บริษัท Tesla ได้เป็นข่าวฮือฮามาหลายปีแล้ว เพราะเนื่องจากได้ทั้ง ผู้ว่ารัฐนักกล้ามอาโน และก็ จอร์ส คูนี่ ต่างก็เข้าคิวจองรถสปอร์ตหรู ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ล้ำสมัยที่สุดของโลก ...รถ Tesla ใช้เทคโนของ แบตคอมพิวเตอร์ แต่ที่เด็ดคือ ความเร็วและอัตราเร่งของรถ Tesla ไม่ได้ด้อยไปกว่า Ferrari แต่อย่างใด ผนวกกับรูปลักษณ์ และการออกแบบที่ "เท่ห์มาก" ทำให้"เซเลบ"ต่างเข้าคิวจอง
ย้อนดู Tesla เป็นบริษัทรถ แห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใน Silicon Valley ซึ่งข้อดีก็เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์รวม Talent ของคนที่ไม่ธรรมดาของโลกมารวมตัวกัน ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พลิกโลก...วันนี้ Tesla กำลังประสบปัญหา เนื่องจากเจ้าของ Elon Musk กำลัง"ถังแตก" (จาก Entrepreneur of the Year ปี 2007 เริ่มจากก่อตั้ง Paypal(บริษัทการโอนเงินชื่อก้องโลก)กลายมาเป็น Serial Entrepreneur โดยใช้เงินของตัวเอง Funding ธุรกิจ Innovation ใหม่ๆมากมาย ตั้งแต่ บริษัทผลิตยานอวกาศ ไปยัน รถไฟฟ้า Tesla)
ปีนี้ Tesla กำลังจะทำ IPO ขายหุ้น 178 ล้านเหรียญ (ซึ่งมี Toyota เป็นนักลงทุนหลักในการ IPO ครั้งนี้ ที่จะลงทุนประมาณ 50 ล้านเหรียญ) --ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การที่ Tesla สามารถดึงเอา Toyota เข้ามาสนใจ ถือเป็น Key Success Factor ของบริษัท Innovation เลยก็ว่าได้
ถ้าเรากระโดดไปที่จีน บริษัท BYD ก็เดินในแนวทางที่ไม่ต่างจาก Tesla แต่ที่เด็ดกว่า คือ BYD สามารถดึง Warren Buffet ให้เข้ามาซื้อหุ้นของ BYD ได้ถึง 20% (ซึ่งการดึง Buffet เข้ามาทำให้ บริษัท No nameอย่าง BYD กลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก) ผลลัพธ์ก็คือ ปี 2008 เจ้าของ BYD (นาย Wang Chuanfu)ถูกจัดอันดับให้เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีนเลยทีเดียว!!(น่าทึ่ง)