โดยบุฟเฟต์ทุเรียนฟีเวอร์นี้ จะจัดที่ Fruit Court ชั้น 18 นะคะ ปีที่ผ่านมาจัดวันที่ 15 พ.ค. 30 มิ.ย.61 ด้วยสนนราคา 390 บาทเน็ท พร้อมชมวิวฟรีบนยอดตึกค่ะ ซึ่งสำหรับคนทั่วไปที่ยังไม่เคยขึ้น ก็ถือว่าเป็นการขึ้นไปชมวิวด้วยการกินที่ราคาดีงามสุดแล้วของใบหยกนะ (ถ้าไปห้องอาหารอื่น จ่ายแพงกว่านี้อ้ะ) ส่วนสำหรับเราผู้สามารถกินทุเรียนได้เป็นสิบโลต่อวัน (สมัยสาวๆ เดี๋ยวนี้ไม่ห้าวขนาดนั้นแล้ว กร๊าก) ก็ยิ่งคุ้มไปใหญ่ เดี๋ยวพาไปดูผลประกอบการวันนั้นนะคะ อิอิ
แต่ต้องแจ้งเลยว่า เป็นโปรฯ หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทุกๆ ปีค่ะ คิวเต็มไวมาก โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์นะคะ อย่างเรานี่กว่าจะจองได้ ต้องใช้กำลังภายในให้พีอาร์จองให้ค่ะ 555 ซึ่งมีเพื่อนคนอื่นไปตามรอย บอกว่ากว่าจะโทร.ติด จองได้นี่ยากมากๆ เพราะงั้นแนะนำให้จองแต่เนิ่นๆ นะคะ ไม่งั้นมีอดชัวร์
วันนั้นเรานำรถไปเช่นเคยค่ะ จอดรถที่ชั้น 6 แล้วก็ไปขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 18 นะฮับ
ไปถึงก็เดินไปฝั่งขวาก่อนค่ะ (ลิฟท์ที่นี่จะแยกกันระหว่างลิฟท์จากลานจอดรถ กับลิฟท์จากชั้น 18 ไปชั้นอื่นๆ นะคะ) จะมีที่ให้นั่งรอ และเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อไปแจ้งชื่อและจ่ายเงินค่ะ
สำหรับการจองทำได้ทั้ง
เว็บไซต์ https://www.baiyokebuffet.com
line @Baiyokeskyhotel
โทร.0-2656-3939
ราคา 390 บาทเน็ท/ท่าน
เด็กสูงไม่ถึง 120 ซม. ราคา 240 บาทเน็ท/ท่าน
(แถมฟรี! ชมวิวบนจุดชมวิว ชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84)
👉เปิดบริการ เวลา 10.30 -21.00 น.
⏰ รอบละ 90 นาที
10.30 / 12.00 / 13.30 / 15.00 / 16.30 / 18.00 / 19.30 น.
ชำระเงินสามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตนะคะ อย่างวันนั้นเราจองไป 4 คน ทั้งหมดก็หมดไป 1560 ค่ะ
แนะนำว่าควรไปก่อนเวลาอย่างต่ำสัก 30 นาทีนะคะ เพราะจะต้องมาจ่ายเงิน รับบัตร (ขึ้นชมวิว) สติกเกอร์สำหรับติดก่อนเข้าไปกินด้วยค่ะ อย่างเราวันนั้นเพื่อนๆ เลือกรอบ 12.00 น.ค่ะ
นอกจากนั้นระหว่างนั่งรอ พนักงานก็มีการนำน้ำมะพร้าวกับน้ำมะม่วงปั่นมาเสิร์ฟให้ด้วยนะคะ ถ้ามาตรงเวลาเป๊ะเหมือนเพื่อนเรา ก็ไปรับอีกทีที่โต๊ะค่ะ 555
จากนั้นพอใกล้เวลาก็ไปเข้าคิวรอเข้าห้องอาหารค่ะ และมีเชฟมาบรีฟนะคะว่ามีอะไรบ้างรออยู่ ดีใจมากที่รู้ว่าวันนี้มีชะนีไข่ ค่ะ เราชอบพันธุ์นี้มากกว่าหมอนทองอ้ะ เราว่าเทกซเจอร์มันเนียนกว่า ละมุนกว่า ซึ่งชะนีไข่นี่ไม่ได้มีตลอดนะคะ อย่างถ้าไปหาซื้อข้างนอกนี่ ก็ไม่ค่อยมีขายค่ะ ในกรุงเทพฯ เนี่ย ไม่รู้ทำไม กินกันแต่หมอนทองซะเยอะเลย สาวกชะนีไข่อย่างเราเซ็ง เหอๆ
จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านในค่ะ ที่นั่งจะมีสองโซนค่ะ ไลน์อาหารก็แบ่งออกเป็นสองโซนเช่นกัน รวมทั้งตัวไลน์ทุเรียนสดก็แบ่งอกเป็นสองฟากเช่นกันค่ะ
ไลน์แรกจะเป็นขนมไทย และของคาวแบบเอาทุเรียนมาทำ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นหมี่กะทิทุเรียน ผัดไทยทุเรียนและต้มยำทุเรียนน้ำใสค่ะ
นอกจากนั้นก็ยังมีแกงต่างๆ ที่ทำจากผลไม้อื่นๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นแกงคั่วผลไม้ แกงเผ็ดมะม่วง แกงคั่วสับปะรด แกงคั่วขนุน แกงกะหรี่ (มันฝรั่ง แครอท กล้วย) มัสมั่นผลไม้ แกงเขียวหวานผลไม้รวม แกงเผ็ดผลไม้รวม แพนงกล้วยค่ะ
มีป้ายบอกด้วยว่ากินไม่หมดปรับ 500 นะคะ ปรับแพงกว่าค่ากินอีก เพราะ...ก็นะ บางคนก็ตักมาแบบเยอะเกิ๊น เยอะแบบกะให้คุ้มเกินคุ้ม แต่ไม่สนว่าจะกินได้หมดไหม ให้ปรับโหดๆ ไว้แหละค่ะดี เหอๆ
มาดูไลน์ทุเรียนสด ไลน์แรกกันบ้างค่ะ แกะกันเห็นๆ วันนั้นมีสองพันธุ์นะคะคือหมอนทองกับชะนีไข่ ค่ะ จะให้คนละจานก่อน หนึ่งจานก็ 1-2 พูค่ะ แต่ไปเอาได้เรื่อยๆ นะคะ ไม่ได้จำกัด ใครกลัวร้อนใน แนะนำให้ขอเปลือกมาด้วยค่ะ เอาน้ำเทลงพูถูๆ แล้วดื่มน้ำ ดื่มไปสัก 3-4 รอบ รับรองว่ายังไงก็ไม่ร้อนในค่ะ อันนี้เคล็ดลับที่พ่อเราบอกมาแต่ไหนแต่ไร บ้านเราถึงกินทุเรียนเป็นเข่งต่อวันได้โดยไม่ร้อนในค่ะ อิอิ
เพื่อนเอาทั้งหมี่กะทิและผัดไทยมาค่ะ เราได้กินแต่หมี่กะทิ อร่อยดีอยู่นะคะ รสอ่อนๆ กลิ่นทุเรียนไม่ได้ชัดมากค่ะ ส่วนต้มยำ รสก็กลางๆ นะ ไม่เด่นมาก เอาความแปลกเป็นหลักมากกว่าค่ะ 555
จากนั้นไปดูที่ไลน์ข้างล่างกันบ้างค่ะ ไปที่โซนแรกด้านในกันก่อน
โซนแรกจะเป็นโซนที่รับบริการปอก หั่น ผลไม้ต่างๆ จากไลน์นะคะ ถัดไปเป็นตำและยำผลไม้ (อันนี้แซ่บค่ะ ใครอยากกินไรแซ่บๆ แนะนำ) มะม่วงน้ำปลาหวาน ถัดไปเป็นเครป และต่อด้วยซาลาเปาทุเรียนค่ะ หน้าตาด้านนอกต่าง แต่ไส้เหมือนจะไม่ต่างนะคะ แต่เราไม่ได้ชิมง่ะ แหะๆ
ตู้เย็นที่มีผลไม้แช่ไว้ค่ะ กินได้เช่นกันนะคะ แต่แหมมมมม เราเองก็ไม่กินนะคะหมวดนี้ 555
น้ำดื่มที่มีให้ค่ะ มีทั้งน้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรนะคะ
ไลน์ต่อไปค่ะ ก็จะเป็นผลไม้ที่หั่นแล้วเรียบร้อย รวมทั้งหวานเย็นด้วยค่ะ แต่แน่นอนค่ะว่า...เราไม่แตะอีกเช่นกัน แหะๆ
ไลน์ต่อไปค่ะเป็นทุเรียนย่าง (ที่มีสองซอสให้ราดคือ ซอสคาราเมลกับซอสครีมทุเรียน) ข้าวเหนียวปิ้งไส้ทุเรียน ทุเรียนเชื่อม แล้วก็ฟองดูว์ช็อกโกแลตค่ะ
อีกซุ้มค่ะ จะเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ที่ทำเป็นคำๆ เหมือนซูชิ ซึ่งข้าวเหนียวก็มีหลากหลายมาก รวมทั้งข้าวเหนียวมะม่วงแบบเป็นจานด้วยนะคะ
ใกล้ๆ กันเป็นไลน์ทุเรียนสดอีกไลน์นะคะ ฝั่งนี้มีชะนีไข่ที่เนื้อดีกว่าอีกฝั่งหละ เลยสอยมาเพิ่มค่ะ 555
ของหวานอื่นๆ ก็ยังมีไอศกรีม และบิงซูทุเรียนอีกนะคะ
มาดูกันว่ากินอะไรกันไปบ้างนะคะ (นอกจากหมี่กะทิที่กินและเล่าไปแล้ว)
- ทุเรียนย่าง เพิ่มความหอมค่ะ เค้าใช้ทุเรียนห่ามๆ ค่ะ ราดซอสแล้วก็เพิ่มความหวานหน่อยนึง แต่โดยรวมก็ไม่ได้ว้าวมากนะคะ
- ทุเรียนสด 5555 อย่าตกใจค่ะ แค่จานนี้เราก็คุ้มค่ากิน 390 บาทแล้ว (ถ้าซื้อแบบชั่งตามร้าน น่าจะต้องมาจากลูกสามสี่โลแหละค่ะ) ชะนีไข่ล้วนๆ อร่อยสมใจอยากมากๆ ค่ะ
- ซาลาเปาทุเรียน ตัวนี้ไม่ค่อยว้าวค่ะ แป้งดีแต่ไส้ไม่เด่นง่ะ น่าจะทำไส้ลาวาทุเรียนไปเลยนะคะ จะว้าวและเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งมากๆ อ้ะ
-ตำผลไม้กับยำมะม่วง ตำผลไม้อร่อยค่ะ รสชาติจัดจ้านมากๆ ดีค่ะ ชอบๆ
-ข้าวเหนียวปิ้งไส้ทุเรียน อย่างที่เห็นค่ะ เกรียมเกิ๊นนนน เลยไม่ค่อยโอเท่าไหร่
-ขนมอื่นๆ โดยรวม ค่ะ ตัวนี้ที่เชียร์ให้กินคือโรลไส้ทุเรียนค่ะ นอกนั้นเฉยๆ นะคะ แต่โรลนี่เนื้อดีมาก เนียน นุ่มค่ะ
พอใกล้หมดเวลาพนักงานก็นำมังคุดมาเสิร์ฟค่ะ ไม่มีให้ในไลน์ ใช้เสิร์ฟเอานะคะ
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ
สำหรับสาวกทุเรียนที่กินทุเรียนสดได้เยอะ เราว่าคุ้มนะคะ (อย่างเราเป็นต้น 555) เพราะเฉพาะทุเรียนสด เราก็กินเกินค่ากิน 390 บาทแล้วค่ะ แต่ถ้าใครกินทุเรียนสดไม่เก่ง ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่คุ้มง่ะนะ แต่ถ้าอยากกินอาหารจากผลไม้ต่างๆ เราว่าก็คุ้มอยู่ เพราะบางอย่างก็หากินข้างนอกไม่ได้ง่ะเน้อ หรือต่อให้กินไม่ได้เยอะ คิดว่าได้ขึ้นไปชมวิวบนใบหยก เราก็ว่าคุ้มอยู่ดี (อย่างที่บอกว่าถ้ากินที่ห้องอาหารอื่น ค่ากินแพงกว่านี้อีกค่ะ) นี่ก็กลัวๆ ว่าปีหน้าจะขึ้นราคามั้ย (อย่าขึ้นเลยนะค้าา ราคานี้โอเครแล้วววว) ปีหน้าก็กะว่าจะไปอีกค่ะ เพราะกินแล้วหายอยากไปเป็นสัปดาห์เลย (แล้วพอพ้นสัปดาห์ก็กินอีก 555) เป็นที่หนึ่งที่กะว่าจะพาครอบครัวไปกินปีหน้าค่ะ เพราะบ้านเรานี่สายทุเรียนที่แท้ทรูเลยแหละ แฮร่...
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 14 - 15 กรกฎาคม
2561
1. ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีมูลนิธิหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ณ ที่พักสงฆ์ กม.๒๗ (ซอยแข็งขัน 2-3 พหลโยธิน 64)
https://www.facebook.com/khaowatpa/posts/1864082593896495
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฏาคม 2561
1. พิธีทำบุญบำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน (สตมวาร) เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่ พระเดชพระคุณฯ พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่อน ญาณธโร)
ณ วัดศรีอภัยวัน นาอ้อ เมือง เลย
วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2561 (ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน)
1.ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรพระเถระ ณ ศาลาจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี
วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 กรกฎาคม 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 กรกฎาคม 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561
1. ทอดผ้าป่าสามัคคี 15 วัดณ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ คันนายาว กทม.
1469696+6370696=7840392/13392/1694 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
หนูว่าเป็นบุฟเฟต์ที่คุ้มออก คนกินไม่เยอะก็ดีตรงที่ได้ชิมหลากหลาย ส่วนคนกินทุเรียนเยอะก็จัดไปแบบเต็ม ๆ
ยำผลไม้อร่อยเนอะ แซ่บดี
ปล.ไปพัทยาได้น้าหยุดวันเดียวได้เรื่อย ๆ