แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้านแบบ Buffet

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 กรกฏาคม 2553
 

เรื่องที่รัฐบาลไม่อยากให้คุณรู้ (แล้วคุณอยากรู้ไหม !!)

ตอน นี้รัฐบาลกำลัง "ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แล้วโปรยเงินลงมา" ตอนนี้เงิน ลอยว่อน หว่าน ไปทั่ว ..คำถามคือ เงินมาจากไหน (ตอบว่า "ไปกู้มา") จากนั้น ก็เอามาหว่าน ..คำถามต่อไปคือ "แล้วมันไม่ดียังไง!!"

ประเด็นที่ผมจะบอกคือ ไม่ใช่การทำเช่นนี้ไม่ดี --แต่ทุกการกระทำมันมี Side Effect (ผลข้างเคียง) ..ชาวบ้านเอาปลาปักเป้า กับ เนื้อคางคก มากิน ..แน่นอน มันอร่อย!!(รึเปล่า) แต่ชาวบ้านเขาก็กินกัน แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าทำผิดวิธี อาจถึง ตาย!!

วันนี้มาตรการ ต่างๆที่รัฐบาลออกมา กระตุ้นการบริโภคนี้ รวมทั้งการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การลดค่าไฟฟ้า การขึ้นเงินเดือนข้าราชการ การออกรถเมล์ รถไฟฟรี ฟรีแหลก !!--แน่นอนในมุมนึงมัน ย่อมเป็นการกระตุ้น ให้เศรษฐกิจมีการหมุนเวียน แต่ในอีกมุมหนึ่งมันคือ "การลดค่าเงินนั่นเอง"

ประเด็นของ "การลดค่าเงิน" ผมมองมาตั้งแต่วิกฤตเริ่มๆแล้ว ประเทศแรกที่ มีนโยบายลดค่าเงิน ก็อเมริกานี่แหละ (แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้) นึกว่าถือ US แล้วปลอดภัย (เขาไม่ประกาศหรอกครับ เพราะถ้าเขาประกาศ อเมริกา ก็พังซิครับ เขาเพียงแค่บิดเบือนความสนใจไปที่ ค่าเงินจีนบ้าง ยูโรบ้าง แล้วแต่โอกาสจะพาไป)--คุณลองถือ US ดอลล่าห์ ต่ออีกสัก 10 ปี แล้วค่อยเอามูลค่าที่ถือ มาดูในอีก 10 ปีข้างหน้า ถ้ามูลค่ามันเพิ่ม ผมจะเลิกวิเคราะห์!! เลิกลงทุน !! --(ไม่ใช่อะไร ! เพราะถ้าค่าเงิน US มันเพิ่ม port การลงทุนผม ซวยแน่ๆ แต่ถ้ามันลดตามที่ผมคาด "ผมก็ยิ้ม" ..ก็แค่นั้นไม่มีอะไรมาก)

วันนี้รัฐบาลไทย กำลังเดินตามอเมริกา -- คำถามคือ ถ้าค่าเงินลด แล้วอะไรเพิ่ม "ตรงนี้สำคัญ เพราะถ้าคุณเอาเงินคุณไปจอดอยู่ในสิ่งที่เพิ่ม คุณก็จะยิ้ม เมื่อมันเพิ่มจริงๆ" --แล้วอะไรล่ะที่เพิ่ม!!

ที่เพิ่มสวนมูลค่าของเงินก็คือ Asset คุณลองไปทำการบ้านดู ว่าตอนนี้ Asset อะไรที่คนไม่กล้าลง ไอ้นั่นแหละ มันจะขึ้นมากที่สุด สวนกับมูลค่าของเงินสด จากนั้นก็ลดหลั่นกันลงมา --- ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลไม่อยากให้คุณรู้ก็คือ "มูลค่าเงินมันจะลด" เพราะถ้ารู้เดี๋ยวเขาขายพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้ --เด๊่ยวไม่รู้จะไปกู้ใคร เอาเป็นว่า ใครตอนนี้ "ชิวๆ" ก็ช่วยๆชาติไป "ได้บุญ ได้บุญ" ) ไม่ว่ากันครับ !!
เขียนโดย pawawit ที่ //pawawit.blogspot.com



Create Date : 02 กรกฎาคม 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 20:05:52 น. 23 comments
Counter : 604 Pageviews.  
 
 
 
 
แล้วพ่อคุณ คิดว่า ถ้าพ่อคุณ เป็นนายก พ่อคุณ จะทำอะไร แบบไหน ท่า ไหน อย่างไร ไหน บอกยาย หน่อยซิลูก
คนทุกๆที่เขามาตรงนี้ ก็คิดแต่จะหาทางที่ดีที่สุดตามแนวความคิด ตามแนววิธีการของตนเองทั้งนั้น
ถ้าพ่อคุณคิดว่า เขาทำไม่เป็น เขาทำไม่ถูก คราวหน้า เราลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว เข้ามาช่วยประเทศชาติด้วยตัวเราเอง เลย นะพ่อ
 
 

โดย: ยาย IP: 125.24.168.222 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:33:47 น.  

 
 
 
 
 

โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:24:10 น.  

 
 
 
เห็นด้วยกับเจ้าของบล๊อคครับ


ส่วนคุณ"ยาย" ถ้ารัฐบาลทำแล้วมันดีขึ้นก็ไม่มีใครว่าอะไร ส่วนอะไรที่ทำแล้วมันแย่ก็ควรจะติติง ถูกมั้ยครับ
 
 

โดย: เหล่าฟาง IP: 125.25.182.177 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:48:24 น.  

 
 
 
สมัยเรียนมัธยมผมเคยคุยกับเพื่อนเรื่องนี้เหมือนกันว่าทำไมรัฐบาลไม่เอาเงินมาแจกคนจนเยอะ ๆ คนจะได้เลิกจน...คำตอบก็คือเงินมันก็จะไม่มีค่าใด ๆ เลยไงครับ อย่างที่คุณเจ้าของบล๊อกเขียนไว้นั่นแหละครับ

คงยังไม่เคยเจอเรื่องนี้สินะครับคุณยาย เรื่องที่ว่าไข่ใบนึงต้องเอาเงินใส่ตะกร้าไปแลก เอาตะกร้าใส่เงินวางทิ้งไว้กลับมาอีกทีตะกร้าหายไปแล้ว แต่เงินยังกองอยู่ นี่คือสภาพของการที่เงินมันลดค่าจนไม่มีค่าเหลืออยู่

ผมชอบอ่านบล๊อกของคุณ pawawit นะครับ จริง ๆ แล้วการเขียนบล๊อกที่มีสาระแบบนี้แหละครับ คือการช่วยชาติแท้จริง เพราะเป็นการส่งเสริมให้คนมีความรู้ มีแนวคิด มีมุมมองใหม่ ๆ ก็คือให้คนฉลาดขึ้นนั่นแหละครับ เป็นวิธีการช่วยชาติที่ยั่งยืนมากกว่าสิ่งใดเลยครับ
 
 

โดย: DarthTrowa วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:03:47 น.  

 
 
 
อยากเห็นบล๊อคทำนองนี้เยอะๆ
เพราะมันเป็นการสะท้อนมุมมองที่หลากหลายแตกต่าง
ก่อให้เกิดความสมดุลย์ในสังคม ไม่ใช่อะไรก็คิดอ่านไปทางเดียวกันหมด
พอใครเห็นต่างขึ้นมากลายเป็นโดนตั้งแง่ซะอย่างนั้น
ให้กำลังใจเจ้าของบล๊อคจ้า
 
 

โดย: เปิดกะลากันได้แล้ว IP: 90.224.230.93 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:3:06:56 น.  

 
 
 
ยายจ๋า
ยายคิดว่าไง ถ้ามีใครมาคิดเห็นติติงอะไรเพื่อให้มันถูกมันควร ยายก็จะตอบเขาไปแต่ว่า "...ก็หลานมาทำเองสิ" ฟังแล้วก็หดหู่นะยายนะถ้าเป้นกันแบบนี้น่ะ
 
 

โดย: ลุง IP: 115.87.209.22 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:4:24:21 น.  

 
 
 

ผมเห็นเช่นกันกับเจ้าของกระทู้ ว่านั่ง ฮ โปรย เงินลงไป

เอาชัดๆๆอีกนิดผมคิดแบบนี้ นายก จบอังกฤษ แล้วอังกฤษและยุโรป คือต้นแบบ ประชาธิปไตย มีพรรคการเมืองลงสมัคร
เสนอนโยบาย ให้คนพอใจว่าจะมาทำอะไรให้เขาดีขึ้น
คนชอบก็เลือก
แล้วเขาก็ทำโดยใช้เงิน ที่เก็บภาษีมาได้
เมื่อเงินไม่พอ เขาก็กู้ จากไม่เกินจีดีพีเท่าไร
จนหลายปีทับถมมาเรื่อยๆ ถ้ารายได้ไม่พอบ่อย
แต่ก็ต้องทำตามนโยบายเพราะบอกประชาชนจนเขาเลือกมา
จนถึงวันนี้ ความสำเร็จทางการเมือง
กลับกลายเป็นหนี้ของประเทศมหาศาล
อย่าโทษรัฐบาล
เพราะทำอะไรบอกทุกครั้ง
ในกรอบทุกครั้ง
แต่พิษที่มองไม่เห็น มันสะสม มาเอง
ให้งบศอฉ เบิก เบี้ยเลี้ยงตลอดเวลาที่ต้องรักษาสถานะการณ์ ตาม พรก (ไม่ผิด เลย ตามระบบ แปะ แต่ไม่ค่อยอยากเลิกนี่ไง ที่จ่ายเรื่อยไป เท่าไรแล้ว และจะอีกเท่าไร )
ให้งบ ปฎิรูปประเทศไทย อีกเท่าไร(เอาคนมาประชุมทำงาน ต้องมีเบี้ยเลี้ยงมี งบ ทำเอกสาร ทำ อะไรอีก )
อีกคณะ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีงบอีก
งบ
งบ
งบ
นั่นแหละที่มันจะสะสม แบบอังกฤษ ที่ท่านนายก ศึกษาผ่านมา
ตอนนี้รัฐบาลกำลังขอแก้ กฏหมาย กู้หรืออกพันธ์บัตร์ได้ไม่เกิน 60% (ของเดิมไม่เกิน 50% นักวิชาการ กำลัง ค้าน ขอเพียง นโยบาย ฉุกเฉินเถอะ อย่าให้เป็นนิสัย ทำได้ตลอดไป หรือเป็นตัวอย่างวันหลังแก้ได้อีก แล้วก็ไปจบแบบอังกฤษ ปัจจุบัน
ที่ต้องรัดเข็มขัดตัดงบประมาณกันแรงๆๆสามปี แล้วมาขึ้นภาษี เอารายได้เพิ่ม แบบยุโรป กำลังประท้วงกันตอนนี้

อ้าวนี้ยังไม่ได้ ทำอะไรแก้ไขปัญหาเลยนี้

แล้วทำไมตลาดหุ้นไทยดี เศรษฐกิจ ไทยดีแล้วเหรอ

ถ้าดีแล้วก็ไม่ต้องกู้ต้องแจกแล้วละ ซิ

ไชโย ไชโย

หรือตลาดหุ้น หลอกทรัพย์ ????

ผมชัก งง
รัฐบาลจะให้เข้าใจว่าไงหว่า
 
 

โดย: หมอสัจจะ IP: 117.47.84.32 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:13:34 น.  

 
 
 
ขอให้มีกำลังใจในการเขียนต่อไปค่ะ
 
 

โดย: sasi IP: 125.26.35.114 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:51:09 น.  

 
 
 
ผมชอบนะ ความคิดเห็นแบบนี้ ให้เห็นมุมมองของอนาคต เหมือนเรื่องน้ำจะท่วมกรุงเทพ ไม่ต้องถามว่าจริงใหม เพียงแต่ต้องเอาไปคิดต่อว่า แล้วควรจะแก้หรือจะต้องทำยังไงต่อดี ชอบครับ ต่อๆ
 
 

โดย: จริงจัง IP: 125.24.175.231 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:05:34 น.  

 
 
 
การให้ปลาแก่คนจับปลาไม่เป็นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์


ตรงกันข้าม


มันกลับนำพาให้คนนั้นไม่รู้จักวิธีหาปลา


สุดท้ายเมื่อไม่มีใครแจกปลา คนคนนั้นอาจจะอดตายได้

 
 

โดย: meawba555 IP: 124.121.207.6 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:46:29 น.  

 
 
 
อย่าไปแก้ที่ปลายเหตุ


ดูเผินๆๆเมืองไทยตอนนี้ ดีน่าดู


แต่ขยะใต้พรมมันก้เยอะ จนแทบล้นออกมา


 
 

โดย: meawba555 IP: 124.121.207.6 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:48:34 น.  

 
 
 

ทุกวันนี้ ฟรีทุกอย่าง


ไม่ได้เก็บเงินภาษีเท่าประเทศมหาอำนาจที่ 40 เปอนะ


จะได้เอาเงินตรงนั้นมาทำ
 
 

โดย: meawba555 IP: 124.121.207.6 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:53:24 น.  

 
 
 
ไข่แพงมากเพราะค่าเงินลด จะสู้เงินเฟ้อยังไงดีครับเนี่ย คนแก่เกษียณกินบำนาญจะแย่แล้วมันไม่พอยาไส้ คุณpalawit ช่วยเขียนแนะนำหน่อย เอาสักตอนก็ได้ แล้วที่คนไม่กล้าลงนี่มันอะไรครับ ช่วยใบ้ให้หน่อยก็ได้
 
 

โดย: jiang IP: 113.244.225.184 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:42:14 น.  

 
 
 
ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ ผมมองว่ามันเหมือนกับเหรียญสองด้าน จะว่าดีก็ดีไม่ดีก็ไม่ดี แต่มุมมองไหนก็ขึ้นกับว่าผู้มองมองจากมุมไหน
บางคนก็ห่วงเงินเฟ้อ กลัวว่ารัฐจะทำหนี้สาธารณะต่อหัวเพิ่ม ซึ่งคนที่เสียภาษีก็ต้องรับกรรม ชาวบ้านที่ไม่เสียภาษีก็ไม่เดือดร้อน แต่ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีจะกินก็อยากให้ช่วย อยากได้เงินอุดหนุน

แต่สุดท้ายแล้วการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงวิธีชีวิตของชาวบ้านเป็นเรื่องยาก ต้องยอมรับคนส่วนมากย้งเคยชินกับค่านิยมและวิถีชีวิตเดิมๆ รักสบายและไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ผมเคยคุยกับชาวนาคนหนึ่ง ถามเค้าตรงๆว่าทำไมไม่เปลี่ยนมาใช้เศรษฐกิจพอเพียง ลุงคนนั้นตอบว่ามันลำบากขั้นตอนมาก ซื้อเอาง่ายกว่าขายข้าวราคาไม่ดีรัฐก็ช่วย นั้นเป็นเพียงมุมมองหนึ่ง มุมมองที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คาดหวังและรอคอยการช่วยเหลือจากรัฐบาล ถ้ารัฐไม่ช่วยก็มาประท้วง และก็โดนคนบางกลุ่มใช้ประโยชน์จากประเด็นความยากจนมาเป็นเครื่องมือ สุดท้ายคนจน ชาวบ้านก็เป็นเหยื่อต่อไป

การให้ปัญญาและสอนให้ชาวบ้านพึ่งตัวเองได้น่าจะดีที่สุด
 
 

โดย: coffee4you IP: 125.26.18.118 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:48:29 น.  

 
 
 
นานาจิตตัง
 
 

โดย: เม่าหลงไฟ IP: 110.49.184.13 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:00:30 น.  

 
 
 
ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ รัฐบาลกำลังทำนโยบายประชานิยม เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากรัฐบาลในอดีต ผลประโยชน์ก็จะตกกับนักการเมือง และนายทุนระดับใหญ่ ๆ ของประเทศ เป็นอย่างนี้ไปไม่สิ้นสุด เกษตรกรบ้านเราก็ยังต้องจนกันต่อไป
 
 

โดย: Adiantum IP: 161.200.122.77 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:26:09 น.  

 
 
 
ผมก็อยากเป็นนายกฯมาแก้ปัญหาประเทศชาติเหมือนกัน แต่กลัวจะต้องถูกตัดสินจำคุก 2 ปี(เหมือนใครเอ่ยยยยย)
 
 

โดย: แมงเม่าหนุ่ม IP: 202.91.19.194 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:08:23 น.  

 
 
 
ถ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้ ก็เสนอไปเลยครับ เห็นช่วงนี้นายกกำลังจัดแคมเปญรับสายร้องเรียน/เสนอแนะ มองทั้งในมุมคุณมันก็ถูกอย่างนึง มองในมุมนายกมันก็ถูกอีกอย่างนึง

ยอดกุนซือไม่ใช่เก่งวิจารณ์..แต่เก่งแก้ปัญหานะขอรับ

ส่วนเรื่องค่าเงิน US มันเพิ่ม/ลด ขึ้นอยู่กับว่าคนถือเทียบกับอะไรนะครับ ถ้าเดา เอ๊ย วิเคราะห์ทิศทางของสามไตรมาสหน้าถูกทุกงวดผมก็คารวะแล้ว ไม่ต้องรอสิบปีหรอกครับ
 
 

โดย: แมวน้ำ IP: 10.0.3.210, 124.121.210.241 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:45:14 น.  

 
 
 
ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา
ก็หวังผลระยะสั้นกับการหว่านเงินทั้งนั้น
เพียงแต่มีความแตกต่างว่า ใครหว่านมาก/น้อย
ใครหว่านกว้าง ใครฉลาดหว่านให้ใคร ???

ส่วนการสอนจับปลา
เห็นด้วยกับหลายๆท่าน แต่ต้องมีกลยุทธ์
กระตุ้นให้คนจับปลาเกิดความอยากรู้อยากเห็น
สร้างความตระหนักรู้ให้เกิด
ไม่เช่นนั้น คนจับปลาบ้านเรา
เกินครึ่งขอให้ยื่นปลามาเลย
ไม่อยากจับมันร้อน มันเหนื่อย
เพราะอยู่สบายซะเคย
"ทำอะไรตามใจ คือไทยแท้" มันเป็นความจริง จริงๆนะ
 
 

โดย: oop!! IP: 125.25.212.70 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:24:14 น.  

 
 
 
ผมมองว่าวิธีการไหนก็ได้ ขอให้ลงมือทำ และรู้ว่ากำลังทำอะไร
ผมเห็นด้วยกับรัฐถ้าคิดว่ากำลังลดค่าเงินบาทอยู่ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เงินบาทแข็งค่าในขณะที่ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายส่ออาการไม่ดีและตั้งเป้าจะลดค่าเงินตามสหรัฐ ถ้าเราไม่ทำก่อนมันก็จะกลายเป็นสองเด้ง ไม่เป็นผลดีกับการส่งออกและท่องเที่ยว ซึ่งยังเป็นตัวหลักของประเทศ
การตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ มักมี Side Effect เสมอ ไม่มากก็น้อย สำคัญที่เรารู้และควบคุมมันได้หรือเปล่า
รัฐบาลทุกสมัย จะทำเพื่อประทศชาติเพื่อประชาชนสำเร็จหรือไม่วัดที่ผลงาน ไม่ใช่การตัดสินใจ เราจะไปเชียงใหม่ ทางเครื่องบิน หรือรถ หรือรถไฟก็ถึงเชียงใหม่ แต่ถ้าไปไม่ถึงหรือเหลวไหลค่อยมาว่ากัน
**เป็นเพียงความคิดเห็นนะ ไม่ได้ติเจ้าของกระทู้**
 
 

โดย: PLOCK IP: 222.123.178.142 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:33:21 น.  

 
 
 
น้องเค้าเขียนให้ฉุกคิดนะยาย อ่านแล้วให้เรานึกถึงอีกด้านนึง
ชอบเด็กคนนี้จัง หนุ่มรุ่นใหม่ อนาคตไกล
(ตามพี่หมอสัจจะมานะเนี่ย เป็นแฟนบล็อกของทั้งสองคนนี้อ่ะ)
 
 

โดย: smilesunset วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:3:34:10 น.  

 
 
 
ถ้ามีคนจะอดตาย ถ้าไม่เอาปลาไปให้
เขาคงอดตาย ก่อนที่เขาจะจับปลาเป็นแน่
คนกำลังหิว สติไม่มีปัญญาไม่เกิด
ปัญหาต้อง แก้ด้วยการทำให้คนหายหิวมีกินก่อน
เมื่อมีกินมีแรงพอ เขาก็จะจับปลากินเองได้
เงินที่รัฐมาช่วยมันไม่ได้มากมายอะไร ขนาดจะไม่ต้องออกมาทำมาหากินหรอกนะ
 
 

โดย: na_naruk IP: 58.8.91.209 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:49:41 น.  

 
 
 
ว้าว !! แตกประเด็นความคิดได้ไม่เหมือนใครดี ชอบ ชอบ

แค่เห็น โดยยังไม่ได้ใช้สมองคิด ใครๆ ก็รู้ ว่านโบายอย่างว่าเป็นประชานิยมอะเนาะ
แต่ประเด็นที่คุณpawawit ต้องการบอกคือ มันเป็นการลดค่าเงินแบบเนียนๆ อ่านแล้วก้ะรู้สึกว่า น่าคิด น่าคิด ว่ามันเป็นการลดค่าเงินอย่างที่ว่า จริงป่าว แล้วถ้าจริงนะ ไอ้ side effect ชนิดนี้ มันมีผลในทางบวกหรือทางลบอย่างเป็นนัยสำคัญมั๊ย เช่น ทานchlorpheniramine มันมีผลข้างเคียงคือทำให้ง่วงนอน มันก็มีข้อดีคือ ร่างกายก็ได้พักผ่อนไปด้วยในตัว แต่ผลลบคือทำงานทำการไม่ได้
ในกรณีการให้ใช้สาธรณูปโภคฟรีบางส่วนแบบนี้ เอาเป็นว่าหนูยอมรับว่าหนูโง่ละกัน ขอถามกันตรงๆ เลยว่ามันทำให้ค่าเงินลดได้ไง เพราะอย่างที่หลายๆ คนมาเม้นท์ว่า เอาเงินไปแจกชาวบ้าน ทำให้เงินมันกลายเป็นของไม่มีค่า อันนั้นเห็นด้วย แต่สาธารณูปโภคฟรีนี่มันต่างออกไปนะ
อีกเรื่องนึง ที่บอกว่าถือดอลลาร์ไปซัก 10 ปี แล้วค่อยมาดูมูลค่า อันนี้นะถึงอเมกาไม่ได้มีนโยบายลดค่าเงิน ยังไง้ ยังไงค่าเงินมันก็ต้องลดอยู่แล้วตามภาวะเงินเฟ้ออ่ะ จริงป่ะ
ขอบคุณน้าค๊า
 
 

โดย: jasmine IP: 183.89.204.180 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:17:32 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pawawit
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




เขียน Blog เกี่ยวกับการลงทุน อยู่ที่
http://pawawit.blogspot.com ก็ใครจะคุยกันก็เข้าไป ดูที่ Blog ของผมได้ มีทั้ง Link ของ Facebook / Twitter หนังสือแกะรอยหยักสมอง (สั่งที่นี่ครับ) หนังสือ(ของผม)แนะนำครับ
[Add pawawit's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com