++++++เจ้าชายไม่วิเศษ+++++++
เมื่อวานหลังดูเรื่องเหมืองแร่จบ
(จะมาเขียนถึงหนังเรื่องนี้พรุ่งนี้ค่ะ)
ตบะแตก..ทั้งที่เดือนนี้งบเอนเตอร์เทนหมดแล้ว
แต่พอเข้าร้านนายอินทร์ที่เมโทรโปลิส ก็ซื้อหนังสือมาอีก 2 เล่มจนได้
เล่มหนึ่งคือ Everybody Everything จากที่เพื่อนคนหนึ่งแนะนำไว้ใน blog
ส่วนอีกเล่ม..
เป็นเล่มที่เพื่อนๆ ป.โทอ่านกันหมดแล้ว (ยกเว้นเรา )
คิดว่าจะไม่มีขายแล้วด้วยซ้ำ
พอเจอก็เลยรีบซื้อทันที นั่นก็คือ...
"เจ้าชายไม่วิเศษ"
อ่านแล้วรู้สึกชอบมากๆ
เป็นเรื่องแนวแฟนตาซีที่ผสมกลิ่นอายของเรื่องราวพื้นบ้าน แฟนตาซีแบบไทยๆ ได้ลงตัวมากๆ
วิธีการเขียน ทำให้เรานึกถึงนักเขียนของหนังสือ "ไปยาลใหญ่" พวกบรรดา "ศิษย์สะดือ" ทั้งหลาย (ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่มากๆ อาจไม่รู้จักนะคะ ประมาณพวกคุณศุ บุญเลี้ยง คุณพิง ลำพระเพลิง ดอนเขียน ประมาณเนี้ยค่ะ)
คือเหน็บเล็กๆ แต่พอน่ารัก
เจ้าชายไม่วิเศษ
เจ้าชายผู้เป็นลูกคนที่สิบเอ็ดของพระราชา ลูกคนที่ไม่มีของวิเศษเหมือนลูกคนอื่น(หรือแม้กระทั่งชาวบ้านคนอื่นๆในเมืองนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีของวิเศษทุกคน)
จะลองยกสำนวนของเรื่องบางตอนมาเป็นออเดิร์ฟให้คนชอบอ่านแนวๆ นี้นะคะ
(เป็นตอนหนึ่งของคำนำของหนังสือ ๑o อันดับสำนักฤาษียอดเยี่ยมแห่งป่าหิมพานต์ที่เจ้าชายไม่วิเศษได้อ่าน)
ผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ได้สำรวจการเรียนการสอนของสำนักฤาษีน้อยใหญ่ที่มีอยู่กว่า ๓,ooo แห่งในอาณาบริเวณป่าหิมพานต์ เราได้วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษา ชื่อเสียงของฤาษี ความสำเร็จของผู้มาเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายในการศึกษา แล้วนำมาจัดลำดับสถาบันยอดเยี่ยมดังรายละเอียดในเล่ม ทั้งนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วย เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเจ้าชายที่ประสงค์จะเข้าเรียนในสถาบันดังกล่าว อนึ่ง หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่มิใช่เชื้อสายกษัตริย์ ถึงแม้จะมีใจรักการศึกษา ซึ่งเราขอแนะนำให้ท่านอ่านหนังสือชื่อ สำนักฤาษีทั่วไปในป่าหิมพานต์...
นอกจากจะเพลินกับสำนวนกึ่งเหน็บกึ่งล้อแล้ว
การอ่านเรื่องนี้ยังทำให้ได้คำตอบที่เราเคยถามสมัยเด็กด้วยว่า
ทำไมยักษ์ต้องเป็นตัวร้ายตลอด
ทำไมเวลาพระราชาประกาศทำอะไรที ก็ยกเมืองให้กึ่งหนึ่งตลอด (มันมีพอรึไง?)
ทำไมเจ้าชายต้องมีของวิเศษเสมอ?
ทำไมเจ้าชายต้องคู่กับเจ้าหญิงตลอด?
ทำไมเอะอะเจ้าชายก็สามารถสร้างเมืองใหม่ให้ตัวเองได้ตลอด?
คือ..เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นโดย "บิด" ขนบเดิมของเรื่องแบบ "เจ้าชาย" "เจ้าหญิง" มากๆ
อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Shrek น่ะ
อ่านไปก็ฮาไป แต่ขณะเดียวกันก็ได้แง่คิดอะไรบางอย่างที่สอดแทรกมาด้วย
"การที่เธอเชื่อว่าของวิเศษเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต ก็เพราะพ่อของเธอรวมไปถึงชาวเมืองคนอื่นๆ ต่างพากันยกย่องผู้มีของวิเศษ หนังสือ ๑oo อันดับของวิเศษแสนวิเศษ ก็ให้ความสำคัญกับของวิเศษ จนอาจทำให้ใครๆ คิดฝันอยากมีของวิเศษเหล่านั้นบ้าง ฉันเข้าใจว่าความเชื่อนี้แข็งแกร่งจนยากจะเปลี่ยนให้เป็นอย่างอื่น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าความเชื่อนี้คือความจริงและทุกคนควรเชื่ออย่างนี้เหมือนกัน ถ้าเธอมีของวิเศษ ชีวิตเธอจะมีคุณค่ากว่านี้หรือ ฉันว่าสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การมีหรือไม่มีของวิเศษ แต่อยู่ที่เธอได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นหรือไม่ และได้เบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่ต่างหาก
จริงๆ มีหลายๆ แนวคิดที่น่าสนใจ
คนเขียนเอาแนวคิดแบบที่คนอื่นเคยสื่อมาในแนวหนักๆ แบบเพื่อชีวิตมากๆ มาสอดแทรกไว้ในหนังสือและเรื่องราวที่อ่านและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
อ่านแล้วตั้งใจเลยว่า ถ้าต่อไปมีลูก (จะมีโอกาสมั้ยชั้น ) ก็จะให้ลูกได้อ่านเหมือนที่จะให้เขาดูหนังเรื่อง It's a wonderful life น่ะแหละ
อยากซื้อหนังสือเล่มนี้ให้ห้องสมุดจัง
รู้สึกว่าถ้าเด็กๆ ได้อ่าน
เค้าจะได้ไม่ต้องไขว่คว้าที่จะเป็นคนมีชื่อเสียง ที่จะต้องรวย ที่จะต้องเด่น
ขอแต่เป็นคนดีและไม่เบียดเบียนใคร นั่นคือเขาเป็นคนที่มีคุณค่าแล้ว คือ..มันไม่เชิง anti-hero นะ แต่เป็นการพูดแบบเข้าใจโลกมากกว่า
เคยอ่านคำพูดของป๊อป-อารียา
เขาบอกว่า
"คุณค่าของการที่คุณมีชีวิตอยู่ก็คือ การที่รู้ว่ามีใครสักคนสามารถที่จะหายใจได้คล่องขึ้นเพราะคุณ นั่นแหละคือชีวิตที่มีคุณค่า" (ประมาณนี้นะ แต่หาสมุดเล่มที่จดไม่เจออยู่เนี่ย)
อยากให้เพื่อนที่เรารักทุกคนได้อ่าน
รู้สึกดีที่ได้อ่านหนังสือดีๆ อีกเล่มหนึ่ง
ชื่อหนังสือ เจ้าชายไม่วิเศษ
ผู้เขียน ปรีดา อัครจันทโชติ
สำนักพิมพ์ อัมรินทร์
ราคา ๑๖o บาท
ข้อมูลพิเศษ เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม นายอินทร์อะวอร์ดประจำปี ๒๕๔๖
Create Date : 05 มิถุนายน 2548 |
|
15 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2548 19:05:31 น. |
Counter : 1750 Pageviews. |
|
|
|
หนังสือไปยาลใหญ่ โอ้
คิดถึงสำนวนแบบนั้นมันส์จริงๆ