บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 กรกฏาคม 2560
 
All Blogs
 
ตอน 1 - จะได้ไปอียิปต์แล้วค่ะ




หลังจากเขียนบันทึกเมื่อครั้งไปศรีลังกาแล้ว 2 สว. ก็หายหน้าหายตาไปเสียนาน เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ลุงกับป้าแล้วค่ะ แต่เป็นตากับยาย ที่หายไปก็ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่บ้านเลี้ยงหลานชาย ตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน จนตอนนี้ก็ 11 เดือน เกือบขวบแล้วค่ะ  เวลาทั้งหมดก็อยู่กับเขานั่นแหละ

แต่เอาเถอะ ต้องหาเวลาให้ได้สักนิด เพื่อย้อนอดีตถึง 2 ประเทศ ที่เป็นประเทศแรก ๆ ที่อยู่ในรายการว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแบกเป้ ทั้ง ๆ ที่ ก็รู้จักแค่มหาปิรามิด และสฟิงห์ เท่านั้น ก่อนที่จะมาเริ่มแบกเป้เป็นเรื่องเป็นราว เราไปไหนมาไหนกับกลุ่มทัวร์ค่ะ แต่ขนาดไปกันเป็นกลุ่ม ไม่ต้องทำอะไร ก็ยังไม่ได้ไปเลย 

จนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ที่ 2 สว. หันมาแบกเป้แทนไปกันเป็นกลุ่ม  เพราะถึงแม้ว่าจะสะดวกสบาย แต่เราก็ขาดประสบการณ์อะไร ๆ ไปมากมาย จึงหันมาจัดการการเดินทางของตัวเองดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ แต่ละเส้นทางก็ใช้เวลาอ่านหนังสือ หาข้อมูล เตรียมการกันเป็นเดือน ๆ การแบกเป้ของเราเริ่มจาก ประเทศเนปาล ตามมาด้วยฝรั่งเศส แล้วก็เก่งกล้าจนไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งลุงจัดเส้นทางตามความฝันของลุง คือ เริ่มต้นที่ ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วนั่งเครื่องจากฝั่งตะวันตกมาตะวันออก สิ้นสุดที่นิวยอร์ค น้่งเครื่องย้อนกลับมาที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ซื้อทัวร์ไปแกรนแคนย่อน จากนั้นก็นั่งรถบัสย้อนมาที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วก็หาประสบการณ์จากการนั่งเกร์ยฮาวน์ (Grey Hound) กลับมาซานฟรานซิสโกค่ะ 

จากอเมริกา เราก็ไปเมืองจีนอีกครั้ง แต่ยังไปกับทัวร์ ยังกล้าที่จะไปเอง เพราะไปถึง 2 อาทิตย์ เป็นเส้นทางสายไหม จากเฉิงตู (Chendgu) ต่อไปหลานโจว (LanZhou) ตุนฮวง (Dunhuang) ฮามิ (Hami) เทอร์ฟาน หรือ ทรูฟาน (Turpan) สุดปลายทางที่อูรูมูฉี (Urumuqi) แล้วย้อนกลับมาเฉิงตู เป็นเส้นทางที่เปลี่ยนพาหนะหลากหลาย ทั้งเดินทางและนอนบนรถไฟ นั่งเครื่องภายในประเทศ นั่งรถบัสข้ามทะเลทรายเป็นวัน ๆ (ทะเลทรายที่คิดว่าจะร้อนสุด ๆ ที่ไหนได้ นอกรถ ลมแรงมาก ๆ หนาวยะเยือก)  สรุปแล้วเป็นเส้นทางสายไหมที่สุดจะประทับใจ แล้วก็คุ้มค่าที่สุดทั้งประสบการณ์ เวลา และราคาทัวร์ 

จากนั้น ก็ถึงเวลาชีพจรลงเท้าอีกครั้ง ลุงว่าไปอียิปต์กันเถอะ แต่ก็ยังกลัว ๆ กล้า ๆ จะปลอดภัยไหมนะ ทั้งเรื่องการเดินทาง ผู้คน จะพูดกันรู้เรื่องหรือเปล่า อากาศเป็นอย่างไร และอีกสารพัดความกังวล  แต่แล้วก็ตัดสินใจไปก็ไป จึงเริ่มเตรียมข้อมูลกันเป็นการใหญ่ 

แต่ลุงยิ่งกว่านั้นอีก จะเดินทางไกลอีกแล้ว ต้องไปให้คุ้มค่าเครื่องหน่อย เราก็ไม่ได้มีทุนหนา อายุก็ไม่ใช่น้อย เหลือเวลาชีวิตอีกไม่นานหรอก ที่จะได้ไปเดินท่อม ๆ ต่างแดน ก็เลยบอกว่า "รวบ 3 ประเทศ เลย อียิปต์ อิสราแอล และจอร์แดน"  แล้วก็กางแผนที่ ไปอย่างงี้ อย่างงี้ คำตอบที่ให้กับลุงก็คือ ไม่ไหวหรอก หาข้อมูลเยอะเกินไป ปัญหาสำคัญ คือ การข้ามแดนทางบก ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ การหารถที่จะไปแต่ละจุด เพราะเราประเภทแบกเป้ ใช้รถประจำทางสาธารณะแบบคนท้องถิ่น ไม่มีการเช่ารถ หรือใช้แท๊กซี่ กลัวมากที่สุดคือ เรื่องการสื่อสาร ฯลฯ ถ้าไป 3 ประเทศ มีสิทธื์เดี้ยงกลางทาง แค่ 2 ประเทศก็พอ คือ ประเทศอียิปต์ และจอร์แดน 

สำหรับจอร์แดนนี่แทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้จักแต่มหานครเพตรา จากภาพยนตร์เรื่อง Indianna Jones  กับ Dead Sea เท่านั้น แต่ลุงเขาขยันค่ะ เขาชอบหาข้อมูลที่เที่ยว แล้วก็ถามว่าตรงนี้ ๆ จะไปไหม  ป้าก็ไม่รู้อะไร อย่างไรก็ได้ งานนี้ช่วยกันเตรียมข้อมูลกันนาน  ใช้คอมพิวเตอร์ PC เป็นหลัก มีคู่มือเป็นหนังสือ  และ Lonely Planet ฉบับ Cairo แล้วก็บันทึกไว้ เอามาเรียบเรียง แล้วก็เอาไปพิมพ์ ทุกอย่างบันทึกลงแผ่นกระดาษหมด ส่วนจอร์แดน มีข้อมูลนิดหน่อยจากหนังสือ Let' s Go Egypt นอกนั้นก็หาเอาใน internet ค่ะ ข้อมูลเที่ยวจอร์แดนนี่่ ก็ได้มาเป็นเล่มเหมือนกัน แต่เป็นฉบับของเราเอง




การเดินทางครั้งนี้ ลุงเป็นหัวเรือใหญ่ จัดการทั้งรายการเที่ยว ข้อมูล การเดินทาง ฯลฯ ทั้งที่ภาษาอังกฤษของลุง ก็แสนจะแข็งแรง 5555
แล้วทั้ง 2 ประเทศ ใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษาประจำชาติ  ลุงเขาสนใจเรื่องตัวเลขอารบิค จดไว้เที่ยบกับเลขสากล ช่วยได้มากเลยค่ะ  แค่ 1 - 10 เท่านั้น ทำให้เราได้มิตรภาพจากคนอียิปต์พอควรเลย




เรื่องตั๋วเครื่องบิน เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ให้บริษัททัวร์ Gotogether ที่พอดีมาเปิดที่เชียงใหม่ใหม่ ๆ จัดการให้ ได้สายการบิน Egypt Air เดินทางจากกรุงเทพ ไปอียิปต์ แล้วจากอียิปต์ ไปจอร์แดน ส่วนเที่ยวกลับจากจอร์แดน ต้องย้อนกลับมาเปลี่ยนเครื่องที่กรุงไคโร อียิปต์ แล้วถึงกลับเมืองไทย รวมทั้งจัดการเรื่องวีซ่าทั้ง 2 ประเทศให้ด้วย เวลาเดินทางทั้งหมด 25 วันค่ะ

เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิที่เพิ่งเปิดใช้อย่างเป็นทางการได้ไม่นาน เวลาเที่ยงคืน 45 นาที เรื่องที่ทำให้แปลกใจมากบนเที่ยวบินเที่ยวนั้น คือ นอกจากจะมีคนไทย 3 - 4 คน ชาวต่างชาติอื่น ๆ หากผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวจีน การประกาศบนเครื่อง ก็มี 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ อาหรับ และจีน มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องเป็นคนไทย 1 คน ที่พูดภาษาจีนได้ ตอนนั้น งง ๆ ชาวจีนไปทำอะไรที่อียิปต์ .. คือ ยังงมโข่งอยู่ที่ไหนไม่รู้ ถึงไม่รู้ถึงศักยภาพของชาวจีนที่บุกไปทั่วสารทิศ (ช่วงเวลานั้น นักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่บุกมาเชียงใหม่เลยค่ะ)  แต่พอไปถึงอียิปต์ - จอร์แดน เราก็ถึงบางอ้อล่ะ

 มาถึงกรุงไคโร 8 โมงเช้า เวลาที่อียิปต์ช้ากว่าบ้านเรา 5 ชม. เช่นเคยค่ะ พอผ่าน ตม. รับประเป๋า แลกเงินเสร็จ ผู้โดยสารเกือบทั้งหมดก็พรึบ ๆ หายไปตามทางของตัวเอง เหลือแต่เราที่ลากกระเป๋าเก้ ๆ กัง ๆ ออกมานอกอาคารผู้โดยสาร แล้วก็มีชายชาวอียิปต์ใส่สูทคนหนึ่งเดินมาถามว่าจะไปไหน ก็บอกจะไปขึ้นรถบัสเข้าเมือง เขาก็พยักหน้าแล้วก็จากไป อีกแป๊บเดินกลับมา บอกว่ารถบัสจอดอยู่ตรงนั้น ๆ นะ ... ขอบคุณครับ-ค่ะ เป็นความประทับใจแรก จากประเทศและผู้คนที่เรากลัว ๆ กันอยู่ จากวันแรกจนวันกลับ เราพบน้ำใจของคนอียิปต์ และจอร์แดน เกือบทุกที่ที่ไป ผู้คนก็เป็นมิตรมาก ๆ  ซึ่งคิดว่าหาได้น้อยแล้วที่บ้านเรา

ขึ้นรถบัสเข้าเมืองแล้ว จากสนามบินก็มีแค่ สว. 2 คน แล้วผู้โดยสารก็ทะยอยกันขึ้นระหว่างทาง เราจับจองที่นั่งด้านหลังคนขับ เพราะต้องบอกว่าจะไปลงที่ไหน แล้วก็บอกว่าจอดที่ Ramses train station (สถานีรถไฟรามเสส) นะ คนขับ งง ๆ เอาอีกแล้วพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วไง "สถานีรถไฟรามเสสจ้า" งง ๆ อีก "ที่ไหนน่ะ" "รามเสส ๆๆๆ จ้า" และแล้ว พระเจ้าช่วย คนขับก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยายนี่พูดไม่ชัดแน่ ๆ แล้วก็ร้องออกมาว่า "โอ้ รามซิส ๆๆๆ" ใครจะไปรู้ว่าที่นี้ เขาพูดว่า "รามซิส" บ้านเรา "รามเสส" กันทั้งน้าน คนขับจอดให้ลงที่ "สถานีรถไฟรามเสส" ตามต้องการ  จากนั้นมาก็ไม่เคยบอกว่าจะลงที่ "รามเสส" อีกเลย ได้แต่ "รามซิส ๆๆๆ" แล้วก็ไม่เคยพลาดที่หมายเลยค่ะ 

จำได้แบบเบลอ ๆ (ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน) พอลงจากรถลุงก็พาเดินลากกระเป๋าข้ามไปอีกฝั่ง ไปสถานีรถไฟกรุงไคโร ที่หน้าสถานีมีพนักงานกวาดถนนจับกลุ่มกันกินข้าวอยู่ 5 - 6 คน คนหนึ่งเป็นหนุ่มผิวขาว หน้าตาดี หันมาเห็น 2 สว. ที่กำลังลากกระเป๋ามา ก็ยิ้มให้และพยักหน้าให้กินข้าวด้วยกัน เราก็ยิ้มให้และขอบคุณ ใครจะไปนึกว่าแค่ 2 ชั่วโมงกว่าที่แตะแผ่นดินอียิปต์ ก็ได้เห็นมิตรภาพที่ชาวอิยิปต์มีต่อคนแปลกถิ่นแล้ว 




จากนั้นก็ไปจองตั๋วรถไฟไปอัสวาน (Aswan) ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่บริเวณ Upper Egypt ทั้ง ๆ ที่ตามแผนที่อยู่ทางด้านทิศใต้  ส่วนกรุงไคโรอยู่ในส่วน Lower Egypt ทั้ง ๆ ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ (ประวัติศาสตร์ของ Upper และ Lower Egypt ยาวเหยียดล่ะค่ะ)  




ตามแผนของลุง คือ ไปไกลก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมา ณ จุดเริ่มต้น  จากกรงไคโร (Upper Egypt) นั่งรถไฟไปอัสวาน (Aswan - Lower Egypt) ย้อนขึ้นมาที่ลุกซอร์ (Luxor) แล้วกลับมาที่ไคโร ทุกครั้งที่จัดเส้นทางอย่างนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องกระหืดกระหอบในวันท้าย ๆ 




ตั๋วรถไฟนั่งจากกรุวไคโรไปอัสวาน วันที่ 7 พฤศจิกายน 2006 รถออกใกล้ 4 ทุ่ม ราคา 94 พาวด์ อียิปต์ใช้เงิน  Egyptian Pound (EGP) แต่ออกเสียงว่า "พาวด์" ไมใช่ "ปอนด์" เราก็ "พาวด์" ตามค่ะ ไม่งั้นจะงง ๆ กันอีก จากนั้นก็เอากระเป๋าไปฝาก คราวนี้ก็เดินตัวปลิว ออกไปสำรวจกรุงไคโรได้แล้ว มีเวลาตั้งแต่สาย ๆ ถึงมืด แล้วก็ดูที่พักไว้ด้วย ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในหลาย ๆ วันข้างหน้า

บล๊อคหน้าค่อยไปดูว่าวันแรกที่กรุงไคโร  2 สว. ไปไหนกันบ้าง ไปกันแบบมึน ๆ เบลอ ๆ นั่นแหละค่ะ 




Create Date : 01 กรกฎาคม 2560
Last Update : 25 กรกฎาคม 2560 5:35:43 น. 3 comments
Counter : 1692 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณพูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ


 
ตามมาเที่ยวอียิปต์ ด้วยคนค่ะ



โดย: ann_shinchang วันที่: 25 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:53:59 น.  

 
รออ่านตอนต่อไปไม่ไหว ทริปนี้หนูติดตามเลยค่ะ หนูอยากไปเหมือนกัน


โดย: together_ws วันที่: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา:0:09:39 น.  

 
มีแฟนขับคอยติดตามแล้ว
อ่านแล้วเห็นภาพเลย ตอนนั้นคงทุลักทะเลน่าดูเลยเนอะ
โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอคนดีๆ มีน้ำใจ


โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ วันที่: 31 กรกฎาคม 2560 เวลา:11:31:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.