|
Blogger's Bootcamp By CP All สาระดีๆ ที่มีให้บล็อกเกอร์ ใช่ว่าสักแต่เขียนคุณต้องเรียนรู้อะไรบ้าง?
จากสัปดาห์ที่สองของการเรียนรู้ Blogger's Bootcamp By CP All สัปดาห์ที่ 2 เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวเริ่มยากขึ้นไปอีกเพราะความที่เราไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลักแต่ทำเพราะใจรัก มันเลยเริ่มเหมือนเราต้องทุ่มเวลาให้กับเนื้อหามากขึ้น ไม่ใช่ทำแบบไม่มีแนวทางเหมือนแต่ก่อน ในปี 2018 นี้บอกเลยว่าเป็นบล็อกเกอร์นี่ยากขึ้นนะ Content มันมีอยู่เยอะมากเด็กรุ่นใหม่ๆ ก็มีแนวทางกันชัดเจน แถมใช้เครื่องไม้เครื่องมือกันเก่งอีกด้วย ทำเอาป้าอย่างอิช้านมึนไปเลยจ๊ะ หากจะก้าวหน้าในสายงานนี้คงต้องพัฒนาทักษะอีกมากเลยล่ะ แต่เชื่อสิคนเรามักจะมีแนวทางเป็นของตัวเอง เพียงแค่ปรับแนวทางให้ทันกับยุคและเหตุการณ์มันก็จะดูด้วยกันแบบลงตัวนะ มาต่อกับกับสัปดาห์สุดท้ายในค่ายการเรียนรู้ของ CP All
วิทยากรท่านแรก คุณอร อรวี สมิทธิผล แห่ง Content Shifu บล็อกสอนทำ inbound Markenting Content Marketing และวิเคราะห์เทรนด์ต่างๆ อย่างเข้าใจง่าย
บล็อกของคุณ คุณเท่านั้นที่รู้!! 5 Tips ในการวิเคราะห์ Data หลังบ้านให้เข้าใจมากขึ้น 1. อย่าดูเฉพาะ Metrics ที่เห็นด้วยตาเปล่า Facebook ข้อมูล insight นั้นสามารถ Export ออกมาเป็นไฟล์ Excel เลือกดู post data หรือ video data เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ละเอียดขึ้น 2. วัด Performance โดยดูหลายประเทศที่เหมาะกับตัวเอง วัดปริมาณลูกค้า ไลฟสไตล์ส่วนใหญ่ที่ใช้ ระดับแบรนด์เราคนสนใจขนาดไหน คุณภาพคนเทนต์ดีขนาดไหน 3. อย่าลืมให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงคุณภาพ การปล่อยคอนเทนต์ออกมาแล้วคนสนใจไหม ทำแบบสอบถามเพื่อให้กลุ่มลูกค้า feedback เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา เราจะได้ไม่ต้องเดาเอาเอง เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาต่อไป 4. นอกจาก internal แล้วต้องดู External ประกอบด้วย เช่น 4.1 Trend.google.co.th (google trend) ให้เลือกที่ตรงกับเรา เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลว่าเทรนด์ตอนนี้มีอะไรยอดฮิต คนในโลกอินเทอร์เน็ตสนใจอะไร 4.2 google keyword planner เอาไว้ค้นว่าคนค้นอะไรมากตอนนี้ แล้วเราก็เขียนสิ่งที่ keyword เยอะๆ จะได้น่าสนใจ 4.3 social.gg ตอนนี้ใน facebook มีอะไรอินเทรนด์บ้าง 4.4 pages to watch เอาไว้ดูเพจการตลาดใส่เพจที่เราติดตามไว้ดูว่าของคนอื่นเป็นอย่างไร 4.5 likealyzer ใส่ URL ของเพจที่เราสนใจลงไป มันจะให้คะแนนว่าเพจนั้นเป็นยังไง เอามาเทียบกันได้ 4.6 Buzzsumo ใส่ Keyword ลงไปจะเห็นว่าเว็บเค้าเขียนอะไรบ้าง เราจะได้ดูว่าทำไมเค้าถึงได้เขียนให้คนสนใจ ใครเป็น influencer ใน keyword นี้ 5. Data ไม่สำคัญเท่า Knowleage หรือ Action เราอยู่ตรงไหนของ google มี CTR คนเห็นบน Google กี่ %
วิทยากรท่านที่สอง คุณนกแก้ว นเรศ ติยะวัฒน์วิทยา เจ้าของเพจใครสอนให้โพสต์รูปของกินตอนดึก Content Director แห่ง Rainmaker และคุณแอ็ม ศรัณย์ แบ่งกุศลจิต กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
ปัจจุบันการเข้าเว็บไซต์จากโซเชียลลดลงกว่า 50% เพราะคนเปลี่ยนไป เมื่อไหร่ควร Promote หรือ Boost Post เมื่ออยากได้สิ่งเหล่านี้
โดยต้องคุยกับลูกค้าให้เข้าใจ จงเผื่อเงินเอาไว้ Boost Post เพราะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย 1. การรู้จักตัวเลขบน Post ศึกษาตัวเลข ว่าแต่ละตัวนั้นอธิบายค่าอย่างไร?
2. Key Success
2.1 เลือกตามถิ่นที่อยู่ เช่น ญี่ปุ่น มองในมุมแปลกๆ เช่น กิโมโนญี่ปุ่นเลือกคนไทยในญี่ปุ่น เป็นต้น 2.2 ทุกตำแหน่งที่ตั้งให้เลือกตัวล่างเพื่อเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ยิงคนที่เดินทางมายังสนามบิน 2.3 ภาษาบ่องบอกถึงฐานะ เช่น อาหารญี่ปุ่นเลือกคนญี่ปุ่นที่มาไทย 2.4 อายุ ห้ามยิงต่ำกว่า 18 เพราะมีกฏห้ามเก็บข้อมูลต่ำกว่า 18 ไว้ 2.5 การกำหนดเป้าหมายแบบละเอียดจะทำให้ดีขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้เอารูปภาพที่เอามาโพสมาคำนวนด้วย 2.6 การสนใจเลือกให้กว้างๆ เข้าไว้ 2.7 การเชื่อมต่อเครือข่าย เช่น ใช้ 4G บอกอะไร ใช้ Wifi คือใคร เช่น คนในออฟฟิตส่วนใหญ่ใช้ wifi เป็นต้น 2.8 ระบบบปฏิบัติการที่ใช้สามารถดูฐานะคนได้ เช่น Mac OS ก็จะมีฐานะ 2.9 พฤติกรรมการท่องเที่ยว เดินทางบ่อยขายใครกลุ่มท่องเที่ยว 2.10 การตามเพจไหนอยู่ กำหนดให้ละเอียดจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ดีกว่า เช่น ตามเพจเพื่อนบอกโปรคือคนชอบเที่ยว อ่านกลุ่มคนที่เลือกให้ออกเราจะได้คนที่ตรงเป้าหมาย 2.11 การเชื่อมต่อ เลือกเพจบนเฟสบุ๊ค ให้เลือก ไม่รวมผู้ที่ถูกใจเพจคุณ ด้วย
เทคนิคการ Boost Post 1. ใครอ่าน บูสต์ให้ตรงกับกลุ่มนั้น 2. Organic อาจลองบูสต์เพื่อให้เห็นค่าเฉลี่ย คนเห็น Organic ดีลงบูสต์เทสเลย 3. ติดตามกฏของเฟสบุ๊คอย่าสม่ำเสมอ 4. เข้าใจคนติดตามเราให้มากที่สุด 5. อย่าเสียดายเงินที่ Boost Post เพราะว่าเสียเงินทำคอนเทนต์แล้ว ควรมีอัตราส่วนในการ Boost Post อะไรมาใหม่ให้ลองฟังก์ชั่นนั้นเลย วิดีโอแนวตั้ง Story แนวตั้ง อะไรมาใหม่ตาม แล้วใช้งานเลย
เราต้องรู้อะไรบ้าง 1. เพจเราต้องมีการตอบโต้ Comment พยายาม interaction กับลูกเพจ อย่าทำตัวเป็น One Way เพราะมันสร้างคาเรคเตอร์ 2. Content Schedule ทำดีๆ แต่ให้อยู่นานๆ ได้ดีกว่า 3. # ไม่เหมาะกับเฟสบุ๊ค ใช้อันเดียวแต่อยู่ข้างหน้าพอ เช่น #atourthai ............. 4. งบการตลาด รายได้ x 20% = ค่าการตลาด เวลาเปิดเพจใหม่ใช้ 50% 5. YouTube กับ Facebook ทำแคมเปญแจกประกาศใน FB แล้วไปแจกใน YouTube 6. อย่าซื้อเพจ like ตอนเริ่มต้นให้ Content Lead เพจ 7. Detailed Target ไปเลือกเพจที่เหมือนเรา 8. ถ้าเพจเก่าอยากทำใหม่ให้ Rebrand เลย คนสนใจชื่อเพจในระดับหนึ่ง อย่าซีเรียส ความต่อเนื่องต่างหากที่สำคัญ
สิ่งสำคัญ "โชคคือการเตรียมตัวมาดี" Quality Content .
สำหรับเนื้อหาสัปดาห์สุดท้ายเมื่อทุกอย่างมันโอเคแล้ว อย่าปล่อยให้มันผ่านไปเราควรใช้ Tool ในการดูข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และต่อยอดพัฒนาเนื้อหาในเว็บหรือเพจของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เราควรใช้เงินให้เป็นในเมื่อมันมีเครื่องมือที่ง่ายและสะดวกสบายเพียงจ่ายตังค์ จงใช้มันเป็นหนทางขึ้นลิฟต์ดีกว่าเดินขึ้นบันไดที่ต้องใช้แรงเยอะกว่า การประหยัดเวลาคือการก้าวกระโดด การวิเคราะห์ข้อมูลคือการกระโดดอย่างทรงพลัง ในเมื่อเรามีต้นทุนที่ดีกว่าคนอื่นจะช้าอยู่ใย ลุยไปสิ!!
ความรู้ทั้งสามสัปดาห์นี้ต้องขอบกราบขอบพระคุณ CPAll อย่างจริงใจ ถ้าท่านไม่ให้โอกาสภัทรานิตย์ในครั้งนี้ก็คงไม่ได้สาระดีๆ มาพัฒนาตัวเองและเล่าต่อให้เพื่อนๆ ฟัง และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า จากโอกาสที่ท่านได้ให้มาจะเอามาเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป เพราะเราเชื่อว่าพลังของ "สื่อ" มันทรงพลัง เราจะใช้ความทรงพลังนี้เป็นแนวทางในการเป็นสื่อที่ดีอีกด้วย กราบขอบพระคุณจริงๆ จากใจบล็อกเล็กๆ แห่งนี้
แต่แคมป์นี้ยังไม่จบนะจ๊ะ เพราะปลายปีจะมีการประกวด Thailand Blogger awards กันอีกรอบจ๊ะ เป็นโปรเจคต่อยอดจากโปรเจคนี้ที่ปลุกไฟในใจเราให้ลุกเป็นไฟ!!
เหล่าบรรดาบล็อกเกอร์ที่เข้ารอบในปีนี้ เพื่อนๆ ทุกคนน่ารักมาก เป็นแคมป์ที่สนุกและได้รู้จักหลายคนๆ ด้วย
ภัทรานิตย์ เชิงทวี
จาก "เพจโสดเที่ยสนุก"
Photo and Story By Patthanid C.
| Create Date : 17 กันยายน 2561 |
|
2 comments |
| Last Update : 17 กันยายน 2561 1:06:30 น. |
| Counter : 1261 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
