Bloggang.com : ทาเคชิโร่ : @ไหว้พระที่ภูเขาทอง@

@ไหว้พระที่ภูเขาทอง@

+ วันนี้ได้มีโอกาสไปตะลุยกรุงเทพ บางกอกของเรานี่เองไม่ได้ไปไหนไกลครับไปเที่ยวภูเขาทองตั้งแต่เกิดมาผมยังเพิ่งไปครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ผ่านแถวนี้บ่อยแต่ยังไม่เคยขึ้นไปเสียทีบนภูเขาทองวันนี้จึงมีโอกาสตัดสินใจได้ไปเนื่องจากอ่านดวงจากอาจารย์ลักแนะนำให้ไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ที่ภูเขาทองวัดสระเกศเพื่อความเป็นสิริมงคลเสริมบารมีให้ชีวิตส่องสว่างไสวเหมือนสีของภูเขาทองเราจึงเริ่มเดินทางซะเลย

+ สูงเด่นเป็นสง่า โดดเด่นเป็นภูเขาหนึ่งเดียวในกรุงเทพ ต้องยกให้ “ภูเขาทอง” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ภายในมีบันไดเวียนขึ้นไปถึงพระเจดีย์ที่สวยงามอย่างยิ่ง (ทำให้เราได้ออกกำลังกายไปในตัว)วัดสระเกศตั้งอยู่บนถนนจักรพรรดิพงษ์ กับถนนบริพัตร์ ที่เชื่อมต่อถนนบำรุงเมือง และถนนราชดำเนิน เมื่อได้ขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุดของภูเขาทองแล้วละก็ คุณจะได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพในอีกมุมหนึ่งที่สวยงาม อีกทั้งต้นไม้อันร่มรื่นระหว่าง 2 ข้างทาง ก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกสดชื่น สบายใจ...ภูเขาทองเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30-17.30 น.

1. ภาพภูเขาทองจากระยะไกล ถ่ายจากลานพระที่นั่งเจษฎาบดินทร์
(เฉลิมไทยเก่า)

2. บันไดทางขึ้นภูเขาทอง ซึ่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เหมือนขึ้นภูเขาจริงๆ เลยส่วนตามรายทางขึ้นบันไดจะมีชานพักเป็นระยะๆให้น่ะครับผมก็ตีระฆังไปตลอดทางจนถึงด้านบนส่วนทางขึ้นเกือบถึงด้านบนจะมีร้านกาแฟสดครับน่านั่งให้พักขานั่งจิบกาแฟ

3. ภายในองค์พระเจดีย์ มีพระมณฑปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเมื่อเราขึ้นมาถึงด้านบนก็เข้าไปกราบไหว้กันน่ะครับ

4. องค์พระเจดีย์สีทองแบบชัดเจน เต็มตา

5. ณ ชั้นบนสุด ยังมีเจดีย์องค์เล็ก 4 องค์ รายรอบทั้ง 4 มุม รอบองค์พระเจดีย์ใหญ่อันนี้ขึ้นมาจากบันไดเล็กจะเขียนว่าทางขึ้นสวรรค์เพื่อขึ้นมากราบไหว้เจดีย์ใหญ่แล้วผมนำระฆังที่ซื้อจากร้านขายของที่ระลึกเขียนชื่อขึ้นมาแขวนไว้ด้านบน

6. ชั้นก่อนที่จะขึ้นไปยังภายในองค์พระเจดีย์ ซึ่งมีมณฑป โดยมีบันไดทางขึ้นอยู่ทางขวามือ

7. ประวัติความเป็นมาของภูเขาทอง

8.- 10. ภายในบริเวณวัดสระเกศ ซึ่งบรรยากาศระหว่างทาง เต็มไปด้วยความร่มรื่น ของต้นไม้ใหญ่พอเดินลงบันไดมาเกือบล่างสุดจะพบหลวงพ่อโตน่ะครับทำการกราบไหว้พร้อมลองยกช้างอธิษฐานน่ะครับครั้งแรกผมลองยกขึ้นพอครั้งที่สองจะยกไม่ขึ้น(แปลว่าสิ่งที่อธิษฐานถามจะสำเร็จ)

+ วัดสระเกศ เดิมชื่อวัดสะแก (วัดโบราณสมัยอยุธยา) ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ

+ พระบรมบรรพตหรือเจดีย์ภูเขาทอง บูชนีย์สถานที่สำคัญนั้น เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 ความสูง 77 เมตร บนยอดเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

+ ร้านขายของที่ระลึกมีขายหลากหลายครับวัตถุมงคลต่างๆแล้วมีระฆังขายตั้งแต่ขนาดเล็ก(70 บาท)และขนาดใหญ่(150 บาท) ผมได้ซื้อขนาดเล็กเขียนชื่อนำไปแขวนไว้ด้านบนองค์พระเจดีย์ใหญ่เขาจะมีที่แขวน 4 มุมให้แขวนระฆัง

+ ภูเขาทองแบบจำลองครับ

+ เป็นศาลาให้นั่งพักระหว่างทางขึ้นร่มรื่นมากครับ

+ ประชาชนต่างมากราบไหว้สักการะองค์พระเจดีย์แล้วเดินรอบองค์พระเจดีย์ตั้งจิตอธิษฐานกันน่ะครับ

+ จบแระครับ...ทิ้งท้ายเราจะเห็นภูเขาทองเด่นชัดเมื่ออยู่บนถนนราชดำเนินนอก ตรงช่วงใกล้กับป้อมมหากาฬ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ทางเข้าของวัดจริงๆ แล้วจะอยู่ทางถนนจักรพรรดิพงษ์ ถ้าไปโดยรถประจำทางก็มีป้ายจอดรถเกือบจะหน้าวัดทั้งสองฝั่ง สังเกตป้ายวัดสระเกศ หรือโรงเรียนวัดสระเกศเป็นหลักก็แล้วกัน หรือถ้าเอารถส่วนตัวไปก็มีลานจอดในวัด สะดวกและฟรี

+ อ้อ...จากนั้นเมื่อหิวเราจะแวะไปทานขนมจีนไหหลำที่ร้านสุธาทิพย์กันน่ะครับเปิดตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแต่พอบ่ายๆก็จะหมดแล้วครับขายดี รสชาดอร่อยมากมีทั้งอาหารไทย-จีน-ฝรั่ง ด้วยน่ะครับ

+ ร้านนี้ชื่อร้าน "สุธาทิพย์" ครับ อายุของร้านนี้ มีมาหลายสิบปี

มาเริ่มต้นกันที่คลองมหานาค

+ ถ้าใครงงๆว่า เอ...คลองมหานาคอยู่ตรงไหนผมจะพูดให้เข้าใจง่ายๆอีกนิดครับ ก็คือ คลองที่อยู่ติดกับ "ภูเขาทอง" น่ะล่ะครับ(ภูเขาทองอยู่ติดคลอง 2 คลอง คือ คลองมหานาคและคลองแสนแสบ)

+ ร้านอยู่ตรงหัวมุมเลยครับ มองเห็นได้ไม่ยากครับ

+ ลูกค้าหลักของร้านนี้คือนักท่องเที่ยวต่างประเทศ(ร้านนี้ลงในหนังสือท่องเที่ยวบ่อยมากๆ)และลูกค้าเก่าที่พาลูกพาหลานมาทาน"ขนมจีนไหหลำ" เมนูเด็ดของร้าน มีทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง

+ ผัดจับฉ่ายวุ้นเส้นไหหลำ

+ "Love is all around" ความรักมีอยู่ทั่วไปขึ้นอยู่ว่าใครจะสามารถหยิบจับความรักที่ล่องลอยนั้น....แหะๆนอกเรื่องจบแระครับเที่ยวเสร็จท้องอิ่มกลับบ้านได้