~* ~* ~* ~* ~* ~* คนเล็กๆ (ที่มีหัวใจซึ่งใหญ่ยิ่ง) ~* ~* ~* ~* ~* ~*
เช่นเคยค่ะ เป็นหนึ่งเล่มที่ได้อ่านตามโครงการ RRR (Rainy Read Rally) นะคะ
คนเล็กๆ ผู้เขียน ขวัญใจ เอมใจ (คนเดียวกับดาราราย และดวงตะวัน) สำนักพิมพ์ สารคดี จำนวนหน้า 244 หน้า ราคา 190 บาท
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่มีปกสองด้านค่ะ
ด้านฝั่งโทนสีเหลือง จะเป็นการรวมสารคดีบุคคลทั้งหมด 4 ท่านคือ ลุงคำป่วน ก๋งหมอ อาจารย์ปู่ และหลวงตาไสว ส่วนฝั่งโทนสีชมพู เป็นเรื่องขององค์กรและกลุ่มคน 3 กลุ่ม คือ บ้านสายสัมพันธ์ ครอบครัวอุปการะ เด็กพิเศษ
เราอ่านจากฝั่งสีเหลืองก่อนค่ะ
แค่เรื่องแรก "ลุงคำป่วน" ก็ทำเอาน้ำตาคลอ+ไหล หลายรอบกันเลยทีเดียว(ไม่ใช่มาตรฐานนะคะ เราเป็นคน sensitive เกินเหตุในบางทีน่ะ แหะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเรื่องของคนดีๆ ที่ใช้ความพยายามมากๆ สามารถรักษาความดีของตนเองไว้ได้อย่างเข้มแข็ง และได้รับผลตอบแทนจากความดีนั้นด้วยแล้วนี่..เรียกน้ำตาเราได้เยอะเลยแหละค่ะ เง่อ..)
เป็นเรื่องราวของลุงคำป่วน สุธงษา เจ้าของสวนดอกไม้ ชื่อ "สวนน้ำฝน" ที่ภูเรือ จ.เลย ลุงคำป่วน ผู้จบแค่ปอสี่ ผ่านการทำนา ทำไร่ ที่ขาดทุน ยากจนขนาดแทบไม่มีข้าวกิน แต่ลุงยังสู้ ยังยึดธรรมะ (ที่บวชเรียนอยู่ 9 ปี) และเชื่อว่า ทำดีย่อมได้ดี
ลุงไม่เคยคิดที่จะหาลู่ทางวิธีการอื่นที่จะไปคดโกงเพื่อให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น
ไม่คิดเข้าหาอบายมุขใดๆ เพื่อดับ "ทุกข์" ที่เกิดขึ้น
พยายามที่จะเรียนรู้ เข้าอบรม ลองไปศึกษาตลาด เพื่อพัฒนาการปลูกดอกไม้เมืองหนาว แม้ว่าในครั้งแรกที่เอาดอกไฮเดรนเยียมาขายที่สวนจตุจักร ที่ลุงเคยมาดูแล้วเห็นว่าขายกันง่ายดาย
กลับไม่มีใครซื้อไฮเดรนเยียที่ลุงขนมาเป็นพันต้นเลยแม้แต่ต้นเดียว!!
แต่ลุงเลือกที่จะนำไฮเดรนเยียไปแจกตามร้านฟรีๆ ซึ่งมีทั้งคนรับแบบงงๆ และไม่รับ มีเพียงร้านเดียวที่ตามมาขอชื่อที่อยู่ลุง แต่ลุงก็ยังกลับไป เพื่อพัฒนาการปลูก คิดว่า อาจเป็นเพราะดอกไม้ของตัวเองยังไม่ดีพอ
ไม่นานนัก เพียง 5 วัน เจ้าของร้านเดินทางมาที่สวนด้วยตนเอง และขอซื้อ 3000 ต้น เมื่อได้พบว่า ต้นไฮเดรนเยียของลุงนั้น แข็งแรงไม่แพ้จากแหล่งทางเหนือที่เคยซื้อหามา
นับแต่นั้น ชีวิตลุงก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
และลุงก็ยังพยายามเผยแพร่สิ่งที่ลุงได้เจอ ได้รู้ ให้กับคนอื่น
เป็นตอนที่เราอ่านแล้วเกิดความรู้สึก "เต็มตื้น" เป็นระยะๆ มันเป็นอาการที่ได้รับรู้ เรื่องดีๆ คนดีๆ ที่ยังเชื่อมั่นในความดี และได้รับผลดีจากการทำดีของตนเอง
อ่านแล้ว เฉพาะเรื่องนี้ สำหรับเรา - ก็ควรค่าเพียงพอที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ค่ะ
อ่านแล้ว น่าจะมีแรงใจ แรงฮึดและกำลังที่จะพยายามยึดมั่นในความดีและการทำดีก็ได้
ส่วนเรื่องราวคนอื่นๆ ก็มีแง่มุมในเรื่องราวที่น่าสนใจค่ะ อย่างก๋งหมอ หมอยาพื้นบ้านแห่งเกาะช้าง ผู้ซึ่งได้รับการสืบทอดเรื่องตำรายาพื้นบ้านมาจากตระกูล และยังเอาตำรานั้นไว้ที่วัดสลักคอกแม้จะรู้ดีว่า..จะหาคนที่จะศึกษาได้อย่างจริงๆ จังๆ นั้น ยากเต็มที
เรื่องราวของอาจารย์ปู่ คนซึ่งเข้ามารับการดูแลป่าอภัยทาน สร้างป่า สร้างอาชีพ เพื่อจะทำให้ป่ากลายเป็นป่าเช่นเดิม
เรื่องของหลวงตาไสวแห่งสวนโมกข์ พระที่พยายามหาวิธีการที่จะสั่งสอนธรรมด้วยวิธีการของตนเอง วิธีการเข้าหา โดยดึงให้เด็กมาสนใจธรรมะจากตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์
ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ทำดี ในวิถีทางของตนเอง ซึ่งน่ายกย่องและชมเชยค่ะ
ส่วนทางด้านสีชมพู
บ้านสายสัมพันธ์ บ้านที่นำพาเอาแม่ที่ท้องโดยมีปัญหา ได้เข้าไปเลี้ยงลูกสักพัก พอที่จะให้เวลาในการตัดสินใจว่า จะ "ทิ้ง" ลูกจริงๆ หรือ
เด็กพิเศษ ที่ทำให้เรารู้จักพวกเขามากขึ้น ความแตกต่างในการดูแลแต่ละคน
และครอบครัวอุปการะ ที่ทำให้เราอดเต็มตื้นไม่ได้ กับคนดีๆ ความสัมพันธ์ดีๆ การทำสิ่งดีๆ ของคนตัวเล็กๆ
เป็นหนังสือสารคดีที่อยากให้ได้อ่านค่ะ
สำหรับเราที่ชอบที่สุดคือ ลุงคำป่วนกับครอบครัวอุปการะค่ะ
อยากให้อ่านกันนะคะ
แล้วเราก็ขอบอกว่า
เราชอบทั้งงานวรรณกรรมเยาวชนและสารคดีของนักเขียนคนนี้
มากยิ่งกว่านิยายของเจ้าตัวค่ะ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ
403685/4258/374
Create Date : 17 กันยายน 2552 |
|
37 comments |
Last Update : 17 กันยายน 2552 8:25:22 น. |
Counter : 2469 Pageviews. |
|
|
|
+ ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆที่แนะนำครับ
คนดี นี่มันช่างเท่ห์เสียนี่กระไรเนอะพี่?
ฉะนั้น มาเป็นคนดีกันเถอะ อิอิ
+ เราเป็นคน sensitive เกินเหตุในบางทีน่ะ แหะๆ
เหมาะเลยครับ ต้องเคยร้องไห้ในโรงหนังแน่ๆ
พี่เต้ย ถูกผมแตะมือทำ tag เน้อ