+++เรื่องจากทริปอีสานตอน ๒ - หมู่บ้านช้าง,แหล่งหินตัด,ของอร่อยบุรีรัมย์,นกตะกราม-ตามข่าว+++
เมื่อวานพาไปเที่ยวบ้านจา - พนม กับ ดูแฟชั่นผ้าไหมแล้วนะคะ
วันนี้จะพาไปหมู่บ้านช้างกันค่ะ
สำหรับสุรินทร์ก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นจังหวัดที่มีช้างเยอะ
หมู่บ้านที่เขาพาไปนี่ก็เป็นหมู่บ้านที่ทางศูนย์การท่องเที่ยวของจังหวัดตั้งใจจะทำให้เป็นหมู่บ้านช้างสำหรับการท่องเที่ยวให้ได้
(ที่เป็นอยู่คือ ชาวบ้านเค้าต้องเอาช้างไปหากินถิ่นอื่น ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้น่ะค่ะ)
อันดับแรก ก็พาไปที่อาคารแสดงก่อน ก็จะมีโครงกระดูกช้าง มีอุปกรณ์ในการจับช้างต่างๆ มาโชว์ให้ดู มีเรื่องราวเกี่ยวกับช้างต่างๆ พืชพันธุ์ต่างๆ ที่ช้างกิน ฯลฯ
จากนั้นก็พาไปที่บ้านหลังแรก เพื่อดูพิธีกรรมที่จะทำก่อนที่จะทำการไปจับช้างป่า
พ่อหมอจะมี ๓-๔ ระดับค่ะ(มีชื่อเรียกที่ต่างกัน แต่เราไม่ได้เอาที่จดมาด้วย)
พ่อหมอที่ทำพิธีจะเก่งสุด (เขาแบ่งระดับจากจำนวนช้างที่เคยจับได้)
จากนั้นจะมีการถอดกระดูกไก่เพื่อทำการทำนายว่า จะได้ช้างมากหรือน้อย จะดีหรือไม่ (วันนั้นที่ไป คำทำนายออกมาดีค่ะ แต่ถ่ายรูปกระดูกมาไม่ทันน่ะ)
จากนั้นเขาก็พาไปตามบ้านต่างๆ ซึ่งจะมีการจำลองพิธีต่างๆ ไว้
บ้านที่เราชอบที่สุดคือบ้านนี้ค่ะ
จะมีการจำลองวิถีชาวบ้าน การสาวไหม ฯลฯ ที่เราชอบบ้านนี้เพราะเราได้ลองกินขนมพื้นเมืองสุรินทร์ค่ะ
ขนมก้อน
(ดูรูปแล้วคล้ายๆ ลูกชิ้นเลยใช่มั้ยคะ? แต่ไม่ช่ายยยยนะ)
อืมม์..รูปลักษณ์และรสชาติคล้ายๆ ขนมไข่หงส์บ้านเราน่ะค่ะ แต่ไม่มีน้ำตาลเคลือบ
อร่อยดีค่ะ
ว่าจะหอบกลับมากินด้วยก็เกรงใจ
เลยกินไปแค่สี่ลูกค่ะ (มีคนมาขอแบ่งชิมไป ๒ ลูก)
จากนั้นก็เดินไปดูพิธีกรรมตามบ้านต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีการรักษาคนเจ็บ
รูปบ้านที่มีพิธีรักษาคนเจ็บค่ะ
ช่วงหลังๆ นี่ตามวิทยากรบรรยายไม่ทันค่ะ (คือมัวเสียเวลาอยู่กับการกินง่ะ)
จากนั้นก็นั่งช้างไปที่วัด ผ่านสุสานช้างด้วยค่ะ แล้วช่วงบ่ายก็ไปบุรีรัมย์กัน
ที่บุรีรัมย์ก็มีพาไปแหล่งหินตัด (เป็นแหล่งที่เขาสันนิษฐานว่ามีการตัดหินไปสร้างปราสาททั้งหลายแหล่น่ะค่ะ)
ไปดูแล้วเห็นความอุตสาหะอย่างมากของคนในสมัยก่อนค่ะ
ภาพตัวอย่างที่แหล่งหินตัด
คือ ได้เห็นแล้วทึ่งกับความอุตสาหะอย่างมากเลยค่ะ..ทำได้ไงเนี่ย
นอกจากนั้นวันต่อมามีการพาไปดูพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเครื่องเคลือบพันปีไว้ค่ะ
ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินมีชื่อของบุรีรัมย์
ไม่ว่าจะเป็นกุ้งจ่อม(จำชื่อร้านไม่ได้ง่ะ) กระยาสารท (ของร้านบุหงาค่ะ นิ่มอร่อยกำลังดี) แล้วก็ทองม้วนร้านบ้านใบไม้
รสชาติเข้มข้นอร่อยมากค่ะ อีกอันก็ขนมหม้อแกง เขาทำแบบโบราณประยุกต์ค่ะคือทำใน "หม้อแกง" จริงๆ แต่เป็นขนาดเล็ก
แต่เราไม่ได้ซื้อมาอะค่ะ (คนเพชรบุรีนี่คะ ไม่เสียดุลการค้าค่ะ)
จริงๆ ที่โรงแรมก็มีนะคะ
แต่เป็นหม้อแกงปลอม เพราะเขาทำในหม้อที่มีหูหิ้วสองข้าง ซึ่งนั่นไม่ใช่หม้อแกงค่ะ แต่เป็น "หม้อข้าว"
อ้อ...ลืมไป เย็นวันแรกมีพาไปที่ห้วยจระเข้มากด้วยค่ะ
เป็นแหล่งดูนกแห่งหนึ่ง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาซากนกตะกรามที่ถูกคนใจร้ายยิงเพื่อจะเอาไปเลี้ยงเองมาให้ดู (ที่เป็นกระทู้แนะนำที่โต๊ะ Blueplanet เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว)
เห็นแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ
อีกวันก็มีพาไปวัดหงษ์ ไปนมัสการพระใหญ่ (ที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มากเรื่องการสาบานค่ะ ใครสาบานแล้วละเมิดคำสาบานนี่
"มีอันเป็นไป" ทุกคนเลยค่ะ)
วันที่ไปนี่ก็มีการมาสาบานเรื่องขโมยสร้อยกันด้วยค่ะ
รูปพระใหญ่วัดหงษ์ค่ะ
ที่นี่จะมีพระที่สร้างจากนอแรดด้วยค่ะ เคยโดนขโมยไปครั้งหนึ่ง ก็เลยต้องสร้างเอ่อ...กรงครอบท่านไว้ เพื่อกันขโมย
เห็นแล้วก็เศร้าใจเหมือนกัน
แทนที่เราจะเอาคนทำผิด คนไม่ดีให้ไปอยู่ในกรงขัง จะได้ไม่ต้องมาขังท่านอย่างนี้อะนะ
แต่อย่างว่า..
ถ้าเราสามารถทำให้คนดีสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
ทำให้คนชั่วได้อยู่ในสถานะที่ไม่สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้
สังคมไทยคงเป็นสังคมที่ทั่วโลกอิจฉาแหละค่ะ
จริงๆ มีโปรแกรมไปเที่ยวเยือนยลเยอะกว่านี้ค่ะ
แต่เลือกเอามาเฉพาะที่สำคัญๆ น่าสนใจนะคะ
อยากเชิญชวนทุกท่านไปเที่ยวอีสานค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
Create Date : 29 กันยายน 2548 |
|
25 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2548 17:46:08 น. |
Counter : 2746 Pageviews. |
|
|
|