ขอบคุณค่ะ ไม่ได้ยินมานานแล้ว

งามบุปผาพาชื่นระรื่นจิต
เพ่งพินิจอยู่นานหวานจริงหนอ
เปรียบดังเราชิดชวนนวลลออ
เน้าพะนอแอบข้างมิห่างกาย



[สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ]

ตอบน้องเพชรริน
..
ควาจริงแล้วเนื่ย
เรื่องบล็อกพี่ก็ไม่ค่อนรู้เรื่องหรอก
แาสัยน้องน้อง ดำเนินการให้
ส่วนเพลง
จะให้เปิดอัตโนมัติ เราต้องไปเขียนเพิ่ม
โดยใช้คำสั่ง
&autoplay=1
แทรกเข้าไป

พี่ก็รู้เท่านี้แหละ
ส่วนจะให้เปิดตลอดนั้น ยังไม่รู้
ส่งสัยยังไง หลังไมค์นะครับ
..

&autoplay=1
แทรกตรง fs=1& ที่พี่ทำเป็นจุดไว้
ทุกเพลงจะมี 2 ที่
ประมาณ แถวที่ 2 แถวที่ 6
สังเกตที่ fs=1&
fs=1..............................&

ขอบคุณมากๆค่ะ ตอนเย็นๆจะลองทำดูค่ะ
จริงซิคะหลังไมค์ มือใหม่หัดทำก็ยังงี้แหละค่ะ
หลังไมค์ก็ไม่รู้จัก อิอิ คือถ้าใช้ของ youtube ได้
จะทุ่นเวลาได้มากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ช่วงนี้งานเยอะมากค่ะ ขอพักสักนิดนึง

..
สุขสันต์วันหยุดนะครับ

ตอบคุณ เพชรริน

ถึงไม่สวยรวยทรัพย์เป็นนับแสน
แต่ว่าแฟนน้องยามารักใคร่
คงไม่รอดตัวหรอกบอกทรามวัย
คงจะได้รบกวนนวลเช่นเคย


[สวัสดียามเย็นครับ]

รุ่งฤดีศรีสมร

ยามฟ้าสางสายหมอกระลอกไสว
ดุจคลั่งใคล้แพรวพราววับวาบไหว
เย็นยะเยือกทอร่างพลางแกว่งไกว
มองม่านไกลตะวันฉาบอาบนภา

เหลือบแลพบสบร่างพราวพร่างฟ้า
ปานจันทราอ่อนช้อยล่องลอยหา
ผ่านมวลหมอกล่องผ่านท้องนภา
เปรียบบุปผาเบ่งบานซ่านสิ่งคอย

เหนือขุนเขามองไปมิได้เห็น
สายลมเย็นเคลียเคล้าเฝ้าละห้อย
เก็จน้ำค้างพรมกิ่งก้านผ่านใจลอย
เธอละห้อยน้อยใจสอดส่ายตา

แต่ทุกสิ่งเวิ้งว้างดุจดังหมอก
หรือถูกหลอกจากชายที่ใคร่หา
แม้บุปผาโชยกลิ่นโปรยรินมา
มินำพาต่อเธอหลงเพ้อครวญ

รุ่งอรุณสางงามแต้แผ่ไพศาล
ล้วนตระการพฤกษาพากันสรวล
แกว่งก้านใบเก็จแก้วแพรวรัญจวน
ทุกอย่างล้วนไสวชื่นระรื่นใจ

มวลบุปผามุ่งเคล้าเย้าเล่นหมอก
บ้างก็หยอกบานเด่นเน้นสดใส
คนเที่ยวชมกลิ่นหอมย่อมคว้าไป
เธอกลับไร้เสน่หาพาอ่อนแรง

ฉันมองคิดมิได้หมายคลอเคล้า
เหลือบแลเฝ้าให้ฉงนปนสิ่งแฝง
งามทรวดทรงเอวองค์ดั่งจำแลง
คล้ายนางแปลงอัปสรร่อนฟ้าไกล

เธองดงามเปรียบคล้ายบุปผาชาติ
สวยผุดผาดรุ่งฤดีแม่ศรีไสว
ดั่งหยาดค้างแวววับนับแกว่งไกว
ผ่านขวักไขว่นางหมองครองระทม.

แก้วประเสริฐ.

รุ่งฤดีศรีสมร

ยามฟ้าสางสายหมอกระลอกไสว
ดุจคลั่งไคล้แพรวพราววับวาบไหว
เย็นยะเยือกทอร่างพลางแกว่งไกว
มองม่านไกลตะวันฉาบอาบนภา

เหลือบแลพบสบร่างพราวพร่างฟ้า
ปานจันทราอ่อนช้อยล่องลอยหา
ผ่านมวลหมอกล่องผ่านท้องนภา
เปรียบบุปผาเบ่งบานซ่านสิ่งคอย

เหนือขุนเขามองไปมิได้เห็น
สายลมเย็นเคลียเคล้าเฝ้าละห้อย
เก็จน้ำค้างพรมกิ่งก้านผ่านใจลอย
จนเธอน้อยดวงใจเหลือบสายตา

แต่ทุกสิ่งเวิ้งว้างดุจดังหมอก
หรือถูกหลอกจากชายที่ใคร่หา
แม้บุปผาโชยกลิ่นโปรยรินมา
มินำพาต่อเธอหลงเพ้อครวญ

รุ่งอรุณสางงามแต้แผ่ไพศาล
ล้วนตระการพฤกษาพากันสรวล
แกว่งก้านใบเก็จแก้วแล้วมิครวญ
มิแปรปรวนแสนชื่นระรื่นใจ

มวลบุปผาคลุกเคล้าเย้าเล่นหมอก
บ้างก็หยอกบานเด่นเน้นสดใส
คนเที่ยวชมกลิ่นหอมย่อมคว้าไป
เธอกลับไร้เสน่หาอ่อนล้าแรง

ฉันมองคิดมิได้หมายเคียงเคล้า
เพียงเหลือบเฝ้าให้ฉงนปนสิ่งแฝง
งามทรวดทรงนวลนางดั่งจำแลง
คล้ายนางแปลงอัปสรร่อนฟ้าไกล

เธองดงามเปรียบคล้ายบุปผาชาติ
สวยผุดผาดพราวฤดีแม่ศรีไสว
ดั่งหยาดค้างแวววับนับแกว่งไกว
จนขวักไขว่นางหมองครองระทม.

แก้วประเสริฐ.

(เมื่อกี้รีบแต่งมิได้ตรวจทานครับขออภัยด้วย)