แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้านแบบ Buffet

 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 มิถุนายน 2553
 

"ผู้ชนะ มักเป็นคนที่กำหนดเกมส์แข่งขัน"

ชีวิตที่แข่งขันสูงอย่างในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มอนุบาล ยันประถม มัธยม ..มหาลัยยิ่ง แข่งกันเดือด เลือดสาด ..พอทำงานก็แข่งกัน สาดเลือด!! --ถ้าใครลองหยุด (นิ่ง) แล้วนึกดูว่า ปัจจุบันการแข่งขัน มันบีบเราขนาดไหน --(ลูกผมจะต้องเก่งกว่าลูกคนอื่น!! --(เมื่อทุกคนคิดเหมือนกัน -- โรงเรียนสอนพิเศษ, Tutor อัจฉริยะ ก็ถือกำเนิดเป็นดอกเห็ด)..ทุกๆ 1 ตร.กม จะมี Tutor โผล่ขึ้นมา

.. วันนี้มี Delivery ไปถึงบ้าน (ยิ่งคิดก็ยิ่งเหนื่อย ..เพราะใครๆก็อยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะทั้งนั้น ..ผมสงสาร"ไอ้ลูกคนรวย"จัง ยิ่งรวยยิ่งต้องเรียนทุกอย่าง ตั้งแต่ คณิตคิดเร็ว เปียโน เทนนิส ว่ายน้ำ รำซิ่ง(อันนี้ไม่มี ฮิ ฮิ..) ..)

"ผมถามจริงๆ เถอะ --ใครสร้าง"เกมส์ชีวิตเน่าๆ ให้กับคุณและลูกของคุณเนี่ย" -- หลายคนบอก (ไม่มีใครสร้าง).. เพราะเขาสร้างขึ้นมาเอง .."ไอ้สร้างที่ว่านี่ คือ สร้างความกดดันให้ตัวเอง และลูกใช่ไหม โดยที่ท้ายสุดแล้วมันได้อะไร"

-- ("ได้"..ผมมีลูกอัจฉริยะ เรียนเก่ง เล่นดนตรีเก่ง สอบติดจุฬา-ธรรมศาสตร์ แล้วก็จบเกียรตินิยม แล้วก็ต่อนอก เรียน U ดังเท่ห์สุดๆ ) -- ท้ายสุด "แล้วไง" -- ไอ้ลูกอัจฉริยะ ที่คุณภูมิใจเป็นหนักหนา --"มันเอาตัวไม่รอด" -- ทำงาน 3 เดือน ลาออก.. จากนั้น เปลี่ยนงาน .. ไปเรื่อยๆๆ

คุณรู้ไหมว่า "อัจฉริยะวันนี้ที่สังคมเราผลิตขึ้นมาด้วยต้นทุนมหาศาล มีข้อเสียอะไร" --- (ใช่ครับ) -- ((ความสามารถสูง ความอดทนต่ำ))
--- และคุณรู้ไหมว่า ปัจจัยพื้นฐานของการใช้ชีวิต"ในประเทศไทย"คือ อะไร
--(ใช่ ครับ) --"ความอดทน" ผมว่าหลายๆคน ออกวิ่งตามความฝัน ด้วยแรงขับ Ego ภายในที่รุนแรง ท้ายสุด ก็กลับพบว่า --เจอทางตัน เพราะแท้จริงสังคมไทยยังรอมรับความเร็วความแรงของเราไม่ทัน สุดท้ายก็เจอความ(ท้อ)ครอบงำ

--นี่เป็นปัญหาที่แท้จริง คือ สังคมได้สร้างคนที่ความสามารถสูง มีศักยภาพมาก ๆแต่เขาไม่ Fit in ในสังคม --จุดนี้ผมมองว่าเป็น"ความล้มเหลวของสังคม การศึกษาและพ่อแม่" แต่ถามว่า "แล้วคุณจะโทษใคร"

จริงๆแล้ว กระบวนการคิด ทั้งหมดต้องเปลี่ยนใหม่ การสร้างคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะเข้ามาทำงานในระบบเก่า ไม่ใช่การพัฒนาคุณภาพสังคม แต่มันเป็นการ"วางระเบิด" ที่จะสร้างความปั่นป่วนอย่างมหาศาลให้เราและสังคม

-- ทางออก มันอยู่ที่การ "กำหนดเกมส์ใหม่ในการแข่งขัน"ต่างหาก---ซึ่งปัจจุบันระบบบริษัท และตลาดแรงงานที่มีอยู่ ไม่ได้รองรับ "คนเก่งเหล่านี้" ดังนั้น ทางแก้ ก็คือ การสร้างระบบกิจการรุ่นใหม่ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ ซึ่งจุดนี้ต้อง กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ มีโอกาสที่จะสร้างกิจการรูปแบบใหม่ ..DNA ใหม่ๆ

--- ผมมองรูปแบบของ Silicon Valley เป็นกรอบการสร้าง ที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมอย่างมาก ..เช่น การมี Incubator ที่คอยคัดสรรความคิดใหม่ ..จากนั้นก็มี Venture Capital ในการร่วมลงทุนใน Idea ใหม่ๆ และเมื่อบริษัทเติบโตขึ้น ก็มีตลาดทุนใหม่ Nasdaq ในการ IPO (แม้ว่า ในอเมริกา ตลาดนี้มีปัญหา แต่ในระยะยาว ผมมองว่า "เศรษฐกิจใหม่" จะเริ่มเติบโตอย่างแท้จริง นับจากนี้ไป)

อย่างไรก็ตาม ..ถ้ามองจากมุม(ไทยๆ) ผมมองว่า รูปแบบ อย่าง Silicon Valley ไม่น่าจะเกิดได้เร็วในเมื่องไทย --เป็นไปได้สูงที่ "คนรุ่นใหม่" ที่เราสร้าง จะต้องหนีไปทำงานต่างประเทศ หรือ ไม่ก็ต้องทำงานกับองค์กรฝรั่ง --ไม่เช่นนั้น (คนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณ)--ต้องตั้งธุรกิจเองขึ้น

..เพราะหนทาง สู่ความสำเร็จ มันอยู่ที่คุณ เล่นอยู่ในเกมส์ที่คุณถนัดหรือไม่ --"เพราะหากคุณไปแข่งอยู่ในเกมส์ที่คุณไม่ถนัด --ก็เท่ากับคุณยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว" --จริงไหมครับ...
เขียนโดย pawawit ที่ //pawawit.blogspot.com


Create Date : 25 มิถุนายน 2553
Last Update : 25 มิถุนายน 2553 23:25:48 น. 2 comments
Counter : 403 Pageviews.  
 
 
 
 
ติดตามอ่านบทความของคุณอยู่เสมอๆ

ผมคิดว่า
เหตุผลหลักของไทยเรา ผมว่ามีสองอย่าง

อย่างแรก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ซื้อเทคโนโลยี(ไม่ว่าด้านไหน) ไม่มีนวัตกรรมของตนเอง เลยไม่ต้องการคนเก่งๆสักเท่าไหร่

อย่างที่สอง การเปิดโอกาสสู่แหล่งเงินทุนมีน้อย

ทำให้คนเก่งที่มีความคิด ไม่มีโอกาสทีจะนำความคิดมาสู่การพาณิชย์ได้

 
 

โดย: จิ้งจกเขียว IP: 183.89.121.245 วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:6:00:46 น.  

 
 
 
ผมว่าปัญหาทั้งหมดมันเกิดจาก การที่เราดูถูกกันเองมากกว่า


ว่าไปแล้วในสมัยที่ญี่ปุ่นตีตลาดรถยนต์ใหม่ๆ พวกเขาก็รู้ว่า สินค้าของเขามันกระจอก

แต่ไม่มีเลย ใครกันที่จะออกมาโทษกันเอง เหมือนพวก "เรา"

ชาวญี่ปุ่น ทนซื้อของคุณภาพแย่ เพื่อให้เกิดกลไกกลับคืนสู่ความสมบูรณ์ในภายหลัง โดย ไม่คิดแม้แต่จะตำหนิพวกเขาเอง

พูดให้ง่ายกว่านี้ คือ เขาลำบากและเจ็บแสนสาหัสมากพอแล้ว นั่นเอง

คนไทยเราสบายเกินคาด ไม่เคยจะทุกข์ทน มากมายขนาดนั้น
 
 

โดย: มาเยี่ยมชม IP: 203.131.208.115 วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:14:14:15 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pawawit
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




เขียน Blog เกี่ยวกับการลงทุน อยู่ที่
http://pawawit.blogspot.com ก็ใครจะคุยกันก็เข้าไป ดูที่ Blog ของผมได้ มีทั้ง Link ของ Facebook / Twitter หนังสือแกะรอยหยักสมอง (สั่งที่นี่ครับ) หนังสือ(ของผม)แนะนำครับ
[Add pawawit's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com