หาข้ออ้างหยุดงานอย่างไรดี ในยามชอกช้ำรักสะบั้น
ถึงแม้ เพิ่งเลิกกับแฟนสุดแสนชอกช้ำ แต่อย่าลืมว่าเรามีงานที่ต้องทำ ถ้าโชคดีมีเจ้านายหรือลูกค้าที่ใจกว้าง เราสามารถพูดตรงๆได้ว่า เรากับแฟนหนุ่มเพิ่งแยกทางกันและต้องการหยุดงานสัก 2-3 วัน

หาข้ออ้างหยุดงานอย่างไรดี ในยามชอกช้ำรักสะบั้น





เพื่อกอบกู้สภาพจิตใจขึ้นมาใหม่ ขอเตือนว่าควรระวังตรงนี้ให้ดี เจ้านายและลูกค้าไม่ได้ใจกว้างทุกคน ดีๆไม่ดีอาจจะวางท่าไปอย่างนั้นเองด้วยซ้ำ การแสดงความอ่อนแอเปราะบางออกไป อาจย้อนกลับมาหลอกหลอนเราทีหลังได้ ดังนั้นการโกหกจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด


ป่วย
โทร ไปลาป่วยคือการโกหกที่ดีที่สุด แถมน้ำเสียงยังอู้อี้สั่นเครือสมจริงเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก และซื้อเวลาต่ออีกวันด้วยการโทรไปตอนกลางคืนขอลาในวันรุ่งขึ้น เพราะอาการยังย่ำแย่ ทางที่ดีอย่าพูดจาอะไรเยอะ ให้รีบตัดบทวางหู ไม่งั้นก็ต้องแน่ใจว่าเสียงเหมือนคนใกล้ตายจริงๆ

# เป็นไข้ ข้ออ้างนี้ใช้เวิร์คมากในหน้าหนาวหรือหน้าฝน เพราะดูน่าเชื่อถือดี ยิ่งถ้าเป็นช่วงหวัดระบาดละก็ เป็นการลาหยุดงานที่ได้ผลที่สุด อย่าลืมบ่นว่าหนาวและเพลียมาก

# อาหารเป็นพิษ โรคนี้ใช้อ้างในหน้าร้อนจะได้ผลดีมาก เพราะใครๆก็เป็นกัน ใครๆก็พากันกินอาหารไม่สะอาด ท้องร่วง ท้องเสียจู๊ดๆกันเป็นแถว หรือจะเป็นพวกแพ้อาหารบาวอย่างก็ได้ แล้วเผอิญเผลอสวาปามเข้าไปเลยเดี้ยงไงคะ

ข้ออ้างระยะสั้น
ยังมีทางเลือกโกหกเหลืออยู่อีกนิดหน่อยในกรณีที่ใช้วันลาป่วยหมดไปแล้ว ลองอ้างไปว่า

# พ่อ แม่ พี่น้อง หรือเพื่อนสนิทหกล้มและเราต้องไปอยู่ดูแลและเป็นธุระพาไปโรงพยาบาลด้วย ถึงแม้ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีนัก แต่กรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาในชีวิตจริงแล้ว

# รถ เสียเป็นข้ออ้างไม่ไปทำงานได้ จริงๆก็เป็นเหตุผลที่ใช้ได้นะ แค่ระวังว่าอย่าใช้บ่อยเกินไป เพราะไปๆมาๆอาจทำให้เราดูงี่เง่า และที่ควรระวังอีกอย่างคือ ถ้างานที่ทำเกี่ยวข้องกับการขับรถแล้วรถเสียบ่อยละก็ อาจตกงานได้นะเออ

ข้ออ้างแบบดราม่า
ถ้า บังเอิญเรามีเจ้านายหรือลูกค้าที่ไร้หัวใจ และเราเพิ่งใช้วันลาหยุดหรือลาพักร้อนไปหมาดๆ ดังนั้นจึงต้องใช้ข้ออ้างที่ออกแนวดราม่าชีวิตรันทดสักหน่อย โปรดจำไว้ว่าเป้าหมายคือขอหยุดพักใจสัก 2-3 วัน อย่าใช้โอกาสนี้ทดสอบว่าตัวเองเป็นดาราเจ้าบทบาทหรือเปล่า ต่อไปนี้คือข้ออ้างที่ถือว่าเป็นไพ่ใบสุดท้ายจริงๆ

# งานศพ ญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดเสียชีวิตเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งกรณีนี้เราสามารถหยุดงานได้ทั้งสัปดาห์เลยทีเดียว ควรระมัดระวังในการเลือกผู้ตายซึ่งควรใกล้ชิดสนิทสนมกับเรามากพอที่จะทำให้ ชีวิตเราซวนเซเสียศูนย์เมื่อเขาจากไป หรือความตายของบุคคลนี้จะอยู่ห่างไกลเสียจนคนในออฟฟิศไม่เคยได้ยินชื่อคนนี้ มาก่อน ที่สำคัญคืออย่าเลือกคนจริงๆขึ้นมา ต้องอุปโลกน์ขึ้นมาเอง มิฉะนั้นถ้าคนๆนี้โทรมาหาเราที่ออฟฟิศในภายภาคหน้าละก็...ยุ่งเลยละ

# ป่วย ระยะสุดท้าย ไม่ใช่เราค่ะ ของคนอื่นสิคะ นี่เป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นสุดขั้วมากๆ ญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดที่ป่วยเข้าขั้นตรีฑูตแล้ว จะไปมิไปแหล่ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องไปอยู่เฝ้าดูใจสัก 2-3 วัน อย่าเผลอพูดพล่ามเรื่อยเปื่อยจนถูกจับได้ ควรโฟกัสที่ความกล้าหาญในการต่อสู้กับโรคร้ายของผู้ป่วย และความสงสารเห็นใจที่เรามีต่อผู้ป่วย

จนปัญญาหาทางออกไม่ได้
โชค ร้ายที่บังเอิญว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนีงานไม่ได้ เราอาจจะต้องพรีเซ้นท์งานกับคนของบริษัทแม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือถ้าทำงานเป็นคนจัดอีเว้นท์ก็คงหลีกเลี่ยงงานอีเว้นท์ยักษ์ใหญ่ในวันนั้น ไม่ได้ ดังนั้นทางที่ควรทำที่สุดคือลืมเรื่องเลิกราไปก่อน ทำเป็นว่าเขาแค่เดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง จากนั้นก็ดำเนินการพรีเซ้นท์งานไปโดยต้องเขียนทุกอย่างที่จะพูดลงในกระดาษ ให้หมด ส่วนงานอีเว้นท์ก็ทำตามลิสต์สิ่งที่ต้องทำให้ครบถ้วน พยายามโฟกัสกับงานเข้าไว้ หลังจากเสร็จสิ้นแล้วค่อยหันมาจัดการกับอาการอกหัก ด้วยการหยุดพักสัก 2-3 วัน

พอได้พักสักหน่อยอาการก็จะดีขึ้นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องกลับมาทำงานจนได้ เก็บงานไว้ดีกว่า ผู้ชายหาใหม่ได้ค่ะ.



ที่มาข้อมูล : msn.com



Create Date : 02 กรกฎาคม 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 22:06:40 น.
Counter : 503 Pageviews.

1 comments
  
ใช้มาหมดทุกอันแล้วอ่ะค่ะ
โดย: konmeechai วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:11:04:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

parmaika
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



: Users Online
กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31