Group Blog
มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
เทคโนโลยี 3G มีผลต่องานทรัพยากรมนุษย์อย่างไร

//seksitk.blogspot.com/2009/10/3g.html

ผลกระทบของ 3Gต่อระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคลในอนาคต

คิดว่าผู้อ่านหลายๆท่านคงจะได้ยินคำว่า 3G มากันบ้างแล้วและผมได้เกริ่นไว้ในผลกระทบของ 3G ต่อระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคลไปบ้างแล้วคราวนี้เรามาลงลึกในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า 3G จะมีผลอย่างไรต่อHRIS

รู้จักกับ 3G
3G หรือ Third Generation เป็นเทคโนโลยีสื่อสารในยุคที่3 ซึ่งระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMAซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่นสำหรับเมืองไทยนั้นระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็นHSDPA , HSUPA และ HSPA+HSDPA นั้นจะสามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )HSUPA จะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด5.76 MbpsHSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbpsสำหรับในเมืองไทยนั้นระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือDTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Downloadจะอยู่ที่ 7.2Mbps

3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True คลื่นความถี่ ( band ) 2100 จะถูกพัฒนาโดย AISคลื่นความถี่ ( band ) 1900
(ที่มา : thaigaming.com)

ลักษณะการทำงานของ 3G
เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี 2G กับ 3G แล้ว 3G มีช่องสัญญาณความถี่ และ ความจุในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่าทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้นพร้อมทั้งสามารถใช้ บริการมัลติมีเดียได้เต็มที่ และ สมบูรณ์แบบขึ้น เช่นบริการส่งแฟกซ์, โทรศัพท์ต่างประเทศ ,รับ-ส่งข้อความที่มีขนาดใหญ่,ประชุมทางไกลผ่านหน้าจออุปกรณ์สื่อสาร, ดาวน์โหลดเพลง, ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ

เทคโนโลยี 3G น่าสนใจอย่างไร
จากการที่ 3G สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูงทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ อย่างรวดเร็ว และ มีรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้นประกอบกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายในระบบ 3G สามารถให้บริการระบบเสียงและ Application รูปแบบใหม่ เช่น จอแสดงภาพสี, เครื่องเล่น mp3, เครื่องเล่นวีดีโอ การดาวน์โหลดเกม,แสดงกราฟฟิก และ การแสดงแผนที่ตั้งต่างๆทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่สร้างความสนุกสนาน และ สมจริงมากขึ้น
3G ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้น โดยโทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือน คอมพิวเตอร์แบบพกพา, วิทยุส่วนตัวและแม้แต่กล้องถ่ายรูป ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัวเพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ), แก้ไขข้อมูลส่วนตัว และใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์, ข่าวบันเทิง,ข้อมูลด้านการเงิน, ข้อมูลการท่องเที่ยว และตารางนัดหมายส่วนตัว “Always On” คุณสมบัติหลักของ 3Gคือ มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของ 3G ตลอดเวลาที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์(always on) นั่นคือไม่จำเป็นต้องต่อโทรศัพท์เข้าเครือข่ายและ log-in ทุกครั้งเพื่อใช้บริการรับส่งข้อมูลซึ่งการเสียค่าบริการแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้น โดยจะต่างจากระบบทั่วไปที่จะเสียค่าบริการตั้งแต่เราล็อกอินเข้าในระบบเครือข่าย อุปกรณ์สื่อสารไร้สายระบบ3G สำหรับ 3G อุปกรณ์สื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้นแต่ยังปรากฏในรูปแบบของอุปกรณ์ สื่อสารอื่น เช่น Palmtop, Personal DigitalAssistant (PDA), Laptop และ PC
(ที่มา: tp://www.hutch.co.th/msites/a01_aboutcdma/03.html)

ผลกระทบจะเกิดเมื่อไหร่
การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ Application ต่างๆของ HRIS จะยังไม่เกิดขึ้นใน 1-2 ปีนี้แม้ว่าขณะนี้ทาง DTAC กำลังอัพเกรด 1,200 สถานีฐาน โดยจะลงทุนที่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ขอนแก่นนครราชสีมา ลำพูน พิษณุโลก และหาดใหญ่
กสท.โทรคมนาคม ได้อัพเกรด 656 สถานีฐาน โดยให้TRUE MOVE เป็นผู้ทำการตลาดให้ โดยจะลงทุนในกรุงเทพมากที่สุด รองลงมาก็จะเป็น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ และมหาสารคาม
AIS เองก็ได้อัพเกรดทั้งสิ้น 400 สถานีฐานให้บริการในพื้นที่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์นครราชสีมา และ ขอนแก่น
(ที่มา: IT Update - Thairath Online )
ซึ่งการพัฒนา Application ของระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคลสำหรับใช้บนหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร(WAP) เช่น มือถือ หรือ PDA จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า2-3 ปีเนื่องจากยังมีปัญหาในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลและพัฒนากระบวนการอนุมัติเอกสาร(Workflow) ให้มีประสิทธิภาพและทำงานร่วมกันได้ทั้งแบบ Webและ Wap

3G จะสร้างผลกระทบอย่างไรต่อ HRIS

อย่างที่ทราบกันดีว่างานทางด้านHR มักจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านเอกสารจำนวนมากอาทิเช่น ใบลา ใบขออนุมัติทำงานล่วงเวลา การขอหนังสือรับรองเงินเดือนการขออนุมัติการใช้รถบริษัท การขอไปฝึกอบรมทั้งในและนอกสถานที่ซึ่งการดำเนินการเอกสารเหล่านี้หากใช้เป็นกระดาษบางครั้งจะต้องไปหยุดพักรอในบางขั้นตอนที่จะต้องขออนุมัติไปถึงผู้บริหารเพราะผู้บริหารมักจะไม่ค่อยมีเวลาหรือเดินทางอยู่ตลอดเวลาซึ่งการมี 3G จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถเข้าถึงระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคลได้โดยง่ายจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลกโดย Application ที่น่าจะออกมาตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าแรกๆน่าจะเป็นระบบ Employee/Manager Self Service เพราะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ที่อยู่ในกรุงเทพหรือผู้ใช้ที่ต้องเดินทางต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นประจำซึ่งการที่ระบบจะสนองตอบต่อการดำเนินการทางด้านเอกสารผ่านทางเว็บได้โดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้ไปLogin ที่สำนักงานจึงสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้และยังสามารถจูงใจให้องค์กรลงทุนเพิ่มได้เพราะช่วยให้การดำเนินการเอกสารเป็นไปอย่างถูกต้องรวดเร็วมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

อีกส่วนหนึ่งการที่ทุกองค์กรต้องตระหนักถึงความประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทำให้การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางไปประชุมกันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งเทคโนโลยีของ 3G กับเทคโนโลยีของเครื่องมือสื่อสารในปัจจุบันได้ช่วยให้การประชุมOnline สามารถทำได้อย่างง่ายดาย มีความรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเดินทางไปพบกันโดยตรง

นี้เป้นส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปกำลังจะสร้างผลกระทบต่อระบบและคนที่ทำงานในด้านHR เพราะฉะนั้นคนที่ทำงานในด้าน HR จึงจำเป็นต้องหาความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาครับ




Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 22 มิถุนายน 2555 10:03:07 น.
Counter : 1936 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peawnaja
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]