* + * + *+ * เ ด็ ก ช า ย เ ล ข ที่ 3 4 - อาจเพราะมีบางสิ่งที่สำคัญกว่าความสุขของเรา * + * + *+ *









เด็กชายเลขที่ 34
เขียนโดย ENZO
แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์ a book
จำนวนหน้า 223 หน้า
ราคา 320 บาท (พิมพ์สี่สีทุกหน้า)







ผ ม แ ค่ อ ย า ก จ ะ มี ค ว า ม สุ ข







ประโยคที่ดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่ในชีวิตจริง เราอาจจะแค่ฟัง และไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันนัก


หากเมื่อมันมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้


มันทำให้คนอ่านอย่างฉัน รู้สึกเจ็บปวดไปกับเด็กชายเลยที่ 34 คนนี้ด้วย


...









ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ด้วยความรู้สึกหลากประการด้วยกัน


นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของชีวิต ว่าในชีวิตของฉัน เคยมีเด็กชายเลขที่ 34 เข้ามาในชีวิตบ้างหรือไม่ มีเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องบ้างหรือไม่ และในวันนั้น ฉันมองเขาด้วยสายตาอย่างไร เข้าใจเขาบ้างไหมนะ?


ฉั น ถ า ม ตั ว เ อ ง






ฉันอาจเป็นเด็กหญิงที่โชคดีกว่าเด็กชายเลขที่ 34 มากนัก ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีแม่เป็นครู อิสระกับชีวิตในขวบวัยที่ต้องเรียนอนุบาล ที่ไม่ต้องอยู่ในกฎระเบียบ (เพราะเป็นร.ร.ที่แม่สอน) ขณะที่เพื่อนๆ ทุกคนทำตามตารางที่ครูอนุบาลบอก แปรงฟัน กินนม นอน เีรียน เต้น ร้องเพลง ฉันกลับเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลที่เที่ยวเดินท่อมๆ ไปตามห้องเรียนของพี่ชั้นโตๆ ตั้งแต่ปอหนึ่งถึงปอสาม เพื่อจะดูว่าเขาเรียนอะไรกัน เขาทำอะไรกัน


ดังนั้น...ฉันจึงรักโรงเรียน และเรียนรู้ที่จะรู้ว่า..การใช้ชีวิตในโรงเรียนคือ "อะไร" และเป็น "อย่างไร"




และฉันสามารถยอมรับความคาดหวัง บรรทัดฐานว่า ต้องทำเช่นไร พ่อกับแม่ถึงจะรู้สึกดี ถึงจะมีความสุข


ฉันเรียนรู้ที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ โดยไม่ได้โหยหาความสุขของตนเอง


โดยไม่ต้องแลกความสุขของตนเอง เพื่อความสุขของคนอื่น


เพราะมันต่างก็เป็นความสุขของฉันและคนอื่นได้เท่า-เท่ากัน


ฉั น โ ช ค ดี ก ว่ า เ ด็ ก ช า ย เ ล ข ที่ 3 4 ม า ก นั ก










เวลาไปโรงเรียน ฉันสามารถที่จะมีความสุขกับการเรียน สนุกเวลาพักเบรคเช้า พักเที่ยง เบรคบ่าย

สนุกกับการได้เล่นกับเพื่อนๆ


หากจะรู้สึกย่ำแย่อยู่บ้าง ก็ในยามตอนเข้าประถมหนึ่งที่โรงเรียนแห่งใหม่ในระยะเวลาแรกๆ ที่ต้องพยายามทำตัวให้มีเพื่อนเนื่องจากเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เค้ารู้จักกันอยู่แล้ว เป็นกลุ่มก้อนกันอยู่แล้วตั้งแต่อนุบาล - เท่านั้น




แต่..ก็ใช้เวลาไม่นานนัก ที่ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า..ทำอย่างไรจึงจะเป็นเพื่อนกับพวกเขาได้


บางครั้งเราก็อาจจะต้องยอมหงายท้องอย่างหมายอมแพ้...แค่นั้น


แต่..ชีวิตก็อย่างนี้ ไม่มีใครได้อะไรมา โดยไม่เสียอะไรไปเลยหรอก...ใช่ไหม?









ฉันไม่ใช่เด็กเรียนเก่งในตอนเด็ก แค่เรียนพอไปได้ ชีวิตการเล่นในวัยนั้นสำคัญกว่าการเรียนไม่น้อย

ในยามเย็นเมื่อฉันกลับมาบ้าน (สมัยประถมหนึ่งและสอง) ฉันมีความสุขกับการไปตระเวนเที่ยวเขื่อนที่อยู่ใกล้บ้านพักครู ไปลงเล่นน้ำคลอง

เมื่อต้องย้ายบ้านตอนประถมสามจนถึงประถมสี่ ฉันก็ยังมีความสุขกับการไปป่ายปีนต้นคูณต้นขี้เหล็กที่เรียงรายอยู่หน้าที่ทำการเทศบาล ไปจับแมลงปอทั้งด้วยมือเปล่าและทำที่จับด้วยไม้กับถุงพลาสติกและยาง ไปปั่นจักรยานเล่นทั่วนาทาทิศ เล่นหมากบ้าน เล่นกระโดดยาง สร้างบ้านด้วยลังกระดาษ

และแน่นอน...เวลาที่ฉันไม่อยากเล่น เวลาที่เพื่อนๆ เล่นอะไรที่ฉันไม่ประสงค์จะร่วมวงด้วย หรือในวันที่โกรธกับเพื่อน ฉันก็ยังมี "หนังสือ" เป็นเพื่อน




ฉั น โ ช ค ดี ก ว่ า เ ด็ ก ช า ย เ ล ข ที่ 3 4 ม า ก นั ก จ ริ ง - จ ริ ง





ฉันอาจจะเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเด็กชายเลขที่ 34 มากกว่าเด็กชายเลขที่ 34 เอง












ถ้าฉันเป็นพ่อแม่ เป็นครูของเด็กชายเลขที่ 34 ฉันจะทำอย่างไรนะ


ฉันจะเข้าใจเขาไหม? ฉันจะทำอย่างไรให้เขายังคงมีความสุข แต่ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตได้นะ


ฉันจะทำอย่างไรกัน?


ฉันถามตัวเอง











ฉันถามตัวเองว่า...ความสุขของคนคนหนึ่งสำคัญมากแค่ไหน

เมื่อเทียบกับความสุขของคนที่เขารักเรา และให้อะไรกับเรามาทั้งชีวิต

เมื่อเทียบกับความสุขของคนที่เราควรต้องใส่ใจในความสุขของเขาไม่น้อยไปกว่ากัน











เหมือนกันกับที่ฉันเคยอ่าน "คิดถึงทุกปี" ของบินหลา สันกาลาคีรี


หนังสือเล่มนั้นบอกฉันว่า "มีบางสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรัก"


ฉันก็อยากจะบอกเหลือเกินว่า...มันมีบางสิ่งเช่นกันที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความสุขของตัวเราเอง












เพียงแต่...แต่ละคนจะยอมรับมันได้ไหม

เพียงแต่...แต่ละคนจะเข้าใจมันหรือไม่

เพียงแต่...มันจะต้องใช้เวลานานมากน้อยแค่ไหน

และ...ต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง



หรือ...เราต้องสูญเสียเ็ด็กเกเรอีกกี่คน ที่หายตัวไปในป่า และไม่มีใครได้พบเจอเขาเลย...อีกกี่คนกัน?










หรือเป็นเพราะความสุขเป็นเพียงของแสลง เป็นเพียงของชั่วครั้งคราวที่ไม่ได้มีอยู่จริง

ความทุกข์ต่างหากที่เป็นของจริง




มนุษย์เรา...จึงไม่สามารถมีความสุขเป็นของตัวเองได้...


กั น แ น่ น ะ ?















ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

709489/5865/484




ป.ล. 1 สงสัยเรื่องที่ตอนไปอ่านในบล็อกคนแปล มีเรื่องที่คุณ ENZO พูดถึงเรื่องเส้นทางการวิ่งของเด็กชายฯ ที่ยังคงไว้ แสดงว่าต้นฉบับน่าจะพิมพ์แบบอ่านจากขวาไปซ้ายหรือเปล่า? แล้วถ้าอย่างนั้น ตอนพิมพ์แบบซ้ายไปขวา ทำยังไงภาพยังเหมือนเดิม นึกไม่ออกง่ะ (หรือภาพต้นฉบับเป็นแบบไม่เย็บกลาง?)

ป.ล. 2 มีเรื่องการแปลนิดหนึ่งที่ติดใจ คือตอนท้ายๆ เรื่องที่มีถ้อยคำต่างๆ ที่ล้อมรอบเด็กชายฯ เราคิดว่าบางอันน่าจะเป็นถ้อยคำที่พ่อแม่คุยกับเด็กชายฯ เพราะงั้นคำสรรพนามมันน่าจะเปลี่ยนด้วยหรือเปล่านา? แต่นอกนั้นแปลอ่านได้ลื่นค่ะ




 

Create Date : 02 กันยายน 2553
36 comments
Last Update : 2 กันยายน 2553 8:13:04 น.
Counter : 1751 Pageviews.

 

หวัดดียามเช้าครับ พี่สาวไก๊ด
ต้องไปซื้อมาอ่านบ้างแล้ว
ผมเด็กชายเลขที่ 17

 

โดย: เศษเสี้ยว 2 กันยายน 2553 9:50:12 น.  

 

น่าอ่านนะคะ ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เลยไม่รู้ว่าเด็กชายหมายเลข34เนื้อเรือ่งเป็นยังไง
แต่ตอนณ มนเป็นเด็ก ณ มนชอบเข้าไปคุยกับเด็กที่ดูเหมือนจะแสบในสายตาคนอื่นๆเด็กผู้หญิงในห้องไม่ยอมคุยด้วย
เราอยากรู้ว่าเขาคิดอะไร คิดยังไงถึงทำตัวดื้อดึงกับครู ร้ายกาจกับเพื่อน
แต่เชื่อไหมว่าพอถึงเวลาเข้าค่าย กลายเป็นว่าเด็กเกเรพวกนี้อ่ะค่ะ ช่วยเราได้มากกว่าเพื่อนที่นิสัยดีเสียอีก
เขาช่วยทำกับข้าวหุงข้าวในขณะที่เด็กคนอื่นๆได้แต่จดๆจ้องๆ ปล่อยให้เราที่เป็นหัวหน้ากลุ่มทำคนเดียว
บางทีถ้าเราเข้าใจเด็กเหล่านี้ เขาก็ไม่ร้ายจนเกินไปนักอ่ะค่ะ เขาแค่รอให้เราเข้าใจเขาเท่านั้นเองนะ

อันนี้จากประสบการณ์ของเราสมัยเรียนน่ะค่ะ

 

โดย: ณ มน 2 กันยายน 2553 10:26:18 น.  

 

คุณสาวไกด์

เข้ามาอ่านแบบไม่ได้ลอคอินค่ะ เราเคยอ่านรีวิวหนังสือเล่มนี้จากที่อื่น เราอยากไปหาซื้อมาอ่านบ้าง

เราค่อนข้างเซนซิทีฟกับประเด็นเด็กละคนสูงวัยเสมอ เราเชื่อว่าเด็กแสบทุกคนล้วนมีปมในใจบางอย่าง

ถ้าเราเข้าใจเขา และพร้อมจะช่วยเขา เด็กแสบแบบเด็กชายหมายเลข 34 ก็เป็นเด็กน่ารักได้

ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะคะ ทำให้อยากอ่านมากขึ้น : )

 

โดย: love at first click IP: 204.136.218.8 2 กันยายน 2553 11:09:03 น.  

 

v___v

เป็นหนังสือที่เราอยากให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนได้อ่านจริงๆ นะเล่มนี้

 

โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 61.91.32.153 2 กันยายน 2553 11:19:19 น.  

 

อยากอ่านมั่งค่ะ

 

โดย: cakecode 2 กันยายน 2553 13:01:47 น.  

 

อ่านไปก็พลันให้นึกถึงอดีตตามไปด้วยค่ะว่าในห้องมีใครที่เลขที่ 34 บ้างน๊าาา

หวนให้นึกถึงวัยเรียนตัวกะเปี๊ยกที่ตอนกลางวันคนอื่นเค้านอนกันแต่เราออกไปเก็บมะขามที่ล่วงอยู่ใต้ต้นมากินทั้งที่มะขามเปรี้ยวมากแต่ก็เก็บเพราะไม่อยากจะนอนกลางวัน5555+++


ขอบคุณที่แนะนำหนังสือน่าอ่านค่ะ

 

โดย: อ้อมกอดของความเหงา 2 กันยายน 2553 13:07:45 น.  

 

น่าอ่านจัง

 

โดย: บางส้มเปรี้ยว 2 กันยายน 2553 13:27:42 น.  

 

อ่านแล้วเหมือนจะซีเรียสเลยนะคะ
แต่ก็ดูเป็นหนังสือที่น่าสนใจทีเดียว
สมัยเด็กชีวิตเราก็น่าจะดีกว่าเด็กชายเลขที่ 34 เหมือนกัน
แต่ก็อยากจะรู้ว่าแล้วชีวิตเด็กชายเลขที่ 34 เป็นยังไง

 

โดย: หัวใจสีชมพู 2 กันยายน 2553 13:54:09 น.  

 

แซลลี่ก็งงๆ เอ รึเค้าจะเหน็บว่าเราชอบดูละครหลังข่าวนะ แหม กำลังติดวนิดาอยู่เลยเชียว

แซลลี่อัพฮาวทูแล้วว ยึดรูปไปแปะเรียบโร้ยยยย แถมติดลิ้งค์ด้วยยย

คุณสาวไกด์อ่านหนังสือเยอะจริงๆเลย ตั้งกะเริ่มทำงานมา ก็อ่านน้อยลงๆๆ จนเหลือแต่อ่านในเนตไปแล้วล่ะค่ะเนี่ย



แซลลี่ก็แค่อยากจะมีความสุข เหมือนกันนะ

 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 2 กันยายน 2553 15:31:03 น.  

 

ทักทายก่อนจ้ะ

เดี๋ยวพี่มาใหม่นะเต้ย...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 2 กันยายน 2553 15:55:10 น.  

 

คุณสาวไกด์คะ มาทักทายยามเย็นค่ะ

อย่างที่บอก ไม่ถนัดเรื่องหนังสือเท่าไหร่
แบบว่าสาระไม่เน้น มุ่งแต่บันเทิง ฮ่าๆ

ใกล้เลิกงานแล้ว วันนี้ไปงานททท.มั๊ยเอ่ย เห็นคุณลุงบอกว่าคนเยอะมากกกกกก

เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะคะ

 

โดย: nLatte 2 กันยายน 2553 16:44:49 น.  

 

แวะมาทักทายคะ....ชักอยากรู้แล้วเด็กชายเลขที่ 34 เป็นคนยังงัย....

ตัวเราเองจำไม่ได้แล้วคะว่าสมัยประถม เราเลขที่อะไร...ความจำสั้น..แต่รักนั้นยังนานอยู่คะ

 

โดย: Maew-Tua-Lek 2 กันยายน 2553 17:30:50 น.  

 

น่าอ่านจัง ตามปกติสาวอ่านหนังสือเด็กน้อย เห็นหลายเล่มที่พี่เต้ยเอามารีวิว ทำให้อยากอ่านขึ้นมาเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ

ปล.สาวเอรูปที่พักมาฝากแล้วนะคะ สาวถ่ายแต่บรรยากาศข้างนอก และที่นอนอย่างเดียว เสียดายจังค่ะ มีรูปเดียวนะคะ

 

โดย: sawkitty 2 กันยายน 2553 19:32:51 น.  

 

เราอยากเป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ ที่ได้
อ่านเล่มนี้ค่ะ .. อยากอ่านแล้วก็จะได้
นั่งคิดถึงสมัยก่อน และอยากอ่านเพื่อที่จะ
ได้มองเด็กบางคน ให้เข้าใจ มิใช่
เอาความเป็นผู้ใหญ่ของเราไปใส่ในตัวเขาค่ะ

 

โดย: JewNid 3 กันยายน 2553 8:45:23 น.  

 

อ่านแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังแน่นอนค่ะ

จาก ดญ. หมายเลข 24
( ตัวเลขมาจากรอบเอวที่วัดได้ หุหุ อย่าบอกใครนะว่าเราฝันกลางวัน)

 

โดย: Love At First Click 3 กันยายน 2553 9:43:50 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณสาวไกด์

เห็นเพื่อน ๆ น้อง ๆ บล็อกพูดถึงหนังสือเล่มนี้มาหลายคนแล้วค่ะ ทำเอาป้าเดซี่ชักอยากไปซื้อหามายลมั่งแล้วสิคะ

อยู่ที่ฮ่องกง อย่างนึงที่ป้าชอบดูคือพวกศิลปะ ภาพวาดของเค้านะคะ

พอมาเห็นภาพจากหนังสือเล่มนี้ ก็เดาได้เลยว่าศิลปะจีนแน่ ๆ อิอิ น่ารักค่ะ

ไม่ได้รู้เรื่องเต็ม ๆ ซะที น้อง ๆ เอามารีวิวทีไร ก็เขียนกันอั้น ๆ เหมือนกะที่คุณสาวไกด์เขียนนี่แหละค่ะ

 

โดย: Oops! a daisy 3 กันยายน 2553 10:31:17 น.  

 

พูดถึงหนังสือได้ดีจัง อ่านแล้วทำให้อยากอ่านเล่มนี้ขึ้นมาเลย

เครื่องบรรยายฟรีจ้ะ
เค้าจะถามตอนก่อนขึ้น แล้วก็คืนตอนลง หรือตอนสาวไกด์ฯ ไปเค้ายังไม่มี? แต่มันเบาจริงๆ ถึงตรงนั้นแล้วนั่งดูวิว กับเมาท์สนุกกว่ากันแยะ ฮิๆ

 

โดย: adaytrip 3 กันยายน 2553 12:46:40 น.  

 

น่าสนใจเชียวค่ะ

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 3 กันยายน 2553 13:43:25 น.  

 

หวัดดีค่ะ

ทุเรียนทอดกินแล้วอ้วน ก็อย่ากินเยอะจิคะ 5555 :P

 

โดย: :D keigo :D 3 กันยายน 2553 14:04:01 น.  

 

..แวะมาอ่าน ค่ะ น่าติดตาม .. ดีค่ะ..

 

โดย: tifun 3 กันยายน 2553 15:24:04 น.  

 

ปกสวยดี อยากอ่านมั่ง ตอนนี้จดชื่อหนังสือที่อยากอ่านไว้เต็มไปหมด บางเล่มมาจากรีวิวของคุณสาวไกด์ที่แหละ

เล่มนี้ก็ขอจดไว้ด้วย แต่ค่าส่งมาที่นี่แพงมากๆ แต่ต้องทำใจเพราะอยากอ่าน ไปละ สวัสดีค่ะ

 

โดย: settembre 3 กันยายน 2553 17:06:11 น.  

 

วันนี้เราซื้อเล่มนี้แล้วค่ะ ... ซื้อโดยบังเอิญ
เพราะว่าเหลือบไปเห็นโดยบังเอิญ
ที่แผงหนังสือใกล้บ้าน แบบว่าเราเอง
ก็ไม่คิดจะมีอ่ะค่ะ แต่ว่าพอเหลือไปเห็นแล้ว
ก็แน่นอนล่ะค่ะเพราะว่าเพิ่งอ่านรีวิว
จากที่นี่แล้วก็ได้ซื้อมาอ่านเลย แต่ว่า
ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยค่ะ เก็บไว้ก่อนตามเคย เหอๆๆ

 

โดย: JewNid 3 กันยายน 2553 19:39:55 น.  

 

อิอิ อิ่มไปอีกหลายวันเลยจ้ะ ฮาวทูมั่วๆกลัวมีคนทำแล้วท้องเสียนะนี่

ซื้อมาเยอะไปหน่อย ยังเหลือติดตู้เย็นเยอะเลยจ้ะ เริ่มนิ่มขึ้นละ เดี๋ยวหาตัวช่วยมาเคลียร์



 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 3 กันยายน 2553 20:00:50 น.  

 

สวัสดีค่ำๆครับ
กลับจากสัมมนา
แวะมาทักทายครับ
.................................
ควคามจริงน่าเล่าไปเรื่อยๆ...ทั้งเล่มอะนะ

 

โดย: panwat 3 กันยายน 2553 20:44:42 น.  

 

เค้าว่า...คนที่ชอบอ่านหนังสือ

จะชอบเขียนบันทึกด้วย...

และสามารถเขียนหนังสือให้คนอ่านได้ดีด้วย...

พี่ชอบอ่าน...ชอบบันทึก...

แต่เขียนให้คนอื่นอ่านแล้วเห็นภาพไปด้วย...ไม่สามารถจริงๆ จ้ะ

ที่พูดมาทั้งหมด พี่จะบอกว่า...

เต้ยเก่งเนอะ...

เขียนชวนให้อ่านหนังสือทีไร

ทำให้น่าอ่านทุกที...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 3 กันยายน 2553 21:32:53 น.  

 

อยากรู้ว่า คุณต้ยโชคดีว่าเด็กชายเลขที่ 34 ยังไง
เห็นทีเราต้องอ่านเรื่องนี้บ้างแล้วล่ะ

ปล. ส่ง blog ประกวดกับททท.แล้วล่ะ
แต่โค้ดที่ให้ติดไม่เห็นมีโฆษณาขึ้นเลยล่ะ

 

โดย: นัทธ์ 3 กันยายน 2553 23:59:34 น.  

 

ก่อนกลับบ้าน ตจว
คนเหงาที่เข้าใจเธอ:ตั๊กแตน ชลดา

ลองไอเดียเอ๋น้อย ไปร้านส้มตำสั่ง ส้มตำไทยใส่ปู แต่ไม่เอาเส้นมะละกอ หุหุ เด็กที่รับออเดอร์งงแล้วขำ เรียกแม่ค้าคนตำมาตำ ต้องบอกอีกรอบ ว่าจะเอาไปทำอะไร ถึงต้องสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเกาเหลาแบบนี้ เค้าตำไปอมยิ้มไปส่ายหัวไป 20 บาทละกันพี่

แหม จะเอาทุเรียนมาให้ตำถึงร้านก็เกรงใจอ้ะนะ ไปตอนบ่ายสามคนว่างๆแล้ว ถ้าไปเที่ยงๆคนเต็มจากอมยิ้มคงเป็นส่งค้อนแทนแน่เลย

แซลลี่ว่าเห็นคุณไกด์สาวที่เวบ กินเที่ยวทั่วไทยแว๊บๆนะ แต่กดโหวตละล่ะจ้ะ ที่ถามมันก็งงจริงๆเนอะ แต่ก็ลงไปไว้หนุกๆ จะเปลี่ยนชื่อบล๊อก เปลี่ยนลิ้งค์ใหม่ก็ทำไม่เป็นละ

แล้วนับไงเพราะมันต้องอยู่ sript area สำหรับทุกหน้าเนอะ

 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 4 กันยายน 2553 18:18:13 น.  

 

ลืมรูปดันแปะชื่อเพลงที่กำลังหาฟังซะงั้น


Uploaded with ImageShack.us

 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 4 กันยายน 2553 18:28:32 น.  

 

ถามได้ไงแบบน้านนน ร้านเค้าก็ตำหร่อยกว่าอยู่แล้วค่า

มาจิ้มไว้หลายๆจึ๊ก เผื่อไม่อยู่หลายวันจ้า

 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 4 กันยายน 2553 23:24:00 น.  

 

คำถาม..ประมาณนี้ก็ได้ค่ะ ถ้าวิ่งมาจากถนนเพชรเกษม ตรงมาที่หาด พอชนหาดแล้วต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวาคะ?
ตอบ เลี้ยวขวา ขับมาพอสมควร ก็จะเห็นขวามือ มีของทะเลขายเป็นกิโล มีหลายร้านติดๆกันเลย 6-8ร้าน แถวนั้นน่าจะมีขาย ปู ปลา ทะเล ที่เดียวนะ ที่คนขายติดๆเยอะ (ถ้าจำไม่ผิด) ไว้ครั้งน่าไปจะจำพิกัดถูกต้องมาบอกอีกทีนะคะ

 

โดย: iamorange 5 กันยายน 2553 9:06:36 น.  

 

ยังไปจิ้มๆ แต่หาบล๊อกคุณสาวไกด์ที่รวมบล๊อกไม่เจอแฮะ กดแชร์ไม่ได้เลย

เดี่ยวไป ตจว หลายวันน้า ฝากเพื่อนช่วยจิ้มแทน ^^

 

โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 5 กันยายน 2553 13:36:05 น.  

 

สวัสดีวันหยุดคะพี่เต้ย แต่งบล็อกใหม่แล้ว น่ารักมากๆเลย ชอบรูปในกล่องคอมเมนท์ โดนใจที่สุดเลยค่ะ

 

โดย: sawkitty 5 กันยายน 2553 17:30:04 น.  

 

น่าสนใจแฮะ เดี๋ยวจดไว้ในความทรงจำ่ก่อนค่ะ ^^

 

โดย: BeCoffee 5 กันยายน 2553 19:20:29 น.  

 

การคงภาพไว้ในหนังสือที่พิมพ์แบบไทยวงการการ์ตูนเค้าทำแบบนี้ครับ



...ไม่กลับภาพเฉพาะในกรอบนั้นไงครับ

(ใช้ได้เฉพาะกรอบที่เป็นสี่เหลี่ยมมุมฉากนะครับ)

 

โดย: kirofsky 5 กันยายน 2553 20:24:40 น.  

 

เห็นเหมือนกันค่ะในร้านขาย คิดว่าจะหยิบมาก็ไม่หยิบซักที ไปซื้อหนังสือทุกครั้ง ก็เปิดดูเล่มนี้ทุกครั้งแต่ก็ไม่ซื้อ ไม่รู้ทำไม

 

โดย: PULLPE' 12 ตุลาคม 2553 20:29:12 น.  

 

เล่มนี้เห็นแว่บแรกอยากซื้อมากเลยค่ะ
แต่ตอนจะถือมาจ่ายเงินพบว่ามันหนักมากก ประกอบกับตอนนั้นถือของพะรุงพะรังอยู่แล้วเลยไม่ได้ซื้อมา

 

โดย: PinGz (Kai-Au ) 17 ตุลาคม 2553 19:05:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.