~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ รีวิวหนังสือที่ได้อ่านจากโครงการ LIF ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★
เนื่องด้วยระบบยังไม่เปิดให้อัพโหลดรูปจากเครื่องมาใส่ในการอัพบล็อกได้ เพราะงั้นขอติดค้างบล็อกเที่ยวเวียดนามไว้ก่อน
และขอคั่นด้วยการรีวิวหนังสือในโครงการแทนแล้วกันนะคะ (รูปใช้ใส่ลิงค์เอาค่ะ แหะๆ)
(ที่อ่านไม่ใช่ปกนี้นะจ๊ะ) ฟ้าต่ำ โดย ว.วินิจฉัยกุล ยืมมาจาก ผู้สาวเมืองยศ
สิ่งที่ชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้คือ การสร้างตัวละครอย่างนางเอก ให้เป็น นางเอก ค่ะ
เป็นนางเอกที่ไม่ได้ดีพร้อม เป็นกุลสตรี แต่อย่างใด (แม้ว่าจขบ.จะลุ้นว่า หรือใครๆ เข้าใจเธอผิด? จนกระทั่งได้รับการเฉลยในตอนเกือบจบ) เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความคิด ความรู้สึก แบบที่โอ้..แม่เจ้า (ไม่รู้จะใช้คำวิเศษณ์ไหนดีหุๆ) ซึ่งถ้าหากไปอยู่ในหนังสือเล่มอื่น อาจจะไม่มีสิทธิ์ได้รับการเป็นนางเอกแต่อย่างใด (อ๊ะ..แต่อย่างลืมว่า นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า ฟ้าต่ำ สิ) ทว่า ว.วินิจฉัยกุลกลับให้เธอคนนี้เป็นนางเอก ^^ แล้วที่บอกว่าไม่เพียบพร้อม ไม่ใช่กุลสตรีนี่ไม่ใช่แนวแบบ ก้าวแก่น ห้าวหาญ หรือจนแต่สู้ชีวิตนะ ครือ..บอกมากกว่านี้เดี๋ยวจะสปอยล์ซะก่อนง่ะ แหะๆ เอาแค่นี้แล้วกันเนาะ
อ่านแล้วรู้สึกว่า ตัวละครในนิยายเล่มนี้เป็น คน จริงๆ ไม่ใช่เป็นแต่เพียง ตัวละคร ในหนังสือ ที่หากใครที่เติบโตขึ้นพอสมควรอาจจะรู้ว่า ตัวละครบางตัวที่เจอๆ ในหนังสือน่ะ ไม่มีทางมีในชีวิตจริงหรอก
แต่สำหรับเรื่องนี้ ทุกตัวละครมีดีมีเลว มีข้อดีของตน มีข้อเสียของตน เรียกได้ว่า เป็นตัวละครที่ถูกสร้างให้มีเลือดเนื้อชีวิต และทำให้คนอ่านเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า นี่แหละคือโลกจริงๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นนิยาย (ซึ่งอาจไม่ถูกจริตกับผู้ที่ชอบโลกนิยายแบบ โรแมนติก นักนะคะ) เป็นการเขียนนิยายที่ทำให้คนอ่านทราบได้เลยว่า ผู้เขียนนั้นเป็นผู้ที่ ผ่านโลก มามากพอที่จะสร้างเรื่องราวและตัวละครให้ปรากฏขึ้นมาอย่างที่เป็นอยู่ได้ค่ะ
อ้อ..แต่ไม่ "อิ่ม" กับตอนจบเท่าที่ควร แต่ก็ชอบที่ให้จบแบบนี้นะคะ
สาวหลงยุค โดย พงศกร ยืมมาจาก ผู้สาวเมืองยศ
เรื่องราวการข้ามภพอีกเรื่องนอกจาก ทวิภพ และ บ่วงบรรจถรณ์ (สะกดถูกหรือเปล่าหนอ?) ซึ่งอ่านเพลินเป็นอันมาก ชอบที่ให้ตอนจบเป็นอย่างนี้ค่ะ หุๆ เพราะถ้าเราเป็นตัวละครในหนังสือเล่มนี้จริงๆ เราก็คงเลือกวิถีอย่างนั้นเช่นกัน กร๊ากกกกก
ชอบวิธีการผูกเรื่องของทั้งสองฝั่งยุคด้วยค่ะ
แต่รู้สึกว่ารายละเอียดในส่วนของ "ยาย" จะน้อยไปหน่อย จริงๆ เหมือนควรจะมีเรื่องราวมากกว่านี้น่ะค่ะ ว่ายายมาเจอได้อย่างไร แล้วเคยเกิดเรื่องราวอะไรกับยายบ้าง..ประมาณนั้นน่ะนะคะ
เป็นการทำความรู้จักกับนักเขียนที่ชื่อ พงศกร เป็นครั้งแรก
และคงต้องหาเล่มอื่นๆ มาทำความรู้จักกันต่อไป
ข้อตินิดหนึ่ง ไม่ชอบปกและชื่อหนังสือตอนก่อนอ่านเลยค่ะ คือ ทำให้เราคิดว่าเป็นเรื่องราวของสาวเชยๆ ที่อยู่ในโลกปัจจุบันเสียอีก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวอย่างที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ เหมือนๆ กับที่เคยรู้สึกกับชื่อหนังสือ เจ้าชายไม่วิเศษ เพราะถ้าเอาแค่ชื่อหนังสือ อาจทำให้คนอ่านรู้สึกไม่อยากอ่าน (แต่พอได้อ่านก็จะเข้าใจว่า ทำไมถึงตั้งชื่อหนังสือเช่นนั้น แต่ต้องอ่านก่อนไง) ซึ่งน่าเสียดาย เพราะอาจจะเป็นปราการด่านหนึ่งที่ทำให้คนมีโอกาสได้อ่านหนังสือทั้งสองเล่มนี้น้อยลงน่ะ
เดเปอโร รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็ก โดย Kate Dicamillo แปลโดย งามพรรณ เวชชาชีวะ ยืมมาจาก The White Rider
อ่านแล้วก็คิดถึงหนังสือที่มีตัวเอกเป็นหนูคล้ายๆ กัน (และยืมมาจากโครงการเหมือนกัน) ซึ่งยืมมาจากคุณ I am just fine^^
ที่คิดถึง นั่นก็เป็นเพราะ ตัวเอกนั่นมีความคล้ายคลึงกันหลายประการ เป็นหนูที่เกิดมาไม่เหมือนใคร มีความชอบ ความคิด และวิถีปฏิบัติไม่เหมือนใคร เพียงแต่พล็อตและการผูกเรื่องต่างๆ ในส่วนของ วีรกรรม นั้นแตกต่างกันออกไป แล้วการสร้างตัวละครตัวแม่ของพระเอกก็แปลกดีที่คล้ายๆ กันในทั้งสองเรื่องด้วย คือ ไม่เหมือนแม่พระเอกตามนิยายทั่วๆ ไปน่ะนะ (ประเภทแสนดี เป็นกำลังให้ลูก ประมาณนั้น)
การสร้างตัวละครส่วนใหญ่จะค่อนข้าง กลม ใช้ได้ค่ะ มีดีมีเลวอยู่ในตัว มีที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัว และตอนจบแม้จะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบพาฝันโรแมนติกเกินเหตุแต่อย่างใด
แต่ตอนจบเรารู้สึกว่าจบง่ายไปนิด (ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวางที่มาที่ไป ลักษณะนิสัยและเหตุผลของการกระทำมาซะดีเชียว) ก็เลยทำให้เสียคะแนนไปหน่อยค่ะ แหะๆ (แต่ก็อาจเหมาะกับหนังสือสำหรับเยาวชนแล้วมั้งนะ)
สำนวนการแปลลื่นไหลดี (มีสะดุดตอนเดียว คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการพิมพ์ตก) ตามสไตล์ของคุณงามพรรณ แหละค่ะ
ถ้าชอบอ่านวรรณกรรมเยาวชน คิดว่าน่าจะชอบอ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ
(ที่อ่าน..ไม่ใช่ปกนี้เช่นกันค่ะ แหะๆ) เทวดาที่โหล่ เขียนโดย โอคะดะ จุน แปลโดย ปริวัณย์ เยี่ยมแสนสุข ยืมมาจาก เอ่อ..ใครง่ะ จำไม่ได้ แงงงง
เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมา และได้พบกับเทวดาที่มักจะวนเวียนอยู่กับคนที่ได้ที่โหล่
ตอนแรกอ่านเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกว่า..คงจะเป็นหนังสือ แนว แบบประมาณว่า ไม่ต้องเป็นที่หนึ่งก็ได้ (ซึ่งส่วนหนึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นน่ะแหละ) แต่พออ่านๆ ไป กลับกลายเป็นว่า มีความคิดบางอย่างที่น่าสนใจยิ่งกว่า (ซึ่งเข้าทางกับเราง่ะ เพราะเราชอบการสอนและช่วยกัน พยายามด้วยกัน) ในเรื่องของการพยายาม คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่โหล่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเพื่อที่หนึ่งแต่อย่างเดียว
อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดอีกแล้ว รู้สึกว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่อยากพิมพ์ส่งให้ทำเป็นหนังสือเบรลล์ให้คนตาบอดได้อ่านคู่กับ เจ้าชายไม่วิเศษ จังเลย
อยากให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาด้วยง่ะ คิดว่าเด็กๆ น่าจะอ่านแล้วได้ข้อคิดพอสมควรนะคะ
เพียงแต่ปมเรื่องหน้าตาเทวดากับหน้าตาใครบางคนในเรื่องนั้น เราตีไม่แตกน่ะว่าหมายความว่าไงน้อ (ใครอ่านแล้ว ตีความว่าไงบ้างคะ มาคุยกันเร้ว)
โดยรวมสำหรับสี่เล่มที่นำมารีวิวครั้งนี้ค่อนข้างอยู่ในระดับชอบ และแนะนำให้ลองยืมมาอ่านตามแต่แนวหนังสือที่แต่ละคนชอบนะคะ
ขอบคุณที่มาอ่านกันค่า
73835
Create Date : 15 มีนาคม 2550 |
|
71 comments |
Last Update : 15 มีนาคม 2550 15:04:59 น. |
Counter : 1400 Pageviews. |
|
|
|