<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 กรกฏาคม 2555
 
 
Review : ASUS Sabertooth Z77 มาเธอร์บอร์ดสุดแกร่ง ฟีเจอร์เพียบ!





การออกแบบและสเปก



       สำหรับเมนบอร์ด Sabertooth Z77 จะเป็นบอร์ด ATX ที่จัดอยู่ในซีรีย์ The Ultimate Force ของเอซุส โดยตัวบอร์ดมีขนาด 30.5 เซนติเมตร x 24.4 เซนติเมตร รองรับซีพียู Ivy/Sandy Bridge 22 และ 32 นาโนเมตร (Socket 1155)

       ซึ่งในส่วนการออกแบบ Sabertooth ในทุกรุ่นจะเน้นในเรื่องความแข็งแรง ดุดัน และเหมาะแก่ผู้ใช้พีซีที่เน้นการใช้งานฮาร์ดคอร์ เช่น โอเวอร์คล็อกหรือใช้ทำ Testbed เป็นหลัก เพราะด้วยการออกแบบบอร์ดจะถูกคลุมด้วย Dust Defender และ ESD Guards แทบทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่านอกจากช่วยป้องกันฝุ่นละอองเข้าสล็อต PCI สำหรับขา Testbed แล้ว ยังช่วยเรื่องการป้องกันสายไฟตกไปสัมผัสกับขั้วไฟฟ้าบนบอร์ดได้อย่างดี

       นอกจากนั้นในตัวบอร์ด Sabertooth Z77 ยังได้รับการออกแบบการระบายความร้อนใหม่บนเทคโนโลยี Thermal Armor ที่จะมาพร้อมพัดลมดูดและคลายอากาศออก 2 ตัว ซึ่งช่วยในการกระจายและถ่ายเทอากาศภายในบอร์ดทำให้ความร้อนลดลง พร้อมบรรจุ Thermal Radar สำหรับใช้ตรวจเช็คอุณหภูมิภายในมาเธอร์บอร์ดได้แบบเรียลไทม์



       มาที่รายละเอียดของพอร์ตและ Socket ต่างๆ รอบตัวบอร์ดเริ่มจากช่องใส่แรม จะให้มา 4 ช่อง แบบ Dual Channel รองรับความจุสูงสุด 32GB ในรูปแบบ DDR3 1866/1600/1333 MHz และสามารถใช้ร่วมกับแรมที่มาพร้อม Intel Extreme Memory Profile (XMP) ได้




       ในส่วน Slot PCI ที่ให้มา จะแบ่งเป็น PCI Express x16 3 สล็อต PCI Express x1 อีัก 3 สล็อต รองรับ SLI และ CrossFireX ในส่วนพอร์ตเชื่อมต่อไปยังพอร์ต USB แยกภายนอก จะแบ่งเป็น USB 3.0 และ USB 2.0 รวมกับประมาณ 8 พอร์ต



       และในส่วนพอร์ตเชื่อมต่อ SATA จะแบ่งเป็น SATA 6Gb/s จำนวน 4 พอร์ต และ SATA 3Gb/s จำนวน 4 พอร์ต พร้อมส่วนเชื่อมต่อ Front panel audio connector (AAFP) อีก 1 พอร์ต



       สุดท้ายมาที่พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังมาเธอร์บอร์ด จะแบ่งเป็น USB 2.0 จำนวน 4 พอร์ต ถัดมาจะเป็น USB BIOS Flashback Button สำหรับอัปเดตหรือเรียกคืนค่าตั้งต้นของไบออสกรณีเครื่องมีปัญหาเนื่องจากการปรับแต่งไบออส ซึ่งจะรองรับ Bios Backup File จากแฟลชไดร์วด้วย

       มาที่พอร์ต USB สีน้ำเงินจำนวน 4 พอร์ตจะเป็นพอร์ต USB 3.0 ถัดลงมาที่พอร์ตสีแดงคือ eSATA 6Gb/s จำนวน 2 พอร์ต ถัดไปจะเป็น Optical S/PDIF out และพอร์ต HDMI กับ DisplayPort อย่างละ 1 พอร์ต

       ต่อมาจะเป็นพอร์ตแลน RJ45 และส่วนของ Audio Jack จำนวน 6 พอร์ต รองรับระบบเสียง Multi Channel

สำหรับสเปก ASUS Sabertooth Z77 สามารถรับชมเพิ่มเติมได้โดย>>คลิกที่นี่<<

ซอฟต์แวร์ฟีเจอร์



ASUS Thermal Radar เนื่องจากมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้มีการฝังเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิไว้ประมาณ 12 จุด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Thermal Radar ในการตรวจดูอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ได้ค่อนข้างละเอียดไล่ตั้งแต่ ซีพียู iGPU ไปถึงพอร์ต PCI-Express รวมถึงสามารถตรวจรอบพัดลม กระแสในจุดต่างๆ ได้อย่างละเอียด




Ai Charger+ เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้พอร์ต USB 3.0 สามารถชาร์จพลังงานให้แก่ iOS Device และ Mobile Device ต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นกว่าชาร์จปกติ 3 เท่า

       อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ USB Charger+ ที่ช่วยจ่ายพลังงานมาให้พอร์ต USB ถึงแม้จะสั่ง ShutDown หรือ Hibernate ไปแล้วก็ตาม



DIGI+ Power Control เป็นฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแรงดันไฟเลี้ยงต่างๆ ได้ตามต้องการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่มาเธอร์บอร์ดในการโอเวอร์คล็อก รวมถึงสามารถเปิด Smart DIGI+ เพื่อให้คอมพิวเตอร์เลือกจัดสรรพลังงานได้เอง



Network iControl เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปรับความเสถียรของระบบ Ethernet รวมถึงลดอาการดีเลย์ของสัญญาณเมื่อต้องเชื่อมต่อวงแลนเพื่อเล่นหรือแข่งขันเกมกับเพื่อนๆ



TurboV EVO เป็นฟีเจอร์สำหรับโอเวอร์คล็อกความเร็วสัญญาณนาฬิกา รวมถึงปรับแต่งแรงดันไฟต่างๆ



USB 3.0 Boost เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการคัดลอกไฟล์จาก USB 3.0 ให้เพิ่มขึ้น เช่น จากภาพประกอบด้านบนจะเห็นว่าปกติความเร็วในการคัดลอกไฟล์จะอยู่ที่ประมาณ 60-65 Mb/s แต่เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้จะได้ความเร็วเพิ่มเป็น 72.5MB/s ทันที



LucidLogix Virtu MVP เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานคู่กับ Chipset Z77 และ Chipset Z68/H67/H61 โดยจะทำหน้าที่ในการดึงประสิทธิภาพระหว่างกราฟิก iGPU และการ์ตจอแยกให้ทำงานสอดประสานกัน เพื่อเพิ่มจำนวนเฟรมเรตและความลื่นไหลของภาพให้มากขึ้นผ่านระบบ HyperFormance


       นอกจากนั้นระบบ Virtu MVP ยังช่วยในการสร้างระบบ Virtual VSync เพื่อลดอากาศภาพกระพริบระหว่างเล่นเกม ในขณะที่เฟรมเรตของเกมจะไม่ตกมาเหมือนใช้การ์ดจอตัวเดียว



UEFI Bios ไบออสแบบ UEFI จะรองรับเมาส์ทำให้การปรับแต่งค่าใช้งานทำได้ง่ายขึ้น และยังมาพร้อมหน้าไบออสแบบกราฟิก (GUI - Graphic User Interface)ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจคำสั่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ทดสอบประสิทธิภาพ

       สำหรับชุดทดสอบที่ใช้ในครั้งนี้จะประกอบด้วย

CPU: Intel Core i7 3770K 3.50GHz @ 4.4GHz
Mainboard: ASUS Sabertooth Z77
RAM: G.Skill Trident 4GB Dual (2x2GB)
VGA: Intel HD Graphics 4000 / ASUS NVIDIA Geforce GTX570 DirectCUII
HDD: Intel SSD 510 250GB
PSU: Tagan BZ Series 700W
Monitor: LG 1080p




       เนื่องจากมาเธอร์บอร์ด ASUS Sabertooth Z77 มาพร้อมฟีเจอร์ LucidLogix Virtu MVP ทำให้การทดสอบต่อจากนี้ทั้งหมดจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบได้แก่ เปิด MVP และปิด MVP พร้อมโอเวอร์คล็อกความเร็วเป็น 4.4GHz เพื่อเน้นรีดเค้นพลังจากบอร์ด Sabertooth Z77 ให้มากที่สุด เพื่อตอบจุดประสงต์ของบอร์ดที่เน้นสาวกฮาร์ดคอร์เป็นหลัก



       ก่อนจะเข้าสู่การทดสอบแบบเต็มประสิทธิภาพ ลองมาทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมกันก่อนกับตัวทดสอบแรก PCMark 7 จะทำคะแนนรวมได้ 5,977 คะแนน แบ่งเป็น Lightweight Score = 5,772 คะแนน Productivity Score = 5,825 คะแนน Creativity Score = 5,901 คะแนน Entertainment Score = 5,893 คะแนน Computation Score = 6,776 คะแนน System Storage Score = 5,164 คะแนน


Cinebench R11.5 x64 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 8.72pts ส่วนกราฟิกแบบ OpenGL จะอยู่ที่ 66.30fps


คะแนน HyperPi


Hardcore Performance Test / Enable-Disable Virtu MVP


3DMark 06 - Enable Virtu MVP คะแนนทดสอบที่ได้คือ 33,712 คะแนนโดยแบ่งเป็นคะแนน Shader Model 2 = 12,307 คะแนน, HDR/Shader Model 3 = 17,606 คะแนน ส่วนคะแนนประมวลผลซีพียูจะอยู่ที่ 8,658 คะแนน ที่ความละเอียด 1,280x768 พิกเซล


3DMark 06 - Disable Virtu MVP คะแนนทดสอบที่ได้คือ 31,922 คะแนนโดยแบ่งเป็นคะแนน Shader Model 2 = 12,297 คะแนน, HDR/Shader Model 3 = 15,553 คะแนน ส่วนคะแนนประมวลผลซีพียูจะอยู่ที่ 8,683 คะแนน ที่ความละเอียด 1,280x768 พิกเซล


3DMark Vantage - Enable Virtu MVP สำหรับคะแนนทดสอบโดยรวม โปรแกรมไม่สามารถคำนวณได้ เนื่องจากการทดสอบบางขั้นตอนทำไม่สำเร็จ แต่เราก็สามารถดูจากค่าคะแนนเฟรมเรตได้ ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าคะแนน GPU Test 1 จะอยู่ที่ 154.45fps GPU Test 2 อยู่ที่ 243.56fps


3DMark Vantage - Disable Virtu MVP สำหรับคะแนนทดสอบโดยรวม โปรแกรมไม่สามารถคำนวณได้ เนื่องจากการทดสอบบางขั้นตอนทำไม่สำเร็จ แต่เราก็สามารถดูจากค่าคะแนนเฟรมเรตได้ ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าคะแนน GPU Test 1 จะอยู่ที่ 90.29fps GPU Test 2 อยู่ที่ 93.03fps


3DMark 11 - Enable Virtu MVP จะได้คะแนนรวมอยู่ที่ 8,416 คะแนน


3DMark 11 - Disable Virtu MVP จะได้คะแนนรวมอยู่ที่ 6,186 คะแนน



Heaven Benchmark - Enable Virtu MVP ทำคะแนนอยู่ที่ 1,416 คะแนน ที่คะแนนเฟรมเรตเฉลี่ยที่ 56.2fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 11


Heaven Benchmark - Disable Virtu MVP ทำคะแนนอยู่ที่ 1,260 คะแนน ที่คะแนนเฟรมเรตเฉลี่ยที่ 50fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 11


Lost Planet 2 Test B - Enable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 57.8fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 11


Lost Planet 2 Test B - Disable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 49.1fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 11



Resident Evil 5 - Enable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 255.5fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 10


Resident Evil 5 - Disable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 161.2fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 10


Street Fighter 4 - Enable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 556.25fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 9.0c


Street Fighter 4 - Disable Virtu MVP ทำคะแนนเฟรมเรตอยู่ที่ 316.20fps ที่ความละเอียด 1080p DirectX 9.0c



       โดยจากผลการทดสอบจะเห็นว่าถ้าดูจากคะแนน Virtu MVP มีส่วนช่วยให้เกมทำงานได้ดีและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก แต่ถ้าดูจากการใช้งานจริงระบบ Virtu MVP อาจทำให้บางเกมไม่สามารถรันได้ปกติ และในบางเกมอาจทำให้เกิดอาการหน่วงระหว่างการเล่นเกม ถึงแม้เฟรมเรตที่ได้จะสูงก็ตาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้น่าจะมาจากไดร์วเวอร์ Virtu MVP ที่ต้องรอการอัปเดตให้รองรับเกมใหม่ๆ ในอนาคต

สรุป

       ASUS Sabertooth Z77 ถือเป็นมาเธอร์บอร์ดที่ยังคงความโดดเด่นในเรื่องการออกแบบ ความแข็งแรง และเรื่องความเย็นเหมือนรุ่นก่อนหน้าทั้งหมด เพียงแต่ในรุ่นนี้มีการอัปเกรดฟีเจอร์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการผนวกกับมาตรฐาน Ivy Bridge ใหม่ที่มาพร้อม USB 3.0 และฟีเจอร์ Intel Rapid Start ในตัว Chipset รวมถึงการมาของฟีเจอร​์ Virtu MVP อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้บอร์ด Sabertooth Z77 ถือเป็นบอร์ด Sabertooth ที่สมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่เอซุสวางขายมา

       ยิ่งประกอบกับราคาเปิดตัวไม่แรงเพียง 8,590 บาท ก็ถือว่าเรียกความสนใจให้แก่ขาฮาร์ดคอร์พีซีหรือเกมมิ่งได้อย่างดี แต่อาจมีข้อสังเกตเล็กๆ ที่เกิดกับ Sabertooth แทบทุกรุ่น ก็คือ สำหรับคนที่ชอบประกอบคอมพ์เป็น Testbed มาเธอร์บอร์ดตัวนี้จะไม่มีการฝังสวิตซ์ปิด-เปิดคอมพิวเตอร์หรือสวิตซ์รีเซ็ทมาให้บนบอร์ด ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่นิยมใส่เคส เช่น นักโอเวอร์คล็อกเกอร์ อาจต้องหาสวิตซ์มาเชื่อมต่อใช้งานเอง




ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์



Create Date : 09 กรกฎาคม 2555
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 18:04:01 น. 0 comments
Counter : 1263 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ปฐวี อาโป
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




free counters Free counters!
[Add ปฐวี อาโป's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com