#### รีวิวหนัง Where We Belong - ทำดีแทบตาย สุดท้ายไม่มีที่อยู่ ####
สวัสดีคร้าบบบบบ
เอนทรี่ล่าสุด รีวิวร้าน 100 Mahaseth กับดีล Bangkok Restaurant Week : Local Produce มารีวิวหนังอีกเรื่องที่น่าจะออกโรงไปแล้วเรียบร้อยนะคะ 555
Where We Belong
กำกับโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี
อำนวยการสร้าง โสฬส สุขุม ชาลิต บุนนาค
เขียน คงเดช จาตุรันต์รัศมี
นำแสดง เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ แพรวา สุธรรมพงษ์ ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย
ดนตรีประกอบ ธนชัย อุชชิน เจตมนต์ มละโยธา คงเดช จาตุรันต์รัศมี
กำกับภาพ ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล
ตัดต่อ ลี ชาตะเมธีกุล หรินทร์ แพทรงไทย
เนื้อเรื่อง ซู เด็กสาวลูกสาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ซึ่งพยายามหาหนทางที่จะหนีจากที่ที่ตัวเองอยู่ด้วยการสอบเรียนทุนไปฟินแลนด์ ประเทศที่เธอไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับมันเลย โดยพยายามต่อสู้จากการไม่ยอมอนุญาตของพ่อ โดยในระหว่างนั้น เบล เพื่อนที่พยายามที่จะเป็นเพื่อนรักของซู ก็พยายามที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง แม้ว่าในสายตาของซูแล้ว เบลก็เป็นได้เพียงเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น
ความรู้สึกที่ได้ดู
อืมม์....อย่างที่จั่วหัวไว้เลยค่ะ ทำดีแทบตาย สุดท้ายไม่มีที่อยู่
แต่ก่อนที่จะไปพูดถึงประเด็นต่างๆ ที่ชวนขบคิดของหนัง ขอพูดเรื่องอื่นๆ ก่อนนะคะ
อันดับแรกเลย เราว่าหนังของผู้กำกับคนนี้แกมีเอกลักษณ์ของแกดีค่ะ จากที่เคยดูมาสองสามเรื่อง หนังแกจะมีความนิ่ง ความคว้างๆ ลอยๆ เป็นโลกที่เหมือนจะจริงแต่ไม่จริง ซึ่งเป็นลายเซ็นที่ชัดเจนดีนะคะสำหรับผู้กำกับคนนี้ แต่สไตล์แบบนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบหรือเข้าถึงได้หรอกค่ะ เราว่าต้องเป็นคนดูเฉพาะกลุ่มมากกว่าอะนะ
ต่อไป คงจะต้องพูดถึงแน่ๆ คือ เรื่องการแสดงค่ะ ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนว่า ตัวแสดงหลักจากบีเอ็นเค48 ทั้งสองคนคือเจนนิษฐ์กับมิวสิคนี่เราไม่ใช่โอตะนะ (เราโอชิจิ๊บ) แต่เราประทับใจเจนนิษฐ์กับคำกล่าวตอนรับลำดับในการเลือกตั้งมาก มันทำให้เรารู้สึกว่า เออ เด็กคนนี้ก็ตรงดี จริงดี อยากได้ มีกิเลสก็บอกแบบนั้น แต่เฟลที่เพื่อนที่ควรได้ดีกว่านี้แต่ไม่ได้ ก็เฟลเช่นกัน เป็นหนึ่งในคนที่เรารู้สึกว่า มีบทพูดตอนรับตำแหน่งที่เราประทับใจค่ะ
แต่สำหรับการแสดงเรื่องนี้ ยอมรับว่าค่อนข้างเซอร์ไพรซ์น้องพอควร คือ น้องแสดงได้ดีเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช็อตที่อยู่บนเครื่องเล่นที่วัดนั่น กับลองช็อตแบบแสดงอารมณ์ทางสีหน้าล้วนๆ น้องเก่งเลยแหละ มันมีทั้งความเสียใจ ผิดหวัง ครุ่นคิด และต่างๆ นานา ช็อตนี้นี่ถ้าแสดงไม่ถึงจะน่าเบื่อเอาง่ายๆ นะคะ
แต่เจนนิษฐ์คนชมเยอะค่ะ (ก็แน่หละนะ แบกหนังไว้เกือบทั้งเรื่องกับการเป็นตัวเมน) ที่เราชอบมากอีกคนกลับเป็นมิวสิค ต้องบอกก่อนว่า ปกติไม่ได้ถูกจริตกับมิวสิคนัก คือ ไม่ได้ไม่ชอบ แต่ไม่ต้องจริตน่ะค่ะ แต่พอมาดูหนังเรื่องนี้ น้องแสดงดีเลย โดยเฉพาะสองซีนที่เราชอบ คือ ซีนตอนที่เบลพยายามปกป้องซูด้วยการโต้เถียงกับทุกคนในร้าน แล้วซูกลับบอกให้เบลหยุด สีหน้าน้องแบบ...เสียใจ ผิดหวังมาก และช็อตตอนจบของหนัง ซึ่งก็กลายเป็นที่มาของหัวข้อเอนทรี่นี้แหละค่ะ 555
ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ จากบีเอ็นเค ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นมากนักในการที่จะแสดงออกมา บางคนเหมือนออกมาเพื่อให้แฟนคลับกิ๊วก๊าวชื่นใจเท่านั้นเองหละนะคะ แต่โดยตัวบทแล้วก็ไม่ได้ส่งอะไรให้ต้องโดดเด่นอะไรมากนักอะค่ะ
ต่อไปมาเป็นเรื่องของตัวหนังบ้างค่ะ
ผู้กำกับคนนี้...ชอบอะไรที่ไม่ต้องบอกตรงๆ แน่ๆ เลย ชอบให้คนคิดเอง 555 หลายช็อต หลายเรื่องราวในหนัง ผกก.ไม่ได้บอกตรงๆ ค่ะ อย่างเช่น ทำไมคนทรงถึงได้รู้เรื่องราวที่ควรมีเฉพาะแม่กับซูที่รู้ แต่ก่อนที่ซูจะตัดสินใจกับชีวิตตัวเองในท้ายที่สุด กลับให้เห็นเพียงการหยิบภาพแม่ของซู และการนอนด้วยใบหน้าเสียใจของคนที่เป็นพ่อ มันทำให้คิดได้ว่า พ่อเตี๊ยมกับคนทรง หรือ พ่ออาจจะแค่เสียใจที่ท้ายที่สุดแล้วซูก็เลือกอีกทาง คือ ไม่บอกตรงๆ โต้งๆ น่ะ แต่ให้คนดูคิดเอง
หรืออย่างช็อตที่ทะเลเอย ตอนช่วยกันเขียนลิสต์เอง มีอะไรหลายอย่างที่ก้ำๆ กึ่งๆ มากกว่าเพื่อนอยู่ แต่ก็ไม่บอกชัดเจนว่ามันคืออะไรกันแน่ในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ ซึ่งเราชอบนะ บางอย่างคลุมเครือมันก็มีเสน่ห์ดีอ้ะ หรืออย่างบาง Clue ที่ผู้กำกับไม่เฉลย จนท้ายเรื่อง นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ดีอย่างหนึ่งนะคะ อย่างกรณีของสาวสก๊อยนางหนึ่งที่ปรากฏอยู่หลายช็อตในหนัง จนเราสงสัยว่า จะมีนางทำไม และทุกครั้งที่ซูได้เห็นนาง ก็จะมีสีหน้าที่ทำให้คนดูสงสัย แล้วพอเฉลย ก็กลายเป็นจุดพีคอย่างหนึ่งของหนังไปซะงั้นค่ะ
ส่วนข้อคิดที่หลายคนโยงไปถึงเรื่องการเมือง...
ซูต้องการหนีไปจากที่ที่เป็นอยู่ เพราะรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ต้องการหนีจากกลิ่นก๋วยเตี๋ยวที่ถึงจะเป็นมรดกตกทอดมา ที่ถึงจะเป็นของดีประจำถิ่น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ (และแม้ว่าเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเธอต้องการอะไรด้วยซ้ำ ฝันของตัวเองก็ยังไม่รู้ แค่รู้ว่า ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว...แค่นั้น) เธอต้องการไปที่อื่น ไปเห็นไปอยู่ที่อื่น ที่เธอหวังว่ามันจะดีกว่าที่นี่ (คุ้นๆ ไหมคะ?)
อืมม์...ยังไงดีคะ มันก็เหมือนคนจำนวนหนึ่งในปัจจุบันที่คิดถึงแต่ความต้องการของตนเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงคนอื่นๆ น่ะแหละค่ะ ถามว่าซูผิดไหม ก็คงไม่ผิด ชีวิตคนเราอาจจะสั้นเกินกว่าที่จะต้องมาแบกความฝัน ความรับผิดชอบ หรือมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของใคร ถามว่าเข้าใจได้ไหม เข้าใจได้ค่ะ แต่ถามว่าคนอย่างซูคือคนที่เราจะรู้สึกรักใคร่ไหม...ก็คงไม่ แต่ซูก็ไม่ผิดหรอกค่ะ ที่เธอคิดและมีความต้องการส่วนตัวแบบนั้น แม้ว่าจะเป็นความต้องการที่ไม่ได้แคร์ใครเลย ไม่ว่าพ่อหรือน้องชายที่ต้องมาแบกภาระแทนตัวเอง...มันก็คงไม่ผิดกระมังคะ มันก็เป็นความเห็นแก่ตัวพื้นฐานของคนทั่วๆ ไปหละค่ะ ในขณะที่เบล คนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อซู พยายามที่จะเป็นที่รักของซู และปกป้องซูเหมือนคนรอบข้างพยายามยึดโยงให้เธออยู่รับผิดชอบกับมรดกตกทอดของที่ร้าน โดยพยายามโต้แย้งว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ซูจะต้องมาแบกภาระตรงนี้ (แต่ดีขนาดนี้ จะเป็นที่รักของซูเท่ากับเพื่อนอีกคนของซูหรือ...ก็ไม่ ขำขื่นมากๆ เหอๆ)
แต่ก็เบลคนนี้แหละ คนที่เห็นว่าความต้องการของเพื่อนสำคัญ แต่ตัวเองกลับเลือกที่จะไม่ไปไหน เลือกที่จะอยู่กับพ่อ อยู่ดูแลย่า แม้ว่าแม่ที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ที่มีชีวิตที่หรูหรา ดูดี จะอยากให้เบลมาอยู่ด้วย (และเหมือนจะดูเป็นชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตแบบที่ซูต้องการ) แต่เบลเลือกที่จะปฏิเสธ และอยู่รับผิดชอบคนที่ตัวเองรัก โอเค ความรู้สึกกับแม่อาจจะเป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอไม่เลือกไปอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เราว่าที่เบลไม่ไป ส่วนหนึ่งก็คือบางอย่างที่ยึดโยงเธอไว้กับที่บ้านที่จันทบุรีนี้ สำหรับเรา...เรารักคนแบบเบลค่ะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก ที่คนเราจะละทิ้งสิ่งที่ดูสวยงาม เพียงเพื่อบางสิ่งที่อาจจะไม่ดูสวยงามสำหรับสายตาที่มองแต่ภายนอก แต่มันงดงามสำหรับใครที่มองไปถึงแก่นลึกของมันภายใน
อีกประเด็นหนึ่งคือ การที่คนทรงพูดว่า เขาโกหก (ที่บอกว่าไม่อยู่บนโน้น แต่อยู่ที่นี่ เพราะจะทำที่อยู่นี้ให้มันดีกว่าเดิม) เราเองก็อยากถามซูว่า...แล้วซูได้ทำอะไรเหรอเพื่อที่จะให้ที่เป็นอยู่ดีกว่าเดิม? เรียน? สอนน้องทำก๋วยเตี๋ยว? มันก็คือการผลักภาระตัวเองไปให้น้องทำต่างหาก แล้ววันหนึ่งเมื่อรู้ความจริงแล้วจะมาบอกว่า...เออ มันไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้หรอก ทางที่ถูกคือ ต้องเลือกที่จะไปต่างหาก ไม่ใช่เลือกที่จะอยู่เพื่อทำให้มันดีขึ้น...มันใช่เหรอคะ?
แต่ก็นั่นแหละค่ะ...หากหนังสือเรื่องคิดถึงทุกปีบอกว่า "ความรักไม่ใช่สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวของชีวิต" สำหรับเรา...ความฝันและความต้องการของตัวเอง ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอย่างเดียวของชีวิตเช่นกัน บางครั้งคนเราก็ต้องยอมที่จะเสียสละบางสิ่ง เพื่อคนอื่น เพื่อสิ่งอื่นกันบ้าง แต่ก็นะ...ไม่ใช่ทุกคนหรอกค่ะที่ทำได้ เพราะท้ายที่สุด คนเราส่วนมากก็เห็นแก่ความสุขส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมหรือความสุขของคนอื่นอยู่ดีหละค่ะ ชีวิตมันอาจจะสั้นเกินกว่าจะอยู่ด้วยความทุกข์
แต่ชีวิตมันก็สั้นเกินกว่าจะคิดถึงแต่ความสุขของตัวเองนะคะ
นั่นคือบทสรุปจากการดูหนังเรื่องนี้ค่ะ ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน) วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/ วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2562 1. ตักบาตรพระกรรมฐาน ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน) วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 สิงหาคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน ณ บ้านลานเสียงธรรม เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน) 1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น. ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน) เมตตารับบาตรโดย เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24-25 สิงหาคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+7251573=8721269/14201/1852
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
Create Date : 30 กรกฎาคม 2562 |
|
29 comments |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2562 9:19:11 น. |
Counter : 2296 Pageviews. |
|
|
|