เนื่องจากเรามานำเสนอผลงาน.. มีคนสาธารณสุขมาประชุมรวมกันเกือบ 5 พันคน.. ดังนั้น. ที่พักแถวในเมืองจึงเต็มไปหมด ประกอบกับ..คุณน้องขา เปลี่ยนที่พักไปมา เพราะคณะของเธอยิ่งใหญ่เหลือเกิน มากันเกือบ 10 ชีวิต.. กว่าจะหาห้องที่ลงด้วยได้.. กลายเป็นว่าเราต้องมาพักโรงแรมที่เก่า.. แก่.. ย่านเมืองเก่า.. นั่นคือ Phuket Town Inn
สภาพห้อง.. คนละอย่างกะที่พักเมื่อวันก่อนเลยค่ะ ..(ในราคาที่ห่างกันไม่เท่าไหร่) .....
ที่พักใหม่ของเรา อยู่ในเขต Old Town ... ให้เราได้ดื่มด่ำกับเมืองเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส ได้ทั้งเช้าและเย็น
เราเดินกลับที่พัก ผ่านเจ้าอาคารกิ๊บเก๋นี้ทุกวัน..
ภูเก็ตในอดีตเป็นดินแดนทำเหมืองแร่ดีบุก ที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ผู้คนจากหลากหลายชาติแห่แหนกันมาทำเหมืองแร่ โดยเฉพาะชาวจีนฮกเกี้ยน จากประเทศจีน สิงคโปร์ ปีนัง แล้วได้ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรปเข้ากับจีน ก่อให้เกิดสถาปัตยกรรมที่เรียกเก๋ ๆ ว่า ชิโนโปรตุกีส ที่สวยงาม ..
วันนี้จะพาชมให้ทั่วย่านเมืองเก่านะคะ ..
เน้น ตึกใหญ่ ๆ ที่เรียกว่า
คฤหาสน์หรือ "อั่งม้อหลาว"
อั่งม้อหลาว
เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน "อั่งม้อ" แปลว่า ฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ ส่วนคำว่า "หลาว" แปลว่า ตึกคอนกรีต อั่งม้อหลาว ก็คือ คฤหาสน์แบบฝรั่งที่นายหัวเหมืองแร่ของภูเก็ต สร้างเป็นที่อยู่อาศัยในสมัยนั้น
พาชมทีละที่เลยก็แล้วกันนะคะ ... ผ่านทุกวันก็ที่นี่..
ถนนพังงา
1= อดีตสถานีตำรวจตลาดใหญ่ (The Old Taladyai Police Station)
อดีตสถานีตำรวจตลาดใหญ่ (The Old Taladyai Police Station) ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงแยกถนนพังงา ด้านตรงข้ามเป็น อดีตธนาคารชาร์เตอร์ด (The Old Chartered Bank) ตึกทั้งคู่เก่า แต่โทรมมาก ในตัวอาคารไม่ได้มีการทำนุบำรุงใด ๆ .. ให้สมกับเป็นของเก่า..
2 = อดีตธนาคารชาร์เตอร์ด (The Old Chartered Bank)
จริง ๆ ไหน ๆ จะชูประเด็น Old Town ขึ้นมาแล้ว น่าจะใช้ประโยชน์จากตึกเก่าให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ขัดถูดี ๆ ให้คนเข้าไปชมข้างใน ถึงจะไม่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองเก่าแต่กรมตำรวจ เจ้าของตึก (ถ้าใช่..นะ) ก็น่าจะใช้ประโยชน์จากความเก่า ดึงคนให้เข้ามาดูในตัวอาคาร แล้วอยากจะประชาสัมพันธ์อะไรก็ใส่ไว้ในนั้น เรื่องของหน่วยงานตัวเองก็ได้ เรื่องให้ความรู้ประชาชน..ก็ได้ อะไรที่เจ้าของตึกอยากให้คนรู้ จัดไว้ในนั้น.. น่าจะมีคนเข้าชม .. ได้ประโยชน์มากกว่าทิ้งไว้ให้หยากไย่เกาะ
ถนนเทพกษัตรี
3 = อาคาร สนง. อนุภาษและบุตร (The Anuphas and Sons Building)
ตึกนี้..มองลงมาจากห้องพัก.. เจอกันทุกวัน แต่ไม่ได้เดินไปชมใกล้ ๆ
ถนนดีบุก
4 = อาคาร บ.เอกวานิช (Aekwanit Building)
เดินมาอีกหน่อย ก็เจอตึกแห่งนี้.. ไม่รู้นาม.. ว่าคือตึกอะไร.. แต่ดูจากประชากรรถ..ที่จอดแล้ว น่าจะเป็นที่ส่วนบุคคล
เดินมาอีกหน่อยก็เป็นร้านขนมจีนขึ้นชื่อ..ขายคู่เมืองภูเก็ตมากว่า 60 ปี (แต่ไม่ได้ชิม.. เนื่องจากยังอิ่ม)
เดินเลี้ยวขึ้นไปหน่อย ตรงหัวมุมถนนกระบี่ตัดกับถนนสตูล บ้านหลังนี้่ทำเป็นร้านอาหาร โรงเรียนสอนทำอาหาร Blue Elephant สาขาภูเก็ต .. เห็นมีที่ กทม. ด้วยล่ะ..
คฤหาสน์พระพิทักษ์ชินประชา
ฺBlue Elephant Governor Mansion Phuket
Cooking School & Restaurant, Royal Thai Cuisine
เป็นบ้านหลังแรกที่สร้างขึ้นตามแบบ ชิโน-โปรตุกีส
โดยช่างชาวจีนจากปีนังก็คือบ้านชินประชาของพระพิทักษ์ชินประชา
นายเหมืองต้นตระกูลตัณฑวนิช
ถือว่าเป็นต้นแบบของบ้านคหบดีจีนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองภูเก็ต
เข้าถนนกระบี่กันค่ะ
พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เดิมทีเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในภูเก็ต
6 = พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
อาคารโรงเรียนจีนแห่งนี้สร้างในปี 2477
ปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ มีนิทรรศการ 13 ห้อง จัดแสดงวิถีชีวิตชาวจีนภูเก็ตตั้งแต่แดนดินิ่นกำเนิดที่เมืองจีน การเดินทางมา การก่อร่างสร้างตัว ความสัมพันธ์กับจีน แบบอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ ประวัติโรงเรียน ครูใหญ่คนสำคัญ อาชีพภูิมิปัญญา ประเพณีพิธีกรรม ตึกเก่าชิโน-ยูโรเปียน การแต่งกาย และอาหารชาวบาบ๋า
แต่ไม่ได้ให้ชมฟรีแล้วนะคะ ค่าชม 50 บาท น่าจ่ายให้เค้าล่ะค่ะ เพราะทำดีคุ้มค่าเข้าชม
น่าเสียดายค่ะ ที่มีเวลาน้อยไปหน่อย ไม่งั้นซึมซาบวัฒนธรรมจีนในภูเก็ตได้อีกอักโข..
แล้วพามาสิ้นสุดที่ซอยรมณีย์ ในถนนถลาง..นะคะ ..
ย่านนี้เป็นย่านธุรกิจสำคัญในอดีต มีตึกแถวเก่ารูปแบบเดิมอยู่มากที่สุดในภูเก็ต
7= ตึกเก่า ซอยรมณีย์
วันนี้ริวิว คร่าว ๆ ของตึกเด่น ๆ เมืองภูเก็ต..
เดี๋ยวจะพาเที่ยว ซอยรมณีย์ และเดินถนนเก่าแก่ .. ดูร้านรวงเค้าบ้างนะคะ..