#### รีวิวSiam at Siam Design Hotel Bangkok - ยังคงชอบสไตล์ของโรงแรมนี้ค่ะ ####
สวัสดีค่าาาา
วันนี้ก็จะพาไปชมรีวิวโรงแรมในกรุงเทพฯ กันบ้างนะคะ จากที่เคยมาเล่าให้ฟังเรื่องบล็อกเกอร์ปาร์ตี้ของ กลุ่ม All Style Thai Bloggers เมื่อตอนส่งท้ายปีเก่าไปแล้วที่ ลิงก์นี้ แล้วในงานนั้นหนึ่งใน voucher ที่เราได้รับก็คือที่พักของรร.นี้ค่ะ ไปพักมาแล้วก็มารีวิวให้ชมกันนะค้าาา
สำหรับพิกัดของโรงแรมก็อยู่เยื้องๆ กับสนามศุภชลาศัยเลยนะคะ ใช้ google map พาไปได้อยู่ค่า
website โรงแรมนะคะ จะเป็นเว็บที่รวมทั้งสองโรงแรมของเครือนี้ไว้ค่ะ ทั้งกรุงเทพฯ และพัทยา
https://www.siamatsiam.com/
ถ้าใครอยากดูรีวิวสยามแอทสยามพัทยาก็คลิกที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยนะคะ
โดยการจองเราก็โทร.จองไปล่วงหน้าราวสามสัปดาห์ได้ค่ะ เมล voucher ไปให้ดูแล้วก็จองห้องเรียบร้อย พอถึงวันเดินทางก็ขับรถไปจอดที่รร. ลงลิฟท์ของฝั่งที่จอดรถ (ซึ่งจะเป็นลิฟท์ตัวเดียวกับอาคารที่เป็นที่ตั้งของ hostel บริษัททัวร์ และสำนักงานด้วยนะคะ) ลงไปที่ชั้นล็อบบี้ก่อนนะคะ
แล้วก็เดินไปที่ด้านถนนหลัก จะเป็นล็อบบี้และเคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ จากภาพนี้เคาน์เตอร์เช็คอินคือด้านในสุดนะคะ
สำหรับ voucher ห้องที่เราได้และจองมาตอนแรกคือ ห้อง Grand Deluxe Heritage ค่ะ (ตามใน voucher เลย) แต่พอยื่น voucher ให้ไป มีพนักงานอีกคนมาคุยกับน้องที่เช็คอินให้เรา แล้วก็เปลี่ยนจากห้อง 10xx เป็นห้อง 17xx เราก็เออ..ดีจุง ได้ชั้นสูงขึ้น
แต่พอน้องเขาไปส่งเรา ตอนขึ้นลิฟท์ เราถึงได้เห็นว่า ชั้น 10 ต่างหากที่เป็นชั้น Heritage ถามน้อง น้องเขาบอกว่าพอดีห้องชั้นนั้นเต็ม (อ้าววววว แล้วที่จองมาตอนแรกคือบอกว่าว่างไง แล้วเมื่อกี๊ก็เพิ่งเปลี่ยนตรงที่เคาน์เตอร์ง่ะ อย่างงง) น้องเขาบอกว่าก็เลยให้เป็นห้องมุมของชั้น 17 แทนครับ เราก็...อ้ะ โอเค
ก็ขึ้นลิฟท์ไป จะเป็นลิฟท์คนละตัวกับลิฟท์ที่จอดรถนะคะ
ลิฟท์ของโรงแรมจะอยู่ตรงใกล้ๆ ที่นั่งสีสันสดใสแบบนี้เลย เราชอบการออกแบบ สี และสไตล์ของโรงแรมนี้นะ ถ่ายรูปแล้วแบบ...สดดี
ทางเดินไปห้องพักค่ะ อันนี้เอารูปที่ถ่ายอีกรอบตอนกลางคืนมาแปะแทนนะคะ เพราะแสงสวยกว่าอะนะ
สำหรับการเข้าห้อง ใช้การ์ดเสียบในบ็อกซ์นะคะ พอไฟเขียวก็สามารถเข้าไปได้ค่ะ ต้องใช้การ์ดในการเสียบในช่องที่ผนังเพื่อให้ระบบไฟทำงานนะคะ
เปิดไปก็จะเจอห้องตามภาพเลยนะคะ ตัวห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือค่ะ ห้องที่เราพักวันนั้นเป็นห้อง 1707 ค่ะ เป็นวิวสนามกีฬา และอีกฝั่งเป็นวิวเมืองนะคะ
ไปดูโซนห้องนอนก่อน พื้นที่กว้างขวางพอสมควรเลยนะคะ ห้องนี้น่าจะเป็นไทพ์เริ่มต้นค่ะ (เท่าที่ดูจากเว็บนะ) นั่นก็คือเดอลักซ์นั่นเอง ขนาดของห้องจะอยู่ที่ 28 ตร.ม.ค่ะ
ปลายเตียงจะมีทั้งโต๊ะทำงาน (มีไวไฟฟรีค่ะ user เป็นเบอร์ห้อง พาสเวิร์ดเป็นนามสกุลนะคะ) ทั้งส่วนที่เอาไว้แต่งหน้าได้ ทีวี ตู้เซฟ ตู้เย็น ฯลฯ ค่ะ
ถ่ายย้อนไปให้เห็นความกว้างของห้องอีกทีค่ะ ตัวกระจกที่เป็นผนังสีๆ ของห้องน้ำนั่นเป็นบานเลื่อนเปิดได้ด้วยนะคะ
เห็นตรงที่เอาไว้วางกระเป๋าเสื้อผ้ามั้ยคะ ยังมีออกแบบให้สวยอ้ะ ชอบความละเอียดอ่อนของที่นี่จริงๆ
มีเดย์เบดด้วยนะคะ นอนอ่านหนังสือได้ชิลล์มาก
ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือ มีไฟอ่านหนังสือออออ ถูกใจหนอนหนังสืออย่างเรามาก เวลาอ่านหนังสือในห้องของโรงแรมที่ไฟไม่พอนี่แบบ...เซ็ง 555
ตู้เซฟที่มีให้นะคะ มีกาน้ำร้อนพร้อมชากาแฟฟรี น้ำเปล่าฟรีก็อยู่ตรงนี้เช่นเดียวกันค่ะ ส่วนในตู้เย็นนี่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ
ความเก๋อีกอย่างคือช่องเก็บไดร์เป่าผมค่ะ ไปพักมาหลายที่ เจอครั้งแรกก็ที่นี่แหละ
พาไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ที่นี่ออกแบบให้ใช้บานประตูเลื่อนบานเดียวกันระหว่างห้องน้ำกับตู้เสื้อผ้านะคะ
ในตู้เสื้อผ้าก็มีทั้งเสื้อคลุม รองเท้าแตะและหมอนสำรองค่ะ
เข้าไปในห้องน้ำ จะเจออ่างล้างหน้าที่มุมทางซ้ายมือก่อนค่ะ ตรงไปก็คืออ่างอาบน้ำนะคะ ส่วนโถสุขภัณฑ์จะอยู่ทางขวามือค่ะ
ตรงอ่างล้างหน้าอย่างที่บอกนะคะว่าตัวกระจกสีสามารถเลื่อนเปิดได้ (เอาไว้เล่นจ๊ะเอ๋กับคนในห้อง กร๊าก) ส่วน amenities ที่นี่จะใช้ของ Malin & Goetz ซึ่งหอมมากค่ะ
ตัวโถสุขภัณฑ์ที่นี่มีสายชำระนะคะ และโทรศัพท์ด้วย ซึ่งดีมาก 555 เวลาใครโทร.มาแล้วทำธุระอยู่จะได้ไม่ต้องตาลีตาเหลือกออกมารับโทรศัพท์ข้างนอกนะคะ
จากนั้นก็ไปสำรวจ facilities ของโรงแรมกันค่ะ ชั้น 11 จะเป็นชั้นของห้องฟังก์ชั่น สระว่ายน้ำ และฟิตเนสนะคะ
สระน้ำที่นี่ลึก 1.50 เมตรทั้งหมดค่ะ ซึ่งสำหรับคนที่สูงเพียง 153 เซนติเมตรอย่างเรานั้น...ยืนไม่ด้ายยยย 555 ข้อดีอย่างหนึ่งคือที่นี่เป็นสระน้ำเกลือค่ะ ส่วนผ้าเช็ดตัวสามารถเบิกได้ที่ข้างสระเลยนะคะ อีกอย่างคือชาวต่างชาติเยอะมากค่ะ เราเองว่ายได้แป๊บเดียวก็ต้องขึ้นหละ (นอกจากยืนไม่ถึงแล้วเนื่องจากวันนั้นฟ้าครึ้มทั้งวัน น้ำเลยเย็นมากค่ะ อิชั้นไม่สู้ แหะๆ)
ตัวฟิตเนส เครื่องเล่นมีหลากหลายมากนะคะ แถมคนน้อยกว่าสระว่ายน้ำเยอะเลย ตัวลู่วิ่งมีบอกอัตราการเต้นหัวใจกับการเผาผลาญพลังงานด้วยค่ะ แล้วก็มีตั้งโปรแกรมได้แบบค่อนข้างละเอียดเลย ชอบจุง
ด้วยความสงสัย เลยกดลิฟท์ไปดูที่ชั้น 10 ที่ตอนแรกจะได้พักซักหน่อย ก็ตามภาพค่ะ ไทพ์ห้องน่าจะดีกว่าห้องที่เราพักนา แหะๆ เสียดายจุง เพราะตอนจองก็ให้เขาเช็คแล้วนะว่าห้องไทพ์นี้ว่างวันไหนจะไปวีคนั้น ไหงพอมาเช็คอินกลับต้องเปลี่ยนห้องก็ไม่ทราบง่าาา อย่างงง
ชั้น 10 นี่ถ้าไปดูรีวิวเก่าๆ แต่เดิมจะเป็นชั้นของสปานะคะ แต่ตอนนี้รร.ไม่มีสปาแล้วค่ะ ถามพนักงานน้องบอกว่าไม่มีนานแล้วนะคะ เปลี่ยนเป็นห้องพักมานานแล้วหละ แล้วเซิร์ชหารีวิวห้องไทพ์นี้ก็ไม่มีด้วยนะนี่ เสียดาย ถ้าได้พักคงได้รีวิวห้องไทพ์นี้มาให้ดูกันค่ะ
เย็นนั้นเราไปใช้ voucher กินอาหารที่ the roof ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมนะคะ กดลิฟท์ไปที่ชั้น 25 ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของสองห้องอาหารค่ะ คือ La Vue (คลิกเพื่ออ่านรีวิว) และ the roof ค่ะ
เดินขึ้นไปกันอีกสองระดับค่ะ ระหว่างทางก็มีการตกแต่งที่สวยงามนะคะ ชอบความอาร์ทของรร.นี้จริงๆ
ขึ้นไปยังไม่มีใครมาเลยยยย 555 บนดาดฟ้าก็ยังมีที่ยกระดับขึ้นไปอีกเลเวลหนึ่งด้วยนะคะ แต่วันนั้นคนจองชั้นบนเต็ม เราเลยนั่งที่ระดับนี้แหละ
ที่นั่งทั้งหมดของเดอะรูฟจะราวๆ 150 ที่นั่งนะคะ
วิวถ่ายในเวลาต่างกันก็จะสวยคนละแบบค่ะ
มาดูเมนูกันค่าา เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มกันก่อนเลยนะคะ ราคาที่เห็นนี่มี ++ อีกนะคะ
ส่วนอาหารก็มีเมนูตามนี้เลยค่ะ
อย่างแรกที่สั่งมาเป็น Non-alcohol cocktai 200 บาทนะคะ เราเลือก Lynchee-Mi ค่ะ ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำลิ้นจี่ น้ำสับปะรด น้ำแอปเปิ้ล และเกรปฟรุตสีชมพูค่ะ รสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมลิ้นจี่เบาๆ ค่ะ
แล้วก็สั่งน้ำสปาร์คลิ่งของ Perrier 150++ มาด้วยนะคะ
จากนั้นก็เป็นขนมปังกับเนยค่ะ เนยดีนะคะ แต่เนื้อเทกซเจอร์ขนมปัง เราชอบนิ่มกว่านี้อีกหน่อย แหะๆ
เมนดิชเราสั่งเป็นริบอายเสต็ก 1350++ บาท มาค่ะ
เนื้อนิ่มดีค่ะ แต่คิดว่าเชฟหลักน่าจะยังไม่มา (ดูจากการตกแต่งจาน) ซอสเลือกได้สองซอส เลือกเป็นซอสไวน์แดง ซึ่งช่วยชูรสเนื้อได้ดีค่ะ หรือถ้าใครชอบรสจัดๆ หน่อยก็เลือกน้ำจิ้มแจ่วก็ได้ เพราะริบอายมันจะเยอะหน่อย น้ำจิ้มแจ่วจะช่วยแก้เลี่ยนได้นะคะ
กินไปก็ชมวิวไป วิวนี่คือวิวที่โต๊ะเราค่ะ อยู่ตรงมุมพอดี
อิ่มคาวแล้วก็เป็นหวาน พอมืดแล้วทางห้องอาหารจะมีดวงไฟเล็กๆ ติดมากับเมนูให้ดูด้วยนะคะ เอาใจใส่ดีค่ะ ชอบๆ
ของหวานเราเลือก Undergrowth of Chanterelle Ice Cream 430++ บาท ค่ะ
ตัวนี้ไอศกรีมอร่อยมาก ตัวช็อกโกแลตแผ่นที่เสียบไอศกรีมนี่อร่อยสุด ไวท์ช็อกจะมีบางชิ้นที่มีกลิ่นเหมือนหืนนิดๆ นะคะ ส่วนดาร์คช็อกโกแลตเหมือนมีกลิ่นของเหล้าด้วยหละ เลยกินไม่หมดค่ะ แหะๆ
ปิดท้ายกับอีกหนึ่งเครื่องดื่มค่ะ Siam@Siam Delight 280++ บาท
ตัวนี้ประกอบไปด้วย Tequila Gold, D.O.M., Benedictine, Orange Curacao, Grenadine น้ำส้มและน้ำมะนาวค่ะ
รสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ เหล้าไม่แรงไปนะคะ กำลังพอดี ดื่มกำลังเมานิ่มดีค่ะ 555
ค่าเสียหายของมื้อนั้นนะคะ
ก่อนกลับห้อง แอบแวะถ่ายห้องน้ำของห้องอาหารนี้ แอบเก๋อีกแล้ว
ตัดฉับกันไปที่อาหารเช้านะคะ ห้องอาหารเช้าของที่นี่คือ ห้อง Party House One ชั้นเดียวกับล็อบบี้เลยค่ะ ไม่ต้องใช้คูปองอาหารเช้านะคะ บอกเบอร์ห้องเอาค่ะ
ภายในห้องอาหารค่ะ มีที่นั่งเยอะพอควรเลย ไม่อึดอัดดีนะคะ
ไปดูไลน์อาหารกันค่ะ โซนแรกจะเป็นพวกพาสตรี้ต่างๆ มีให้เลือกหลากหลายพอควรเลยนะคะ
ดูไลน์ต่อไปกันค่า มีเฟรนช์โทสต์ มันฝรั่งอบ ถั่ว ผลไม้
ซีเรียล โยเกิร์ต นมซึ่งมีทั้งถั่วเหลืองและนมสด น้ำผลไม้แบบคั้นสด สลัดผัก
ไส้กรอก (ที่นี่จะเป็นไส้กรอกไก่นะคะ) ผัดกะหล่ำกับแฮม มะเขือเทศหน้าสมุนไพรค่ะ
ถัดไปอีกไลน์หนึ่งค่ะ จะมีซุปครีมเห็ด เบคอน และไข่กวนนะคะ
ไลน์ต่อไปค่ะ ในเข่งนั่นไม่ใช่ติ่มซำนะคะ เป็นมันกับเผือกนึ่งค่ะ แล้วก็มีผัดผัก ข้าวผัด และข้าวต้มไก่ค่ะ
ต่อไปจะเป็นซุ้มก๋วยเตี๋ยวและไข่ค่ะ มีทั้งไข่ลวก ไข่ต้ม ไข่ดาวและออมเล็ตนะคะ
ภาพรวมๆ ของห้องอาหารฝั่งเดียวกับไลน์อาหารนะคะ
มาดูดีกว่าว่าวันนั้นเรากินอะไรกันไปบ้างนะคะ
ซีเรียล - ดีเลยค่ะ สดใหม่ ใส่ลูกเกดยิ่งอร่อยค่ะ ข้าวต้มไก่ โอเคเช่นกันค่ะ ผลไม้ก็มาตรฐาน ชาถ้าเป็นเอิร์ลเกรย์ เขาจะรินใส่ถ้วยให้ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นจะเอามาให้เป็นกาค่ะ
เอาหละค่ะ ดูครบทั้งห้องพัก ส่วนบริการต่างๆ ห้องอาหารทั้งสองห้องแล้ว มาสรุปกันดีกว่านะคะ
ข้อดี
เรายังคงชอบสไตล์และการตกแต่งแบบอาร์ทไม่สนใจใครของรร.นี้อะค่ะ 555 ชอบทั้งที่นี่และที่พัทยาเลย มันให้ความรู้สึกที่ทำให้ตื่นตัวกระฉับกระเฉงดีง่ะ ซึ่งค่อนข้าง unique กว่ารร.อื่นๆ ที่ได้พัก ห้องที่ได้พักก็กว้างขวางดี ของใช้มีครบถ้วนอย่างที่ควรมี ส่วนบริการต่างๆ ก็เรียกว่ามีหมดทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม ขาดก็แต่สปาหละนะคะ อาหารเช้าถือว่าอยู่ในระดับดีค่ะ (แต่ถ้าเทียบกันแล้วที่พัทยาโดนสำหรับเรามากกว่านะ) การเดินทางก็สะดวกสำหรับคนที่ไม่มีรถ ใกล้แหล่งช็อปปิ้งสุดฮิตอย่างมาบุญครองและสยาม ที่เที่ยวใกล้ๆ ก็มีทั้งบ้านจิม ทอมป์สัน และศูนย์ศิลปะ (จำชื่อเต็มๆ ไม่ได้ขออภัย) เรียกว่าทำเลดีมากค่ะ
ข้อด้อย
จุดสำคัญของรอบนี้เลยก็คือเรื่องไทพ์ของห้องพักค่ะ กรณีที่ไม่ได้ห้องไทพ์ที่จองมา ควรแจ้งลูกค้าล่วงหน้า และถ้าจะเปลี่ยน ควรถามความสมัครใจก่อนง่ะค่ะ ไม่ใช่เปลี่ยนเลย แล้วค่อยให้ลูกค้ามาถาม (ตอนระหว่างส่งไปที่ห้องพัก) เพราะถ้าเรารู้ว่าไปวีคนั้นไม่ได้ห้องไทพ์นี้ เราก็คงเลื่อนไปพักในวีคอื่นง่ะนะ ซึ่งเรียกว่าเป็นจุดนอยด์จุดเดียวค่ะของการได้พักที่นี่ นอกนั้นโอเคหมดเลย อ้อ...อีกเรื่อง ซึ่ง...เราว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่นะคะ แล้วก็คงแก้ไม่ได้อ้ะ นั่นก็คือความลึกของสระ 150 ซม. มันลึกไปสำหรับเรา 555555555 (ป้าเตี้ยอะนะ ป้ายอมรับเถอะจ้ะ)
ปฏิทินธรรม
วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันพุธที่ 4 เมษายน 2561
1. ฟังธรรมพระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย จ.อุดรธานี
ณ ชมรมพระพุทธศาสนา บริษัท เอไอเอ จำกัด ชั้น 8 อาคาร เอไอทาวเวอร์ ถ.สุรวงค์
วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561
1. บำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน การละสังขาร น้อมถวายองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
ณ วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) จ.เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561
1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี
แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน
ตั้งแต่เวลา 9.30-13.30 น. พัก 11.00-12.00 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28 และ 29 เมษายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
1. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1469696+6024942=7494638/13164/1637
Create Date : 29 มีนาคม 2561
29 comments
Last Update : 29 มีนาคม 2561 8:40:35 น.
Counter : 7801 Pageviews.
ห้องน่าพัก อาหารน่าอร่อย
เป็นโรงแรมที่น่าพักจังค่ะ