ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

:::ปลายทางที่โค้งฟ้า..ตอนที่ 16:::

.


ในวันต่อวันที่ฉันมีพี่ยาคอยให้กำลังใจ
วันต่อวันที่เธอเฝ้าดูการทำงานของฉัน
วันคืนที่เธอเจือจานน้ำใจ ชีวิตที่แห้งแล้งของฉันกลับมีชีวิตชีวา
ในบ่ายวันหนึ่งใต้ต้นชงโคมุมเดิมที่คุณลุงถามรักว่าฉันชีวินหรือเปล่า
ฉันตกใจตอบไม่ได้ ฉันรู้ว่าคุณลุงมีสัมผัสพิเศษ แต่ไม่รู้ว่าคุณลุงคิดอะไร
ฉันตอบสั้นๆ "หลานรักพี่ยากับคุณลุง"
คุณลุงบอก "ยารักชีวิน" ฉันคอแข็ง

ไม่แปลกใจเลยใครใครที่ได้ใกล้ชิดชีวินก็รักชีวินกันทั้งนั้น
ชีวินบุคลิกดี ปากหวาน พูดเป็น มีน้ำใจ รู้จักเอาใจ
ที่สำคัญชีวันเป็นหนุ่มโสด มีอนาคต..
ใครใครก็รักชีวันได้.แต่ต้องไม่ใช่พี่ยา..ต้องไม่ใช่พี่ยา
ชีวิตพี่ยาเป็นของฉัน หากขาดพี่ยาฉันจะอยู่ได้อย่างไร..
ฉันคุยเรื่องนี้กับชีวิน ชีวินปฏิเสธและย้ำคำเดิม
"ชีวิตเราเป็นของกันและกัน"

ฉันกำลังคิดหาทางออก
คุณลุงเริ่มป่วยฉันไม่อยากให้ท่านคิดมาก
ความสนิทสนมใกล้ชิดทำให้ฉันรักท่านเหมือนญาติผู้ใหญ่
ในความแข็งกระด้างของพี่ยา เธอไม่ค่อยสนิทสนมกับพ่อเท่าใดนัก
ฉันเองเสียอีกที่ดูแลประหนึ่งญาติ
ในความปราถนาลึกลึกที่ต้องการสิ่งทดแทนจากพ่อกระมัง
คุณลุงออกปากขอฉันเป็นลูกบุญธรรมโดยกฏหมาย
แต่พี่ยาโกรธ "ทำไมไม่ขอมาเป็นแม่ยาเสียเลยล่ะ"
ฉันตกใจ..เธอโกรธที่ถูกชีวินปฎิเสธหรือเปล่า ฉันไม่เดา

ฉันไม่เข้าใจพี่ยาแต่รู้สึกเป็นความทุกข์ที่เธอโกรธไม่ยอมพูดกับฉัน
วันสุดท้ายที่เราพบกัน ฉันให้ชีวินไปพบพี่ยา
ทั้งสองคนกลับหายไปด้วยกัน
ฉันไม่เข้าใจความคิดของคนทั้งสอง แต่อโหสิให้..
เมื่อได้รับข่าวจากทางหน้าหนังสือพิมพ์เครื่องบินตกที่สุราษฏร์ธานี..
ในรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีชื่อของทั้งสองคนด้วย....


ฉันเสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคนอีกครั้งแต่ไม่นานนัก
มีประโยชน์อะไรที่จะบ่มฟักบาดแผลให้ร้าวลึก ชีวิตยังอีกยาวไกล
คุณลุงคือคนในความดูแลของฉันอย่างแท้จริง ท่านไม่มีญาติอื่นๆอีกในเมืองไทย
เงินก้อนใหญ่ที่พี่ยาทิ้งไว้ให้คุณลุงเป็นเงินสนับสนุนความฝันฉันให้เป็นจริง
คุณลุงยกให้ฉันทั้งหมดเพื่อเป็นกองทุนสร้างฝัน ให้โดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน
แต่ฉันออกปากขอแต่งงานกับท่าน ใช่..ฉันขอท่านแต่งงาน..
มีที่ไหนกันเล่าเจ้าสาวขอแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่อายุห่างกันเกือบ 2 รอบ..
ท่านดึงมือฉันไปถือไว้แน่นและบอกกับฉันว่า
ท่านยังมองเห็นความสวยงามของฉันเสมอ
ฉันในวัยเด็กเป็นอย่างไร วันนี้ยังคงเป็นอย่างนั้นในสายตาของคุณลุง
ท่านขอบใจในน้ำใจและบอกว่า "วันนึงถ้าหลานมีความรักที่แท้จริง หลานจะนึกถึงวันนี้"
ฉันบอก"ไม่มีแล้วรักที่แท้จริง ฉันมีได้หนึ่งเดียวและให้พ่อไปหมดแล้ว"
คุณลุงถามว่าแล้วจะแต่งงานกับลุงทำไม ฉันอึ้ง.ตอบไม่ได้.
คุณลุงเข้าใจความคิดของฉัน คุณลุงบอกหลานอยู่ที่นี่ได้ตลอดชีวิต
หลานเป็นเจ้าของที่นี่ในฐานะเจ้าของบ้าน คุณลุงยกกิจการให้ฉัน..

ท่ามกลางความตื่นตะลึงเงียบงันของพี่น้อง เราประกาศเป็นหุ้นส่วนชีวิต
ในวันที่เปิดอาคารหลังแรกบนพื้นที่เล็กๆสงบและสวยเหมือนใจ
ทุกคนงุนงงกับการตัดสินใจของฉัน แต่จะแปลกอะไรฉันลิขิตตัวเองแล้ว
ฉันกลับพบชีวิตสงบกิจการของเราจัดว่าประสบความสำเร็จ
อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนไป
ภาวะบีบคั้นที่ทำให้ครอบครัวต้องลดค่าใช้จ่าย
ประหยัดเวลา ตัดบางสิ่งที่เกินความจำเป็น
ปรับขนบประเพณีให้รัดกุมตามความพอดี
สภาวะความเปลี่ยนแปลงของสังคม ชีวิตดิ้นรน..

งานของฉันขยายตัวเติบโต สิ่งที่ฉันนึกไม่ถึง
ผู้สูงอายุกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซนต์มาจากครอบครัวผู้มีอันจะกิน..
ในทุกวันที่ฉันนั่งเขียนหนังสือ
คุณลุงจะเลื่อนล้อรถไปที่นั่นที่นี่คุยกับคนนั้นคนนี้มีความสุขให้ได้รับรู้
นานนานจะอ้อมกลับมาหาฉันสักครั้งและถาม "มีอะไรให้ช่วยไหม..ลูกสาว"

ในทุกทุกเช้าที่หน้าต่างบานนี้..
ฉันเข็นรถล้อเลื่อนชี้ชวนดูตะวันเบิกฟ้า


"พ่อเคยบอกเสมอ
วันใดเราทดท้อ เหนื่อยล้า ให้นึกถึงดวงตาวัน
ดวงตะวันที่ถักทอฝันของใครต่อใคร
นาฬิกาดวงตาวันที่กำหนดชะตาชีวิตได้ด้วยตัวมันเอง
ชีวิตคนเราเหมือนดวงตาวันมีขึ้นมีตก
มีทั้งดีและร้ายปนเปกันไป เหมือนมีดำมีขาว
ใครที่ไม่พบปัญหาเลยในชีวิตไม่มี
เพียงแต่วันนี้เราอย่ายอมแพ้
รอวันเวลาดีดีที่จะหวนกลับมาอีกครั้ง
เหมือนดวงอาทิตย์ที่ไม่เคยทิ้งขอบฟ้า
วันพรุ่งนี้ยังมีความหวังใหม่รอเราอยู่เสมอ.."

ฉันทุ่มเทชีวิตช่วงนั้นให้กับความใฝ่ฝัน ได้ทำงานที่ใจรัก
ความสุขเอื้อมคว้าได้ทุกความหวัง และพบว่าถนนที่ฉันเลือกสวยงาม
ชีวิตดำเนินไปพร้อมๆกับดวงตะวันที่ขึ้นทางทิศตะวันออก
ลับหายไปทางทิศตะวันตกและพร้อมที่จะตื่นมาพบกันในวันใหม่
ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ต้องค้นหานอกจากเฝ้ามองความงดงามของผลผลิต
ฉันต้องไขว่คว้าอะไรอีกนอกจากความสุขสงบไปจนถึงบั้นปลายชีวิต

ทะเลสงบใช่จะไร้คลื่น
ฟ้าไร้เมฆใช่จะปลอดมรสุม
ชีวิตราบเรียบใช่จะไร้อุปสรรค..
มรสุมชีวิตตั้งเค้าอีกครั้งเมื่อคุณลุงเริ่มป่วย
ชีวิตสงบยาวนานนั้นสิ้นสุดลง ทุกอย่างหยุดลง
ก่อนที่คุณลุงจะทันได้เขียนพินัยกรรม

ฉันเหมือนถูกทิ้งไว้เดียวดาย
ดวงตะวันดวงเดิมทอแสงสีหม่น
ปลายโลกมืดมน แสนไกล ..






 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2554
0 comments
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2554 19:31:20 น.
Counter : 642 Pageviews.


Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.