ธรรมะกับจิตใจ
ลูกวัยทีนใส่ คุณแม่ก็ขอเป็นวัยทีนบ้าง
หนุ่มน้อยหน้ามน...นามว่าแพททริก...เป็นบ่าวแล้วนะ..ยาย
สามคนแม่ลูกนั่งพัก..ก่อนเดินช็อปต่อ...ในวันสบายๆของยุคเศษฐกิจชบเชา คนชื้อ...ก็เลยอยากจะกลายเป็นหมาพันธุ์ เชา..เชา..เสียให้รู้แล้วรู้รอดนะ ขึ้นข้อความเสียจนตัวเองก็ตกใจ เพราะไปใกล้ชิดกับคนที่มีศีลธรรมประจำใจอย่าง ยายจันทร์ดี ชื่อที่เพื่อนๆฝรั่งตั้งให้ว่า "แชนดี้" อีกราย พี่กฤษณา ไปทำงานที่ห้าง เพื่อนๆฝรั่งจำอยาก เลยตั้งให้ว่า "กิ๊บชี่" เราผู้มาอยู่อเมริกาใหม่ๆ อยากมีชื่อเป็นฝรั่ง ขอตาสตีฟตั้งจากบุญสิตา ว่า "บุญนี่" ตาสตีฟห้ามเสียงหลง จากชื่อเล่นว่าต๋อย พวกฝรั่งจะออกเป็น "ทอย" อยู่กับตาสตีฟ แกออกเสียงว่า ต๋อยได้ ก็ย่างเข้าปีที่สี่ ไปกับพี่แจ๋ว เวลาแกแนะนำให้รู้จักกับฝรั่ง ถ้าเป็นผู้ชายแกจะบอกว่า "ไม่ใช่ toy สำหรับยูนะ เราชอบสะกดชื่อตัวเองว่า Toy ชึ่งแปลว่า ของเล่น คุณยายแมนดาริน เวลาเขียนการ์ดส่งให้ ก็จะเขียนไม่ให้เป็นของเล่น ว่า Tohy ส่วนไอ้หนุ่มฮาร์วาร์ด ก็จะสะกดมาว่า Pi Thoy ตัตฉากนะแก ไปวัดไทย การสร้างศาลาก็ได้เรียบร้อยเป็นอันดี ส่วนมากจำนวนเงินบริจาค เท่าไหร่จะได้มีชื่อบน โบสถ์ เราแม่ลูกก็จะไปอ่าน ก็จะดูนามสกุลดัง จากเมืองไทย มีคุณจรรยา สว่างจิต ที่รุ้แต่ละท่านก็ไฮโชที่เมืองไทย มีหลายท่านนะ คนไม่ดังก็เยอะคะ แต่ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกสะดุด ที่ชื่อ คุณคำมุ้ง คุณคำสวย นามสกุลว่า คำเมือง อันการไปวัดดิฉันก็เป็นชาวพุธคนหนึ่ง ชื่อเข้าวัดตอนวันสำคัญเท่านั้น การกลับเมืองไทย ตอนแพททริกอายุหกเดือน ต่อเครื่องที่เมือง นาริตะไปเทศแจแปน หาเพื่อนคุย ก็เห็นหลวงตานั่งคนเดียวที่ร้านแมคโดนัลด์ แนะนำตัว นั่งคุยกับพระ ชึ่งในชีวิตไม่เคยพูดกับพระเลย เหตุการณ์มันบังคับ หาเพื่อนคุยไม่ได้ ที่สุดไปวัดเพราะหลวงตาแท้ๆ... การเข้าวัดบ่อยๆก็จะไปหาหลวงตาท่าน พอลืมไปวัดอีกที่ก็หลายเดือน ทีนี้ก็ใช้การเขียนจดหมาย ฝากเช็คไปทำบุญ ค่าน้ำ ค่าไฟให้กับวัด จนหลวงตาเอามาพูดให้โยมที่เป็นเพื่อนฟังว่า "อาตมาบวชมาก็จะครบสี่สิบพรรษา พึ่งได้รับจดหมาย จากโยมต๋อยเป็นคนแรก" แล้วหนูจะบาปหรือเปล่าคะ ภาษาพระก็จะบอกว่า "แล้วหนูจะอาบัติหรือเปล่าคะหลวงตา จบคะจบง่ายนะ ธรรมะกับจิตใจ มันเกี่ยวข้องกันตรงไหน คนเขียนก็ไม่รู้ (คนอ่านคิดเอาเองนะ)
Create Date : 16 มีนาคม 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 16 มีนาคม 2552 9:14:06 น. |
Counter : 481 Pageviews. |
|
|
|
มีนาคมช่วงฉันนี้บ้า ถ่ายรูปดอกไม้ บ้าธรรมะ ไปบ้านพี่จันทร์ดี มะนาวหลังบ้านแกลูกเท่าส้มโอ กล้องที่เอาไปแบตเสื่อม น้องดารา เก็บให้สามลูก "เชื่อรินเถอะพี่ต๋อย มะนาวจริงๆ หนูเอาไปทำสัมตำและพวกยำแล้ว
คนไม่เคยเห็นไม่ลองไม่รู้ "เอามาริน"
แบ่งให้พี่จุ๋ม๑ลูก ยังจะไม่เอาอีก บอก
"แก้วชื้อมาแล้ว " มันไม่เหมือนกันพี่"
ตาสตีฟแกเคยเห็นนี้ "แกว่ามันก็เรม่อน
โดยแกไม่แปลกใจ
ภุมภาพันธ์ หลังแกผ่าได้สองวัน รู้แล้วว่าตาสตีฟกินยาเกินขนาด ตอนหัวค่ำ พาแกไปเดิน ทดสอบความจำแก
"หลายปีก่อนยูเคยเล่าว่า ตอนอายุสิบขวบ ชอบไปเล่นที่ป่าข้างบ้าน บอกไปเก็บ ลูกบลูเบอรรี่มันขึ้นเองตามธรรมชาติ จำได้แกบอก ยังไม่หมด มันมีต้นองุ่นอีก "พวกยูกับเพื่อนไปขโมย?"หรือ แกว่า มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แกกับเพื่อนก็เอาขวดไปเก็บหมักเป็นไวน์ พอครบสิบวัน ก็จะพากันไปกินไวน์ ที่เอาฝังดินไว้ "ฉันว่าแล้ว สาเหตุนี้เองที่ยูต้องกลายเป็นแอลกอร์ฮอร์ลิชึม เมื่อสามสิบปีก่อนสาเหตุนี้เอง
ตอนวันฮาโลวีน ตาสตีฟกับเพื่อนๆปั่นจักรยานไปขอลูกอมได้มา แปดกระสอบ ครึ่งกระสอบปุ๋ยบ้านบ้านเรา กินจนพากันป่วย เพราะน้ำตาลในเลือดมากเกินไป
ไปบอสตันสามครั้ง ตาสตีฟจะพาไปดู
โรงเรียนประถมจนถึงไฮสคูล ก้อนหิน ป่า สายน้ำเล็กๆ ที่ตาสตีฟเคยเล่น อาคารเรียน ยังอยู่ครบ จะมีตึกสร้างเพิ่มหนึ่งหลังเท่านั้น
เท่านี้ยังไม่พอ เพื่อนสมัยอนุบาล ชื่อ
แชม ยังมารับตาสตีฟไปย้อนอดีดกัน
เพราะแชมใช้ชีวิตเป็นครูที่บ้าน ปีนี้
๒๐๐๙ แชมได้ขายบ้านที่พ่อแม่ยกให้
ที่บอสตัน มาอยู่ที่ฟอริด้า รีไทร์แล้ว
ยังคงเหลือแต่ตาสตีฟ
เพื่อนตอนเรียนมัธยมของตาสตีฟ จำชื่อไม่ได้เป็นคนขับรถพาพวกเรามาส่ง ตอนกลับจากงานเลี้ยงรุ่นของพวกเขา
ตาคนนี้พูดไม่หยุดเลย
เพื่อนสมัยไปสงครามเวียตนาม ได้ส่งรูปสมัยที่เป็นทหารมมาด้วยกัน ที่รัฐเวียจิเนียใต้ แพททริกอายุได้ห้าเดือนเราไปกัน มีภูเขาชื่อสมิทเม้าร์แทน แกมีบ้านสองหลัง สองสามีเป็นครู ได้ชื้อบ้านพักตากอากาศไว้ ที่ตาสตีฟไปหาเพื่อนคนนี้ เห็นเขาเล่าอดีดตอนที่อยู่เวียตนามกัน ฟังเขาไม่รู้เรื่องหรอกภาษาของเราก็
งู ปลา นกๆ พิมท์บล็อก เพราะรอเล็บ
แห้ง เค้กสั่งให้แม่ ห้ามไปรดและปลูกต้นไม้ แห้งแล้ว ไปละ