ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
22 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
:::ปลายทางที่โค้งฟ้า..ตอนที่ 3 :::


ในวัยเด็กของฉัน
ฉันไม่นับว่าเป็นเด็กเรียนเก่ง
แต่ความภูมิใจที่สุดคือไม่เคยทำให้คุณครูผิดหวัง
ฉันไปโรงเรียนแต่เช้าทุกวัน ช่วยคุณครูจัดชั้นเรียน
กุหลาบพวงสีชมพูอ่อนกับใบเฟิร์นหลังอาคารเรียนเป็นไม้ที่ฉันเลือก
คุณครูบอกว่า คนรักดอกไม้เป็นคนละเอียดอ่อน จิตใจสวยงาม
คุณครูของฉันละเอียดอ่อนจิตใจสวยงาม

ฉันเองก็เคยทำให้คุณครูปวดหัวไม่น้อย
กับไข่จิ้งจก"งอมจัด"หลายใบบนสำลีในกล่องพลาสติคใสใต้เก้าอี้
นอกจากจะทำลายสมาธิของฉันและ เพื่อนๆแล้ว
ยังนับว่าเป็นอุปสรรคต่อการสอนของคุณครูด้วย
เมื่อไข่จิ้งจกเริ่มกระดุกกระดิกสายตารอบด้านจะละจากกระดาน
บางคนช่วยฉันทำหน้าที่ผดุงครรภ์เมื่ออดทนรอมันเจาะเปลือกเองไม่ได้
"การเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติทำให้เราเป็นคนช่างสังเกต"
คุณครูบอกคุณครูของฉันช่างสังเกตและเข้าใจธรรมชาติของเด็กเด็ก

กับสาส์นที่ร่อนส่งถึงกันทางอากาศ แม้บางครั้งจะมีข้อความไม่เหมาะสม
คุณครูไม่ลงโทษคนผิดอย่างที่หลายคนคาด
คุณครูบอกว่าคนทำไม่ดีธรรมชาติจะลงโทษ
ฉันแอบเห็นเจ้าของจดหมายกับผู้รับทะเลาะกันเอง
วันรุ่งขึ้นตาเขียวมาคนละข้าง สรุปได้ว่า การสื่อสารที่ดีต้องมีความชัดเจน
อาหารกลางวันของฉันมีขนมไปฝากคุณครูและเพื่อนๆทุกวัน
แม้ว่าในบางวันหมูแดดเดียว หรือไก่ทอดจะหมดไปตั้งแต่ตอนเช้า
ฉันก็ไม่เคยอดอาหารเลยสักมื้อ บางทีกบทอดในกล่องคนอื่นอร่อยกว่า
คุณครูให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

ฉันไม่ใช่นักเรียนทุน แต่ฉันเป็นนักล่ารางวัล
คุณครูจะส่งเสริมให้ฉันเข้าร่วมการแข่งขันเสมอ
ฉันได้อุปกรณ์การเรียนฟรีบ่อยๆไม่ต้องซื้อ
หลายครั้งที่เอาไปแจกเพื่อน บางอย่างก็แลกกับตัวต่อ
คุณครูบอกว่าการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นลักษณะนิสัยที่ดี
ฉันมอบเกียรติบัตรทุกใบของฉันให้คุณครูใส่แฟ้มประวัติ

มีเรื่องราวมากมายที่ฉันอยากจะอวดถึงคุณครูของฉัน
ในชีวิตจริงจริงแล้วเราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ"ครู"
ประสบการณ์ทั้งหลายทั้งมวลคือครูของเรา ครูผู้สอนให้เราเรียนรู้ชีวิต
ในชีวิตการเรียนรู้ของฉัน คุณครูทุกท่านอยู่ในใจฉันเสมอมา
หลายท่านเป็นแบบอย่างผลักดันชีวิตของฉันให้ก้าวไปข้างหน้า
หลายท่านเป็นกำลังใจให้ฉันสร้างฝัน และปั้นฝันให้เป็นจริง

ในรั้วโรงเรียน ฉันถูกปั้นฝันให้สร้างงานเขียน ฉันชอบเขียน
ในรอบรั้วบ้านของเราก็ไม่ต่างกัน
ฉันชอบสร้างงานศิลปะและงานสร้างสรรค์
แก้วใสอยากเล่าถึงใครอีกคนที่สร้างฝันไว้ในความทรงจำ
พี่ใหญ่..พระเอกอีกคนหนึ่งในดวงใจ พี่ใหญ่ วิศวกรคนที่แสนรักของพวกเรา

กับกระดาษที่เหลือใช้ .. ฝาขวดน้ำอัดลม .
ใครใครอาจจะมองข้าม หลายคนนึกถึงข้อความใต้ฝาที่มีลุ้น
บางคนเก็บขายรถรับซื้อของเก่าแต่พี่ใหญ่ของฉันใช้สร้างฝันให้น้องๆ
(ฝันของฉันคือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ซึ่งต้องสร้างสม)
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากสมองน้อยน้อย
ซึ่งเมื่อคิดย้อนกลับไปแล้ว ฉันรู้สึกอัศจรรย์ใจ

กระดาษปอนด์เหลือใช้จากงานศิลปะของพ่อ
พี่ใหญ่เก็บมาตัดให้ได้ขนาดเท่ากัน
รันหมายเลขเก้าตัวเป็นธนบัตรใบละร้อย ใบละห้าร้อย
น้องน้องก็มีหน้าที่ฝนตราประทับพระบรมฉายาลักษณ์
(ทาบกระดาษบนเหรียญบาทซึ่งขณะนั้นขนาดเท่าเหรียญสิบ)
แล้วใช้ปลายดินสอระบายไปบริเวณที่เป็นลายนูน
เท่านี้เราก็มีธนบัตรใช้ในครัวเรือนสตางค์ทอนเหรอ..ฝาขวดน้ำอัดลมไง..

เมื่อเก็บรวบรวมได้สักจำนวนหนึ่งพวกเราจะเอามาทุบให้แบน
ทาสีแดง สีเขียว เป็นเหรียญสำหรับทอน
เมื่อเกิดสภาวะฝืดเศรษฐกิจไม่คล่องตัว
หมายถึงเงินไปกองอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง
พี่ใหญ่จะให้คนหมดทุนสร้างงาน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียน
ทำอะไรหรอ.. ก็แล้วแต่ความถนัด.(ทันสมัยมาก)
สร้างหนังแผ่น วาดภาพใส่กระดาษเหลือใช้
เป็นเรื่องราวบ้าง เป็นการ์ตูนบ้าง ฉันเลือกดัดแปลงเทพนิยายกริม์
โรงฉายก็หัวเตียงหลังใหญ่ของพ่อนั่นเอง
ด้านหลังของช่องโคมไฟมีช่องเล็กเล็กเลื่อนเปิดได้จากด้านหลัง
เจ้าของเรื่องผู้ฉายเองพากย์เองจะต้องเข้าไปนั่งอยู่ด้านหัวเตียง
ใส่หนังแผ่นทีละแผ่นให้ผู้ดูผู้ชมที่จ่าย"สตางค์"แล้ว
นอนเรียงเหยียดยาวเป็นแถวบนเตียง

ซึ่งสมาชิกก็ครบหมดทุกคนทุกครั้ง
แม้แต่พี่รอง ซึ่งค่อนข้างจะสารนิยมหน่อยก็ยังอุตส่าห์มานอนเรียง
บางครั้งพ่อประสมโรงด้วย และวันนั้นจะเป็นวันพิเศษเลยทีเดียว
..คนพากษ์พากษ์สุดฤทธิ์สุดเดช..
หนังแผ่นบางเรื่องจะถูกร้องขอให้ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนคนพากย์โวยวาย และรับปากจะสร้างเรื่องใหม่..

"กองคลัง" ก็พี่ใหญ่อีกนั่นแหล่ะ มีหน้าที่ออกธนบัตร
และกระจายรายได้จาก"สลากกินแบ่งรัฐบาล"
อือ..แก้วใสมานั่งนึกถึงแล้วอดยิ้มกับความคิดในวัยนั้น
พวกเราช่างน่ารักกันนัก ไม่รู้คิดกันได้ยังไง
ตัวเลขจากสลากที่จำหน่ายจะถูกเขียนใส่วงกลมแล้วก็ "ปาเป้า"
เจอเลขสลากของใครก็รับ "สตางค์"ไปตามเลทรางวัล

เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดพวกเราก็ขลุกกันอยู่ในอาณาจักรของเรานั่นเอง
ไออวลของความหลังยังหอมหวานอยู่ในใจของพวกเราเสมอ
ร่มไม้ชายคาที่เคยเป็นที่จำลองโรงละครเล็กเล็กนั้นยังมีรัก
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะผ่านร้อนหนาวเท่าใด
ทุกครั้งที่เหน็ดเหนื่อยจากโรงละครโรงใหญ่
ฉันจะกลับไปที่โรงละครโรงเล็กที่ยังมีฝันให้เติมเต็ม.





Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 มีนาคม 2553 11:54:10 น. 1 comments
Counter : 472 Pageviews.

 
ร่มไม้ชายคาที่เคยเป็นที่จำลองโรงละครเล็กเล็กนั้นยังมีรัก
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะผ่านร้อนหนาวเท่าใด
ทุกครั้งที่เหน็ดเหนื่อยจากโรงละครโรงใหญ่
แก้วใสจะกลับไปที่โรงละครโรงเล็กที่ยังมีฝันให้เติมเต็ม.


โดย: Peakroong วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:11:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.