รูปเยอะหน่อยนะคะ ดูยาวๆ ไปค่ะ 5555 วิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นเป็นวิวทิวทัศน์ที่ถ้าไม่ขึ้นบอลลูนก็คงไม่ได้เห็นหละค่ะ
ระดับความสูงที่เปลี่ยนไปก็จะเห็นวิวที่ต่างกันไปด้วยค่ะ บอลลูนเราเองขึ้นไปสูงจนเฉียดเมฆเบาๆ แล้วก็ค่อยๆ ลงมานะคะ
ทีมงานอีกฝ่ายก็นำรถที่จะขนบอลลูนมาเตรียมรอไว้แล้วค่ะ มีการวอบอกกันว่าอยู่ตรงไหนยังไงนะคะ
ตอนลง บอลลูนจะกระแทกพื้นดินแรงพอควรเลยค่ะ อย่าลืมทำท่าตามที่เค้าให้หัดทำไว้นะคะ จะช่วยลดแรงกระแทกและไม่บาดเจ็บค่ะ
จากนั้นก็เป็นการดื่มฉลองและรับประกาศนียบัตรกันค่ะ กัปตันเป็นคนมอบให้แต่ละคนนะคะ
ปิดท้ายด้วยคลิปทั้งหลายที่อัดไว้นะคะ เผื่อใครอยากเห็นภาพเคลื่อนไหวเนาะ
จากนั้นก็กลับไปกินอาหารเช้าที่รร. ตามที่ได้รีวิวไปแล้วนะคะ
จากนั้นก็เช็คเอาท์ค่ะ ที่แรกที่ไปวันนี้ก็คือ โรงงานพรมนั่นเองงงงงGold Loom Carpetเราไปกันที่โรงงานชื่อโกลด์ลูมคาร์เพ็ทนะคะ
ไปถึงก็จะมีการบรรยายค่ะว่าพรมของตุรกีแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร (ที่นี่ทอมือทั้งหมดนะคะ คนที่นี่อารมณ์ว่า ผู้หญิงต้องทอพรมได้ ผู้ชายต้องปั้นหม้อ (เซรามิก) เป็น) พรมที่นี่ทนทานกว่าแค่ไหน พรมมีหลายเกรด ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ และที่สำคัญคือ ที่นี่มีความเก๋ที่ทอพรมเป็นภาพเลยค่ะ ซึ่งงานยิ่งละเอียดก็จะยิ่งแพงนะคะ อย่างภาพที่เห็นนี่ก็เกิดจากการทอนะคะ
โซนนี้ยังให้ถ่ายรูปได้อยู่นะคะ
จากนั้นก็เป็นการนำเข้าไปสู่ห้องแสดงพรมและการซื้อขายค่ะ ซึ่งจะมีการปูพรมทีละแบบให้ดู รวมทั้งการให้ลองเปลือยเท้าเดินด้วย...ซึ่งขอสารภาพว่า พรมยิ่งแพงยิ่งเย็นเท้าจริงๆ ค่ะ 5555555 นี่ถ้ามีบ้านไม่ใช่คอนโด มีใจอ่อนแน่ๆ ง่ะ
มีชาให้ดื่มนะคะ แต่ภาพในห้องนี้ห้ามถ่าย ก็เลยไม่มีรูปอื่นมาฝากกันนะคะ ชาที่นี่อร่อยมากเลยแหละ
คำแนะนำ ต่อรองราคาได้เยอะค่ะ ต่อจนกว่าจะรู้สึกพอใจนะคะ ถ้าเขาให้ไม่ได้ก็จะไม่ได้ค่ะ 5555 แต่ถ้าเขาให้ได้ เขาก็จะให้ราคาที่เราพอใจแหละ
จุดต่อไปค่ะ เป็นจุดแวะถ่ายรูปกันบ้างนะคะหุบเขาดอกเห็ด Mushroom Valleyโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมแถมจากทางไกด์และหัวหน้าทัวร์ค่ะ ระหว่างทางก็เก็บภาพวิวไป วิวสวยงามแปลกตามากๆ เลยค่ะ
เห็นวิวแบบนี้แล้วก็เอาข้อมูลของคัปปาโดเกีย (คัปปาโดเชีย) มาให้อ่านกันหน่อยนะคะ เมืองคัปปาโดเกีย เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาลเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมเส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney)
ผู้ที่เรียกชื่อคัปปาโดเจียเป็นคนแรกคือ ฮาลี คานาโซส ต่อมาเปอร์เซียเรียกชื่อเมืองว่า คัตปาตุกา (Katpatuka) แปลว่า ดินแดนแห่งม้าแสนสวย จนปัจจุบันกลับมาเรียกเป็นคัปปาโดเจียเหมือนเดิม
จากนั้นพอรถจอด ก็นัดหมายเวลาก่อนปล่อยฟรีค่ะ รถมาจอดกันเยอะเหมือนกัน จุดนี้มีของที่ระลึกขายด้วยนะคะ หลากหลายด้วย ใครที่อยากได้ของที่ระลึก ก็เป็นอีกจุดที่น่าช็อปปิ้งค่ะ
มีบริการขี่อูฐด้วยค่ะ จำค่าใช้จ่ายไม่ได้แฮะ เหมือนจะ 20 ลีราห์มั้งคะ
ถ้าถ่ายรูปด้านล่าง ก็จะได้วิวประมาณนี้นะคะ
แต่ถ้าไปที่นี่ เราแนะนำว่า ให้เดินขึ้นเนินไปค่ะ พิกัดคือ หันหลังให้ถนน หันหน้าเข้ามัชรูมแวลเลย์ แล้วเดินไปทางซ้าย จะมีเนินให้เดินไต่+ปีนขึ้นไปนะคะ จะเป็นจุดที่ถ่ายรูปได้สวยงามมากอีกจุดหนึ่งค่ะ
อย่าลืมสำหรับสายช็อปนะคะ อย่าลืมเผื่อเวลามาดูของที่ระลึกด้วยค่าา พวกที่เกี่ยวกับคัปปาโดเกีย บอลลูนทั้งหลาย มีเยอะเลยค่ะ
ปิดท้ายที่นี่ด้วยภาพนี้นะคะ
Venessa Ceramic & Pottery
สถานที่ต่อไปก็ช็อปปิ้งกันอีกแล้วค่า กับโรงงานเซรามิกนั่นเอง ซึ่งเราก็ไปกันที่เวเนสซ่าเซรามิคแอนด์พอทเทอรีกันนะคะ
ไปถึงก็เข้าไปที่ห้องบรรยายก่อนค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งมีอีกคนที่สาธิตการปั้นหม้อต่างๆ นะคะ อย่างที่บอกว่า คนตุรกี ผู้ชายต้องปั้น+ทำเซรามิกเป็น ผู้หญิงก็ทอพรมไปค่ะ
โดยการขึ้นรูปนี่ ทางคนปั้นจะต้องใช้เท้าหมุนๆๆ แท่นไปเรื่อยๆ ค่ะ มือก็ตะล่อมตัวดินให้ขึ้นรูปไป แต่เค้าทำคล่องมากเลยค่ะ เจ๋งอ้ะ
ซึ่งขั้นตอนของการทำก็มีหลายขั้นตอนด้วยกันค่ะ การขึ้นรูป เผา ลงลาย เคลือบ ฯลฯ พอเสร็จจากห้องนั้น เจ้าหน้าที่ก็พาเดินผ่านจุดต่างๆ ที่มีการโชว์ผลงานและการลงสี ลงลายต่างๆ นะคะ
งานที่นี่จะเป็นงานละเอียดค่ะ ราคาสูงกว่าข้างนอก แต่งานคนละแบบกันเลยแหละ งานละเอียด ประณีตมากเลย
อย่างตัวเหยือกไวน์ (ที่เป็นรูปตรงกลาง) นี่ก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเซรามิคตุรกีนะคะ
ได้ยินเสียงคนหัวเราะคิกคักๆ พอหันไปดูก็ถึงบางอ้อค่ะ แหม้...มีทำรูปแบบนี้ด้วยนะคะ ฮากันไป
จบกันไปแบบไม่ได้อะไรจากร้านนี้ค่ะ แหะๆ
บ้านถ้ำ (Cave House)จุดต่อไปจะเป็นการพาไปดูบ้านถ้ำของคนพื้นเมืองที่นี่ที่เคยอยู่อาศัยกันค่ะ จะเป็นการขุดเป็นถ้ำเข้าไปแล้วก็ทำเป็นบ้านนะคะ
ฝั่งตรงข้ามมีคาเฟ่เล็กๆ อยู่ แต่ดูร้างๆ ชอบกลง่ะ
ไปบ้านถ้ำกันค่ะ มองข้างนอกแบบนี้ก็เหมือนบ้านทั่วไปนะคะ เพราะเขาสร้างตรงด้านหน้าเพิ่มเติมขึ้นมาค่ะ
ดูภายนอกนี่เหมือนบ้านทั่วๆ ไปจริงค่ะ
ประตูทางเข้าบ้านค่ะ ค่อนข้างเล็กและเตี้ยนะคะ คนสูงๆ ต้องระวังหัวหน่อย คงมีคนหัวชนหลายคน ถึงกับต้องติดป้ายเตือนกันเลยทีเดียว
คุณไกด์บรรยายเรื่องเครื่องมือที่ใช้ในการขุดสร้างบ้านค่ะ
จากนั้นก็เข้าไปดูแต่ละห้องค่ะ มีโซนห้องนอน โซนรับแขก กับโซนที่เป็นเหมือนกึ่งๆ ห้องสังสรรค์นะคะ (ที่นอนบนเตียงนั่นหัวหน้าทัวร์เราเอง)
จบกันไปค่ะ กับบ้านถ้ำ ยังค่ะ ยังไม่หมด ไปที่โรงงานจิวเวลรีกันค่ะ ช็อปรัวๆ สามที่ค่ะเช้านี้ 555
AGAD Jewelry
เข้าไปด้านในจะแบ่งออกเป็นสองส่วนนะคะ ส่วนซ้ายมือ (หันหน้าเข้าร้าน) จะมีพวกเทอร์คอยซ์ และอัญมณีที่มีเฉพาะที่ตุรกีคือ สุลต่านไนท์ ส่วนขวามือจะเป็นช็อปของ Pandora ค่ะ ซึ่งจะมีเป็นรูปอีวิลอายด้วยนะคะ แต่ตอนเราไป หมดซะงั้น เซ็งมาก ฮือออออ
พนักงานก็มาบรรยายเรื่องสุลต่านไนท์ค่ะ ข้อเด่นของมันมากๆ เลยก็คือ มันจะเปลี่ยนสีตามแสงค่ะ เช่น เมื่ออยู่กับหลอดไฟเหลืองก็จะเป็นอีกสีหนึ่ง พออยู่กับหลอดไฟขาวก็เป็นอีกสี พอเจอแสงธรรมชาติก็จะกลายเป็นอีกสีค่ะ (คือเปลี่ยนเลยนะคะ จากเขียว เป็นชมพู เป็นแดง งี้เลยค่ะ)
เอาข้อมูลเรื่องสุลต่านไนท์มาจากลิงก์นี้นะคะ
Zultanite เป็นอัญมณีที่หายากมาก แม้จะมีความงามและความเหมาะสมสำหรับการเป็นเครื่องประดับ ปัจจุบันมีการขุดโดยบริษัทหลายแห่งหรือในหลายประเทศ มีการทำเหมืองขนาดใหญ่ที่เทือกเขา Anatolian ของตุรกีโดยตรงจากหินโฮสต์ที่ระดับความสูงเกิน 1,000 เมตร
ซึ่งแหล่งกำเนิดของตุรกียังคงเป็นแหล่งเดียวของ Zultanite องค์กร ICA เพิ่งเพิ่ม Zultanite ไปยังเว็บไซต์ของพวกเขาและ IADC เพิ่งประกาศ Zultanite ว่าเป็นอัญมณีสายพันธุ์ใหม่ระหว่างการแสดง Zultanite นั้นได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ออตโตมันสุลต่านและ Alexandrite ที่ได้รับการตั้งชื่อตามซาร์รัสเซีย
ในขณะที่การเปรียบเทียบความหายากในแง่ของการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ Zultanite นั้นหายากกว่ามาก Zultanite มีการขุดในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้นขณะที่ Alexandrite กำลังขุดในเจ็ดประเทศ Zultanite เป็นธรรมชาติ 100% โดยไม่มีความร้อนการแผ่รังสีฟิลเลอร์หรือการปรับปรุงอื่น ๆ ความทนทานหลายประการเกี่ยวกับอัญมณีอื่น ๆ เกิดจากการรักษาที่ได้รับหลังการขุดและการตัด Zultanite นั้นมีความทนทานสำหรับความแข็ง (6.5-7.0 Mohs scale)
ความสามารถของ Zultanite: เนื่องจากดัชนีการหักเหของแสงสูง 1.7 และการตัดที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง Zultanite จึงยอดเยี่ยมและกระจายตัวอยู่เสมอ แม้ในที่ที่มีแสงน้อย Zultanite ก็จะเปล่งประกายและในที่ที่มีความเข้มแสงมากกว่านั้นก็จะแสดงสีรุ้งจำนวนมากจากการกระจายตัวที่สูง
สีของ Zultanite: แม้ว่าอัญมณีขนาดเล็กดูเหมือนจะอิ่มตัวของสีน้อยกว่า แต่ Zultanite เป็น pleiochroic ซึ่งหมายความว่าสามารถมองเห็นสีต่าง ๆ ได้โดยการดูอัญมณีจากทิศทางที่ต่างกัน สีเหล่านี้อาจแตกต่างกันจากสีเขียวเป็นสีทองเป็นสีชมพู ปรากฏการณ์ Zultanite: นอกเหนือจากสีที่แตกต่างที่เห็นผ่านการกระจายและ pleochroism Zultanite เป็นอัญมณีเปลี่ยนสี ในเวลากลางวันอัญมณีเป็นกีวีที่สวยงามถึงสีเขียวมะนาว เมื่อเคลื่อนตัวลงสู่ภายในต่ำหรือแสงเทียน Zultanite จะค่อยๆเปลี่ยนจากแชมเปญเป็นอบเชย, ลูกพีชและบางครั้งก็เป็นสีชมพูเชอร์รี่ โดยปกติแล้วสีเหล่านี้สามารถสังเกตได้โดยใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ 6500K สำหรับกลางวันและหลอดไฟใส 25 วัตต์ต่ำมากหรือหลอดไฟตกแต่งสำหรับแสงเทียน
ซึ่งตัวนี้นี่ ถ้าคิดจะซื้อแนะนำให้ซื้อขนาดใหญ่พอควรนะคะ อย่างน้อยสัก 3 กะรัต เพราะถ้ามันเล็ก มันจะเห็นตัวการเปลี่ยนแสงไม่ชัดน่ะค่ะ
สำหรับร้านนี้หมดกันไปพอควรค่ะ 555 ก็ผู้หญิงกับอัญมณีอะน้าา นี่ถ้าแม่เรามา แม่เราก็ซื้อค่ะ
ปิดท้ายเอนทรี่ครึ่งวันนี้ด้วยร้านอาหารกลางวันนะคะHan Restaurant
เป็นร้านอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ของที่นี่นะคะ น่าจะใหญ่สุดของคัปปาโดเกียแล้วหละค่ะ
เข้าไปในร้านก็เดินขึ้นไปชั้นสอง โอเอ็มจี ผู้คนนนนนนนนค่ะ
ก็ต้องไปดูก่อนว่าเรานั่งตรงไหนแล้วค่อยมาตักอาหารนะคะ
ไลน์อาหารหลากหลายพอควรเลยหละค่ะ แต่แนะนำว่าถ้าทำโปรแกรมได้ ให้ไปตั้งแต่เจ้าแรกๆ ไลน์จะดูดีกว่านะคะ
จบเอนทรี่นี้แต่เพียงเท่านี้นะค้าาา เอนทรี่หน้าจะพาไปเที่ยวกันต่ออีกครึ่งวันค่าา
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2562
1. ตักบาตรพระกรรมฐาน
ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 กันยายน 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน
ณ บ้านลานเสียงธรรม
เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 กันยายน 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+7378611=8848307/14270/1873
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ