BKK - HONG KONG # 2 :: สัมมนาที่เซอราตันแวะเที่ยวคริสมาสต์เกาะฮ่องกง

6 ธันวาคม 2548

หลังจากที่กลับที่พัก พวกเราก็เตรียมตัวออกมางานสัมมนาต่อ เพราะงานวันนี้เริ่มเวลา 18.00 น. งานสัมมานาครั้งนี้มีชื่อว่า "The Fifth International Conference on Electronic Business (ICEB2005)" ปีนี้ฮ่องกงเป็นเจ้าภาพ จัดโดย The Chinese University of Hong Kong ที่โรงแรม Sheraton Hong Kong



คืนนี้มีเลี้ยง dinner ต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมานา ผู้คนเริ่มทยอยลงทะเบียนรับเอกสาร ในงานมีประเทศที่เข้าร่วม 22 ประเทศ เพราะฉะนั้นในงานก็จะมีหลากหลายสัญชาติ ซึ่งล้วนแล้วผู้นำเสนองานวิจัยส่วนใหญ่เป็น ดร. และว่าที่ดร. กันทั้งนั้น บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีCocktail หลากหลาย แต่ที่เป็นที่ชื่นชอบคงเป็นช็อกโกแลคหลากหลายรูปแบบและรสชาติ ชนิดที่ว่ากินกันให้เลียนกันไปข้างเลยล่ะ ดูเหมือนว่าในงานนี้กลุ่มเราจะเป็นกลุ่มใหญ่ติด Top Five เลยล่ะ เพราะนอกจากพวกเราที่เป็นคนไทยแล้วยังมี ดร.วราภรณ์ ดร.อนงค์นาถ และปอย เป็นกลุ่มคนไทยที่จะขึ้นพรีเซ็นต์งานวิจัยในวันต่อไป



หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว คืนนี้นึกว่าจะได้ไปเที่ยวต่อ ไม่ได้มาทั้งที่ต้องให้คุ้ม แต่สรุปสุดท้ายก่อนแยกย้ายกลับที่พักคือ คืนนี้ให้ไปรวมพลกันที่ห้อง ดร.ประสงค์ เพื่อซ้อมพรีเซ็นต์ในวันพรุ่งนี้



หลังจากได้รับคำสั่งภารกิจในคืนนี้ พวกเราก็ไม่รอช้ารีบเตรียมอุปกรณ์ที่จะพรีเซ็นต์ในวันพรุ่งนี้ไปที่ห้องอาจารย์ แทบไม่น่าเชื่อห้องพวกเราที่ว่าเล็กยังใหญ่กว่าห้องอาจารย์อีก เนื่องจากช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงท่องเที่ยว ประกอบกับอาจารย์จองตั๋วกะทันหัน ทำให้ได้ห้องพักไม่ค่อยดีนัก เพราะห้องเต็มหมดแล้ว เมื่อทุกคนมาก็ครบ อาจารย์ก็ให้พวกเราเริ่มซ้อมกันทีละคน วันนี้สำหรับเราเครียดที่สุดเพราะนี่แค่ซ้อมนะ ยังตื่นเต้นขนาดนี้ที่สำคัญภาษาอังกฤษของเราก็ไม่ค่อยแข็งแรงด้วย เลยค่อนข้างกังวล แต่สำหรับพี่ๆ คนอื่นดูมั่นใจยิ่งสร้างความกดดันขึ้นเป็นทวีคูณ มาดูสภาพห้องที่เราใช้ซ้อมพรีเซ็นต์กันดีกว่า ว่ามันเล็กแค่ไหน





หลังจากที่การซ้อมเสร็จสิ้นลง ความมั่นใจก็มีเพิ่มขึ้น ใกล้เที่ยงคืนแล้ว อาจารย์เลยให้แยกย้ายพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้า (เจ็ดโมงเช้า) แต่พอกลับห้องจริงๆ ไม่ได้พักผ่อนหรอกเพราะนั่งแก้ Powerpoint ใหม่ กว่าจะได้นอนกันก็ปาไปตีสี่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจที่ฮ่องกงวันที่ 2 ..

7 ธันวาคม 2548

วันนี้ก็เป็นวันที่พวกเราต้องไปพรีเซ็นต์งาน คิวของวันนี้เป็นเราก่อนแล้วก็ตามด้วยพี่พู่ พี่ขาวและพี่พูลสุข ส่วนนุ๊กพรีเซ็นต์วันสุดท้ายก่อนกลับ วันนี้ค่อนข้างตื่นเต้นแต่ก็พยายามควบคุมสติ นึกถึงหลวงพ่อปู่ชัยมงคลตลอดเลย เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิคู่ศรีปทุม วันนี้เรามาเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยอย่าให้ขายหน้าเค้าเลย คิวเราวันนี้พรีเซนต์ตอนช่วงบ่าย แต่ว่าอาจารย์ให้มาฟังสัมมานาก่อน สุดแสนจะทรมาน เพราะกังวลไปหมดกว่าจะถึงเวลา







หลังจากฟังสัมมานาในช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อย ที่นี้ก็ถึงตาพวกเรากันบ้างแล้วล่ะ ห้องนี้คนเต็มเลย เห็นแล้วตื่นเต้นชะมัด มีคนบอกว่าเวลาพูดหน้าชั้นให้นึกว่าเป็นหัวผักกาด เฮ้อ นึกแล้วนะเนี่ย แต่ผักกาดมันไม่มีหัวสีทองนิน่า แต่สุดท้ายพรีเซนต์งานก็ออกมาโอเค




สำหรับวันที่ 3 ที่ฮ่องกงวันนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ทุกคนพรีเซนต์เรียบร้อย ยกเว้นนุ๊กที่รอลุ้นวันสุดท้าย ช่วงวันแรกวันนี้ผู้นำเสนองานวิจัยเข้ามาฟังเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือต่างประเทศเค้ามีความพร้อมกับการนำเสนองานวิจัยมากๆ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียเองไม่ว่าจะเป็นเกาหลี จีน หรือแม้แต่ฮ่องกงเอง พวกเค้าสามารถพรีเซนต์ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี จากงานครั้งนี้พบว่าต่างประเทศกำลังให้ความสนใจเรื่อง e-logistic เป็นอย่างมาก สำหรับประเทศไทยเองประเทศเราก็กำลังพัฒนาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน จากการที่ได้มาประชุมครั้งนี้ทำให้เราได้รู้อีกอย่างว่านอกจากจะมานำเสนองานวิจัยแล้ว ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างมหาวิทยาลัยแต่ละประเทศด้วย ทำให้ส่งผลสามารถต่อยอดความร่วมมือทางการวิจัยต่อไปได้อีก



หลังจากพรีเซนต์กันเรียบร้อย ยังมีเวลาเหลืออีก ที่นี่เราเที่ยวกันแบบไม่แคร์เวลาเลยล่ะ วันนี้เรามีโปรแกรมข้ามฟากไปเกาะฮ่องกงเพื่อไปดูต้น Christmas ที่สูงที่สุดในเอเชียความสูงประมาณ 35 ฟุต ดังนั้นวันนี้เราก็ต้องกลับไปที่ท่าเรื่องสตาร์เฟอร์รี่กันอีกครั้ง แต่ระหว่างทางก็มีตื่นเต้นอยู่หนึ่งอย่างคือ หลง (กันอีกแล้ว) พี่ขาวเดินอยู่ด้วยกันก็หายไปซะอย่างนั้น ต้องเดินตามกันจ้าละหวั่น และสุดท้ายก็เจอพี่ขาวเป็นไปตามความคาดหมาย เพราะเจอเธอในโซนเครื่องสำอางค์ แบบว่าพี่ขาวก็ถอดใจล่ะตามไปไม่เจอเลยช็อปซะเลย พอรวมพลกันได้ ก็มุ่งไปที่ท่าเรื่องสตาร์เฟอร์รี่ ราคาค่าเรือข้ามฟากอยู่ที่ 2.5 เหรียญ (ยังนึกในใจว่าถ้าถูกซะขนาดนี้ข้ามฟากมาเที่ยวกันเองตั้งแต่เมื่อวานแล้ว)





บนเรือทำให้เห็นบรรยากาศของฮ่องกงยามราตรีได้ชัดเจนมาก แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครที่ได้มาเยี่ยมเยือนทำไมถึงหลงไหลเสน่ห์ของฮ่องกง บรรยากาศตอนกลางคืนต่างกับตอนกลางวันอย่างสินเชิง ทุกตึกบนฝั่งเกาะฮ่องกงมีการติดไฟ ส่องแสงระยับตลอดเวลา เพราะเค้าเชื่อว่าไฟจะทำให้ดูดพลังเข้าสูงตัวตึก เรารู้สึกว่าที่นี่เหมือนเกาะแห่งแสงสีล่ะ และดูเหมือนคนที่นี่เค้าเริ่มเตรียมตัวสำหรับ Christmas กันแล้ว มาดูภาพต้น Christmas ที่พูดถึงกันดีกว่า



ที่นี่นอกจากจะมีต้น Christmas เป็นไฮไลท์แล้ว ยังมีการจัดเหมือนบ้านซันต้า และอื่นๆ อีกมากมาย มีการเขียนโปสการด์แขวนด้วยล่ะ บรรยากาศคึกคักเชียวล่ะ และที่ไม่พลาดคือกลุ่มเรา ถ่ายภาพกันระวิงอีกแล้ว





เดินถ่ายรูปกันอยู่สักพัก ชักท้องเริ่มร้อง ก็เลยเดินไปที่ตึกหนึ่ง ขออภัยจำชื่อตึกไม่ได้ เพราะตอนแรกตั้งใจจะไปตึกที่สูงที่สุด แต่หาไม่เจอ ก็เลยเข้าไปในตึกนี้ ไม่น่าแปลกใจเวลาดูหนังฮ่องกง เห็นคนโทรศัพท์เต็มไปหมด เพราะภาพจริงๆ ที่นี่ก็เป็นแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะโทรอะไรกันนัก สำหรับผู้หญิงที่นี่แต่งตัวก็ยังกับหลุดออกมาจากแคตตาล็อกแนะ อาจเป็นเพราะที่นี่เค้าใช้ของแบรนด์เนม เลยเป็นเรื่องธรรมดา อาหารที่นี่ก็แพงโขอยู่น้าข้าวมันใก่ในฟูดคอดจานละเกือบ 50 เหรียญแนะ มาที่นี่เครื่องคิดเลขเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องคำนวณว่าถ้าคิดเป็นเงินไทยมันเท่าไหร่ คำนวณแล้วน่ากลัวเชียว



หลังจากเดินนาน ๆ ชักล้าแล้ว ต้องกลับฝั่งเกาลูนแล้วล่ะ เพราะพรุ่งนี้เรามี City Tour ช่วงเช้า ต้องรีบกลับไปนอนเอาแรงกันหน่อย แต่ก็ไม่วายกลับไปถึงก็เดินดูของหน้าโรงแรมกันต่ออีกหน่อย จะได้นอนจริงๆ ก็ปาไปเกือบตีหนึ่งกว่า



วันนี้ Up แค่นี้ก่อนล่ะกัน เวลาไม่ได้ Up นานๆ นี่เหนื่อยแฮะ อิอิ

Create Date : 25 มิถุนายน 2549		0 comments
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 14:38:58 น.
Counter : 1871 Pageviews.
Share Tweet