ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
24 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
:::ปลายทางที่โค้งฟ้า..ตอนที่ 15 :::




ชีวิตที่เหมือนภาพวาดขนาดใหญ่ของฉันมีตำหนิ
ฉันจะตกแต่งรอยนั้นอย่างไรให้ภาพสมบูรณ์
ภาพเขียนแห่งชีวิตที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเขียนจนสำเร็จ
ชีวิตยังอีกยาวนาน..บนถนนชีวิต..ทุกชีวิตต่างมีขวากหนาม
แต่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางให้เดินบนโลกกว้างใหญ่..
พวกเราได้เรียนรู้จากพ่อเสมอว่าภาพวาดที่ผิดพลาดไม่จำเป็นต้องใช้ยางลบ
คืนวันผ่านเนิ่นช้า..ฉันครุ่นคิดจ่อมจม..หาทางออกที่ดีที่สุด



ฉันตัดสินใจไปพบพี่ใหญ่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังและพร้อมยอมรับชะตากรรม
ฉันมองแล้วว่าชีวันพร้อมที่รับผิดชอบจะใช้ชีวิตร่วมกัน แม้ว่าจะลุ่มลุมดอนดอนก็ตามที
บางทีฉันอาจจะหัวโบราณไปสักหน่อยที่จะใช้วิธีรับสภาพ มากกว่าที่จะตัดสินใจผิดในวิธีอื่นอื่น
การแก้ปัญหาด้วยการทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์ไม่มีในตัวเลือก


ในช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจนั้น ฟ้าดินคงเห็นใจฉันแล้ว..
โชคดีที่ได้พบว่าความผิดปกตินั้นเกิดจากความเครียด
ฉันโชคดีที่ไม่ต้องติดค้างหนี้กรรมใครใครไปชาติหน้า
รอบเดือนฉันมาก่อนหน้าที่จะได้เข้าพบพี่ใหญ่สิบห้านาที
ฉันสัมผัสแล้วกับความทุกข์ของตัวเอง ทุกข์ที่หลุดพ้นไปหนึ่งช่วง

ฉันจะให้เวลาตัวเองและให้โอกาสชีวันพิสูจน์ตัวเอง
ฉันให้โอกาสชีวินสร้างตัวและรับผิดชอบฉันอย่างที่เขาพร่ำบอก
"เรื่องราวระหว่างเรา" ยังคงเป็นความลับ
ความลับของฉันยังคงเป็นความลับ..


ชีวันดูแลฉันอย่างดี พยายามเก็บหอมรอมริบเก็บออมเพื่ออนาคต
เราจะร่วมกันสร้างอนาคต เราหวังที่จะเป็นชีวิตของกันและกัน
เราคบกันอยู่หลายปี ไม่มีใครรู้เรื่องราวของเรา
มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตของชีวินมากมาย ฉันไม่เคยเห็นเป็นเรื่องสำคัญ
หากวันใดที่ชีวินมีคนอื่นฉันพร้อมหลีกทางให้เสมอ
เพราะหากใจไม่ซื่อต่อกันก็ยากที่จะรั้งไว้

จนกระทั่งเสี้ยวชีวิตวิบากผ่านเข้ามาอีกระลอก
คนใกล้ชิดที่สุดของฉันตกหลุมรักชีวิน
หากเป็นใครอื่นฉันคงเหมือนตัดชีวิตช่วงนั้นทิ้งไปไม่เสียดาย
หากทว่าคนใกล้ชิดนั้นกลับเป็นดวงใจของฉันเช่นกัน
ชะตาเล่นตลกกับฉันแล้ว..

ปีที่สี่ของการใช้ชีวิตลำพังของฉัน..ฉันได้พี่ยากลับคืนมา
หลังจากแยกทางกับสามีที่ต่างประเทศพี่ยากลับมาเมืองไทยเงียบเงียบ
ฉันเพิ่งได้มีโอกาสได้รู้..ทั้งใจพี่ยาและใจของฉันเอง..
ตลอดเวลาที่ผ่านเราสองต่างเป็นเงาอยู่ในใจของกันและกันตลอดมา..


ในปีที่สี่ของชีวิตโดดเดี่ยวพี่ยากลับมาในชีวิตของฉัน
หลังจากเธอหย่าร้างกับสามีเธอกลับมาเมืองไทยเงียบเงียบ
กลับมาดูแลคุณพ่อซึ่งเริ่มชราและนัยน์ตาพิการ
คุณลุงประสบเหตุในสนามรบก่อนการเกษียณอายุราชการเพียงหนึ่งปี
ชีวิตของเธอช่างคล้ายฉันเพียงแต่เธอแกร่งกว่าฉันแยะ
ฉันเฝ้ามองดูพี่ยาปรนนิบัติคุณพ่อของเธอ ชีวิตเล็กเล็กคู่นั้นอบอุ่น
ฉันยิ่งคิดถึงพ่อจับใจ

ฉันไม่มีโอกาสได้ปรนนิบัติพ่อในบั้นปลายชีวิตเท่าที่หวังเท่าที่ตั้งใจ
ในขณะที่ชีวินเป็นเงาตามตัว ชีวิตคู่นั้นกลับเป็นดวงใจของฉัน
ทุกเวลาที่มีโอกาส ฉันและชีวินจะไปขลุกอยู่ที่บ้านของพี่ยา
คุณลุงรักฉันให้ความเอื้ออารีเหมือนที่พ่อเคยให้
ฉันรับพี่ยาและคุณลุงเข้ามาในชีวิตประหนึ่งเป็นชีวิตใหม่ของฉัน

ฉันใช้เวลาเกือบครึ่งหนึ่งกับคนคู่นั้น คุณลุงเล่าเรื่องมากมายให้ฉันฟัง
คุณลุงตอบคำถามให้ฉันได้ทั้งหมดเหมือนที่พ่อเคยตอบฉัน
บางวันฉันนั่งเงียบเงียบหน้ารถเข็นฟังคุณลุงเล่านั่นนี่
ปรัชญาชีวิตบ้าง เล่าเรื่องสนุกสนุกในวัยเด็ก
และบางวันเราก็ประสานเสียงหัวเราะกันอยู่ใต้ต้นชงโคข้างบ้านนั่นเอง
พี่ยาบอก"พ่อรักฉันมากกว่าพี่ยา"

ชีวิตของฉันดูเหมือนจะสงบราบเรียบดี
ฉันใช้เวลาส่วนหนึ่งเขียนเรื่องสั้นเรื่องยาวอย่างที่ใจรัก
ฉันจะสร้างฝันฉันจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่าน
ฉันจะมีกิจการดูแลผู้สูงอายุเป็นของตัวเองอย่างที่เคยบอกกับพ่อ
ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ แต่เพื่อเจตนารมณ์เดิมของฉัน
เจตนารมณ์ที่จะให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างเป็นสุขในบั้นปลายของชีวิต

ฉันขลุกอยู่กับงานเขียนที่ฉันรัก
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ได้เพียงความพึงใจของตัวเอง
งานเขียนของฉันไม่นับว่าประสบความสำเร็จ
ฉันหันมาจับงานใหม่ รับจ้างดาราเขียนหนังสือ
งานนั้นสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เป็นอีกมุมหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้ชีวิต
ฉันมองดูความสำเร็จของตัวเองในนามคนอื่น มันมองดูสวยงามกว่างานในนามฉันเองเสียอีก

หลายครั้งที่ฉันนั่งทึ่งกับบทให้สัมภาษณ์ของดาราถึงหนังสือของเธอ นั่นจึงนับว่าเป็นศิลปินแท้..
ดูเหมือนฉันจะลืมความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ลึกลึกของฉันเสียสนิท
จนกระทั่งในบ่ายวันหนึ่งใต้ต้นชงโคมุมเดิม
คุณลุงถามฉัน"แตรักชีวินหรือเปล่า"(คุณลุงเรียกฉัน"แต"ตามพี่ยา)
ฉันตกใจตอบไม่ได้ ฉันรู้ว่าคุณลุงมีสัมผัสพิเศษ แต่ไม่รู้ว่าคุณลุงคิดอะไร
ฉันตอบสั้นๆ "แตรักพี่ยากับคุณลุง"

คุณลุงถอนใจและเริ่มท้าวความเดิมในวันที่พ่อมาจับเข่าคุยกับคุณลุง
เรื่องฉันกับพี่ยาเมื่อสิบปีก่อน
วันที่คุณลุงตัดสินใจให้พี่ยาไปเรียนโรงเรียนประจำอย่างที่พ่ออุทร
เพราะไม่อยากให้เราผิดธรรมชาติ เรารักกันเกินกว่าพี่สาวน้องสาว
" พ่อแตรักแต ลุงก็รักพี่ยาเท่าชีวิต แต่พี่ยาแกร่งกว่าแตเยอะ "
คุณลุงบอก
แต่หลังจากที่ผิดหวังเรื่องครอบครัวแล้ว พี่ยาไม่เคยมีใครอีกเลย จนมาพบชีวิน
คุณลุงบอก "ยารักชีวิน"ฉันคอแข็ง..

ไม่แปลกใจเลยใครใครที่ได้ใกล้ชิดชีวินก็รักชีวินกันทั้งนั้น
ชีวินบุคลิกดี ปากหวาน พูดเป็น มีน้ำใจ รู้จักเอาใจ ที่สำคํญชีวันเป็นหนุ่มโสด มีอนาคต..
ใครใครก็รักชีวันได้.แต่ต้องไม่ใช่พี่ยา..ต้องไม่ใช่พี่ยา..
ในวันต่อวันที่ฉันมีพี่ยาคอยให้กำลังใจ
วันต่อวันที่เธอเฝ้าดูการทำงานของฉัน
วันคืนที่เธอเจือจานน้ำใจ ชีวิตที่แห้งแล้งของฉันกลับมีชีวิตชีวา
ชีวิตพี่ยาเป็นของฉัน หากขาดพี่ยาฉันจะอยู่ได้อย่างไร..
แล้วชีวันกับความฝันของเรา ปลายทางของเราเล่า
ฉันเดินมาถึงทางแยกอีกครั้ง..





Create Date : 24 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 18 ธันวาคม 2553 9:01:49 น. 0 comments
Counter : 573 Pageviews.

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.