Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
7 ข้อตีแตกทุกปัญหาสิว










แนะนำวิธีรักษาสิวต่างชนิด ต่างสาเหตุ ที่ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน

ข้อแรกหาสาเหตุของการเกิดสิวให้ได้ ไม่ต้องแปลกใจที่ทำตามวิธีการรักษาสิวที่คนอื่นใช้ได้ผลแต่วิธีนั้นกลับไม่ได้ผลกับเรา เพราะสิวที่เกิดจากต่างสาเหตุก็ต้องรักษาต่างวิธี เช่นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนสามารถรักษาได้ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก แต่หากเกิดสิวแบบเป็นตุ่มแดงและอักเสบ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาแรงขึ้น เช่น ยาทาที่มีส่วนผสมของเบนซิลเปอร์ออกไซด์ ที่จะช่วยลดปริมาณไขมันที่ผิวหนัง และละลายสิ่งสกปรกอุดตันตามรูขุมขนแต่ไม่ควรทายามากไปหรือโปะหนาๆ ลงบนบริเวณที่เป็นสิว เนื่องจากจะทำให้ผิวแห้ง วิธีทายาที่จะช่วยรักษาสิวและไม่ทำร้ายผิวคือทาบางๆ บริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น

ข้อต่อมาคือ ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างฉลาก หากซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาสิวเองโดยที่ไม่ได้ไปพบแพทย์ผิวหนังโดยตรง ต้องอดทนทำตามคำแนะนำข้างฉลากอย่างเคร่งครัด เพราะอาจไม่เห็นผลทันทีที่ใช้เหมือนยารักษาสิวที่ออกให้โดยแพทย์ แต่จะให้ผลแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่วางขายตามเคาน์เตอร์จะเห็นผลชัดเจนเมื่อใช้ 6-8 สัปดาห์ หากเกินกว่านี้แล้วไม่เห็นผลจึงควรเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่

ข้อที่สาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับผิวหน้าหรือใกล้ๆ ผิวหน้าเป็นออยล์-ฟรีและนอน-คอมิโดเจนิคหรือไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งอาจเกิดเพราะการแต่งหน้าโดยใช้รองพื้นหนาๆ หรือกลบด้วยคอนซีลเลอร์มากๆ ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเช่น ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันก็อาจทำให้เกิดสิวได้ ดังนั้นจึงควรชโลมครีมลงบนปลายผมเท่านั้น

ข้อสี่ หากรักษาสิวด้วยตัวเองแล้วไม่หายผลสักที ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง เพราะจะประหยัดเงินและเวลามากกว่า เนื่องจากแพทย์จะวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องถึงสาเหตุแห่งการเกิดสิวและให้ตัวยาที่รักษาสิวได้อย่างตรงจุด รวมถึงให้คำแนะนำในการใช้ยาที่ไม่ทำร้ายผิวด้วย

ข้อที่ห้า หากเป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน ซึ่งสังเกตง่ายๆ คือมักเป็นสิวช่วงมีประจำเดือน สามารถรักษาได้โดยการทานยาคุมกำเนิด หรือยาที่ควบคุมระดับฮอร์โมน แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

ข้อหก สิวแบบซีสติค ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงภายในมีหนอง และมักจะทิ้งรอยแผลเป็น หากรักษาแล้วไม่ได้ผลไม่ว่าจะทานยาแก้อักเสบหรือฉีดยา การทานโรแอคคิวเทน 6-8 สัปดาห์สามารถแก้ปัญหาสิวชนิดนี้ได้ แต่ควรทานภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด เพราะยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงคืออาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้าหรืออาจทำให้ทารกพิการได้ หากใช้ในหญิงที่มีโอกาสตั้งครรภ์

ข้อสุดท้าย ขจัดสิวบริเวณอกและแผ่นหลังด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายหรือครีมที่มีส่วนผสมของเบนซิลเปอร์ออกไซด์ แต่มีข้อเสียคือมักจะทำให้เสื้อผ้าเป็นรอยด่าง หรืออาจรักษาสิวบนใบหน้า แผ่นอกหรือหลังด้วยการทำเลเซอร์ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสิวได้ดี แต่ข้อเสียคือราคาแพง

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
dnshopaholic@gmail.com



Create Date : 29 ธันวาคม 2554
Last Update : 29 ธันวาคม 2554 22:11:01 น. 0 comments
Counter : 917 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Panatee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




Friends' blogs
[Add Panatee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.