BlogGang.com : : panomsarakham : จับพ่อแม่สอบศีลธรรม เลือกเด็กเข้าม.1-ม.4ต่ำกว่า70%อด

จับพ่อแม่สอบศีลธรรม เลือกเด็กเข้าม.1-ม.4ต่ำกว่า70%อด

เจ้าของบล็อกพบข่าวการนำการปฏิบัติจริยธรรม มาชักชวนให้พ่อแม่เด็ก ปฏิบัติกันเพื่อผลดีต่อเด็กในการเข้า ม.1-ม.4 ดังข่าว

จับพ่อแม่สอบศีลธรรม เลือกเด็กเข้าม.1-ม.4ต่ำกว่า70%อด

โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551 00:00 น.

ร.ร.มัธยมดังนครปฐมจับพ่อแม่ผู้ปกครองที่สมัครสอบเข้าม.1 และ ม.4 กว่า 1,500 คน สอบศีลธรรม จริยธรรม แถมนิมนต์พระมาติวเข้มก่อนสอบ ระบุได้คะแนนต่ำกว่า 70% ลูกหลานหมดสิทธิ์เรียน หากสอบติดได้เงินทุนการศึกษา ผอ.ร.ร เผยต้องการปั้นเด็กเป็นคนดี หากพ่อแม่เป็นคนดีเด็กต้องดีด้วย ขณะที่แหล่งข่าว สพฐ.ระบุเป็นอำนาจผู้บริหาร ร.ร.สามารถทำได้ แต่ต้องโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ทุกคน

นักเรียนที่จะเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 (ม.1) และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ไม่ต้องเคร่งเครียดท่องตำราเรียน เพื่อลงสู่สนามสอบแข่งขันกัน เหมือนโรงเรียนที่มีชื่อเสียงต่อไปอีกแล้ว เพราะมีโรงเรียนแห่งหนึ่งปรับรูปแบบการรับนักเรียนใหม่ ด้วยการจับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวเป็นฝ่ายทำข้อสอบแทนผู้สมัครเรียนเสียเอง

นายถาวร ชัยจักร
......................

นายถาวร ชัยจักร ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กล่าวว่า วันเสาร์ที่ 5 เมษายน ทางโรงเรียนได้จัดให้มีการสอบความรู้ผู้ปกครองในเรื่องการอบรมดูแลบุตรหลานจริยธรรม ศีลธรรม ก่อนสอบได้นิมนต์พระมาติวข้อสอบให้ด้วย ทางโรงเรียนได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 6 ทั้งนี้ จะเอาคนในครอบครัวมาช่วยกันทำข้อสอบ จะมากี่คนทางโรงเรียนไม่จำกัด 3-4 คนก็ได้ เพื่อทำข้อสอบ 2 ประเภท คือปรนัย (เลือกตอบ ก ข ค ) 50 ข้อ และเป็นข้อสอบแบบอัตนัย (เขียนตอบ) 1 ข้อ ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง

"ผู้ปกครองต้องทำคะแนนได้ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ลูกหลานถึงมีสิทธิ์เข้าเรียนม.1 หรือ ม.4 ในกรณีที่ทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์ต้องสอบซ่อม โดยกลับไปทำข้อสอบใหม่ และในการสอบวันที่ 5 เมษายนนั้น ก่อนการสอบทางโรงเรียนได้นิมนต์พระสงฆ์มาเทศน์ติวข้อสอบให้ผู้ปกครองและนักเรียนทุกคนฟัง ซึ่งเป็นเนื้อหาในหนังสือครอบครัวอบอุ่นที่โรงเรียนได้แจกไปในช่วงรับสมัคร" นายถาวร กล่าว

นายถาวร กล่าวต่อว่าในปีนี้มีนักเรียน ม.1 และ ม.4 จำนวน 1,000 คน ส่วนผู้ปกครองที่เข้าร่วมทำข้อสอบประมาณ 1,500 คน ระหว่างการสอบสามารถเปิดหนังสือดูได้ นอกจากจะเป็นการสอบผู้ปกครองแล้ว ครอบครัวใดทำคะแนนได้สูงสุดในแต่ละระดับชั้น 3 อันดับ โดยอันดับ 1 ได้ทุนการศึกษา 5,000 บาท อันดับ 2 ทุนการศึกษา 3,000 บาท และอันดับ 3 ทุนการศึกษา 2,000 บาท

ด้าน อาจารย์ประเจิด อยู่สงค์ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ กล่าวสนับสนุนว่า ในช่วงปีแรกผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีคนใดปฏิเสธที่จะมาสอบ ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้สร้างความเข้าใจต่อผู้ปกครองว่าโรงเรียนต้องการสร้างเด็กให้มีคุณภาพ เป็นเด็กดีมีคุณธรรม เด็กเหล่านั้นไม่ใช่ลูกของครู แต่เป็นลูกของผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองทุกคนต่างอยากให้ลูกหลานประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้

"นี่คือส่วนหนึ่งโครงการจัดสอบและฝึกอบรมจริยธรรมผู้ปกครอง มีการสอดแทรกการเลี้ยงดูอบรมลูกให้เป็นคนดีของสังคม เพราะเด็กเปรียบเหมือนผ้าขาวต้องอยู่กับผู้ปกครองตลอดเวลา ถ้าผู้ปกครองเป็นแบบอย่างที่ดี อบรมเลี้ยงดูลูกอย่างถูกต้องถูกวิธี เด็กย่อมดีไปด้วย หรืออาจจะพูดได้ว่าพ่อแม่เหมือนครูที่บ้านเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ส่วนครูที่โรงเรียนเป็นแบบอย่างในด้านการศึกษา" อาจารย์ประเจิด กล่าว

อาจารย์ประเจิด กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการจากปีแรกจนถึงปีนี้ ปรากฏว่าผู้ปกครองพึงพอใจมาก และให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนเป็นอย่างดี ส่งผลให้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในวัยเรียนลดลงอย่างชัดเจน เช่น ทะเลาะวิวาท ชู้สาว ยาเสพติด ในขณะที่ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาค่าเฉลี่ยทั้งโรงเรียนอยู่ที่ 2.88 เดิมอยู่ที่ 2.20 และมีแนวโน้มว่าผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาค่าเฉลี่ยทั้งโรงเรียนจะเพิ่มเป็น 3.00 ในปีการศึกษา 2551 และผ่านเกณฑ์การประเมินของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ได้ในระดับดี และสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี คือเด็กที่จบ ม.6 สอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่นักเรียนห้องพิเศษสอบได้ยกห้อง

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.กระจายอำนาจให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ทั้ง 178 เขต เป็นผู้ออกหลักเกณฑ์ในการรับเด็กเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 แต่โรงเรียนสามารถไปกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นของโรงเรียนแต่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกคน

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีผู้สมัครเกินจำนวนให้ใช้วิธีการจับสลาก และโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงให้ใช้สัดส่วน 50 ต่อ50 แบ่งเป็นการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการไม่น้อยกว่าร้อยละ50 หรือหากโรงเรียนใดมีนักเรียนในเขตพื้นที่บริการไม่ถึงร้อยละ50 ให้นำสัดส่วนที่เหลือไปพิจารณารับนักเรียนได้ตามความเหมาะสมเช่น การจัดสอบหรือใช้วิธีการจับสลาก

Create Date : 05 พฤษภาคม 2551

Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 17:07:53 น.

0 comments

Counter : 606 Pageviews.