อ๊ะ อะ อา โย้ โอ้ โอ อะ.. อา อ๊อด อ๊อด

สวัสดีค่ะทุกคน

ห่างหายจากการอัพบลอคไปเสียนาน ไม่ใช่เพราะเหตุใดหรอกค่ะ

กำลังหลงรักครอบครัวหูดำ ช่วงช่วง หลินฮุ่ย และหลินปิง

เลยตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าไปหาครอบครัวหูดำที่เชียงใหม่

แต่เพื่อนอยากไปเที่ยวปาย...ไปก็ไป เพราะยังไม่เคยไปเหมือนกัน

ออกเดินทางตอนหัวค่ำวันพฤหัสบดีที่ 14 ม.ค. 53

ไปถึงห้วยน้ำดังประมาณตีสี่ อากาศหนาวมาก พูดแล้วควันออกปากเลย

... แต่ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่นั่น ... ด้วยเหตุผลบางประการ

พี่คนขับรถเลยรีบเปลี่ยนแผนเป็นดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมทะเลหมอก มุมมองใหม่เมืองปาย

อยู่หมู่บ้านสันติชน ต้องขึ้นรถกระบะไป เพราะทางค่อนข้างเล็กและลาดชันมาก

ไปถึงพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพอดี...รีบหยิบกล้องมาถ่ายทันทีทันใด

อากาศตอนนี้ไม่ค่อยหนาวเลย ช่วงเช้าแค่เย็น ๆ นิด ๆ เอง

(จริง ๆ มีรูปถ่ายแต่ละสถานที่เยอะมาก ๆ แต่ว่าขอทำรีวิวแบบสรุปย่อละกันนะคะ)

จุดชมทะเลหมอกเมืองปายนี้มองเห็นได้มากกว่า 180 องศา สวยงาม ๆ

สูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอด...บรรยากาศดีมาก ๆ

กินอาหารเช้ากันบนจุดชมวิวนี่แหละ เป็นร้านของชาวบ้านหมู่บ้าน

เราเลือกข้าวต้มหมู กาแฟ ปาท่องโก๋ ปิดท้ายด้วยชาร้อน ๆ อิ่มสบายพุง

จบมื้อเช้าเลยเข้าที่พักเพื่อล้างหน้าล้างตา เก็บข้าวของ เราพักที่บ้านโชคดี...แต่ไม่ประทับใจค่ะ

เมื่อได้พักผ่อนกันแล้วก็ไปกินส้มตำที่ "ร้านส้มตำหน้าอำเภอ"

อร่อย แซ่บ และไม่แพงสมคำร่ำลือ ใครไปช่วงเวลากินต้องรอคิวหน่อยนะคะ เพราะคนเยอะมากๆ

(ขออภัยทริปนี้แทบไม่มีรูปถ่ายอาหารเลยนะคะ เพราะมัวแต่กินจนลืมถ่ายรูป)

กินเสร็จก็ย้อนไปที่หมู่บ้านสันติชน เพื่อดูวัฒนธรรมจีนยูนนานอีกครั้ง สวยจริง ๆ ค่ะ

ไปลองขึ้นชิงช้าด้วย เหมือนจะน่ากลัว...แต่สนุกดี

ขึ้นกัน 4 คน เค้าเหวี่ยงแรงมากเพื่อให้เรากรี๊ด...แต่พวกเราไม่กรี๊ดเลย เพราะมัวเก๊กท่าถ่ายรูปกัน

มียิงธนูด้วย... พี่ที่ไปด้วยกันเลยลองซะ

เป้าสำหรับยิง (เรียกอย่างนี้หรือเปล่า ?)

พี่เค้ายิงกี่ครั้ง ๆ ก็โดนแค่ตรงสีน้ำเงิน ของรางวัลที่ได้ คือนกหวีดน้ำ น่ารักดี

แต่ซื้อเองก็ได้นะ ตัวละ 20 บาท

ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านดิน เราเคยไปสร้างห้องสมุดดินด้วยนะ วิธีการไม่ยุ่งยาก

แถมข้างในบ้านดินก็เย็นดีด้วย

โคมไฟ ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงสวยน่าดู

ที่นี่มีชาขายเยอะแยะเลย เราได้ถ้วยชามาหนึ่งใบกับชาน้ำค้าง อร่อยดี ^^

มองเห็นมังกรกลับหัว เค้าบอกว่า ที่ใช้มังกรกลับหัว เพราะคิดว่าจะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนอีกแล้ว

ของที่ระลึกก็เป็นพวกเสื้อ ชุด รองเท้าของชาวยูนนาน

ออกจากหมู่บ้านสันติชนก็ไปหาอะไรเย็น ๆ กินคลายร้อนดีกว่า

ร้านนี้เลย Fruit Factory

รูปหมู่ที่มีอยู่ไม่กี่ภาพ

ร้านจัดบรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน

การตกแต่งร้านก็ใช้สีสันสดใสดี

เลือกกินอะไรดีน๊า

ร้านนี้จะเป็นพวกเค้ก เครื่องดื่มและไอกรีมที่ทำจากผลไม้ ราคาก็อยู่ที่ 60 - 100 บาท

ได้มาแล้วสมูทตี้รสต่าง ๆ สั่งคนละแบบแล้วเอามาแบ่งกันกิน

หลังจากนั้นก็ไปที่สะพานข้ามแม่น้ำปาย เป็นสะพานไม้เล็ก ๆ แต่สวยดีนะ

สองริมฝั่งแม่น้ำปาย มีรีสอร์ทเกิดขึ้นเยอะแยะเลย เลือกพักได้ตามอัตราเงินในกระเป๋าค่ะ

ตัวสะพานไม่ใหญ่มาก แต่สวยคลาสลิกดี

ข้ามสะพานมาเจอรีสอร์ทน่ารัก มีสวนดอกไม้เยอะแยะ เลยแวะถ่ายรูปดอกไม้สักหน่อย

เห็นว่าเป็นสะพานไม้ไผ่อย่างนี้นะ...แต่แข็งแรงมาก รองรับน้ำหนักเราได้ แสดงว่าแข็งแรงจริง ๆ

ขอโชว์หุ่นอ้วน ๆ หน่อยนะคะ

จากนั้นก็ไปดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่วัดพระธาตุแม่เย็นค่ะ

เข้าวัดนมัสการพระพุทธรูปในโบสถ์แล้วใจสงบขึ้นเยอะเลย

จากนั้นก็กลับที่พัก อาบน้ำอาบท่าแล้วไปทานอาหารเย็นที่ถนนคนเดิน

อิ่มแล้วก็แวะชอปปิ้งที่ถนนคนเดิน คืนวันศุกร์คนไม่เยอะมาก แต่คืนวันเสาร์คนเยอะขึ้นอีกเท่าตัวเลย

ของที่ระลึกมีขายหลายร้านมาก ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็ร้านโปสการ์ด เยอะแยะเลือกไม่ถูกเลย

เจ้าของร้านต่างสรรหาวิธีเรียกลูกค้า ฝรั่งสองคนนี้ร้องเพลงเพราะน๊า

ที่ถนนคนเดินมีทั้งของที่ระลึกแบบเด็กแนว...แต่ยังคงสอดแทรกด้วยชาวพื้นเมืองที่มาขายของด้วย

มีกลุ่มเด็กนักเรียนมาขับกล่อมสะล้อ ซอ ซึง ให้ฟัง  หาฟังยากนะ ฟังแล้วช่วยบริจาคทุนการศึกษาให้น้อง ๆ ด้วยนะคะ

ที่ขาดไม่ได้เลยคือขนม ทั้งโรตี บัวลอย และข้าวปุกงาดำ มีขายตลอดเส้นทาง

เลือกกินร้านนี้เพราะคนขายหล่อ

เพื่อนคนนึงสั่งว่า ถ้าไปปายต้องไปกินกาแฟที่ร้านลุงคนนี้นะ...

กินแล้วนะเพื่อน มอคค่าปั่นตอนกลางคืนอากาศเย็น ๆ บรึ๋ย ๆ อร่อยแต่หนาวมาก...

คืนวันเสาร์ได้เห็นการแสดงหลากหลายกว่าคืนวันศุกร์อีกนะ คนนี้ลงทุนมาก ถ่ายรูปคู่มาด้วย ไม่ลงรูปเพราะสยองพอกัน...กร๊ากกกก

เจอลุงตำรวจร้องเพลง...โหย เพราะอ้ะ ยืนฟังตั้ง 3 เพลง

ถ่ายรูปคู่กับลุงตำรวจเหมือนเคย แต่อย่าดูเลย เพราะนึกว่าเป็นภาพตำรวจจับผู้ร้ายมากกว่า

สีสันยามค่ำคืนของถนนคนเดินที่ปาย ประมาณ 4 ทุ่มร้านรวงก็เริ่มปิดแล้ว

คืนแรกพักที่บ้านโชคดี... แต่พนักงานมาบอกว่าพรุ่งนี้ให้เรา 3 หลัง ย้ายไปอยู่อีกด้าน

จากเตียงเดี่ยวเป็นเตียงคู่ (พวกเรานอนยังไงก็ได้ไม่มีปัญหา) แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าให้ย้ายบ้านทำไม

เค้าให้เหตุผลว่ามีกรุ๊ปอื่นมาจองเตียงเดี่ยววันเสาร์ เห้ย...เราก็จองล่วงหน้านะ แล้วตอนแรกเค้าถามว่าจะนอนเตียงอะไร

เราก็บอกว่าเตียงอะไรก็ได้ทั้งนั้น เค้าก็ให้เตียงเดี่ยวเราเอง ถ้าบอกกันแต่ตอนแรกก่อนเข้าพักว่าให้ย้ายจะไม่ว่าอะไรเลย

แต่นี่อยู่ ๆ ให้มาเปลี่ยน...อารมณ์เสียมาก ๆ พอตอนเช้าเรายืนยันว่าไม่ย้ายบ้าน

ตอนไปเที่ยวข้างนอก...เค้าก็โทรศัพท์มาถามเกือบ ๆ สิบครั้ง

พวกเราเลยลงมติว่าขอย้ายที่พักเลยละกัน คืนวันเสาร์เลยย้ายไปนอนที่อื่นแทน

ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น...ติดตามชมตอนสองนะคะ

อวด ๆ ๆ ๆ สมุดทำมือ มีหน้าปกเป็นเราเอง เป็นของที่ระลึกที่ชอบมากที่สุดในทริปนี้เลย

ติดตามตอนที่สองได้เร็ว ๆ นี้นะคะ

แฟนขับทั้งหลายไม่ต้องเร่งข้าเจ้านะ ข้าเจ้าจะพยายามอัพบลอคให้เร็วที่สุดเน้อ

Create Date : 24 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 16:09:55 น.		6 comments
Counter : 1953 Pageviews.
Share Tweet