Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 1920579 :

ตอน 5 - เทวาลัยป้อมหิน ตริชี่

เช้านี้ไปชมเทวาลัยป้อมหิน (The Rock Fort Temple) กันค่ะ

เทวาลัยป้อมหิน (The Rock Fort Temple)

ป้อมหิน (Rock Fort) เป็นป้อมปราการทางประวัติศาสตร์ และศาสนสถานมานานกว่าพันปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนกลางของเมืองตริชี่ ใต้ฝั่งแม่น้ำเกาเวริลงมาเล็กน้อย โขดหินนี้ถูกดัดแปลงจากสภาพธรรมชาติ โดยมีการเจาะเป็นถ้ำมาตั้งแต่สมัยปัลลวะ แต่มากลายเป็นเทวสถาน ในช่วงเมื่อนายกะ แห่งมธุไรแผ่อิทธิพลมาถึง โดยทั่วไปที่นี่จะถูกกำหนดอายุว่า เป็นเทวสถานในสมัยปัลลวะ ราว คศ. ที่7 ส่วนป้อมหินอาจมีอายุเก่าแก่ถึงล้านปี

ประตูทางเข้าหลัก

ผ่านโคปุรัมเข้ามาก็มีแผงขายดอกไม้ และร้านค้าเรียงราย

รอซื้อตั๋ว แล้วก็เดินไปตามบันไดหินภายในถ้ำ

โถงบริเวณนี้ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเทวาลัยพระศิวะ (Arulmigu Thayumanaswamy Temple)

ระหว่างทางภายในถ้ำ

ระหว่างทางเมื่อพ้นถ้ำ

หนุ่มอินเดียมาทักทาย

เทวาลัยป้อมหิน (Rock Fort Temple) เป็นสัญญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง มีความสูง 83 เมตร และมีบันไดขึ้นไปกว่า 400 ขั้น ที่เรียกรวมกันว่าเทวาลัยป้อมหินนี้ มีเทวาลัยตั้งอยู่ข้างบน 2 แห่ง คือ เทวาลัยพระศิวะ (Arulmigu Thayumanaswamy Temple) และ เทวาลัยพระคเณศ (Vinayaka Temple - Ganesh)

เทวาลัยพระศิวะ (Arulmigu Thayumanaswamy Temple) เป็นถ้ำอยู่ระหว่างกลางของป้อมหิน สร้างในสมัยปัลลาวะโดยพระเจ้ามเหนทราวรมันต์ ที่ 1 ในศต. ที่6 (Mahendravarmai I) ที่ตัดหินเข้าไปเป็นถ้ำ ในภาพจะเห็นยอดของเทวาลัยค่ะ

ลานพักระหว่างทาง เพื่อนนักเขียนกำลังจดบันทึก คนไม่ได้จดก็ชมวิวไป

จากนั้นก็เดินต่อขึ้นไปยังเทวาลัยพระคเณศ

เทวาลัยพระคเณศ เป็นเทวาลัยฮินดู ศต. 17 มีลูกกรงกั้นโดยรอบ กลายเป็นจุดชมวิวเมืองตริชี่

แม่น้ำเกาเวริ และโคปุรัมแห่งศาสนธานีศรีรังคาม

Lourdes church

สะพานทั้งสองที่เชื่อม 2 ฟากฝั่งของตริชี่

แล้วก็ได้เวลาเดินลงค่ะ

ออกจาก Rock Fort Temple ก็สายแล้ว ร้านค้าเริ่มเปิด มีร้านขายผ้าอยู่หลายร้าน เข้าไปร้านหนึ่งที่ใหญ่พอควร ผ้าส่าหรี ผ้าตัดเสื้อชายหญิง ละลานตา แค่ชี้ผืนไหน พ่อค้าผ้าชาวอินเดียก็ใจดีคลี่มาให้ดู จนเต็มไปหมด ได้มา 1 ชิ้น ลวดลายเป็นอย่างนี้ค่ะ

ผ้าผืนนี้มีความยาวประมาณ 5 เมตร มีลายตรงกลาง ด้านข้างและปลายเป็นลายทึบ มีผ้าชิ้นเล็กอีกผืนราว 1 เมตร สำหรับตัดเสื้อ รวมราคาประมาณ 170 บาท แพรวบอกว่าถูกมาก ลายก็สวย เลยซื้อมาซะหลายผืนเลย กลับถึงที่พัก เช็คเอาท์เพื่อต่อไปมธุไร

แวะกินมื้อกลางวันที่โรงแรม ดูหรูล่ะ โต๊ะเป็นหินอ่อน วันก่อนที่มาก็กินที่นี่ เป็นเวลาเที่ยงพอดี คนเยอะมาก ก็นึกว่ามีงานเลี้ยงกัน ก็เลยสั่งอาหารตามเมนู รอนานมาก วันนี้บอกเอาแบบที่คนอื่นกำลังกินน่ะแหละ รวดเร็วเลยค่ะ เพราะเขามีอยู่แล้ว พอสั่งปั๊บก็ได้ใบตองมาวางบนโต๊ะ 3 ใบ พร้อมตักเครื่องเคียงวาง แล้วใจดีอธิบายด้วยว่าอะไรเป็นอะไร คือ Sambar - แกงผักจานสามัญของอินเดียใต้มักมีส่วนผสมของมะพร้าวอยู่ด้วย

ตามมาด้วยชัตนี่ (Chutney) - เครื่องเคียงหลากรูปแบบหลายรสชาด รวมทั้ง Raita - นมเปรี้ยว ต่อไปเป็นโดซา - แป้งย่างแผ่นกลม ๆ แล้วก็ข้าว

มื้อนี้เป็น Vegetarian buffet เติมไม่อั้น ราคาคนละ 30 รูปี (18 บาท) สว. 3 คนซื้อน้ำขวดแช่เย็นคนละขวด ปรากฏว่าค่าน้ำแพงกว่าค่าอาหารเสียอีก ชอบมากที่ใช้จานใบตอง วัสดุธรรมชาติ สะดวก ประหยัด ย่อยสลายได้ ที่นี่พนักงานอัธยาศัยดีมาก ผลัดกันมาดูว่ามีอะไรขาดหรือไม่ นอกจากอิ่มท้องแล้วก็ยังอิ่มใจด้วยค่ะ

จากนั้นก็ลากกระเป๋าไปสถานีรถบัสเพื่อต่อรถไปมธุไร คราวนี้สะดวกเลย แค่ข้ามถนนไปเอง

มธุไรอยู่ลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ของตริชี่ ห่างไปประมาณ 135 กม. ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชม. ผ่านมาเห็นโรงแรมที่หมายตาไว้พอดีเลยค่ะ อยู่ใกล้กับ Maduran junction เป็นโรงแรมในเครือของการท่องเที่ยวของรัฐทมิฬนาฑู (TTDC - Tamilnadu Tourism Development Corporation- //www.ttdconline.com/) คราวนี้ก็ Walkin เหมือนกัน ได้ห้องพัดลม ห้องกว้างขวาง สะดวกสบาย หน้าตาเป็นแบบในรูปที่ได้จาก internet ค่ะ

ได้ห้องพักแล้ว ก็เริ่มสำรวจมธุไรได้เลยในบล๊อกหน้าค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก //www.trichyrockfort.tnhrce.in/

Create Date : 16 มกราคม 2559

0 comments

Last Update : 29 มกราคม 2559 15:11:32 น.

Counter : 1269 Pageviews.