#### เที่ยวภูเก็ต วันแรก - บินบางกอกแอร์เวย์ส ถ่ายรูปหาดไม้ขาว ไหว้พระและสปา #### สวัสดีฮ้าบบบบบบบบ เอนทรี่ล่าสุด รีวิว Zeta Cafe Holiday Inn Bangkok Sukhumvit ทริปในประเทศอีกทริปท้ายปีนะคะ ซึ่งทริปนี้ก็เกิดขึ้นเนื่องจากพี่แหม่ม maamjouney ได้รางวัลที่พักเป็นโฮสเทลที่ภูเก็ต สี่สาวชุดเดิมเลยชวนกันไปเที่ยวภูเก็ตกันค่ะ ซึ่งก็โชคดีที่สอยได้ตั๋วเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์สมาในราคาสองพันนิดๆ ด้วย รวมน้ำหนัก 20 กิโล (โหลดใต้ท้องเครื่อง) และอาหาร (มื้อหลัก) ทั้งขาไปและกลับตามมาตรฐานฟูลคอสต์แอร์ไลน์อยู่แล้วหละนะคะ แต่สะสมไมล์ไม่ได้นะคะ เพราะเป็นราคาโปรฯ อ้ะ และการเดินทางภายในภูเก็ตก็ยังคงเช่ารถเช่นเคยนะคะ ไฟลท์เดิมเราจองไว้เป็นรอบ 10.00 น.นะคะ แต่พอก่อนหน้าเดินทาง 1 วัน เพื่อนที่เป็นคนจองก็ได้รับเมสเสจว่า จะดีเลย์เป็น 10.30 น. แต่ก็ยังนัดกันที่ 8.00 น.เหมือนเดิม เพราะจะไปใช้เล้าจน์กันค่ะ  สำหรับการเช็คอิน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เช็คอินได้ที่เคาน์เตอร์ F นะคะ  สามารถเช็คอินด้วยเครื่อง kiosk ได้ แล้วนำกระเป๋าไปโหลด หรือหากเป็นสมาชิก Flyer Bonus (โปรแกรมสะสมไมล์ของบางกอกแอร์เวย์ส) ระดับพรีเมียร์ก็ใช้สิทธิ์เช็คอินที่เคาน์เตอร์และใช้เลาจน์บลูริบบ้อนได้ค่ะ ซึ่งในส่วนของสัมภาระที่โหลดนี่จะมีติดแท็ก Priority ให้ด้วย แล้วเวลากระเป๋ามาก็จะมาก่อนเลยค่ะ ไวมาก แบบไม่ต้องรอเลย ออกมาก่อนใครในเครื่อง แบบใบอื่นของผู้โดยสารท่านอื่นยังไม่ออกกันมาเลยง่ะ (ทั้งที่ภูเก็ตและสุวรรณภูมิด้วยนะคะ) อย่างภูเก็ตนี่ พวกเรารับกระเป๋าแล้ว เข้าห้องน้ำแล้ว เดินออกจากตรงสายพานแล้ว ของผู้โดยสารปกติยังไม่ออกมาเลยค่ะ คิดดูแล้วกัน เช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อยก็ได้เวลาไปเล้าจน์กันค่ะ ผู้โดยสารของสายการบินนี้ทุกคนจะมีสิทธิ์ใช้เล้าจน์ได้ฟรีนะคะ แต่จะแบ่งออกเป็นเล้าจน์สำหรับผู้โดยสาร Economy ทั่วไป กับเล้าจน์บลูริบบ้อนของคลาส business และสมาชิกระดับพรีเมียร์นะคะ (แต่ผู้โดยสารคลาสชั้นประหยัด สามารถขออัพเป็นบลูริบบ้อนเล้าจน์ได้ โดยแจ้งตั้งแต่ตอนเช็คอิน และเสียค่าใช้จ่าย 950 บาทสำหรับอัพเกรดเล้าจน์ค่ะ) ซึ่งก็จะมีทั้งอาหารที่มีเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีเก้าอี้นวดให้บริการฟรีด้วยค่ะ สำหรับใครที่มีบัตรเครดิตระดับสูงๆ ของหลายๆ ธนาคาร มีสิทธิ์ในการใช้เล้าจน์บลูริบบ้อนได้ด้วยนะคะ อาทิ บัตร Infinity ของธนาคารกรุงเทพฯ หรืออย่างบัตรสมาชิกรถจากัวร์ก็ใช้สิทธิ์ได้เช่นกันฮับ สำหรับเลาจน์บลูริบบ้อนของไฟลท์ในประเทศ จะอยู่เยื้องกับประตู A3 A3A นะคะ ภายในเล้าจน์มีเก้าอี้นวดบริการฟรีแ่ละทีวีอยู่ด้านในนะคะ ที่นั่งมีพอควรเลย ส่วนไลน์อาหารก็มีมากหลากหลายเลยค่ะ ทั้งสลัด ติ่มซำ ตัวจานหลักก็มีให้เลือกระหว่างเกี๊ยวกุ้งกับข้าวต้มบ๊ะกุ๊ดเต๋ วันนั้นมีเมนูใหม่ (จากคราวที่แล้ว) คือ ไข่ลวกผักโขม โยเกิร์ตโฮมเมด อะลัว คัสตาร์ดฟักทอง กรณีที่ใครเป็นมุสลิม จานหลักต้องสั่งเป็นตัวของมังสวิรัติแทนนะคะ ตัวข้าวต้มบ๊ะกุ๊ดเต๋อร่อยหละ โยเกิร์ตก็อร่อยมาก (เรากินตัวสตรอเบอร์รี่นะคะ) ส่วนที่จะต้องพูดถึงอีกอันก็คือข้าวต้มมัดในตำนาน ที่เพิ่งรู้ว่าทางผู้บริหารของสายการบินไปติดต่อแม่ค้าที่เคยขายที่สวนลุมฯ จนปัจจุบันนี่ส่งเฉพาะเล้าจน์บางกอกก็วันละ 4000 ชิ้นแล้วค่ะ ฮิตจริงอะไรจริง เกทของเราวันนี้เป็นเกทงวงค่ะ A2 การโหลดจะให้ทางท้ายลำขึ้นเครื่องก่อนค่ะ วันนี้ใช่เครื่อง A319 ที่นั่งเป็นแบบฝั่งละ 3 ที่ค่ะ อาหารบนเครื่องขาไปเป็นข้าวกับแกงเขียวหวานปลา รสจะอ่อนๆ หน่อยนะคะ เครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำผลไม้ และชากาแฟค่ะ เราชอบแก้วเครื่องดื่มร้อนของบางกอกฯ มากเลย เค้าจะทำเป็นสี่เหลี่ยม เวลายกดื่ม มุมของเหลี่ยมแบบมนๆ จะอยู่ที่ปากพอดี ทำให้น้ำไม่ไหลล้นที่ข้างปาก ออกแบบดีค่ะ เหมาะกับการใช้งาน ให้ชมวิวระหว่างทางสักภาพแล้วกันนะคะ ขาไปเมฆค่อนข้างเยอะค่ะ เลยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่ แหะๆ ไปถึงก็รับกระเป๋าที่สายพานที่ 6 ซึ่งของเราสี่คนก็มาก่อนเพื่อนเลย อย่างที่บอกว่า รับกระเป๋าแล้ว เข้าห้องน้ำแล้ว จนเดินออก ของผดส.ท่านอื่นๆ ยังไม่ออกมาเลยอ้ะ สมกับป้าย priority มั่กๆ พอออกไปก็รอบริษัทรถที่พี่แหม่มโทร.แจ้งไว้แล้วเรียบร้อยนำรถมาส่งค่ะ ถ่ายรถรอบคันไว้เรียบร้อยก็ไปทำสัญญากันที่สำนักงานของบริษัทรถที่อยู่ใกล้ๆ สนามบินภูเก็ตแล้วก็เริ่มเที่ยวกันคร้าบบบ จุดหมายแรกค่ะ เพื่อนอยากไปถ่ายรูปเครื่องบินที่หาดไม้ขาว...แต่...ไม่รู้ยังไง แมพพาไปหาดไนยาง 555 ก็เลยเก็บภาพหาดไนยางมาหน่อยค่ะ หาดเงียบ ทรายขาว ฝรั่งเยอะดีค่ะ (เดี๋ยวค่ะป้าเดี๋ยววววว) จากนั้นเราเลยใช้ google map ของเราแทนของเพื่อน เซิร์ชด้วยคำว่า หาดไม้ขาว ก็พาไปถูกนะคะ เข้าทางซอยไม้ขาว 6 สุดซอยก็จะเป็นโค้งเลียบหาด ให้หาที่จอดรถข้างทางได้เลยค่ะ แล้วก็ไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างให้พาไปที่จุดที่จะเดินไปที่ถ่ายรูปข้างสนามบินได้ ราคาคนละ 20 บาทต่อเที่ยวนะคะ ไป-กลับก็ 40 บาทค่ะ แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติก็เห็นบางคนเช่ามอเตอร์ไซค์มาเลย ก็จะขี่ไปที่จุดนั้นได้เองเลยค่ะ รูปตอนเครื่องบินยังไม่มาก็จะประมาณๆ นี้นะคะ เราไปถ่ายรูปตอนราวๆ บ่ายโมงกว่าๆ ถึงบ่ายสอง ก็มีเครื่องบินมาราวๆ สัก 6-7 ไฟลท์ได้ค่ะ ถือว่ารอแต่ละไฟลท์ไม่นานน้าา เคล็ดลับ ให้ซูมกล้องนิดหน่อย จะทำให้เครื่องบินดูใกล้กับตัวแบบที่จะถ่ายมากขึ้นค่ะ (ตามหลักการ perspective กับระยะเลนส์หละนะ) ส่วนตัวแบบตอนเครื่องบินอยู่ไกลๆ สามารถยืนเต็มตัวได้ แต่พอยิ่งใกล้ จะต้องยิ่งย่อตัวนะคะ สำหรับคนที่ถือกล้อง ต้องถ่ายด้วยมุมเงย (คือต้องอยู่ต่ำ จะนั่งหรือกึ่งๆ นั่งก็แล้วแต่เลยค่ะ) แล้วก็ต้องถ่ายแบบกดรัวๆ เลยค่ะ เพราะเครื่องบินนี่คือบินผ่านเร็วมากกกกก จากนั้นก็เดินทางต่อไปที่วัดพระทอง หรือวัดพระผุดค่ะ สามารถเซิร์ชหาด้วยคำว่า "วัดพระทอง" ได้เลยนะคะ สำหรับประวัติของวัดนี้ก็นำมาจากเว็บนี้นะคะ ความเป็นมาของประวัติพระผุดและวัดพระทองนั้น เดิมทีสถานที่ที่ตั้งวัดอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่เป็นวัดมาก่อนเป็นทุ่งกว้าง มีนา มีลำคลอง มีหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ ของชาวบ้านชาวเมืองถลางในสมัยนั้น ชาวบ้านเรียกทุ่งนานี้ว่า ทุ่งนาใน เพราะมีนา มีลำคลองเป็นทุ่งลงมาจากภูเขาน้ำตก ลงเรื่อยมาระหว่างบ้านทั้งสองบ้าน คือบ้านนาในกับบ้านบ่อกรวด เป็นทุ่งลงไปจนถึงทะเลพังบ้านดอน อันเป็นที่ตั้งเมืองเก่าของเจ้าเมืองถลางในสมัยนั้น และบัดนี้ชาวบ้านยังเรียกว่า ทุ่งนาใน อยู่จนทุกวันนี้ ในสมัยที่พบหลวงพ่อพระผุดนั้น เกิดมีพายุฝนตกมากน้ำท่วมทุ่งนา น้ำเข้าบ้าน เข้าป่า พัดพาต้นไม้หักพัง เหมือนกับพายุร้ายสมัยนี้ พอฝนหยุดน้ำไม่ท่วมแล้ว วันหนึ่งมีเด็กชายนำกระบือไปเลี้ยงยังทุ่งนานั้น หาที่ผูกเชือกกระบือสำหรับเลี้ยงข้างริมคลองนั้นไม่มี กิ่งไม้เล็กที่เคยผูกก็ถูกน้ำพัดพาไปหมด เด็กชายนั้นได้เห็นของสิ่งหนึ่งข้างริมคลองมีลักษณะเหมือนไม้แก่น มีโคลนตมติดอยู่ เลยนำเชือกกระบือไปผูกกับสิ่งเหล่านั้นแล้วเด็กก็กลับมาบ้าน พอเด็กถึงบ้านก็เกิดอาการเป็นลมล้มตายลงในเวลาเช้านั่นเอง พ่อแม่ของเด็กก็จัดการทำศพเด็กแล้วพอสาย ๆพ่อของเด็กก็ไปเลี้ยงกระบือ พอไปถึงที่ ๆ เด็กผูกกระบือไว้ก็เห็นกระบือตาย เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นเป็นวัตถุอย่างหนึ่งที่เด็กคนนั้นเอาเชือกกระบือไปผูกไว้ เกิดความกลัวเลยตัดเชือกสำหรับผูกกระบือนั้นเสียครึ่งหนึ่ง แล้วนำกระบือไปฝังเสีย พอตกกลางคืนพ่อของเด็กชายผู้นั้นก็ฝันว่า ที่เด็กและกระบือได้ถึงแก่ความตายนั้น เพราะเด็กได้นำเชือกกระบือไปผูกไว้กับเกศพระพุทธรูป พอรุ่งเช้าพ่อของเด็กก็ชวนเพื่อนบ้านไปยังที่ริมคลองที่เด็กนำกระบือไปผูกไว้กับวัตถุประหลาดนั้น ต่างคนต่างก็เอาน้ำมาล้างขัดสีเอาเชือกและโคลนตมที่ติดอยู่ออกจนหมด จึงเห็นเป็นลักษณะเหมือนเกศพระพุทธรูปเป็นทองคำด้วย ชาวบ้านต่างแตกตื่นพากันมาบูชาสักการะกันมาก และพากันไปเรียนให้เจ้าเมืองทรงทราบ เจ้าเมืองสมัยนั้นอยู่บ้านดอน ระยะทางจากสถานที่พระผุดไปบ้านดอนที่ ๆ เจ้าเมืองประทับห่างกันประมาณ 3 กม. เมื่อเจ้าเมืองทรงทราบ ก็รับสั่งให้ทำการขุดมาประดิษฐานไว้บูชาข้างบน แต่ขุดอย่างไรก็ไม่สำเร็จคือไม่สามารถขุดได้ เนื่องจากเกิดมหัศจรรย์มีตัวต่อแตนจำนวนมากขึ้นมากับดินที่ขุดขึ้นมานั้น และอาละวาดไล่ต่อยผู้ที่ขุด คนที่ไม่ขุดตัวต่อแตนจะไม่ทำอันตราย ส่วนผู้คนที่นำดอกไม้มากราบไหว้เข้าไปลูบคลำเกตุมาลาของพระผุดได้ ตัวต่อแตนไม่ทำอันตรายเลย ยังความมหัศจรรย์กับผู้พบเห็นเป็นอันมาก จึงพากันไปเรียนท่านเจ้าเมืองทรงทราบว่าไม่สามารถขุดได้ เพราะบางคนที่ถูกตัวต่อแตนต่อยอาละวาดเป็นพิษไข้ถึงแก่ความตาย ท่านเจ้าเมืองจึงรับสั่งให้ทำที่มุงที่บังเป็นสถานที่กราบไหว้เรื่อยมา ชาวบ้านคนไทยเรียน “พระผุด” เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเพียงพระเกตุมาลาสูงประมาณ 1 ศอก คนจีนเรียกว่า ภูปุ๊ค (พู่ฮุก) เพราะว่าคนจีนส่วนมากเขานับถือว่าเป็นพระผุดมาจากเมืองจีน และคนจีนในย่านเกาะภูเก็ต จังหวัดพังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และจังหวัดกระบี่ ต่างก็พากันมาเคารพนับถือ เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน (เดือน 3) ก็พากันมานมัสการเป็นประเพณีมา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมานมัสการตลอดทุกปีเป็นเสมอมา เหตุที่เป็นคนจีนอ้างว่าเป็นพระผุดมาจากเมืองจีนนั้น อาตมาเคยถามคนจีนแก่ ๆ ในภูเก็ตหลายท่านด้วยกัน ซึ่งก็จะเล่าเป็นทำนองเดียวกันว่า ในสมัยประมาณสองพันปีเศษ มีชาวธิเบต ไปบุกรุกเมืองจีน คนจีนได้เสียเมืองให้แก่ชาวธิเบต คงเหลือเฉพาะเมืองเซี่ยงไฮ้เท่านั้น ซึ่งที่เมืองเซียงไฮ้นั้นมีพระพุทธรูป 3 องค์ โดยตระกูลเจ้าเมืองจีน 3 พี่น้องเป็นผู้สร้างพระทองคำประจำตระกูล 3 องค์ เล่ากันว่า เจ้าพี่องค์แรกครองเมือง 25 ปี ไม่มีมเหสี และบุตร เมื่อสวรรคตลง เจ้าองค์น้องที่สองเสวยราชย์ได้เก็บเอาทองคำทั้งหมดเทเป็นองค์พระพุทธรูปบูชาไว้บูช่าแทนตัวเจ้าพี่องค์แรก เจ้าองค์ที่สองครองราชย์ได้ 23 ปี ก็สวรรคต ครั้นเจ้าน้ององค์ที่สามครองราชย์ก็เก็บรวบรวมทองคำทั้งหมดของเจ้าองค์ที่สองเทเป็นพระพุทธรูปอีกองค์ใหญ่กว่าองค์ที่หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปองค์กลาง น้ององค์ที่สามเสวยราชย์ได้ 8 ปี ก็สวรรคต เจ้าต่างวงค์เสวยราชย์แล้วก็เก็บเอาทองคำของเจ้าแผ่นดินมาเทเป็นองค์พระพุทธรูปทองคำ รวมองค์พระ 3 องค์ เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมากในสมัยนั้น และในครั้นนั้นเองเมืองเชียงไฮ้ได้เสียให้แก่ชนชาติธิเบต ชาวธิเบตจึงได้นำเอาพระพุทธรูปองค์โตกว่าในสามองค์ ลงเรือพามาทางทะเลจีนเข้ามายังมหาสมุทรอินเดียเพื่อไปประเทศธิเบต เรือเกิดถูกลมพายุพัดเข้ามายังชายฝั่งพังงาและเรือก็จมลงตรงนี้เองเลยเกิดเป็นเกาะขึ้น เนื่องจากสวะมาจับเข้ากับเรือที่จมเลยเป็นเกาะตั้งแต่นั้นมา และพอดีที่ตรงพระพุทธรูปเป็นลำคลองเมื่อฝนตกหนัก ๆ น้ำเซาะตลิ่งพังหลวงพ่อก็โผล่ให้เห็นเพียงพระเกตุลา ส่วนองค์พระนั้นคงอยู่ใต้ดิน ยังขุดไม่ได้ คนจีนคนไทยจึงนับถือตลอดมา คนจีนบางท่านยังเล่าว่าหลวงพ่อผุดนี้เป็นพระพุทธรูปองค์กลางที่ชาวธิเบตขโมยมานั้นมีชื่อว่า “กิ้มมิ่นจื้อ” อยู่มานานได้มีชีตาผ้าขาวรูปหนึ่งมาพักที่เมืองถลาง รู้ว่าพระพุทธรูปทองคำผุดอยู่กลางท้องทุ่งนา ท่านรู้สึกกลัวว่าโจรผู้ร้ายจะตัดพาไปขายเสีย เลยชักชวนชาวบ้านแถว ใกล้ ๆ ไปเก็บเอาเปลือกหอยมาเผาไฟทำเป็นปูนขาวมาปนกับทรายโบกเอาไว้กันผู้ร้าย เลยเป็นสถานที่กราบไหว้เรื่อยมา ต่อมาเมืองถลางได้เสียแก่พม่า พม่าโจมตีแบบจู่โจม คนไทยไม่ทันรู้ตัวถูกพม่าตีแตก เจ้าเมืองหนีไปอยู่ทางภูเก็ต และในสมัยนั้นเมืองตะกั่วทุ่ง เมืองตะกั่วป่า ประจวบฯ ปราณบุรี จนถึงกรุงศรีอยุธยา พม่ายึดได้ พม่าจู่โจมแบบกองโจร เจ้าเมืองถลางหนีไปอยู่ทางภูเก็ต เจ้าเมืองถลางให้คนสนิทไปเรียนให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทรงทราบ เพราะในสมัยนั้นถลางขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทรงทราบแล้ว ก็ยกกำลังทหารมาช่วยเมืองถลาง พม่าเมื่อยึดเมืองถลางได้แล้วก็กวาดทรัพย์สินที่อื่นหมดแล้ว พอพม่ารู้ว่ามีพระพุทธรูปทองคำพม่าเลยรื้อสิ่งที่ชีตาผ้าขาวโบกไว้ออกหมด พม่าก็เห็นเป็นทอง พม่าอยากได้ทั้งองค์ พม่าก็เลยขุดหลวงพ่อพระผุด ในขณะที่พม่าทำการขุดนั้นจึงเกิดสิ่งมหัศจรรย์มีมดคันตัวเล็ก ๆ ขึ้นมากับดินที่พม่าขุดเป็นจำนวนมาก คนโบราณเล่าว่าขึ้นมาเท่าลำตาล(เท่าต้นตาล) กัดพม่าไม่เลือก พม่าคนใดถูกมดคันกัดคนนั้นเป็นไข้จับสั่นล้มตายหลายร้อยคน ที่ตายก็ตายไปที่เหลือก็ขุดไป พม่าขุดถึงพระพักตร์เห็นสวยงามมาก พม่ามีความอยากได้ทั้งองค์ เมื่อมดคันกัดมาก ๆ เข้า พม่าเอาไฟเผาพอมดตายหมดแต่ดินร้อนพม่าก็ขุดไม่ได้ พม่าให้คนไทยเอาน้ำมารดให้ดินเย็นแล้วพม่าก็ขุดอีก พม่าที่ถูกมดกัดเกิดเป็นไข้ตายจำนวนมาก พม่าพยายามขุดไปจนถึงพระศอ(คอ) ก็ยิ่งเห็นความสวยงามมากขึ้น เมื่อเจ้าเมืองนครยกทหารไทยมาช่วยเมืองถลาง ก็ต้องผ่านเมืองตะกั่วทุ่งก็ต้องตีเมืองตะกั่วทุ่งกลับคืนจากพม่า ที่เมืองตะกั่วทุ่งเจ้าเมืองนครตีแตกเมืองตะกั่วทุ่งกลับคืนมาได้ก็ตีมาเรื่อย ๆ มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองถลาง แต่พม่าที่ถูกตีแตกจากเมืองตะกั่วทุ่งก็พาเรือข้ามฟากมายังเมืองถลางหมด เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเมือ่มาถึงท่านุ่นจะข้ามเข้าเมืองถลางไม่ได้ เลยต้องทำแพ ทำเรือ เสียเวลานานประสบกับเวลานั้นมีเสียงคลื่นดังจัด พม่าเข้าใจว่าเป็นเสียงปืนของทหารฝ่ายเจ้าเมืองและเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งคงจะรวบรวมกำลังพลได้และคงจะข้ามฟากมาได้แล้ว ก็เลยตกใจกลัวพากันลงเรือหนีกลับไป ทิ้งหลวงพ่อพระผุดให้โผล่เพียงพระศอ(คอ) เจ้าเมืองถลางก็ได้กลับเข้ามาตั้งเมืองที่ถลางใหม่ ใช้ชื่อว่า ค่ายท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ส่วนเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชก็กลับเมืองนครศรีธรรมราชต่อไป สาเหตุที่เจ้าเมืองนครมาช่วยเมืองถลางก็เพราะว่าสมัยนั้นเมืองถลางขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช สำหรับที่นี่จะมีจุดที่ควรไปกราบไหว้ก็คือองค์พระทองหรือพระผุดค่ะ แล้วก็มีตัวพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่เรามีเวลาน้อย (บ่ายสองกว่าจะบ่ายสามแล้ว) ก็เลยแค่ไปกราบไหว้แทนค่ะ เรียบร้อยแล้วก็ขับรถต่อไปยังหาดกมลากันเพื่อไปทำสปากันที่โอเอซิสสปานะคะ ซึ่งที่สาขาภูเก็ตมีด้วยกันสี่สาขาค่ะ – Turquoise Cove Spa, Kamala – Royal Thai Spa, Kamala – Sky Breeze Spa, Kata – Secret Garden Spa สาขาที่เราไปทำคือ Turquoise Cove ค่ะ ให้ดูภาพรวมๆ ก่อน เดี๋ยวจะทำรีวิวละเอียดๆ แยกอีกทีนะคะ ทำสปาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากินข้าวววว ท้องร้องหิวโหยกันมาก (ไงหละ ตอนแรกอิ่มทั้งจากเล้าจน์จากบนเครื่อง ไม่ยอมกินข้าวกลางวันกัน 555) ร้านประเดิมร้านแรก ณ ภูเก็ตก็คือร้านวันจันทร์นั่นเองค่ะ ไม่มีที่จอดรถน้าา ต้องหาที่จอดรถใกล้ๆ เอาเองค่ะ อันนี้จะทำรีวิวละเอียดๆ อีกทีเช่นกันนะคะ อิ่มหนำแล้วก็ไปที่พักที่พี่แหม่มได้รางวัลกันค่า กับ Borbaboom นั่นเองหละ สามารถเซิร์ชหาใน google map ได้เช่นกันนะคะ ไม่มีที่จอดรถ ต้องหาที่จอดรถข้างทางเอานะคะ เดี๋ยวจะทำรีวิวละเอียดๆ สำหรับใครที่กำลังหาที่พักแบบ budget อยู่ ที่นี่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยแหละค่ะ สำหรับวันแรกก็จบแต่เพียงเท่านี้นะคะ เดี๋ยวจะทำรีวิวละเอียดๆ ของวันนี้แยกอีกสามเอนทรี่แล้วก็จะรีวิววันที่สองต่อไปค่าาา ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2561 1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน) วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น.  ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/ 3. กฐินสามัคคีวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2561 (ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน) 1.ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรพระเถระ ณ ศาลาจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 พฤศจิกายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2561 1. กฐินวัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี + กราบฟังธรรมพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม ชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน) 1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น. ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้ 2. กฐินวัดป่าสุขใจ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน) 1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตรโดย เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์ วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24-25 พฤศจิกายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) 1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ 1469696+6744977=8214673/13772/1767       Travel Blog    Create Date : 16 พฤศจิกายน 2561 23 comments Last Update : 16 พฤศจิกายน 2561 9:50:44 น. Counter : 1731 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณmambymam, คุณ**mp5**, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณJinnyTent, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณตะลีกีปัส, คุณRinsa Yoyolive, คุณhaiku, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณลุงแมว, คุณออโอ, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณmariabamboo, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณKavanich96

มาตามไปเที่ยวด้วยค่ะ ได้กราบพระ ชมวิวทิวทัศน์ และชิมของอร่อยๆ เต็มอิ่มเลยค่ะ พี่ไม่ได้ไปภูเก็ตนานหลาย ขอบคุณนะคะ   โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 16 พฤศจิกายน 2561 9:18:25 น.

สวัสดียามเช้าครับ ตามไปเที่ยวชมด้วย ทะเลสวย น่าไปเที่ยวครับ   โดย: **mp5** 16 พฤศจิกายน 2561 9:41:22 น.

โหวตครับคุณเต้ย ดีที่สุดคือได้เที่ยวกับเพื่อนรู้ใจนะครับ กินๆเที่ยวๆก็มีความสุขแล้ว ที่พักเก๋ดีครับ เหมาะกับวัยรุ่นเลย อาหารร้านวันจันทร์ดูน่าอร่อยทุกอย่างเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2561 9:51:06 น.

ไปกับน้องแหม่มด้วย ที่พักน่าสนใจมาก อาหารน่ากิน...โหวตจ้า   โดย: อุ้มสี 16 พฤศจิกายน 2561 10:33:47 น.

ช่วงนี้มีบล็อกเกอร์ลงใต้โดยเฉพาะภูเก็ตหลายคนนะคะ พี่ไม่ได้ไปภูเก็ตนานหลายปีเลย ตะก่อนนี่ไปบ่อย แทบจะปีเว้นปี ทะเลสวย อาหารอร่อย ไปได้เรื่อย ๆ แต่ค่าครองชีพก็ไม่ธรรมดาเลย ส่วนโหวตที่บล็อก พี่ไม่ค่อยฟิกเท่าไหร่ค่า กรุ๊ปบล็อกนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นรูปภาพ ถ้าไม่รู้จะโหวตหมวดไหน โหมดแกลลอรี่ภ่าพถ่ายก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ใส่ใจ ปีหน้าถ้ายังมีระบบโหวตอยู่ ก็อาจจะเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ระบุหมวดให้โหวตให้ชัดเจน แต่ปีนี้ขอแนวแกงโฮ๊ะไปก่อนเน้อ 555   โดย: JinnyTent 16 พฤศจิกายน 2561 11:04:30 น.

เค้าอาจจะเขียน 3 วัน 2 คืนบล็อคเดียวเลย 5555 แต่วันนี้ลงสปาแระ อิอิ   โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 16 พฤศจิกายน 2561 13:09:28 น.

ภายในเล้านจ์ดีงามมากเลย อยากชิมข้าวต้มมัดของบางกอกแอร์เวย์ที่สุดในโลก หาดไม้ขาวสวยเนอะ บรรยากาศแบบธรรมชาติดดีมากๆเลย น่าไปเที่ยวชม สปาก็ดีงาม มาแค่นี้ก่อนจ้ะ งานพะรุงพะรังมากวันเน้   โดย: mambymam 16 พฤศจิกายน 2561 13:57:45 น.

สวัสดีมีสุขค่ะ น้ำฟ้าทะเลหาดทราย ที่ภูเก็ตสวยค่ะ อาหารอร่อย แต่ค่าครองชีพแพงมากค่ะ ตามตอนต่อไปนะคะ   โดย: ตะลีกีปัส 16 พฤศจิกายน 2561 14:09:49 น.

ถ่ายรูปคู่กับเครื่องบินที่หาดไม้ขาวนี่ต้องรอช่วงเวลาอีกที ตอนรินไปสองเดือนก่อนได้ลำนิดเดียวค่า อิอิ ช่วงนี้ทะเลก็สวยแล้วนะคะพี่เต้ย สีแจ่มๆ บินกับบางกอกฯ ชอบที่สุดสายการบินนี่ใกล้บ้านและของกินเค้าอร่อยจริงๆค่า   โดย: Rinsa Yoyolive 16 พฤศจิกายน 2561 17:22:53 น.

ชอบเหมือนกันหมดนี่คงหายากจริงๆครับคุณเต้ย ขนาดผมกับมาดามยังชอบอะไรไม่เหมือนกันเลย 555 เพื่อนผมก็ไม่ได้ชอบเหมือนผมทุกอย่าง แต่เที่ยวกันได้สนุกนะครับ คือต้องอลุ่มอล่วยกัน   โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2561 18:17:03 น.

อ่อจ้า พี่คงไม่มีโอกาสไปนั่งแน่ๆเลย เล้าน์ที่ว่านั่นอ่ะจ้ะ พรุ่งนี้เป็นกำลังใจวห้เจ้ด้วยนะจ้า กลัวผีหลอก   โดย: mambymam 16 พฤศจิกายน 2561 19:24:32 น.

น่าไปเที่ยว ไปชมบรรยากาศ ไปชิมอาหารจังค่ะ   โดย: เริงฤดีนะ 16 พฤศจิกายน 2561 21:08:30 น.

กราบองค์พระผุดด้วยค่ะคุณเต้ย เที่ยวกับคุณเต้ยได้ไปหลายแห่ง สนุกเพลิดเพลินค่ะ หาดไนยางสวยสงบ ร้านวันจันทร์ ชื่อจำง่าย อาหารน่าอร่อยนะคะ ที่พักก็ดูน่ารักน่าสนใจ ขอบคุณคุณเต้ยที่พาเที่ยวค่ะ   โดย: Sweet_pills 17 พฤศจิกายน 2561 0:32:02 น.

สวัสดีค่ะ คุณเต้ย ว้าว ๆ ๆ ตามสาว ๆ มาเที่ยวด้วยคนค่ะ โพสท่าถ่ายรูปกับเครื่องบินสวยกันทุกคนเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตตะพาบด้วยค่า   โดย: ยังไงก็ได้ว่ามาเลย 17 พฤศจิกายน 2561 6:08:54 น.

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย   โดย: กะว่าก๋า 17 พฤศจิกายน 2561 6:52:12 น.

แหะๆ ภูเก็ตไปบ่อยแต่ไม่เคยพักหรูเลย   โดย: ลุงแมว 17 พฤศจิกายน 2561 12:31:23 น.

ตามไปเที่ยวภูเก็ตด้วยคนค่า เคยอ่านแวบ ๆ ว่าเหมือนไม่ให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายกับเครื่องบินแล้ว แต่อาจจะกั้นเฉพาะส่วนที่อันตรายเนอะ   โดย: ออโอ 17 พฤศจิกายน 2561 16:49:42 น.

สวัสดีมีสุขค่ะ ขอบคุณที่แวะไปคุยทักทายกันนะคะ รออ่านเที่ยวภูเก็ตต่อค่ะ   โดย: ตะลีกีปัส 17 พฤศจิกายน 2561 16:51:13 น.

วัดพระผุดนี่เคยได้ยินมานานแล้วครับ ถือเป็นที่ที่ใครมาก็ต้องไปชมหน่อยล่ะ ตรงถ่านรูปเครื่องบินตรงนั้นเจ๋งดีแฮะ ถ่ายรอบแรกๆ คงมีพลาดกันบ้างล่ะ ต้องตั้งค่ากล้องรัวชัตเตอร์กันเลยล่ะ   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 17 พฤศจิกายน 2561 22:35:39 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog mambymam Home & Garden Blog ดู Blog Sweet_pills Travel Blog ดู Blog เนินน้ำ Food Blog ดู Blog กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog วลีลักษณา Craft Blog ดู Blog สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น สวัสดีค่ะคุณเต๊ย บางกอกแอร์เวย์ เป้นสายการบินที่ไม่เคยบินเลยค่ะ เพราะแพง555 เห็นภาพที่ภูเก็ตนางแบบกับเครื่องบินดูชิลมากเลยค่ะ สวยค่ะ คิดถึงภูเก็ตค่ะ อยากไปอีก   โดย: mariabamboo 18 พฤศจิกายน 2561 4:44:34 น.

บริการสายการบินมีเยอะ...กว่า ที่คิด หุ หุ เคยแต่ขึ้นธรรมดา ยืนรอกระเป๋า..นาน.. คุณเต้ยไปเที่ยว ไม่ได้ไปทำงานดูสบาย ๆ ค่าอัพเกรด ดูแพงนะครับ... ผมมาคิดเปรียบเทียบ..ในวงการจักรยาน..ผมกับเพื่อน เปลี่ยนโซ่จักรยาน เส้นละ 700 บาท.. เพื่อนแนะนำว่า เฮ้ยซื้อ น้ำมันหล่อลื่นหนึ่งหลอดเล็กเท่าหัวแม่มือ 400 บาท ดีนะ.. ผมได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ มันรักษาโซ่ราคา 700 บาทด้วยหยอดน้ำมันเกือบครึ่ง..ผมไม่เอาด้วยหรอกใช้น้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ก็ได้...ใช้โซ่เส้นนี้มา กว่า 4 ปีคุ้มเกินคุ้ม v แถมอีกนิด..ผมรับคนเข้าเปํน พนง.ที่แผนก เป็น กระเทย 3 คน..ดูเขาทำงานดี มีความคิดสร้างสรร อีกคนไม่เอาไหน รอบกายมีเพื่อนแบบนี้ไม่ต่ำกว่า 8 คน..เมื่อสองวันก่อน ยัง ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนกระเทย พวกที่คบกัน เขาสุภาพ ไม่แสดงอาการหั่น 555 ให้เห็น บางคนแสดงอาการ เช่นถ้าเจอพี่ไวน์ก่อนสัก 3 ปีเสร็จแดงแน่..เลยต้องบอก E ้Ha เดี๊ยะ... เลยหัวเราะกันเกรียว เขาเหล่านี้ มีหัวคิดดี ทำงานจริงจังมากกว่า พวกเราซะอีก น้องที่ทำงาน แถวสีลม เป็นดี้ ผมถูกเชิญไปงาน แต่งงานของ เขา ทอมกับดี้ 2 คู่มาแล้ว ก็ เฉย ๆ ครับยินดีกับเขา คู่แรก อยู่กันมา 7 ปี..ดูมีความสุข ดี แนะ แอบรู้กะเขาด้วย ทอมดี้เยอะเลยเห็นเป็นธรรมดา มากว่า 20 ปี ถ้าคนไหนหื่น แบบเทยควาย ผมห่าง ๆ ไว้เลย 555 ตอนว่างวันหนึ่ง ว่าง ๆ เลยเข้าดูหนัง เจอหนัง ชายรักชายแสดงความรัก เลยดูไม่จบ เผ่นครับ ไปละครับ 555   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 18 พฤศจิกายน 2561 5:30:04 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน   โดย: Kavanich96 18 พฤศจิกายน 2561 9:30:16 น.

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย   โดย: กะว่าก๋า 19 พฤศจิกายน 2561 6:45:46 น.