต่างๆ ตามความคิดได้เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาทุบสร้างใหม่ทีหลัง แต่ในขั้นตอนการทำงานจริงควรปรึกษาระยะกับสถาปนิกจริงๆด้วย เพราะบางระยะอาจเล็กไปไม่เหมากับการใช้งานเช่นระยะทางเดินห้องครัว ระยะวางตู้เสื้อผ้า เพราะบางอย่างเราก็ไม่ทราบระยะที่เหมาะสม

ซึ่งในขั้นตอนนี้ผมวางแผนไว้เพื่อการต่อเติมในอนาคตเรียบร้อยทั้งการเทพื้นฝังเข็มข้างหลังเผื่อไว้ เพื่อทำเป็นครัวนอกและห้องเก็บของ การเว้นระยะถนนไว้เผื่อการทำรั้วตอนบ้านเสร็จ และการวางตำแหน่งเสาโรงจอดรถ

นอกจากนี้ผู้ช่วยที่สำคัญจากการที่จะทำบ้านในฝันให้สำเร็จก็คือรูปและหนังสือต่างๆเพื่อนำความชอบหลายๆอย่างมาผสมปนเปกันเพื่อให้ได้ตามความชอบของผมและแฟนซึ่งไม่ค่อยจะไปทางเดียวกันเท่าไหร่

โดยหลักๆของการออกแบบผมคิดหัวข้อไว้คร่าวๆดังนี้

1 งาน Landscape ไม่รู้เรียกถูกไหม เริ่มต้นตั้งแต่ ขนาดบ้านเมื่อวางลงบนที่ดินบ้านควรจะอยู่ตรงไหน หันอย่างไร ซึ่งมีหลักในการคิดหลายอย่างเช่น

ทิศ เช้าแดดจะเข้าตรงไหน ห้องนอนด้านไหนร้อนเช้า ร้อนบ่ายเหมาะกับไลฟ์ไสตน์ยังไง ลานตากผ้าควรจะอยู่ตรงไหน ผ้าจะโดนแดดไหม ทิศกับเรื่องฮวงจุ้ย เช่นหัวนอนเจ้าบ้าน ห้องพระ ห้องครัวเตาไฟซึ่งตรงนี้ขอบอกว่าละเอียดสุดๆ แทบจะให้เป็นไปตามความต้องการทุกอย่างไม่ได้แต่ผมดีใจอย่างน้อย 80% ผ่านฉลุย

สภาพแวดล้อมรอบตัวบ้าน คือที่ดินที่ติดรอบๆบ้านเราเป็นอย่างไร ของผม จะมีลักษณะ บ้นจัดสรรค์หลังเป็นคูน้ำกว้าง3เมตร ด้านหน้าด้านหลังเลยไม่ค่อยมีอะไรคิดมาก มีแค่ด้านซ้ายกับขวา เมื่อดูฟังชั่นการใช้งานของบ้านซึ่งตรงกับด้านซ้ายของบ้านพอดีที่อยากให้เป็นสวนสวยๆ ซึ่งบ้านข้างๆ ณบริเวณดังกล่างรั้วค่อนข้างทึบแถมมีร่มเงาต้นไม้ใหญ่จากข้างบ้านซึ่งก็ตรงตามที่คิดไว้ ส่วนอีกด้านที่ไม่สวย กำแพงก็เตี้ย ตรงกับแค่ทางเดินโรงจอดรถกับลานซักล้างซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีอะไรน่ามองผมเลยจัดการวางบ้านให้ค่อนข้างชิดด้านขวาให้มากที่สุด (จะได้มีสวนด้านซ้ายกว้างๆ)

ระดับที่ดิน เรื่องนี้เป็นเรื่องยากมากๆเนื่องมาจากพ่อตาอยากให้ถมที่สูงๆเผื่ออนาคต ซึ่งผมก็เห็นด้วยเนื่องมาจากค่าดินราคาไม่กี่หมื่น ราคาบ้านเป็นล้าน อยู่ไป 10ปีเกิดถนนหน้าบ้านสูงกว่าจะมาเสียใจทีหลังเอา เลยถมสูงจากถนน 60 cm ซึ่งปัญหาที่ตามมาก็คือ ระดับบ้านต่างจากข้างบ้านมาก กลัวรั้วถล่ม รั้วบ้านภายใน เตี้ยมากๆ (ทำใจไม่กล้าต่อเติมเยอะ กลัวถล่ม) และ ที่จอดรถเป็น slope ค่อนข้างชันถ้าจะจอดรถเต็มพื้นที่ ต้องวางแผนทำslope ดีๆ ไหนจะเรื่องประตูอีก

2 งาน layout บ้าน หมายถึงงานผนังเรื่องของการกั้นห้องต่างๆรวมไปถึง ระดับต่างๆ พยายามนึกถึงการใช้งานให้กว้างๆ เช่น ความโปร่งของบ้าน บ้านผมตัดสินใจยกเลิกผนังครัวกลางออกเพื่อทำเป็นเค้าเตอร์บาร์แทน ทำให้บ้านดูกว้างขึ้นแต่แลกมากับการมีเสากลางบ้านโผล่ ซึ่งสถาปนิกเสนอให้ทำเป็นกำแพงสั้นๆซึ่งท้ายสุดผมจะก่อเค้าเตอร์บาร์มาชน ลดปัญหามีเสาไป พยายามจัดระดับห้องให้ดี เช่นห้องครัวต่ำกว่าห้องโถง ห้องน้ำควรต่ำที่สุด ในเรื่องการวางเฟอรนิเจอรถ้าไม่ยุ่งยาก ก็ไปมองๆไว้ก่อนบ้างก็ดี แต่บางอย่างยังไม่ต้องก็ได้ เช่น เตียงขนาดมักจะมาตรฐาน แต่ที่ผมมองก่อนคือเค้าเตอร์ครัว ซึ่งผมมีเค้าเตอร์บริเวณครัวเยอะมาก หาก builtin หมดคงหลายแสนในส่วนครัวนอกเลยอยากซื้อครัวสำเร็จรูปมาใส่ เนื่องจากวัสดุเดียวกันแต่มีขนาดที่ถูกกำหนดมาจึง ต้องย่นผนังให้พอดีเป๊ะ เวลาวางลงจะได้เหมือนครัว builtin ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆแค่คิดคร่าวๆถึงตำแหน่งแต่ยังไม่ต้องลงรายละเอียด สิ่งที่ผมลืมคือเรื่อง ผนังในแบบบ้านราคาแพงมักจะเบิ้ลผนังให้หมดเพื่อวามสวยงาม เวลาดูแบบ อย่าลืมนึกถึงมุมเสาที่โผล่ด้วยเพราะมีผลในเรื่องความสวยงามและการวางเฟอร์นิเจอร์ในอนาคต

3 งานประตูหน้าต่าง เป็นงานที่บ่งบอกถึงลักษณะ และความสวยของบ้านอย่างที่เคยเกริ่นว่าแบบบ้านที่บริษัทผมทำ ดูโบราณกว่าบริษัทคู่แข่งสาเหตุนึงที่ผมว่า คือเรื่อง ประตูหน้าต่างที่ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่งผมจึงจัดการเปลี่ยนใหม่ซะหมด ให้กระจกใหญ่ๆใส่กรอบดำจะได้ดูเหมือนพวกบ้านโครงการหรูๆ แน่ล่ะ ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น(แต่ถูกกว่าพวกแบบบ้านสวยๆแน่นอน)และปัญหาเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผมจะพูดถึงทีหลัง

4 งานระบบฝ้าเพดาน เป็นสิ่งที่หลายๆคนมักจะลืมมอง เนื่องจากมองไม่เห็นในแบบ จากประสบการณ์การซื้อคอนโดขอบอกว่าคำถามนึงที่ผมมักถามเสมอคือ ห้องจริงฝ้าสูงเท่าไรเนื่องมาจากห้องตัวอย่างที่โชว์ในโชว์รูม มักทำฝ้าเพดานมาสูงกว่าความเป็นจริงทำให้ห้องดูโปร่ง และเรามักจะถูกหลอกล่อจาก เครื่องตกแต่งทั้งหลายหลวมตัวซื้อซึ่งอย่าลืมความเป็นจริงว่าเค้าขายห้องเปล่าดังนั้นเรื่องฝ้าเพดานเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คอนโดห้องนึงที่ผมซื้อแถวทองหล่อ ได้ห้องฝ้าสูง3 เมตร ซึ่งผมยอมแลกกับห้องชั้นสูงกว่า(ห้องสูงกว่าเพดาน 2.6 เมตรเนื่องมากจากเป็นตึกสำนักงานเก่ามา renovate)และที่สำคัญเวลาขายห้องเค้าขายเป็น ตรม ไม่ได้นับความสูง ซึ่งเคยเจอบางแห่งูงแค่ 2.3เมตรห้องจริงคงอึดอัดมากๆ ห้องเพดานสูงมีข้อดีคือทำให้ห้องดูโปร่งสบายแต่ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนคือ แอร์จะเปลืองมาขึ้น เนื่องจากปริมาตรห้องที่กว้างขึ้น ผ้าม่านราคาจะแพงขึ้น เนื่องจากผ้ามีขนาดจำกัดผ้าม่านที่ใหญ่และสูงมาก ทำให้ต้องต่อผ้าร้านจะคิดราคาแพงและซื้อแบบสำเร็จไม่มี และในเรื่องความสูงไม่ควรมากเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจให้ความรู้สึกเหมือนตึกแถวได้ ในกรณีนี้ผมเลยตัดสินใจให้เพิ่มความสูงชั้นล่างจาก 2.6m เป็น 2.8m(ต้องยอมเสียค่าเปลี่ยนเสาและทาสีเพิ่ม) และปัญหาที่ตามมาคือ บันไดเนื่องมาจากพอความสูงเพิ่มขึ้นบันไดจึงต้องเพิ่มจำนวนขั้น และพื้นที่ห้องโถงชั้นสองจึงถูกตัดลดลง

ในเรื่องฝ้าระดับเช่นการทำฝ้าหลุม จากประสบการณ์เคยเปิดคลินิก ขอแนะนำแค่ว่า พวกฝ้าหลุมซ่อนไฟมีดีตรง ถ่ายรูปสวย (ลองดูในโบรชัวร์บ้านตัวอย่างสิ) เหมาะกับพวกอาคารพานิย์แต่ในที่อยาอาศัยไม่เหมาะ เนื่องมาจาก สว่างเกินไป หลอดไฟเยอะความร้อนก็เยอะหลอดไฟใต้ฝ้าอายุสั้นเนื่องจากหลอดมันซ้อนๆกัน เปลี่ยนก็ยากแถมยังเป็นที่กักเก็บฝุ่นอีก ผมเลยไม่คิดจะทำฝ้าซ่อนไฟอีกเลยขอแค่ฝ้าหลุมชั้นเดียว เฉพาะชั้นล่างพอแล้ว เนื่องมากจากฝ้าในทางฮวงจุ้ยถือเป็นคาน ไม่ควรนอนใต้คาน

4 งานระบบไฟฟ้า ในส่วนเรื่องไฟฟ้ามีผลแค่ในเรื่องความสวยงามให้นึกถึงว่าเวลาอยู่จริงสมมุติซื้อทีวีแล้วไม่มีปลั๊กหรือเสาอากาศทำไง ก็ต้องเดินสายใหม่ซึ่งจะให้สวยต้องกรีดผนังทาสีใหม่เดินใต้ฝ้ากรีดฝ้าอีก สู้วางแผนทีแรกเลยดีกว่าพยายามคิดให้จบว่าจะต้องใช้ปลั๊กแต่ละห้องทำอะไรตรงไหน ถ้าตรงไหนจะ builtin ก็ควรเดินสายลอยไว้ไม่ควรจะมาเดินเอาตามขอบผนังไม่สวย ตำแหน่งสวิซท์ไฟ ก็ควรคิดถึงประตูด้วยไม่ควรอยู่หลังประตู สวิทซ์บางตำแหน่งควรมีสวิทซ์สองทางจะได้ไม่ต้องคอยเดินมาเปิดปิด นอกจากนี้ตำแหน่งไฟที่ควรวางสวิซท์เผื่อไว้ได้แก่ ไฟประตูรั้ว กริ่ง ปั้มน้ำ พัดลมระบายอากาศ สวิทซ์แอร์ ตู้ไฟเผื่อส่วนต่อเติม ไฟประตูรีโมท ไฟสวน ไฟเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน

นอกจากเรื่องสายไฟแล้วระบบที่ควรวางไว้ก่อนเลยคือ สายทีวีเช่นจะใช้ดาวเทียมกี่ดวง จะมีทีวีกี่เครื่อง ระบบสายแลนสายโทรศัพท์ internet ที่จะวางตรงไหนบ้าง หรือบ้านไหนจะติดกล้องวงจรปิด ควรลากสายสัญญาณกล้องและสายไฟเผื่อไว้แต่ต้นๆ

5 ระบบประปา พูดถึงประปาห้องที่จะต้องใส่ใจมีแค่ 2ห้องคือห้องน้ำกับห้องครัวพยายามกำหนดจุดน้ำทิ้งให้แม่นยำกับครัวที่จะทำ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำซึมกลิ่นเหม็น ส่วนท่อน้ำดีเดินทีหลังจะเดินลอยนอกผนัง พยายามกำหนดจุดที่จะใช้แต่แรก เช่นก๊อกระเบียงเพราะช่างจะได้เดินท่อฝังผนังแต่แรก ในส่วนห้องน้ำ ให้ระวังเรื่องระยะชักโครกเพราะชักโครกแต่ละแบบมีระยะท่อน้ำทิ้งไม่เหมือนกันการมาแก้ทีหลังเรื่องใหญ่มาก ระบบฝักบัวควรวางไว้แต่เริ่มเลย จะทำแบบไหน ก๊อกฝังผนัง มีเรนชาวเว่อร์ไหมถ้ามาติดทีหลังต้องกรีดผนังใหม่ เสียเงินหลายรอบ ยิ่งฝังมากแม้จะสวยงามแต่เวลาเสียที ซึมที ก็ต้องทุบพยายามคิดให้รอบคอบ

ระบบประปานอกบ้านก็จะมีในส่วนของปั้มน้ำกับบ่อพัก ควรคิดถึงตำแหน่งเลยวางตรงไหนซึ่งตำแหน่งที่วางกันบ่อยคือมุมหลังบ้านอย่าลืมนึกถึงเสียงเรื่องปั้มน้ำที่เดินตลอดวันด้วย แนวการวางระบบน้ำเสีย ควรดูจากแบบไว้หน่อยเพราะการปลูกต้นไม้บางประเภทเช่นพวกที่มีระบบรากเยอะอาจเกิดการอุดตันท่อน้ำทิ้งได้ง่าย หรือการต่อเติมในอนาคตจะได้ไม่โดนท่อน้ำเอา

6 งานปูพื้น-กระเบื้อง หลักในการคิดเรื่องวัสดุปูพื้นของผมก็ง่ายๆ คือสวย และทนเหมาะสมกับราคา ชั้นล่างเลยเลือกกระเบื้องแกรนนิโต้เงาในส่วนห้องโถงครัวเลือกแบบไม่ลื่น ห้องนอนชั้นล่างเลือกกระเบื้องลายไม้เพื่อความทนทานไม่กลัวเวลาน้ำท่วม ส่วนชั้นบนเลือก กระเบื้องไวนิล เนื่องจากมีประสบการณ์ไม่ดีกับพื้นลามิเนตหลายทีเรื่องปลวกเลยเลือกกระเบื้องยางลายไม้ซะเลย ผิวสัมผัสไม่เย็น ไม่ต้องกลัวเรื่องปลวกส่วนกระเบื้องผนังห้องน้ำ ผมถือเป็นปัญหาที่ยากที่สุดของการออกแบบบ้าน เนื่องมาจากยากมากๆ ไหนจะโซนแห้งโซนเปียก โทนสี ราคาผมเสียเวลากับการไปเดินเลือกกระเบื้องห้างดัง หลายรอบแต่ก็ไม่ถูกใจซะที

7 งานรั้ว-ประตูรั้ว สำหรับเรื่องรั้วสำหรับบ้านอื่นคงเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีปัญหาคือ ราคาเนื่องมาจากรับเหมาทำรั้วเค้าจะคิดเป็น ตรม ซึ่งจริงๆแม้ว่าเราจะไม่ได้อาศัยบนรั้วแต่รั้วเป็นอีกอย่างนึงที่ราคาถือว่าโหดมากสำหรับการทำบ้าน สำหรับผมรั้วและประตู ไม่มีทางเลือกให้เยอะเนื่องมากจาก ที่ตรงนี้เคยเป็นบ้านมาก่อน ทำให้มีรั้วของเดิมอยู่ รอบทิศสภาพรั้วก็เก่าและไม่สวยงาม จะทำใหม่หมดก็จะมีปัญหา 2 อย่าง อย่างแรกคือต้องทำรั้วในเขตที่ดินตัวเองเพราะข้างบ้านคงไม่ยอมให้ทำใหม่แน่ๆ 2 คือปัญหาเรื่องเงิน ผมเลยตัดปัญหาซะ คือการ renovate รั้วใหม่จากโครงสร้างเดิมซึ่งก็มีทั้งความโชคดีและโชคร้าย เอาเรื่องโชคร้ายก่อนรั้วข้างเพื่อนบ้านที่ผมบอกว่าทัศนียภาพไม่สวยนั้น ตอนนี้เตี้ยมากๆตอนแรกอยากต่อรั้วให้สูงขึ้นแต่เมื่อดูจากระดับของพื้นดินทั้งสองบ้านที่ต่างกันประมาณ เมตรนึงปัญหาที่ผมกลัวที่สุดคือรั้วล้มครับ ซึ่งถ้าล้มทีผมถึงกับแย่แน่ๆ ดังนั้นผมจะไม่ไปแตะรั้วเค้าจนกว่าเค้าจะสร้างบ้านใหม่หรือถมที่ให้สูงเท่ากันดีกว่ากรณีที่คิดมากสุดคือ ทำเสาเหล็กระแนงไม้ยาวตลอดฝั่ง ซึ่งดูจากราคาคร่าวๆคงต้องบอกว่า เอาไว้ทีหลังดีกว่า วางแผนแค่เรื่องปลูกต้นไม้บังซะให้หมดส่วนบ้านอีกด้านไม่มปัญหา รั้วถือว่าสูงพอได้ สภาพรั้วพอได้ ก็จะเหลือแค่รั้วหน้ากับหลัง รั้วหลังวางแผนจะต่อสูงหน่อย ถ้าดูแล้วไม่ไหวก็คงจะแค่ฉาบปูนซ่อมแซมและต่อเหล็กจะได้ลมเข้าดีๆ และกันขโมยได้ (มั้ง)

กลับมาที่ปัญหารั้วหน้า รั้วหน้าบ้านผมเดิมเท่าที่สำรวจประตูรั้วด้านหน้าเป็นบานสวิงกว้างประมาณ 3เมตร มีเสารั้วทุกๆ 3เมตรซึ่งช่องว่าง 3เมตรผมจำเป็นต้องทุบออก 1บล๊อกเนื่องมาจากต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้างจากโครงสร้างที่เหลือจึงมีแนวคิด และได้ไปพบกับผู้ช่วยราคา 79บาทจากร้านหนังสือ เป็น หนังสือชื่อ “12แบบรั้วสวย”จากแบบที่มีก็สะดุดใจรั้วอันนึง ซึ่งพอมาวัดระยะพบว่า เกือบๆจะเหมือนโครงสร้างรั้วเดิมเปี๊ยบ พอผมลองออกแบบดูก็คิดว่าน่าจะเสริมรั้วให้เป็นตามรูปได้โดยไม่ต้องทำรากฐานใหม่มากนัก(555ประหยัดได้อีกบาน)



Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 16:55:26 น.
Counter : 1032 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีนมเย็น
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



พฤศจิกายน 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog