"ชมรมจริยธรรม โรงพยาบาลพนมสารคาม" ศีล และ ธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

"พรหมวิ(หาร)นาศธรรม 4เทศนาจาก ว.วชิรเมธี ธรรมะที่น่าอ่าน"

พรหมวินาศธรรม เทศนาจาก ว.วชิรเมธี
[คอลัมภ์สกู๊ป หน้า 1 น.ส.พ.ไทยรัฐ วันพุธ ที่ 28 พ.ค. 51 - 16:57]



ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย
............................................................

"เวลานี้...สังคมไทยกำลังเกิดวิกฤติผู้ใหญ่ในบ้านเมือง"

ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย สถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพแห่งการตื่นรู้สู่อิสรภาพ บอก

ผู้ใหญ่ที่เป็นหลักของบ้านเมืองถูกดึงมาสนองเกมการเมืองจนมอมแมมไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ราษฎรอาวุโส นายแพทย์อาวุโส พระชั้นผู้ใหญ่ นักคิดนักวิชาการ ปัญญาชนชั้นนำ

“แม้กระทั่งสถาบันเบื้องสูง ก็ถูกนำมาใส่สีตีไข่...”

ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่า วิกฤติผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทยเวลานี้ เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้ใหญ่หรือผู้ที่อยู่ในฐานะจะต้องวางตนเป็นผู้ใหญ่ ล้วนแล้วแต่ขาดพรหมวิหารกันทั้งนั้น

ต่างฝ่ายต่างก็เมามันในอำนาจราชศักดิ์ ผลประโยชน์ ธนบัตร และตกอยู่ท่ามกลางอคติ จนหลงลืมธรรมะ

คนอินเดียแต่โบราณเชื่อกันมาว่า...“พระพรหม” เป็นเทพผู้ทรงฤทธาศักดานุภาพ สามารถสร้างดินสร้างฟ้า สร้างมนุษยชาติและสรรพชีพ... สรรพสัตว์

พร้อมทั้งยังทรง “ลิขิต” เส้นทางของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงให้เป็นไปตามที่ทรง “เขียนบท” เอาไว้ให้อีกต่างหาก

ด้วยแนวความเชื่อเช่นนี้ จึงก่อให้เกิดแนวคิด “พรหมลิขิต” ขึ้นมาในโลก ซึ่งแนวคิดนี้เท่ากับปฏิเสธว่า “มนุษย์ไม่มีเจตจำนงเสรีในการเลือก วิธีดำเนินชีวิตของตนเอง”

“มนุษย์เป็นเพียงหนูทดลองในห้องทำงานของเทพเจ้าที่ชื่อ...พระพรหมเท่านั้น” ท่าน ว.วชิรเมธี ว่า

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลกแล้ว ทรงเห็นว่า ความเชื่อเช่นว่านั้นไร้สาระ จึงทรงสถาปนาแนวคำสอนที่ว่าด้วยการสร้างโลก สร้างชีวิต ของมนุษย์ และสรรพสิ่งขึ้นมาใหม่

ทรงเน้นว่า พระพรหมนั้นใครๆก็เป็นได้ ถ้ามี...



พรหมวิหารธรรม 4 ประการ อันประกอบด้วย

1. เมตตา ความรักอย่างฉันมิตรกับสรรพชีพสรรพสัตว์ทั่วทั้งโลก

2. กรุณา ความมีใจสงสารในยามที่เห็นเพื่อนมนุษย์-เพื่อนร่วมโลกตกทุกข์ได้ยาก

3. มุทิตา ความพลอยยินดี เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีมีความสุข

4. อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง เมื่อเห็นคนขัดแย้งกับธรรมะ หรือคนขัดแย้งกับหลักการ

“ปล่อยให้ธรรมะ...หลักการหลักกฎหมายทำงานไปตามความเป็นจริง โดยคนไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการทำงานของธรรมะ”

ท่าน ว.วชิรเมธี ยกตัวอย่าง นาย ก. ยิงคนตาย ผู้เป็นพ่อแม้จะรักลูกอย่างไร แต่ก็ปล่อยให้ตำรวจจับ นาย ก. เข้าคุกตามกฎหมาย โดยไม่วิ่งเต้นช่วยเหลือ เพราะถือว่า นาย ก. ผิดจริง จึงควรได้รับกรรมที่ตนก่อด้วยตนเอง

อาการวางใจเป็นกลางอย่างนี้แหละ ที่เรียกว่า “อุเบกขา”

พระพุทธองค์ทรงอธิบายว่า พรหมวิหารธรรมนี้ เป็นหลักธรรมที่ใครก็ตามประพฤติตนแล้ว คนนั้นก็สามารถเป็น “พระพรหมผู้สร้างโลก” ได้

โลกในที่นี้หมายถึง ชีวิตของปัจเจกบุคคล หรือโลกที่หมายถึงมนุษยชาติที่อยู่ร่วมกันในโลกก็ได้

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ใครมีพรหมวิหารธรรม คนคนนั้นก็สามารถสร้างสรรค์บันดาลโลกให้น่าอยู่ได้

ท่าน ว.วชิรเมธี ย้ำว่า คำว่า “พรหม” นั้น นอกจากแปลตรงตัวว่า “พระพรหม” แล้ว ท่านยังให้แปลว่า “ผู้ใหญ่” ได้อีกด้วย

พรหมวิหารธรรม จึงแปลว่า ธรรมะที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่

อาจแปลให้ร่วมสมัยได้อีกว่า ธรรมะที่ทำให้เป็นผู้นำ ธรรมะที่ทำให้เป็นผู้บริหาร ธรรมะที่ทำให้เป็นผู้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์บันดาลโลก

ประยุกต์ให้สอดคล้องกับสังคมไทย พรหมวิหารธรรม ควรแปลว่า ธรรมะที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

ในสังคมไทยยามนี้ ใครทำท่ามีธรรมะหรือมีจริยธรรม จะกลายเป็นคนพันธุ์พิเศษ ซึ่งตกสมัย และล้าหลัง

สภาพการณ์อย่างหนึ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การเป็นคนดีเป็นเรื่องเชยก็คือ เดี๋ยวนี้...คนไทยยอมรับคนโกงได้อย่างสบายๆ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นคนที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด

เมื่อคนไทยส่วนใหญ่ขาดพรหมวิหารธรรม แล้วถามว่า พวกเขามีธรรมะอะไรเข้ามาแทนที่?

“ก็ตอบได้ว่า ตอนนี้คนไทยหันหลังให้พรหมวิหารธรรม แล้วพากันมาสมาทาน พรหมวินาศธรรม กันหมดแล้ว”



พรหมวินาศธรรม แปลว่า ธรรมอันนำมาซึ่งความวินาศของผู้เป็นใหญ่ในบ้านเมือง 4 ประการ คือ

1. บ้าอำนาจ

2. ฉ้อราษฎร์บังหลวง

3. หลอกลวงประชาชน

4. มืดมนกินกามเกียรติ

บ้าอำนาจ หมายถึง กระหายอำนาจรัฐ จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้าครอบครองอำนาจรัฐ ซึ่งเมื่อได้อำนาจรัฐแล้ว แทนที่จะนำไปสู่การทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน กลับกลายเป็นจะก่อให้เกิดการ

ฉ้อราษฎร์บังหลวง หมายถึง การประพฤติทุจริต มิจฉาชีพ ปล้น ชิง ฉก ฉวย เอาทรัพยากรของประเทศชาติบ้านเมืองไปเป็นของตนเองอย่างหน้าด้านไร้ยางอาย

ไม่คำนึงว่าคนอื่นจะได้รับผลกระทบอย่างไร ขอให้ตนเองรวย รวย รวย ล้นฟ้าก็พอแล้ว

หลอกลวงประชาชน หมายถึง ผู้ใหญ่ในแผ่นดินจำนวนมากของเมืองไทยในช่วงหลายสิบปีมานี้ โดยมากทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของ ตนเองและพวกพ้อง จนก่อให้เกิดสภาพธนกิจการเมือง

แต่ทั้งๆที่ตนทำงานการเมืองเพื่อเอื้อต่อภาคธุรกิจของตนแท้ๆ ทว่าถึงกระนั้นก็ยังคงอ้างว่า งานการเมืองที่ทำไปทั้งหมดนั้นก็เพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น

ประชาชนจึงถูกหลอกไม่รู้จบสิ้น

ประการสุดท้าย มืดมนกินกามเกียรติ หมายถึง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพากัน หันหลังให้จริยธรรม มุ่งวัดความสำเร็จในชีวิตของตนและของสังคมด้วยการประเมินกันที่ ใครมี กิน กาม เกียรติ มากกว่าคนนั้น นับว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จ

“เราจึงได้เห็นนักการเมืองจำนวนมากอยากเป็นรัฐมนตรีเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล หรืออยากติดยศทางทหารหรือตำรวจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเป็นเจ้านายใหญ่โต เหนือกว่าคนทั้งปวงเท่านั้น”

หลายปีมานี้นักการเมืองผู้ใหญ่จำนวนมากพากันไปลงทะเบียนเรียนหนังสือตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่ออยากได้ปริญญา อันแสดงให้สังคมเห็นว่าตนก็มีการศึกษากับเขาเหมือนกัน

ด้วยค่านิยมที่ถือกันว่า การมีปริญญาหลายสาขาและยิ่งสูงยิ่งมีเกียรติ จึงก่อให้เกิดอาการขายตัวแลกเกรด และเรียนหนังสือเพื่อเอาหน้ามากกว่าเอาปัญญา

การศึกษาของไทยเลยกลายเป็นพาณิชยศึกษา เพื่อสนองตัณหาของคนบ้าเกียรติ นักเรียนบางคนก็บ้าเกียรติตามผู้ใหญ่ พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังไม่ได้ถึงกับผูกคอฆ่าตัวตาย ก็เคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว

“ต้องยอมรับว่า เวลานี้พรหมวินาศธรรมกำลังแผ่ครอบงำสังคมไทยอย่างกว้างขวาง หากเราไม่ร่วมกันล้มล้างค่านิยมที่ผิดๆเช่นนี้ออกไปจากสังคมไทย...

คงเป็นการยากที่เราจะสถาปนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความร่มเย็น เป็นสุขเช่นในอดีตได้อีก”

ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ทิ้งท้าย.




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2551
0 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 20:51:48 น.
Counter : 847 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


panomsarakham
Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




นายแพทย์สำเริง ไตรติลานันท์
นายแพทย์เชี่ยวชาญ
หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมชุมชน
แพทย์ครอบครัว ร.พ.พนมสารคาม และ
ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพ ต.เขาหินซ้อน
ประธาน"ชมรมจริยธรรม ร.พ.พนมสารคาม"
..................................................

เธอจงระวังความคิดของเธอเพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ จงระวังความประพฤติของเธอเพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ จงระวังความเคยชินของเธอเพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอเธอ จงระวังอุปนิสัยของเธอเพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตาชีวิตของเธอชั่วชีวิต....หลวงพ่อชา
Friends' blogs
[Add panomsarakham's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.