~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ หนังสือที่หายไปของ ณรงค์ พัว ประพนธ์พันธุ์ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★
สวัสดีค่ะ
เนื่องด้วยเมื่อราวเดือนที่แล้วได้อ่านหนังสือสองเล่มของคุณโดม วุฒิชัย จบไป (คือเรื่อง ห่างไกลไม่ห่างกัน กับ คาบโลกย์คาบธรรม) ซึ่งในหนังสือทั้งสองเล่ม มีการกล่าวถึงบุคคลท่านหนึ่ง (เล่มหนึ่งพูดถึง เล่มหนึ่งยกคำพูดบางคำมาไว้เกริ่นเรื่อง) ซึ่งแค่เห็นชื่อ+นามสกุล ก็ทำให้คิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้ซื้อมาด้วยวิธีแปลกๆ (ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ) และสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย
หนังสือเล่มนั้นชื่อ ยิ้มสิ, แล้วฉันจะสารภาพให้ฟัง ของคุณณรงค์ พัว ประพนธ์พันธุ์ค่ะ
หนังสือเล่มนี้ ถ้าจำไม่ผิด ซื้อมาตั้งแต่ราวสิบปีที่แล้ว- -จากร้านเหล้า
ค่ะ..ไม่ผิดหรอกค่ะ ร้านเหล้าค่ะ
จำได้ว่าวันนั้น ขณะที่ตัวเองยังอยู่ในช่วงเวลาเผลาผลาญสุขภาพด้วยสุราเมรัยอย่างหนัก (โอ้..ไม่น่าเชื่อเลย ตะกละแกงค์จะเชื่อมั้ยเนี่ยว่าข้าพเจ้าเคยเป็นปีศาจสุรากับเขาด้วย เหอๆ) ข้าพเจ้าได้นัดกับผองเพื่อนเก่าที่ร้านตักสุรา อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ร้านที่มีบรรยากาศบ้านเก่าๆ อาหารอร่อยหลายอย่าง) แล้วก็เหลือบไปเห็นหนังสือ (คล้ายๆ ว่าจะเป็นหนังสือทำมือด้วยกระมัง ถ้าจำไม่ผิด) และตามประสาคนไม่อยู่สุขที่เห็นหนังสือเป็นไม่ได้ ก็เลยลองหยิบมาเปิดอ่านดู
...
...
และแล้ว..
มันก็กลายเป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่อ่านจบแล้วก็เดินไปจ่ายเงินทันที (ตอนนั้นกับการที่ยังไม่มีงานทำ ราคา ๘๐ บาทกับค่าเงินในสมัยนั้น (เอ่อ..ถ้าจำราคาไม่ผิดนะ) ถือว่าสูงเอาการ แต่เรายินดีจ่ายค่ะ)
แล้วด้วยความที่เป็นคนชอบเก็บถ้อยคำที่สะดุดใจตัวเองเอาไว้ในสมุดเก็บถ้อยคำ ก็เลยทำให้ยังมีถ้อยคำของหนังสือเล่มนั้นอยู่ดังนี้
ความสัมพันธ์มักก่อตัวในเนื้อที่อันจำกัด แต่ต้องการเนื้อที่อันกว้างขวาง สำหรับการเจริญเติบโต
ไฟรักที่เผาไหม้ไม่หมดจด ย่อมก่อให้เกิดควันหลงเข้าตา
ในกฎของความรัก ไม่มีความผิดใดที่ให้อภัยไม่ได้
บรรลุ คือสุสานของความปรารถนา
บอกข้ามาว่าท่านกำลังแสวงหาอะไรอยู่ แล้วข้าจะบอกท่านว่า ท่านหนีอะไรมา
ศีลธรรมคือกบจำศีลในอุทยานแมลง
จะให้ข้าเชื่อในความยุติธรรมจากโลกได้อย่างไร ในเมื่อแกนของมันเอียงตั้งแต่กำเนิด
จินตนาการก็เหมือนปุยเมฆขาวในฤดูร้อน ซึ่งแม้จะวิจิตรงดงามเพียงใด ก็ไม่อาจก่อให้เกิดฝนขึ้นมาได้
หากคางคกนักการเมือง ไม่กินแมลงแห่งผลประโยชน์ มันก็จะขอขึ้นวอ
คือ..ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ บล็อกอ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง แต่สำหรับเรา ณ เวลานั้น คือเรารู้สึกว่า เราไม่เคยได้ยินชื่อของนักเขียนคนนี้มาก่อน แต่แทบทุกข้อความทุกถ้อยคำในหนังสือเล่มนี้นั่น เป็นข้อความที่กระทบใจเรา และชวนคิดค่อนข้างมาก (เหมือนที่เราเคยอ่านหนังสือทำมือของ ว.แหวน แล้วรู้สึกว่า นักเขียนคนนี้น่าสนใจมากๆ จนกระทั่งเจ้าตัวมาออกหนังสือที่เรียกได้ว่าตีพิมพ์ซ้ำเยอะที่สุดเล่มหนึ่งของประเทศไทย นั่นก็คือ เป็นอะไรไปความรัก)
แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ กระทบใจเราจนกระทั่ง..อ่านจบก็ปลื้มหนังสือและคนเขียนขึ้นมาโดยฉับพลัน (จนยอมจ่ายเงินซื้อหนังสือนั่นแล)
แม้จนกระทั่งเมื่อเราโยกย้ายที่พัก จนทำให้หนังสือเล่มนี้หายไป ก็ยังไม่เคยลืมชื่อนักเขียน (จริงๆ เราสะดุดกับนามสกุลเขามากกว่าค่ะ เรารู้สึกว่าแปลก และคงหาใครเหมือนได้ยาก ไม่รู้ว่าเป็นนามปากกาหรือนามสกุลจริงๆ ของเจ้าตัวกันแน่) ไม่ลืมจนกระทั่งได้เห็นชื่ออีกครั้งในหนังสือของคุณโดม ก็นึกมาได้ทันที (ถือว่าพิเศษนะ สำหรับเวลาร่วมสิบปีจากครั้งแรก และกับหัวสมองห่วยๆ ณ เวลาปัจจุบันของเรา) จนทำให้ต้องไปควานหาสมุดบันทึกถ้อยคำมายืนยันกับตัวเองว่า ใช่คนคนเดียวกันจริงๆ
เราไม่รู้จักงานเขียนชิ้นอื่นของเขา ไม่รู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับเจ้าตัวอีก หากแต่เรารู้สึกว่า งานเขียนของเขาเป็นงานเขียนที่คมคายน่ะ เป็นงานเขียนที่ตกผลึกทางความคิดมาแล้ว
ถ้าเปรียบเป็นอาหารก็เป็นอาหารคัดมาอย่างดี กินแล้วอร่อยและดีต่อสุขภาพ (เรารู้สึกคล้ายๆ กันกับเวลาที่อ่านงานของคุณฟ้า พูลวรลักษณ์น่ะ)
นึกแล้วก็ให้เสียดายค่ะที่หนังสือเล่มนี้สูญหายไป แล้วก็คิดว่าคงหาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
ไม่แน่ใจว่ามีเพื่อนบล็อกคนไหนเคยได้ยินชื่อนักเขียนคนนี้หรือไม่คะ? แล้วมีงานเขียนของเขากันอยู่บ้างหรือเปล่า? (หรือเห็นตามแผงหนังสือที่ใดบ้าง) มาบอกเล่าเก้าสิบกันบ้างนะคะ เผื่อเราจะได้ไปตามหาซื้อมาอ่าน+เก็บไว้บ้าง
อืมม์
แปลกนะคะ
ความทรงจำบางอย่างก็เลือกที่จะเดินทางมาหาเราในวิถีที่ประหลาดดี
ขอบคุณสำหรับการแวะมาอ่านค่ะ
๑๑๘๑๑๒/๒๗๙๕
Create Date : 09 กันยายน 2550 |
|
101 comments |
Last Update : 9 กันยายน 2550 1:03:02 น. |
Counter : 2668 Pageviews. |
|
|
|
ไม่รู้ว่าเคยไปเปิดอ่านเจอในเล่มอื่น หรือเคยเจอหนังสือเล่มนี้เวลาไปรื้อร้านมือสองเล่น
รู้สึกจขบ. จะชอบอ่านอะไรที่ตกผลึกแบบนี้เนอะ
..ตรงข้ามกันเลย เราเปิดเจออะไรที่คารมคมคายมากแล้วจะปิดทันทีอ่ะ ขี้เกียจคิดตาม
(เป็นนิสัยที่ควรแก้อย่างยิ่ง)