Bloggang.com : weblog for you and your gang
ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
ลานอโศก
ห้องบริหารจิต
รอยอินทร์
ศิลปวัฒนธรรมไทย
วิ่งตามนาย
ข้อคิดคำเขียน
มองผ่านเลนส์
เพลงภูต
ร่ำไปในใบเรียว
ปลายทางที่โค้งฟ้า..ฯ
เรื่องสั้นหลายวันจบ
มีสุขร่วมเสพ..ฯ
เก็บรักมาเก็บไว้ที่ในรัก
อโรคยาปรมาลาภา
คลีนิคกายภาพ
วิทยายุทธ
แสนรักษ์
เพลงเพื่อแผ่นดิน
Music Box
เพลงเพื่อคุณ
MV Romance XL
MV น่ารัก
เพลงประกอบ
ฟังเพลงออนไลน์
รวมเพลงขิม
รวมเพลงขลุ่ย
เพลงลูกทุ่งไทย
ห้องภาพ
คนแถวหน้า
แดนสนธยา
มุมเตือนภัย
ถนนดวงดาว
บ้านและสวน
ตกแต่งสวน
ท่องไปในโลกกว้าง
คู่สร้าง-คู่สม
มุมซ่อมสวย
หยุดก่อนโลก..ฉันจะลง
ทัศนา-จร
เวทีดาว
ตลาดนัดงาน
เก็บออมรอมจ่าย
ซ่อมได้
ครัวไทย
ไทยน้ำทิพย์
บ้านเล็กในป่าใหญ่
ย่อโลก
หน้าต่างโลก
แฟชั่น
ชีวิตต้องสู้
คนรักรถ
กระฉ่อนเว็บ
งานสร้าง
กฏ+หมาย
สินทรัพย์
ศาสตร์แห่งตัวเลข
สมุนไพรไทย
อัญมณี
เทคนิคการถ่ายภาพ
รวมโค้ดแต่งบล็อก
มุมกีฬา
เรือนจำกลาง
สาวเอยจะบอกให้
ระเบียงรุ้ง
Lab
<<
กรกฏาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1 กรกฏาคม 2554
:::โรคจอตาเสื่อม:::
All Blogs
:::โรคจิตวิตก:::
:::โรคจอตาเสื่อม:::
:::โรคง่วงนอน:::
:::โรคคางทูม:::
:::โรคคาวาซากิ:::
:::โรคความจำสั้น:::
:::โรคความดันโลหิตสูง:::
:::โรคระบบทางเดินหายใจ:::
:::โรคกระเพาะปัสสาวะ:::
:::โรคกระดูกพรุน:::
:::โรคกรดไหลย้อน:::
:::โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง:::
:::โรคจอตาเสื่อม:::
โรคจอประสาทตาเสื่อม...
จอประสาทตาอยู่ที่ไหน?
โดยทั่วไปจอประสาทตามักหมายถึง retina ส่วนจุดรับภาพหรือจุดศูนย์กลางรับภาพชัดจะหมายถึง macula ซึ่งอยู่ส่วนหลังของดวงตา ทำหน้าที่รับแสงและส่งออกไปยังสมองในรูปของสัญญาณไฟฟ้า ไปทางกระแสประสาท ทำให้เราเห็นภาพได้
โรคจอประสาทตาเสื่อมคืออะไร?
โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้นในบริเวณจุดศูนย์กลางรับภาพของจอประสาทตา โรคนี้มักพบได้มากในผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จึงเรียกว่า Age-related macular degeneration (AMD)
ในผู้ป่วยบางราย การเสื่อมของจอประสาทตา เกิดขึ้นอย่างช้าๆ จนผู้ป่วยอาจไม่ทันสังเกตเห็น ในขณะที่ บางรายอาจเกิดการเสื่อมของจอประสาทตาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามโรคนี้จะทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเฉพาะภาพตรงกลาง แต่ผู้ที่เป็นจะยังสามารถมองเห็นทางด้านขอบข้างของภาพได้อยู่ เช่น มองเห็นคน แต่ส่วนของใบหน้าเบลอมองเห็น ไม่ชัด ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ยังคงสามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่อาจทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น อ่านหนังสือ เย็บผ้า ได้ลำบาก
โรคจอประสาทตาเสื่อมแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
1.
แบบแห้ง (Dry AMD)
พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการเสื่อมสลายและบางลงของจุดศูนย์กลางรับภาพของจอประสาทตา (Macula) จากการเสื่อมตามอายุ (Aging) ทำให้เห็นเป็น ภาพเบลอ ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไป จอประสาทตาทำงานได้แย่ลง การมองเห็นก็อาจจะเสื่อมลงเรื่อยๆ
2.
แบบเปียก (Wet AMD)
สาเหตุเกิดจากการที่มีเส้นเลือดที่ผิดปกติงอกอยู่บริเวณใต้จอประสาทตา เส้นเลือดเหล่านี้แตกง่าย ทำให้เกิดเลือดและของเหลวที่อยู่ภายใน ไหลซึมออกมา ทำให้จุดกลางรับภาพบวม ผู้ที่เป็นจะเริ่มมองเห็นภาพตรงกลางบิดเบี้ยว ต่อมาอาจเกิดการทำลายของจอประสาทตาอย่างรวดเร็ว เมื่อเซลล์ประสาทตาตายผู้ป่วยจะสูญเสียการมองเห็น โรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดนี้ทำให้ เกิดการสูญเสียการมองเห็น อย่าง รวดเร็ว และมีความรุนแรงมากกว่าแบบแห้ง (Dry AMD)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
พบว่ามีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่น คนที่มีสายตาสั้นมากๆ หรือคนที่เป็นโรคติดเชื้อบางอย่าง แต่สาเหตุส่วนใหญ่แล้วมักพบในผู้สูงอายุ จึงทำให้เชื่อว่าเป็นกระบวนการเสื่อมสภาพของร่างกายหรือที่เรียกว่า aging เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (Aged related macula degeneration) ได้แก่
*อายุ จอประสาทตาเสื่อมพบได้บ่อยขึ้นในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
*พันธุกรรม แพทย์แนะนำให้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ เข้ารับการตรวจเช็คจอประสาทตาทุก 2 ปี
*เชื้อชาติและเพศ พบอุบัติการณ์ของโรคจอประสาทตาเสื่อมมากในคนผิวขาว เพศหญิง และอายุมากกว่า 60 ปี
*บุหรี่ มีการศึกษาพบว่าการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคอย่างชัดเจน
*ความดันโลหิตสูง คนไข้ที่ต้องรับประทานยาลดความดันเลือด มีระดับของไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง และระดับแคโรทีนอยด์ในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก (Wet AMD)
*วัยหมดประจำเดือน พบว่าผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่ไม่ได้รับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจน จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
*นักวิจัยยังคงเชื่ออีกว่าการขาดวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการต้านอนุมูล-อิสระ เช่น วิตามินซีและอี หรือเกลือแร่ที่มีส่วนสำคัญในการมองเห็น อาทิเช่น แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ลูทีน (Lutein) และซีแซนเทียม (Zeaxanthium) ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่เพิ่ม ความเสี่ยงต่อการเกิด AMD ได้อีกด้วย
อาการของ AMD เป็นอย่างไร
โรคจอประสาทตาเสื่อม อาจมีอาการแตกต่างกันในผู้ที่เป็นแต่ละรายและยากที่จะสังเกตความผิดปกติในช่วงแรก โดยเฉพาะถ้าตาอีกข้างหนึ่งยังมองเห็นได้ดี คนไข้อาจไม่สังเกตถึงความผิดปกติไปหลายปี แต่ถ้ามีจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นในตาทั้ง 2 ข้าง คนไข้จะรู้สึกถึงความผิดปรกติในการมองเห็นอย่างรวดเร็ว
อาการส่วนใหญ่ของ Dry AMD คือ การมองเห็นภาพเบลอ ทำให้เห็นหน้าคนไม่ชัด จำหน้าบุคคลไม่ได้ อาจทำให้ต้องใช้แสงสว่างมากขึ้นในการทำกิจกรรมต่างๆ หรือผู้ป่วยบางคนอาจพบมีอาการผิดปกติโดยสังเกตมีตามัวลงเพียงเล็กน้อย
อาการเริ่มแรกของ Wet AMD คือ เริ่มเห็นเส้นตรงเป็นเส้นโค้ง บิดเบี้ยว เห็นภาพสีซีดจางกว่าปกติ และอาจเห็นเป็นจุดมืดดำที่ตรงกลาง
อาการเริ่มแรกที่อาจนำไปสู่การเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ได้แก่
มองเห็นภาพเบลอ
เห็นเส้นตรงเป็นเส้นโค้ง
ภาพมีสีซีดจางไป
อ่านหนังสือได้ลำบาก
แยกแยะหน้าคนได้ยาก
เห็นเป็นจุดดำที่บริเวณศูนย์กลางของภาพ
การดูแลตัวเอง เมื่อเป็นจอประสาทตาเสื่อม
ถึงแม้โรคจอประสาทตาเสื่อมจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การตรวจพบแต่เนิ่นๆ และรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันการเสื่อมไม่ให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นได้ ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่ท่านควรทำได้แก่
1. หมั่นตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำสม่ำเสมอ แม้วินิจฉัยว่าเป็นจอประสาทตาเสื่อม เพราะในบางรายที่เป็น Dry AMD อาจพัฒนากลายเป็น Wet AMD ดังนั้นเมื่อพบอาการผิดปกติที่เป็นสัญญาณควรรีบปรึกษาแพทย์
2. หากมีภาวะจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว ท่านควรพยายามปรับตัวกับภาวะสายตาเลือนรางให้ได้ และฝึกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยการมองเห็น (Low vision aid) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถใช้การมองเห็นที่เหลืออยู่ ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างดีที่สุด
เพลงประกอบ :
:::For All We Know :::
Create Date : 01 กรกฎาคม 2554
0 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 16:34:58 น.
Counter : 2415 Pageviews.
Share
Tweet
Peakroong
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
?
]
"หากต้องตัดสินใครสักคน
เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"
เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี
สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่
สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ
มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"
"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..
๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน
๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่
ขอบคุณ
https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล
๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ
'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553
Friends' blogs
Peakroong
Webmaster - BlogGang
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
ร้านค้าออนไลน์
สโมสรสร้างสรรค์ทางเลือก
ทางด่วน
Facebook
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.