ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
:::สัจธรรมของความรัก:::



สัจธรรมแห่งรัก

ความรักคืออะไร ยังไม่มีใครให้คำจำกัดความออกมาได้ มันเริ่มต้นจากอารมณ์ อย่างไม่มีเหตุผล และยังตั้งรับไม่ทันอีกด้วย กว่าจะรู้ตัวหัวใจมันก็ให้ถลำเข้าไปเสียแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขืน แม้แต่ผู้ที่ถูกมองว่า มีแต่ความเย็นชากระด้างไร้หัวใจ ก็ยังถูกอานุภาพความรักรุกกระหน่ำเอาได้


อธิบายไม่ได้แต่รู้สึกสัมผัส เป็นทั้งความอบอุ่นเป็นทั้งความเจิดจรัส เป็นทั้งโคมประทีปแห่งแสงสว่าง หากเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในรักนั้น แต่มันก็เปลี่ยนกลับไปเป็นยาพิษ เป็นความมืดบอดแห่งอนธกาล หากหลงไหลในอารมณ์ที่ถูกชักจูง .. ไม่ว่าอย่างไร.... มีรักดีกว่าไม่มี ..!!


ผู้ที่ก่อเกิดความรักย่อมรู้จักการให้รัก ผู้ที่ได้รับรักย่อมยินดีที่เป็นที่รัก ทั้งนี้เนื่องเพราะไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธรักได้ ทั้งยังไม่กล้าปฏิเสธอีกด้วย มีบ้างบางคนกล่าวว่าความรักที่สมหวัง เป็นปรากฎการณ์ที่น่ายินดี หากกลับกลายเป็นผิดหวัง ก็รังแต่จะเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนสลด


แท้ที่จริงความรักมิใช่เรื่องของความสมหวังหรือผิดหวัง ความรักก็คือความรัก เกิดจากอารมณ์หนึ่งที่ก่อเกิดความรู้สึกรัก ความสมหวังเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน อันสืบเนื่องจากความรู้สึกที่ดีต่อความรัก ความผิดหวังก็ก่อเกิดจากอารมณ์อีกหนึ่ง อันสูญเสียความรู้สึกที่ดีต่อความรัก หากยึดถือเอาความรู้สึกที่ต่อเนื่องมาจากความรัก ก็จะหลงผิดอยู่ในอารมณ์นั้นซึ่งคิดไปว่าเป็นความรัก จึงมักได้พบนิยามแห่งความรักไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า ความรักทำให้เราเป็นสุข .. นั่นเนื่องเพราะยึดถือเอาความสุข อันต่อเนื่องอารมณ์จากการมีรัก ความรักคือความทุกข์ .. นั่นเนื่องเพราะยึดถือเอาความทุกข์อันต่อเนื่องอารมณ์จากการมีรัก


สำหรับผู้สามารถมีรัก กล้ายึดถือในความรัก และรู้สึกได้ถึงความรัก ก็จักสามารถเข้าใจในความรักนั้นได้ จากอารมณ์.. ที่ก่อเกิดเป็นอารมณ์สุข ทุกข์ เศร้า เป็นทั้งพลังผลักดัน และการบั่นทอนในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีรักจึงต้องอาศัยความกล้าหาญ กล้าที่จะแยกแยะหรือแม้แต่เผชิญกับอารมณ์อันต่อเนื่องจากการมีรัก เราจึงมักพบกับตำนานรักในหลายรูปแบบ บ้างว่าความรักก่อเกิดจากการฟักตัวของกาลเวลา อันเป็นผลมาจากความเข้าใจ และสานสัมพันธ์กันระหว่างคนสองคน บ่มเพาะขึ้นเป็นรากเหง้าที่หยั่งลึกลงในจิตใจ ประดุจรากไทรเกาะกุมให้เป็นฐานที่มั่นคง ของใจน้อย ๆ สองดวงให้ประสานกัน ก่อเกิดเป็นพลังที่ทะลายฟ้าทะลวงดินปานกัน


บ้างบางตำนานเปรียบความรักประดุจดาวตก ที่ให้แสงเจิดจ้ากระจ่าง กรีดผ่านม่านรัตติกาลแล้วลับหายไปกับขอบฟ้า ในเวลากระชั้นสั้น ... ซึ่งสำหรับชีวิตผู้ที่มืดมนเปรียบประดุจรัตติกาล ในช่วงหนึ่งแห่งชีวิตที่พบกับ ความบันเจิดเพริดแพร้วของความรัก แม้ในช่วงสั้นแห่งกาลเวลา ก็นับเป็นช่วงแห่งชีวิตที่มีค่า ให้ประทับอยู่ในความทรงจำได้แล้ว


แหละมีบ้างก็ว่าความรักเกิดจากความบ้าของช่วงอารมณ์หนึ่ง เป็นช่วงอารมณ์ที่ปล่อยไหลไปตามความรู้สึก แห่งการได้เห็น ได้ยิน ได้รับรู้ ได้สัมผัส และได้จินตนาการ กลั่นออกมาจากใจที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ เป็นความรักที่เกิดขึ้นมาค้างคาในจิตใจให้คอยคิดคำนึง ที่เต็มไปด้วยความร้ายเดียงสาอันอันสัตย์ซื่อกระไรปานนั้น..


แต่ไม่ว่าความรักจะมั่นคงดั่งภูผา หรือรวดเร็วปานดาวตก จะอย่างไรหากถามผู้ที่เคยมีความรัก จะพบว่าในห้วงหนึ่งแห่งความรักที่ก่อเกิด มีทั้งสุขสมและทุกข์ตรม ต่างต้องบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าในห้วงแห่งกาลเวลานั้น นับเป็นช่วงเวลาที่บรรเจิดเพริดแพร้วกระไรปานนั้น ประทับเป็นความทรงจำของช่วงชีวิต ที่ไม่อาจลบเลือนได้โดยเด็ดขาด


มีบ้างว่าความรักเป็นเรื่องของความเสียสละ ความรักเป็นเรื่องของการให้โดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ความรักเป็นเรื่องของการหวังเห็นผู้ที่รักเป็นสุขก็เพียงพอ ความรักประเภทนี้ออกจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ทำได้ดั่งนี้จะต้องเป็นผู้ที่กล้าที่จะรัก และเข้าใจในความรักที่จะก่อเกิดอารมณ์ต่อเนื่อง ว่าเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข ความรักเช่นนี้ นับเป็นสิ่งสวยงามที่จรรโลงโลกให้อบอุ่น จะมีใครสักกี่คนที่สามารถเข้าใจได้และกระทำได้ มิใช่ไม่มี ...! หากแต่ต้องอาศัยความกล้าหาญ และความเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ บุคคลเช่นนี้เพียงพอใจที่จะรัก กล้าที่จะรัก โดยไม่นำพาต่ออารมณ์ต่อเนื่องที่เป็นทุกข์ที่เป็นสุข หากแต่จะเป็นที่รักสำหรับผู้ที่เข้าใจได้


กับปุถุชนทั่วไปแล้วความกล้าหาญที่จะเสียสละ จะกลับกลายเป็นความทุกข์ที่ไม่อาจยอมรับ ความรักดั่งนี้ย่อมต้องการสิ่งตอบแทน ย่อมต้องการการครอบครอง คล้ายดั่งกับการเห็นแก่ตัวก็ไม่ปาน ดังนั้นในจิตใจจึงเต็มร้อนไปด้วยระอุแห่งเปลวไฟ ที่คอยเผาไหม้ตนเองให้ร้อนรุ่มอยู่ทุกทิวาราตรี เป็นเปลวเพลิงไร้สภาพที่ไม่อาจเห็น แต่สัมผัสได้ ไม่มอดไปตามกาลเวลา เป็นเปลวเพลิงแห่งไฟรัก อีกหนึ่งตำนานที่ขานไขว่ารักคือเปลวไฟ ที่ให้ทั้งความร้อนแรงและอบอุ่น.

ความรักไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง เมื่อก่อเกิดขึ้นในจิตใจผู้คน จะเป็นความสวยงามที่ติดตาตรึงใจตลอดไป ให้เป็นตำนานเล่าขานไม่รู้จบ ความรักจึงเป็นนิรันดร์

ข้อมูลจาก //www.kunkroo.com







Create Date : 02 กันยายน 2553
Last Update : 2 กันยายน 2553 6:54:36 น. 8 comments
Counter : 495 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ความรักจงเจริญ...


:D


โดย: LoveTurJang วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:8:20:04 น.  

 
รัก

ทำให้ หัวใจกระชุ่มกระชวยค่ะ


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:15:03:22 น.  

 
ถูกต้อง

ความรักมักมีการแลกเปลี่ยน

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:17:40:59 น.  

 
สวัสดีค่ะ LoveTurJang

ความรักและความผูกพันของคนสองคนทำให้โลกสวยงามนะคะ


โดย: Peakroong วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:6:37:41 น.  

 
Rinsa Yoyolive

รักเป็นทุกสิ่งทุกอย่างใช่มั้ยคะ
แต่ดูเหมือนรักจะไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง


โดย: Peakroong วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:6:39:16 น.  

 
บ้าได้ถ้วย (แห่ะๆ ชื่อชวนสะเทิ้นสะท้าน)

รักคือการให้และการรับค่ะ


โดย: Peakroong วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:6:41:03 น.  

 
ไม่ว่าจะอย่างไร ความรักก็เป็นสิ่งที่งดงามเสมอสำหรับเรานะ ขอให้สดใสจ๊ะ


โดย: ตาโตแก้มบุ๋มจัง วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:13:28:06 น.  

 
ต่ะ ตาโตแก้มบุ๋มจัง ตกลงตามนั้น
ขอให้โชคดีกับรักที่ใช่เป็นนิรันดร์เลยนะคะ


โดย: Peakroong วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:16:19:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.