บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 

เปรู 8 - ใจกลางกรุงลิมา (Lima Centro)


กรุงลิมา - นครแห่งเหล่ากษัตริย์ (The City of Kings) ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคของประเทศเปรู ....เป็นเมืองและเขตนครหลวงที่สำคัญที่สุดแห่งในทวีปอเมริกาใต้

หลังจากพิชิตชาวอินเดียนพื้นเมิืองได้  ผู้บุกเบิกชาวสเปน Francisco Piazrro ก็สร้างเมืองลิมา บนฝั่งแม่น้ำรีมัก (Rimac) เมื่อว้นที่ 18 มกราคม ค.ศ 1535 ........ภายใต้การปกครองของสเปน เมืองลิมาและศาสนาเจริญขึ้นมาก จนได้ชื่อว่า "กรุงโรมแห่งอเมริกาใต้" แต่ก็มีความขัดแย้ง เหลื่อมล้ำ และเสียงเรียกร้องเอกราช   สุดท้าย ในวันที่ 28 กค. ค.ศ 1821 นายพลซานมาร์ติน ได้ประกาศเอกราชที่กรุงลิมา แต่เมืองอื่น ๆ ของเปรูก็ยังคงตกอยู่ใต้อำนาจสเปน  

ต่อมาจึงได้รับการปลดแอกโดยกองทัพของโบลิวาร์ กองทัพสเปนยอมแพ้อย่างราบคาบ ในปี 1826 หลังจากถูกปกครองโดยสเปนเป็นเวลาถึง 300 ปี   ..แต่เปรูก็ยังคงเป็นประเทศที่มีปัญหาภายใน ความแตกแยก ความยากจน และอิทธิพลของยุคอาณานิคมในอดึต  

กรุงลิมาเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเปรู  ตั้งอยู่บริเวณที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขา Chillon แม่น้ำ Rimac และ Lurin ณ ชายฝั่งในภาคกลางของประเทศ หันหน้าไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิค



ที่ลิมา ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสถึงความเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรม มีศูนย์กลางประวัติศาสตร์กรุงลิมา "Historic Centre of Lima" ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งต่อมาได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี 1988..... ปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเปรู

Plaza de Armas (Plaza Mayor)

เขตใจกลางเมือง จตุรัสอาร์มัส (Plaza de Armas) หรือ Plaza Mayor  เปลี่ยนชื่อเมื่อปี 1988  เป็นศูนย์กลางอำนาจของอาณานิคมใหม่มาหลายศตวรรษ  และยังคงเป็นจตุรัสที่คึกคัก และสวยที่สุดในเมือง ตรงกลางจตุรัสมีสวนกุหลาบ น้ำพุหินซึ่งสร้างมาตั้งแต่ ปี 1650  และที่นั่งพักผ่อนค่ะ





ณ ศูนย์กลางประว้ติศาสตร์กรุงลิมา Plaza de Armas รอบจตุรัสเรียงรายไปด้วยเหล่าอาคาร รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญของประเทศหลายแห่ง 

Palacio Presidencial 


สถานที่ตั้งของ Palacio Presidencial  มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ 2 ประการ คือ เคยเป็นที่พำนักของ Taulichusco ผู้ปกครองหุบเขา Rimac  และเป็นสถานที่นายพล Jose de San Martin ประกาศอิสรภาพของประเทศเปรู เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พศ. 2364 (1821)  

ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของจตุรัส ฐานตัวอาคารเป็นฐานเดิมที่ Pizarro สร้างไว้ ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่อด้วยอิฐ  ....แต่ตัวอาคารด้านหน้าสร้างขึ้นใหม่ในปี 1937 .....Pizarro ใช้อาคารนี้่เป็นสำนักงานใหญ่ในการปกครอง  จนถึงปี 1541 ที่เขาถูกลอบสังหาร



ประวัติศาสตร์ของอาคารนี้เต็มไปด้วยการนองเลือด เมื่อ ใกล้จะแล้วเสร็จใน ปี 1536.... ชาวอินเดียนได้ก่อกบฎขึ้นมา และกรุงลิมาถูกล้อมด้วยกองกำลัง....อาคารถูกปรับให้เป็นป้อมปราการ ซึ่งมีกำแพงอิฐล้อมรอบ หลังจากการต่อสู้อยู่นาน 12 วัน ....Pizarro ก็สามารถเอาชนะชาวอินเดียนได้   หาก Almagro ที่เคยร่วมพิชิตประเทศเปรู กลับมาเป็นศัตรู และถูกประหารโดยน้องชายของ Pizarro   ....แต่บุตรชายของเขาหนีรอดไปได้ และได้กลับมาแก้แค้น และลอบสังหาร Pizarro เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน คศ.1541 ร่างของ Pizarro ถูกฝั่งไว้ที่ Cathedral โดยไม่มีเครื่องหมายใด ๆ ........จนกระทั่งปี 1944 จึงได้มีการนำร่างเขาออกมา และเก็บไว้ในโรงแก้ว ณ ห้องใต้ดินของโบสถ์ Cathedral

 มีการเปลี่ยนเวรทหารองครักษ์ เวลา 12.00 น. และมีการเดินของแถวทหารซึ่งยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ทุกประการ 

Archbishop's Palace


ปราสาทอาร์คบิชอป (Arbishop's Palace) ตั้งอยู่บนฝั่งตรงข้ามจตุรัสอาร์มัส ติดกับ Cathedral de Lima ซึ่ง Pizarro เลือกให้เป็นที่พำนักของหัวหน้าสงฆ์ของลิมา หลังการก่อตั้งเมือง ในปี 1535 

....ปัจจุบันเป็นที่พำนักของอาร์คบิชอปแห่งลิมา และเป็นสำนักงานใหญ่ของคริสตจักรโรมันคาทอลิคของเปรู ......อาคารปัจจุบันเปิดใช้เมื่อเดือนธันวาคม 1924 





 Arbishop's Palace จัดเป็นปราสาทที่มีมุขระเบียงไม้ที่สวยที่สุดของเมือง .. ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างชั้นยอดของสถาปัตยกรรมสมัยอาณานิคมยุคใหม่ (neo-colonial) ที่พัฒนาขึ้นมาในลิมา ระหว่างต้นศตวรรษที่ 20  

Cathedral

Cathedral de Lilma แสดงถึงความเกรียงไกรของสเปนในยุคอาณานิคม   วิหารนิกายโรมันคาทอลิค เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 1535 หลังการก่อตั้งเมืองลิมาไม่นาน ... ณ ที่เคยเป็นที่ตั้งของ Puma Inti pre-Hispanic temple เพื่อแสดงถึงชัยชนะของศาสนาคริสต์  


วิหารที่เห็นในปัจจุบัน ผ่านการสร้างใหม่หลายครั้ง ตั้งแต่ปลาย ศต. ที่ 18 เป็นต้นมา จากความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะครั้งร้ายแรงในปี 1746  




ซุ้มประตูด้านหน้ามีทางเข้าหลักสามบาน ประตูกลางได้รับการขนานนามว่า "ประตูแห่งการอภัย" (the Door of Forgiveness)   ...โดยรวม มีทางเข้าทั้งหมด 8 ทางค่ะ


     สิ่งที่โดดเด่นของวิหาร คือ โถงด้านหน้าที่มี รูปพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู (Sacred Heart of Jesus) และรูปปั้นของสาวกทั้งสิบสอง (ที่เห็นเป็นสีไม้) ทั้ง 2 ด้าน  



ปัจจุบัน วิหารแห่งลิมาประกอบด้วยวัดน้อย 16 หลัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ หลังที่ฝั่งศพของ Francisco Pizarro ...งานศิลปะทั่วทั้งโบสถ์ที่เด่น ๆ ประกอบด้วยใบไม้ที่ทำจากไม้และทองศิลปะแบบ baroque และรูปแกะสลักแบบ ศต.ที่ 17 ของลิมาที่สวยงาม ส่วนหนึ่งของวิหารแห่ง ลิมา ณ วันนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะศาสนา (museum of religious art)  แสดงภาพวาด ภาพแกะสลัก ที่น่าประทับใจ มากมาย รวมอยู่ในศิลปะ และนิทรรศการทางศาสนาอื่น ๆ ที่มีความเก่าแก่ย้อนไปถึง ศต. ที่ 17 

Palacio Municipal

ที่ทำการเทศบาลเมือง ตั้งอยู่ด้านหน้าของ Plaza de Armas เป็นอาคารหลังใหม่ที่สร้าง และเปิดในปี 1944 หลังจากที่ตัวอาคารเดิมถูกเพลิงไหม้และแผ่นดินไหว ในปี 1932 ..




ด้านหน้าของอาคารใหม่นี้สร้างตามแบบนีโอคลาสสิค (neo-classical) เหมือนโครงสร้างเดิม และคงระเบียงมุขที่ทำด้วยไม้ ที่งามจับตา ส่วนภายในกลับได้รับอิทธิพลบางประการ จากสมัยเรเนซองส์ของฝรั่งเศส ตกแต่งด้วยบันไดหินอ่อน กระจกกรอบสีทอง และโคมแก้วระย้าภายในมีห้องสมุดที่เก็บเอกสารสำคัญ  ๆ ของประเทศ เช่น ต้นฉบับ "กฏบัตรการตั้งกรุงลิมา" (Charter of Foundation of Lima) ลงนามโดย Francis Pizarro และ "คำประกาศอิสรภาพ" (Declaration of Independence) 

Plaza San Martin

จตุรัสซานมาร์ติน... เป็นอีกจตุรัสที่คึกคักที่สุด เชื่อมต่อกับจตุรัสอาร์มัสโดยถนนฮีรอง เดลา อูนิออง (Jiron de la Union)...... ซึ่งเคยเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ทันสมัยในอดีต และยังมีชีวิตชีวาอยู่ในปัจจุบัน 



ที่ถนน Jiron de la Union เราผ่านโบสถ์ Iglesia de Santo Domingo ที่สวยงาม

Plaza San Martin ... อยู่ในเขตศูนย์กลางประวัติศาสตร์ และมรดกโลกของลิมา  เปิดเดือนกรกฎาคม พศ. 2464 (1921) ... เพื่อฉลอง 100 ปี การเป็นเอกราชของประเทศเปรู



....อนุสาวรีย์ที่อยู่ตรงกลางเป็นอนุสรณ์สถานที่แสดงความเคารพแก่ผู้ปลดปล่อยประเทศเปรู คือ Jose de San Martin  ออกแบบโดยช่างปั้นชาวสเปน แสดงถึงชัยชนะ และเป็นภาพของ San Martin ระหว่างการเดินทางข้ามเทือกเขาแอนดิส







การออกแบบ ตกแต่ง ประดับประดา และการจัดสวน ออกแบบโดย Manuel Piqueras Cotoli ม้านั่งและราวจับทำด้วยหินอ่อน พื้นปูด้วยหินแกรติต  ..มีน้ำพุประดับทั้ง 4 ด้าน ตะเกียงไฟถนนทำด้วยทองเหลือง



จตุรัสนี้ถือเป็นพื้นที่ของสาธารณะชนมากที่สุดค่ะ ใครอยากแสดงความคิดเห็นอย่างไร ก็มาที่นี่ มีคนฟังบ้าง ไม่มีบ้าง

เราผ่านเขตประวัติศาสตร์และมรดกโลกของลิมา มาตลอดวันแล้ว ไปดูบรรยากาศ ความสวยงามยามค่ำคืนกันบ้างค่ะ



Plaza de Armas หรือ Plaza Mayor


Palacio Presidencial






มุขระเบียงของ Archbishop's Palace ที่งามยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องแสงไฟ







ณ บันไดของ Lima Cathedral มีชาวกรุงลิมามากมาย มานั่งชมพักผ่อนและชมความสวยงามของจตุรัสอาร์มัส และอาคารโดยรอบ




ท้ายสุด Palacio Municipal ที่สวยงามไม่แพ้อาคารอื่น ณ ใจกลางกรุงลิมา - ศูนย์กลางแห่งประว้ติศาสตร์ของเมือง

ขอบคุณข้อมูลจาก 
//www.peruthisweek.com
//theonlyperuguide.com
//travel.thaiza.com

//www.limaeasy.com




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2558
0 comments
Last Update : 14 กันยายน 2558 15:07:21 น.
Counter : 2637 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.