สวัสดีค่าาา
เอนทรี่ล่าสุด รีวิว Streats โรงแรม Ibis Khaosan Viengtai
หลังจากรีวิวทริปเที่ยวตุรกีกับทัวร์ไปแล้วดังนี้
รีวิวตุรกีวันที่สี่ต่อ - กิน ณ Hitit Hotel / Pamukkale / มื้อเย็น at Anemon Hotel
หลังจากออกจากรร. ไกด์ก็แจ้งก่อนเลยว่าวันนี้จะเป็นวันที่เดินทางโหดที่สุดคือ เดินทางทั้งวันยาวๆ จากที่นี่ไปที่เมืองคัปปาโดเกียค่ะ (ซึ่งเราลามาได้แค่นี้ เลยเลือกแค่แบบห้าคืนค่ะ ถ้ามีเวลามากกว่านี้หน่อย ก็อยากให้เลือกแบบนอนที่ตุรกีอย่างต่ำ 6 คืนนะคะ (ถ้าเป็นรูทนี้) โดยอีกคืนก็มักจะทำไปพักกันที่คอนย่านี่แหละค่ะ) โดยเราเดินทางยาวๆ ไปกินอาหารกลางวันกันที่คอนย่าชื่อร้าน Lokhamane ค่ะ แต่ระหว่างทางก็มีจุดแวะพักสองจุดค่ะ ระยะเวลาถ้าวิ่งแบบไม่แวะจากรร.ไปร้านอาหารก็ห้าชั่วโมงเลยค่ะ
จุดที่หนึ่งมีโยเกิร์ตใส่เม็ดฝิ่นกับรังผึ้งขายด้วยค่ะ ส่วนอีกจุด มีเหมือนเป็นที่ชาร์จโทรศัพท์ด้วยอ้ะ สายระโยงระยางเลย แต่ไอ้เครื่องข้างๆ สองเครื่องนี่จำไม่ได้แล้วค่ะว่าคืออะไร เหมือนจะเป็นที่ชั่งน้ำหนักนะคะ และวิวระหว่างทาง ลงรูปนี่ลงตามลำดับที่เจอเลยนะคะ
จากนั้นก็เดินทางถึงเมืองคอนย่าค่ะ ผ่านตรง Mevlana Museum ก่อน ซึ่งไกด์ก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะมาเที่ยวนะ แต่ไปกินข้าวก่อนค่ะ
จากนั้นรถบัสก็จอดตรงจุดจอด แล้วเราก็ต้องเดินไปที่ร้านอาหารค่ะ อาคารที่เห็นข้างหน้าด้านขวามือนะคะ พอนั่งรถมายาวๆ ได้เดินอย่างนี้บ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ ได้ยืดเส้นหน่อย แหะๆ
บรรยากาศร้านค่ะ ร้านเล็กๆ แต่น่ารักนะคะ ดูเหมือนทุกทัวร์จะลงร้านนี้เป็นหลักหละค่ะ น่าจะมีร้านให้เลือกไม่มากเท่าไหร่มั้งนะ
ส่วนตัวอาหาร ร้านนี้จะมีคล้ายๆ ผัดไก่เป็นจานรวมต่อสี่คนค่ะ แล้วก็มีพิซซ่า มีซุป ฯลฯ ตามภาพเลยนะคะ
ต่อไปเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแรกของวันนี้ค่ะMevlana Musuem สำหรับที่นี่ รถบัสจะไปจอดใกล้ๆ ไม่ได้ค่ะ จะจอดที่ลานจอดรถ แล้วก็ต้องเดินเท้าต่อไปอีกราวๆ สัก 700-800 เมตรค่ะ ระหว่างทางก็ผ่านพวกร้านขายของที่ระลึกด้วยนะคะ ตัวที่เป็นแผงลอยในรูปนี่ขายถูกมากๆ ค่ะ 1 ลีราห์เองหละ (สำหรับพวงกุญแจบางตัว) ยังไงก็เผื่อเวลามาดู+ซื้อด้วยนะคะ
เวลาเปิดปิดของที่นี่ในช่วงที่เราไปก็จะเป็น 9.00-18.30 น.นะคะ
ข้อมูลของที่นี่นำมาจากลิงก์นี้ ดังนี้นะคะ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เปิด 09.00 – 18.00 น. เป็นที่ตั้งของสำนักพวกเดอร์วิช (Dervish) มีหน้าที่ในการชักชวนพลเมืองชาวคริสต์ในคาบสมุทรอนาโตเลีย ให้หันมานับถือศาสนาอิสลาม และลดช่องว่างระหว่างราษฏรกับผู้ปกครองชาวเซลจุก
สำนักแห่งนี้ก่อตั้งในปี 1774 โดยเมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี (Mevlana Celaleddin Rumi) ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม เกิดในอัฟกานิสถานเมื่อปี 1750 บิดาเป็นนักปราชญ์เมื่ออายุ 13 ปีได้เดินทางหนีไปยังมองโกเลียเพื่อแสวงหาความสงบ เขียนคำกลอนบรรยายเรื่องราวของพระผู้เป็นเจ้า เขียนหนังสือสวดมนต์ด้วยลายมือเป็นภาษาเปอร์เซีย (ภาษาประจำของราชวงศ์เซลจุก) รวมทั้งเขียนบทกวี เพลงบรรเลงด้วยขลุ่ยที่ทำจากต้นอ้อ (Reed Flute) ท่วงทำนองไพเราะ สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง ดังล่องลอยไปทั่วจักรวาลพร้อมกับนางผู้เป็นที่รัก
รูมีเดินทางมายังเมืองคอนยาตามคำเชิญของสุลต่านเซลจุก เพื่อเขียนบทกวีอันลี้ลับเป็นภาษาเปอร์เซีย รับตำแหน่งอาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งกษัตริย์อาเลดดิน เดย์คูบาท (Alaaddin Keykubat) พบกับนักบวชอิสลาม ชื่อ เชมซี เทบริซลิ (Schemsi Tebrizli) ร่วมกันคิดวิธีทำสมาธิโดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ยต้นอ้อ ทำนองนุ่มนวลจนถึงรุนแรง
ก่อนจะเต้นหมุนไปรอบๆ ทางเดียวตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม จะต้องอดอาหารมีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกาย ทดสอบก่อนเป็นเวลา 1,100 วัน ผู้ที่มีสมาธิถึงขั้น ตัวจะลอยขึ้นได้เมื่อหมุนไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง รูมี สอนให้เชื่อมั่นในเรื่องของความอดทน ความรัก การให้อภัย การเคารพในเสรีภาพของผู้อื่น ความสว่างแห่งปัญญา และยกย่องสนับสนุนครองครัวที่มีผัวเดียวเมียเดียว รูมีถึงแก่กรรมในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 1860 อตาเติร์กสั่งปิดสำนักแห่งนี้ในปี 2468 แต่ในปัจจุบันทุกวันที่ 17 ธันวาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลรำลึกรูมีในสนามกีฬายิมเนเซียมของเมืองคอนยา ผู้ที่นับถือทั้งในและต่างประเทศ จากยุโรป อเมริกา และทั่วโลกได้เดินทางมายังตุรกีเพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ บรรดาผู้ชายเหล่าเดอร์วิชขจะแต่งชึดยาวสีขาวคล้ายกระโปรง สวมหมวกทรงกระบอก มาร่วมกันเต้นรำ เหยียดแขนตรงออกไปทั้งสองข้าง แล้วหมุนตัวไปรอบๆ ทางเดียวตลอด น่าเวียนหัวมาก ต้องชื่นชมในความอดทนอุตสาหะอย่างยิ่ง เพราะหมุนอย่างนี้ตลอด 2 ชั่วโมงโดยไม่หยุดเลย เพราะพวกเขาเชื่อว่าเป็นการชำระจิตใจ โดยเป็นการหวังว่าจะได้พบพระเจ้า แล้วเข้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าได้จากศรัทธาอันแรงกล้า เหมือนการใช้ชีวิตบนหลังม้า
ก่อนเข้าไปในส่วนของพิพิธภัณฑ์ก็เหมือนเดิมนะคะ มีการเอกซเรย์ก่อนค่ะ แล้วก็มีร้านกาแฟด้วยนะคะ แต่ไม่มีเวลาไปสำรวจเลยแหละ
จากนั้นก็เดินเข้าไปในโซนของพิพิธภัณฑ์แล้วค่ะ ก็จะเห็นอาคารหลักแล้ว อาคารหลังเล็กๆ รอบๆ นี่ก็มีสิ่งต่างๆ ให้ชมนะคะ แต่เราเข้าไม่ครบหรอกนะ แหะๆ
อาคารที่มีหอสูงรูปทรงกระบอก ปลายแหลม บุกระเบื้องสีเขียว (สีประจำของราชวงศ์เซลจุก) เห็นเด่นชัด สีสดใสสวยงาม เป็นอาคารที่ภายในเป็นสุสานของเมฟลานา เจดาเลดดิน รูมี สานุศิษย์ บิดาและบุตรชายของเขา
โดยก่อนเข้าไปภายในอาคาร ก็ต้องสวมถุงพลาสติกครอบรองเท้าของเราก่อนด้วยค่ะ
ภายในค่ะ เขาอนุญาตให้ถ่ายรูปได้นะคะ
ภายในอาคารมีหลุมศพของรูมี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรพิสดาร บุด้วยกระเบื้องมีหมวกขนาดใหญ่อยู่ทางด้านศรีษะ ซี่งจะหันไปทางทิศที่ตั้งของเมืองเมกกะในซาอุดิอาระเบีย หมวกขนาดใหญ่บนโลงศพนี้เป็นหมวกของนักบวชที่เป็นผู้นำ บริเวณใกล้กันยังมีตู้แสดงชุดผ้าไหมสีขาวของรูมี สร้อยลูกประคำ 990 กล่องมุกบรรจุหนวดของศาสดามุฮัมหมัด ซึ่งจะมองเห็นผู้คนที่เข้ามา จะจูลที่มุมทั้งสี่ของกล่อง และสูดดมผ้าทั้งสี่มุมอีกด้วย เป็นการเคารพและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขานับถืออย่างยิ่ง
รวมทั้งมีข้างของเครื่องใช้ เครื่องดนตรี หนังสือ คัมภีร์ในศาสนาต่างๆ และรูปภาพจัดแสดงอยู่ น่าสนใจไม่ควรพลาดชม ภายในสุสานจะต้องสงบ สำรวมห้ามพูดคุย ต้องถอดหมวก ถอดแว่นดำเป็นการเคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวตุรกี
มีพื้นที่บริเวณหนึ่งที่เหมือนจะให้ผู้นับถือได้มาทำสมาธิหรือสวดมนต์นี่แหละค่ะ กันด้วยค่ะ
ส่วนด้านนอก ที่จริงจะมีจุดชมหลายจุดเลยค่ะ อย่างตัวน้ำไหลตรงนี้ที่มีคนเยอะๆ แต่เราหาไกด์กับหัวหน้าทัวร์ไม่เจอแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลจากไหนค่ะ ได้แต่ถ่ายรูปข้อมูลและภายในบางอาคารมาให้ดูกันนะคะ
อำลามิวเซียมค่ะ มีร้านขายของที่ระลึกด้วยหละ แต่ตรงนี้ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ค่ะ เวลาน้อยมากๆ
เดินออกไปก็เก็บภาพระหว่างทางเดินกลับไปที่ลานจอดรถค่ะ
จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางต่ออีกค่ะใช้เวลาเดินทางราวชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงอีกจุดนะคะ
Sultan Han (Sultan Caravansarai) Sultan Han เป็นคาราวาน Seljuk สมัยศตวรรษที่ 13 ที่มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมือง Sultanhanı จังหวัด Aksaray ประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในสาม caravanserais ในละแวก Aksaray และตั้งอยู่ประมาณ 40 กม. (25 ไมล์) ทางตะวันตกของ Aksaray บนถนนสู่ Konya
รถจอดใกล้ๆ เลยค่ะ ที่นี่มีน้องหมาเยอะเลยแหละ ส่วนใหญ่เชื่องด้วยนะคะ
ในรูปนี่หัวหน้าทัวร์เราเองค่ะ 555
ด้านหน้าของอาคารค่ะ โดยอาคารที่เราเห็นอยู่นี้สร้างขึ้นในปี 1229 (ตามที่มีการจารึก) ในช่วงรัชสมัยของจุคสุลต่าน Kayqubad I (r. 1763-1780) โดยสถาปนิกชาวซีเรียมูฮัมหมัดอิบันคาลวานอัล - ดิชชชี (Dimashqi ความหมายจากดามัสกัส) เส้นทางการค้า Uzun Yolu จาก Konya ไปยัง Aksaray และเดินทางต่อไปยังเปอร์เซีย หลังจากที่มันถูกไฟไหม้ทำลายไปบางส่วน ในปี 1821 ได้มีการฟื้นฟูและสร้างเพิ่มเติมโดยผู้ว่าราชการ Seraceddin Ahmed Kerimeddin bin El Hasan ในช่วงรัชสมัยของสุลต่าน Kaykhusraw III คาราวานแห่งนี้กลายเป็นอนุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี มันเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรม Anatolian Seljuk
ตอนนั้นที่เราไปกำลังบูรณะโซนตรงกลางอยู่ด้วยค่ะส่วนอาคารโดยรอบก็จะมีหลายมุมที่ไปเก็บรูปสวยๆ ได้นะคะ
ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาคารเลยค่ะ แต่ก่อนจะเดินไปดู ก็ขอถ่ายรูปด้านหน้าอาคารเก็บอีกทีนะคะ ต้องถ่ายไกลหน่อยค่ะ ไม่งั้นเก็บไม่หมดง่ะ
เดินข้ามลานแอนด์ถนนไปค่ะ เป็นห้องน้ำของร้านขายของที่ระลึกนะคะ
ของที่ขายในร้านก็จะประมาณๆ นี้ค่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ค่ะ ห้องน้ำเราก็ไม่ได้ไปเข้าหรอกค่ะ แหะๆ
สำหรับเอนทรี่นี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้นะฮับ เอนทรี่หน้าพาไปชมที่พักในทริปนี้ที่คัปปาโดเกียของเรากันค่ะ
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2562
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2562
1. ตักบาตรพระกรรมฐาน
ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 สิงหาคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน
ณ บ้านลานเสียงธรรม
เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม
วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24-25 สิงหาคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+7303790=8773486/14238/1863
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
น้องซีเวลาไปไหนจะชอบร้านของที่ระลึกมากกกกกกกกกก
ปล.เลยต้องรีบไปเพิ่มเติมเนื้อหาเลยค่ะ
งานยุ่งอยู่ค่ะคุณเต้ย แต่ก็พยายามอัพบล็อกให้ได้ทุกวัน เก็บไว้ให้ลูกอ่าน ขอบคุณคุณเต้ยมากๆ นะคะ