Bloggang.com : palmplathong - เกาะรั้วดู F1 @สิงคโปร์

เกาะรั้วดู F1 @สิงคโปร์

Singapore Grand Prix : 2013 Formula 1 Night Race

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าสิงคโปร์เซอร์กิตเป็นสนาม F1 ที่ถือว่าเป็นรายการแรก และเพียงรายการเดียว ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน F1 ที่จัดแข่งขันในเวลากลางคืน โดยใช้สนามแข่งบนท้องถนน และใช้ระบบขับทวนเข็มนาฬิกาสนามแรกในเอเชีย ซึ่งถือเป็นงานยากแต่ท้าทายสำหรับนักขับ แต่ปีนี้เหมือนจะเป็นปีสุดท้ายที่ Marina Bay Street Circuit (มาริน่า เบย์ สตรีท เซอร์กิต) จะปิดถนนให้เป็นสนามของการแข่งขัน F1 แต่มีโอกาสสูงมากที่จะได้ต่อสัญญาภายหลังปี 2560

มาเข้าเรื่องของปีนี้กันดีกว่า ว่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน ที่ได้ไปยืนเกาะอยู่ริมรั้วสนามแข่งรถที่ถือว่าเร็วชนิดหันตามแล้วคอแทบเคล็ด เสียงที่ดังกระฮึ่ม จนทำให้แก้วหูชากันไปข้างนึง ด้วยความเร็วเกือบ 300 รอบเครื่องกว่า 20000 รอบต่อนาที ล้อที่เสียดสีกับพื้นสนามจนเกิดเป็นประกายไฟ ช่างเป็นภาพที่ประทับใจแต่ความไวของกล้องมือถือเราไม่สามารถเก็บภาพนั้นมาฝากเพื่อนๆชาว Blog ได้นะซิ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคราฟ

วันที่ 21/9/56 เราได้เดินทางมาสิงคโปร์เพื่อชมการแข่งขันรอบ Qualify

เมื่อมาถึงเราก็ตื่นตาตื่นใจกับ ถนน Marina Bay ที่ถูกเปลี่ยนเป็นสนามของการแข่งขันรถ F1 ในค่ำคืนนี้

สิ่งแรกที่เราจะต้องมี คือ ตั๋วหรือบัตรเข้างานนั่นเอง มีทั้งหมด 3 ใบ ดูกันให้ดีเชียวล่ะ ถ้าเกิดคล้องบัตรผิดวัน เข้าไม่ได้นะจ๊ะ เพราะที่นี่เขาใช้ระบบการยิงบาร์โค้ดจากบัตรเข้าชมงาน

ทางเข้าหน้างาน ก็อารมณ์คล้ายๆบ้านเรา ในงานเทศกาล ที่จะมีคนมาขายของอยู่ปากทางเข้า เป็นสินค้าที่ต้องใช้ในงานเผื่อไว้สำหรับบางคนก็ไม่ได้เตรียมมา อย่างที่นี่ก็มีคนมาขายที่อุดหู ราคา 2 เหรียญสิงคโปร์

และแล้วก็มาถึงทางเข้า เราจะเจอเจ้าหน้าที่ยิงบาร์โค้ดเพื่อ เชคอินเข้างาน เข้ามาอีกซักนิดก็จะเจอเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจกระเป๋า และสุดท้ายก่อนถึงประตูทางเข้าหลักจะมีเจ้าหน้าที่ดักอีกรอบ ถ้าเป็นผู้หญิงเขาปล่อยผ่านเลย แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็ตรวจละเอียดกันซักนิดนึง ขณะรอคิวเหลือบไปเห็นคนใส่เสื้อทีม Red Bull สนนราคาเบาๆ 150 เหรียญสิงคโปร์ (คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 3,750 บาท)

พอเข้ามาในงานเราก็เริ่มรู้ว่า บัตรที่เราแขวนคออยู่นี้ดูเหมือนจะแบ่งชนชั้นวรรณะด้วยสีของบัตร ซึ่งน่าจะบ่งบอกโซนที่นั่งที่ต่างๆกันไป

บัตรเรา VIP ค่ะ สามารถเดินไปได้ทุกที่รอบสนามการแข่งขัน ถูกใจตรงไหนก็ไปจับจองได้เลย และมีจอ TV ขนาดใหญ่กลางสนามหลายจอที่สามารถนั่งดูได้ชัดทุกมุมกล้อง ดังนั้นเลือดนักสำรวจของเราก็ทำงานอย่างเต็มที่ จนได้มุมดีๆมาเชยชม ขอบอกว่ามุมนี้เด็ดมาก เพราะได้เห็นการเข้าโค้งวัดใจ ที่ทำให้เข้าใจว่าทำไม เซบาสเตียน เวทเทลถึงได้แชมป์โลก 3 สมัย การแข่งขันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วอย่างเดียวจริงๆ ใจต้องกล้าที่จะเสี่ยงด้วย เพราะจากที่เรายืนดูอยู่หลายรอบของการ Qualify จังหวะการเข้าโค้งของแต่ละคัน รู้สึกถึงการผ่อนเครื่อง ทำให้แรงตกไป เราว่าถ้าแข่งทางตรงทุกคนถือว่าเท่าเทียมกันหมด มาวัดกันก็ทางโค้งที่เราได้ยืนเกาะรั้วอยู่นี่แหละ ขอใช้คำนี้เลยว่า "ฟิน" สุดๆ

ว่ากันด้วยเรื่องของที่นั่งชมกันซักนิด สถานที่สำคัญอย่างโรงแรมที่อยู่ติดกับ ถนน Marina Bay ถูกจองเต็มทั้งๆที่ราคาช่วงนี้น่าจะสูงปรี๊ด สำหรับบางคนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ากับราคาที่ทำให้พวกเขาได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสชาติของอาหารชั้นเยี่ยม ใช่ไหมล่ะ

สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) ถือว่าเป็นชิงช้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และที่สำคัญไปกว่านั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งสนามการแข่งขัน F1 ซะด้วยซิ ราคาในช่วงนี้จึงพุ่งไปอยู่ที่ 888 เหรียญสิงคโปร์ สำหรับการวน 1 รอบใช้เวลาราวๆ 40 นาที พร้อมด้วยค็อกเทลหรือแชมเปญ พร้อมกับมีของหวานต่างๆ ที่มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี

เข้าสู่การเปิดตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจการดีกว่า ในวันนี้เราได้พบกับการแสดงแสงสีเสียงแบบอลังงานงานสร้างจริงๆ เป็นการต่อสู้ของมังกรกับมดและตั๊กแตนยักษ์ ที่สามารถพ่นไฟออกมาได้ด้วย ทำได้ดีมาก การเคลื่อนที่ของมังกรลักษณะคล้ายกับการชักว่าว ส่วนมดและตั๊กแตนยักษณ์ เคลื่อนไหวด้วยแรงปั่นอารมณ์คล้ายๆปั่นจักรยานน้ำบ้านเรา

และการแสดงควงลูกไฟ ที่ร้อนแรงทุกองศา สวยงามมากและร้อนจริง เราไม่สามารถไปยืนอยู่แถวหน้าได้เลยยกมือถือขึ้นมา แล้วยื่นไปสุดแขนเพื่ออัด VDO เอาไว้ซะเลย พูดได้เลยว่า สวยมาก

ไฮไลน์ในงานนี้สำหรับตัวฉันที่ประทับใจเป็นพิเศษคือ สาวน้อย ที่รับบทเป็นนางฟ้า มาชุบโลกให้ฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ นางลอยมาด้วยลูกโป่งสวรรค์ และมีคนชักลากพานางไปยังจุดต่างๆ รอบๆการแสดง นางแข็งแรงมากๆ สวยสง่า บนอากาศ ที่สูงราวๆ ตึก 2 ชั้น นางไม่ได้โผล่มาแล้วหายไปง่ายๆ การค้างอยู่บนอากาศของนางนานเลยที่เดียว นางตีเกลียวลังกาหน้า ลังกาหลัง ทุกท่วงท่าช่างอ่อนช้อย สวยงาม ณ จุดๆนี้ ฉันรักนางจัง นางฟ้าของฉัน

หลังจากตื่นตาตื่นใจกับการเปิดงานอย่างเป็นทางการ ที่สุดแสนจะประทับใจ ก็ถึงเวลาออกเดินดูบริเวณรอบๆงาน รูปแบบการจัดงานคล้ายๆการจัดคอนเสริตในบ้านเราที่มี บูทขายอาหาร ขายของที่ระรึก อยู่บริเวณรอบๆ แต่บูทที่ดึงเวลาฉันนานที่สุด เห็นจะเป็นบูท singtel ที่อลังงานงานสร้างด้วยแอร์ที่เย็นช่ำ และการตลาดที่นำเอารถ F1 จำลอง มาให้ทดลองขับ โดยการซื้อของที่ระรึก 40 เหรียญสิงคโปร์ คุณจะได้เป็นพวงกุญแจรถ F1 ที่อยู่ในกล่องสวยงาม พร้อมด้วยการ์ดโทรศัพท์ และที่สำคัญที่สุด คือ ได้เล่นเกมส์ขับรถ F1 จากรถจำลอง คันนี้

เดินไปเดินมาก็ต้องสะดุดกับ พี่น้อง 2 คนนี้ ที่กำลังเอาจริงเอาจังกับการแข่งรถในเกมส์ ณ สนามการแข่งขันจริง เสียงบรรยากาศจริง รู้สึกว่าจะทำให้เกมส์ในวันนี้สนุกขึ้น และเข้าถึงอารมณ์จริงๆเชียว

เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง พื้นที่ทองสำหรับทุกคนดูเหมือนจะเป็นลานสนามด้านล่างที่เราดูการแสดงเปิดฉากหรือหน้า TV จอยักษ์นั่นเอง คนที่ถือบัตร VIP อย่างเราที่เดินไปเดินมา หรือบางคนก็จับจองพื้นที่ด้านหน้า TV ดูจะเข้าทางเราซะแล้ว เพราะไม่ว่าคุณจะจ่ายบัตรแพงแค่ไหนสุดท้ายก็ลงมาอยู่พื้นที่เดียวกัน และดูเหมือนจะเสียเปรียบเล็กน้อยสำหรับตำแหน่งหน้าเวทีคอนเสริตของนางห่าน รีฮันน่า ที่เล่นปิดท้ายการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นพื่นที่โล่งก็กลายเป็นชุมชนแออัด ที่เปลี่ยนความตื่นเต้นในสนามการแข่งขันมาเป็นจังหวะการโยกย้ายร่างกายไปกับเพลงของนาง

ผู้ชนะในการแข่งขัน F1 2013 ได้แก่ เซบาสเตียน เวทเทล

เก็บภาพบรรยาศยายค่ำคืนของสิงคโปร์มาฝากค่ะ

ภาพที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์

และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปี 2015 ประเทศไทยของเราจะได้เป็นเจ้าภาพ สู่ F1 Grand Prix of Thailand

ความฝันของฝันวันนี้ก็กลายเป็นเรื่องจริงอีกเรื่องแล้วซินะ