##### รีวิวการนั่งรถไฟ Shinkansen จากสถานี Nagoya ไป Toyohashi #####







สวัสดีค่ะ





เอนทรี่ล่าสุด รีวิวร้านอาหาร น่าน - น้ำปั่นพันแรงม้า ณ น่าน อีกหนึ่งร้านของน่านค่ะ (คลิกเพื่ออ่าน)









หลังจากปล่อยรีวิวมาแล้วดังนี้


1. ห้องพัก Marriott Nagoya Associa Hotel (คลิกเพื่ออ่าน)

2. อาหารเช้า ณ Marriott Nagoya Associa Hotel (คลิกเพื่ออ่าน)








วันนี้ก็จะพาไปนั่งรถไฟหัวกระสุนหรือชินกันเซ็นจากสถานีนาโงย่า (ซึ่งจากโรงแรมที่เราพัก สามารถที่จะเดินไปที่สถานีได้เลย) ไปสู่สถานีโตโยฮาชินะคะ ซึ่งการนั่งนี้จะเดินทางราวๆ 30 นาที ราวๆ สามสถานีค่ะ


ท่านใดสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองไปดูที่เว็บของ Shinkansen ได้ตามนี้นะคะ

//www.shinkansen.co.jp/jikoku_hyo/en/




สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับชินคันเซ็น จากวิกิก็บอกไว้ดังนี้ค่ะ

ชิงกันเซ็ง (ญี่ปุ่น: 新幹線 shinkansen ?) เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการโดย 4 กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น นับตั้งแต่ได้เปิดใช้โทไกโด ชิงกันเซ็ง ในปี ค.ศ. 1964 รถไฟคันนี้สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้น เครือข่ายของระบบรถไฟนี้ก็ได้ขยายออกไปจนครอบคลุมพื้นที่สำคัญต่าง ๆ ของประเทศตามเมืองใหญ่ ๆ ในเกาะฮนชู เกาะคีวชู ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ทำการทดสอบในปี 1996) แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แมกเลฟ) ในปี 2003

ชิงกันเซ็ง มีความหมายว่า "ทางรถไฟสายใหม่" ดังนั้น ตามความหมายอย่างเป็นทางการ ชิงกันเซ็ง จะเป็นชื่อที่ใช้เรียกระบบรางรถไฟเท่านั้น ส่วนตัวรถไฟจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "รถไฟความเร็วสูง" หรือ "รถไฟซูเปอร์เอกซ์เพรส" (超特急, chō-tokkyū) อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชื่อก็ไม่ได้ทำให้เกิดความสับสนแต่อย่างใด สามารถเรียกใช้แทนกันได้แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ตาม

เมื่อเปรียบเทียบกับทางรถไฟสายเก่าแล้ว ชิงกันเซ็งจะมีความแตกต่างตรงที่รางรถไฟจะมีความกว้างเป็นแบบมาตรฐาน และมีการขุดอุโมงค์เข้าไปหรือสร้างสะพานข้ามเมื่อเจอสิ่งกีดขวางแทนที่จะอ้อมไปแบบแต่ก่อน ทำให้เส้นทางรถไฟของชิงกันเซ็งจะมีความคดเคี้ยวน้อยกว่า และช่วยร่นระยะทางให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเส้นทางเดินรถที่ใหญ่และไกล แต่ชิงกันเซ็งนั้นก็เป็นเส้นทางที่ใช้เชื่อมตามมหานครใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่นเท่านั้น


รถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูงของญี่ปุ่น ได้ต้นแบบพัฒนามาจากรถไฟความเร็วสูง Siemens ของ เยอรมนี ญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะสร้างรางรถไฟที่รองรับรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูง จึงได้สร้างทางรถไฟมาเพื่อรถไฟความเร็วสูงอย่างจริงจังโดยเฉพาะ เป็นประเทศแรกในโลก เนื่องจากภูมิประเทศของญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยภูเขามากมาย เส้นทางรถไฟที่มีอยู่ในขณะนั้นจึงมีความกว้างแบบแคบ คือ 1,067 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ต้องวางเส้นทางรถไฟที่คดเคี้ยวและรถไฟไม่สามารถเร่งให้มีความเร็วสูงกว่านี้ได้ ต่อมา ญี่ปุ่นมีความต้องการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงมากกว่าความต้องการสร้างของประเทศที่มีระบบรางรถไฟความกว้างมาตรฐานอยู่แล้วและญี่ปุ่นนั้นก็มีศักยภาพในการปรับปรุงระบบรถไฟให้ทันสมัยมากกว่าอีก

ชื่อเรียกอีกชื่อที่คุ้นหูกันดีสำหรับชิงกันเซ็งนี้ก็คือ รถไฟหัวกระสุน (bullet train) ซึ่งเป็นความหมายของคำในภาษาญี่ปุ่นว่า dangan ressha (弾丸列車) ต่อมาชื่อนี้ได้นำมาเรียกเป็นชื่อเล่นของโครงการตั้งแต่ตอนเริ่มต้นปรึกษาหารือความเป็นไปได้ของโครงการในราวทศวรรษที่ 1930 ชื่อนี้ได้มาจากลักษณะของหัวรถจักรที่มีลักษณะคล้ายกับหัวกระสุนปืนและยังมีความเร็วสูงเหมือนกระสุนปืนนั่นเอง

คำว่า "ชิงกันเซ็ง" มีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2483 (ค.ศ. 1940) เพื่อใช้เรียกเส้นทางทางเดินรถไฟโดยสาร/สินค้าจากกรุงโตเกียวไปยังชิโมะโนะเซะกิที่จะสร้างขึ้นในสมัยนั้น โดยการใช้พลังงานไอน้ำและหัวรถจักรไฟฟ้าที่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นสามปี รัฐมนตรีรถไฟได้ผลักดันให้เกิดโครงการขยายทางรถไฟไปสู่กรุงปักกิ่ง (โดยการเจาะอุโมงค์ผ่านคาบสมุทรเกาหลี) หรือยาวไปจนถึงสิงคโปร์เลยทีเดียว ไปจนถึงการสร้างทางรถไฟเชื่อมกับทางรถไฟสายไซบีเรียนของรัสเซียและทางรถไฟสายอื่น ๆ ของเอเชีย แต่ต่อมา แผนนี้ได้มีการยกเลิกในปี พ.ศ. 2486 (ค.ศ. 1943) และสภาวะของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างบางส่วนก็ได้รับการพัฒนาต่อ เช่น อุโมงค์บางส่วนได้มาการนำมาใช้สำหรับชิงกันเซ็งในปัจจุบันนับตั้งแต่มีการสร้างครั้งแรกในช่วงสงคราม

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลง รถไฟชนิดวิ่งเร็วก็ได้เลือนหายไปจากความทรงจำของคนญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี ต่อมากลางทศวรรษที่ 1950 ทางรถไฟสายหลักโทไกโดก็ถูกใช้งานมาจนเต็มขีดความสามารถแล้ว รัฐมนตรีรถไฟของญี่ปุ่นจึงได้ตัดสินใจกลับมาทบทวนโครงการชิงกันเซ็งอีกครั้ง รัฐบาลได้อนุมัติโครงการเมื่อปี 1958 การก่อสร้างทางรถไฟส่วนแรกของ โทไกโด ชิงกันเซ็ง ระหว่างกรุงโตเกียวไปยังโอซะกะก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2502 การก่อสร้างทางรถไฟครั้งนี้ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารโลกเป็นจำนวนเงิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาในปี 1962 ได้มีพิธีเปิดการทดสอบระบบเพื่อการขนสินค้าเป็นครั้งแรกในบางส่วนของเส้นทางนี้ ที่เมืองโอะดะวะระ จังหวัดคะนะงะวะ

โทไกโด ชิงกันเซ็ง ได้เปิดใช้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) ซึ่งทันเวลาสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ณ กรุงโตเกียวพอดี ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จทันทีทีเปิดใช้บริการ โดยมีจำนวนผู้โดยสารถึง 100 ล้านคนในเวลาน้อยกว่า 3 ปีคือวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) และยอดผู้โดยสารรวมมีจำนวนถึง 1,000 ล้านคนในปี 1976 และรถไฟขบวนโดยสาร 16 ตู้ก็ได้นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการปี 70 ที่โอซะกะ

รถไฟชิงกันเซ็งขบวนแรกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟบางขบวนที่มีรูปร่างเป็นหัวกระสุนนั้นยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และหัวรถจักรคันหนึ่งในจำนวนนี้ปัจจุบันได้นำไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งชาติ ที่เมืองยอร์ค สหราชอาณาจักร




หลังจากทราบข้อมูลกันแล้ว ก็ลองมาดูการเดินทางจริงๆ กันบ้างนะคะ ซึ่งวันนั้นเราก็ใช้เดินจากรร.นาโงย่ามาริออทแอสโซเซียไปได้เลยค่ะ เดินไปตามทางแบบในภาพเลยนะคะ


















จะมีป้ายบอกตลอดทางนะคะ ต้องคอยสังเกตแล้วเดินตามไปค่ะ


















ระหว่างทางก็จะมีร้านค้าขายของต่างๆ นานานะคะ ตามแบบของสถานีรถไฟญี่ปุ่นหละค่ะ


















สักพักก็จะมีป้ายเบี่ยงขวาไปค่ะ ดูป้ายเป็นหลักหละค่ะ ไม่หลงแน่นอน


















จากนั้นไกด์ก็ให้เรารอแถวนี้ค่ะ North Entrance แล้วเจ้าตัวก็ไปซื้อตั๋วนะคะ


















หน้าตาของตั๋วค่ะ ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ซึ่งการเข้าก็จะเหมือนๆ กับรถไฟฟ้าบ้านเราหละนะคะ จะมีที่ให้สอดบัตร แล้วก็รับบัตรคืนที่อีกช่องหนึ่ง (ตามรูปเลย) เราต้องเก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจบนขบวนรถไฟแล้วก็ใช้ตอนขาออกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นต้องรักษาไว้ดีๆ ห้ามหาย



















จากนั้นก็จำได้เลาๆ ว่าต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชานชาลานะคะ แล้วก็ต้องรอตรงหมายเลขตู้ของขบวนของเราด้วยค่ะ ไปขึ้นไม่ตรงตู้ไม่ได้เพราะว่าบางตู้จะเป็นตู้ที่มีการระบุที่นั่งที่เค้าจองกันมาแล้วน่ะนะคะ อย่างของเราวันนั้นรู้สึกว่าจะเป็นตู้ 5 กับ 6 ค่ะ

แล้วเวลารถไฟมาจอด หมายเลขตู้ก็จะมาเทียบที่หมายเลขที่ชานชาลานะคะ เป๊ะเวอร์มาก


















ที่นั่งภายในค่ะ ฝั่งหนึ่งเป็นสองที่นั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นสามที่นั่งค่ะ


เวลาเรานั่งรถไฟของเค้า ควรทำตามวัฒนธรรมนะคะ นั่นก็คือ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น (คนญี่ปุ่นนั่งรถไฟกันเงียบมาก) แล้วก็ต้องเปลี่ยนระบบมือถือของเราเป็นระบบเงียบด้วยค่ะ (อันนี้ไกด์ท้องถิ่นบรีฟตั้งแต่เมื่อวานก่อนเข้ารร.แล้วหละค่ะ)



















ที่นั่งค่อนข้างมีระยะห่างระหว่างเบาะพอควรเลยนะคะ เราสูง 152 เซนฯ นี่ ยืดขาได้เหลือเฟือมาก แล้วก็สามารถปรับเอนนอนได้ค่ะ (จะมีที่ให้ดึงเพื่อปรับเบาะอยู่ตรงที่วางแขนตามภาพนะคะ) แล้วก็ตรงถาดที่ด้านหน้าเราที่ใช้วางของต่างๆ นี่ก็จะมีแผนผังของแต่ละตู้ในขบวนว่ามีอะไรอยู่ที่ไหนบ้างนะคะ


















เก็บภาพมาให้ดูค่ะว่าเค้าเป็นแบบหลายรางไปแล้ว (ระหว่างทางก็เป็นรางคู่ไปแล้วเหมือนกันค่ะ เพราะฉะนั้นการเดินทางทางรถไฟของเค้าจึงเป็นการคมนาคมที่สำคัญและเป็นหลักได้เลย ไม่เสียเวลาในการรอสับรางเหมือนบ้านเรานะคะ ถ้าบ้านเราทำเป็นรางคู่ได้เมื่อไหร่ การเดินทางด้วยรถไฟก็น่าจะสะดวกสบายขึ้นหละค่ะ)


















ที่สถานีแต่ละสถานีก็จะมีป้ายบอกชื่อสถานีเหมือนไทยหละนะคะ แล้วก็บอกทิศทางด้วยว่า ไปทางไหนจะไปเจออะไร อย่างที่สถานี Mikawa-Anjo นี่ก็อยู่ระหว่างโทโยฮาชิกับนาโงย่าหละค่ะ (เราถ่ายของฝั่งตรงกันข้ามกับเราน่ะนะคะ)


















เรามาดูกันค่ะว่าแต่ละตู้ของขบวนนี้มีอะไรบ้างนะคะ

จะเห็นว่าทุกตู้นี่จะเป็นตู้ปลอดบุหรี่หมดนะคะ ดูตามสัญลักษณ์ก็จะเข้าใจเลยค่ะ

ตู้ 1 จะมีที่ทิ้งขยะและห้องน้ำ
ตู้ 2 จะมีที่ทิ้งขยะและโทรศัพท์
ตู้ 3 จะมีที่ขายเครื่องดื่ม+ของว่าง ที่ทิ้งกระดาษ (?) ที่ทิ้งขยะและห้องน้ำ (ครบสุดเลยค่ะ)
ตู้ 4 จะมีที่ทิ้งขยะ
ตู้ 5 จะมีห้องน้ำและที่ทิ้งขยะ
ตู้ 6 จะมีที่ทิ้งขยะและโทรศัพท์
ตู้ 7 จะมีที่ขายเครื่องดื่ม+ของว่าง ที่ทิ้งกระดาษ (?) ที่ทิ้งขยะและห้องน้ำ (ครบสุดเช่นกันค่ะ)
ตู้ 8 จะมีที่ทิ้งขยะ แต่สัญลักษณ์เหมือนซากุระนี่ไม่รู้ว่าคืออะไรค่ะ


















เราก็เลยไปสำรวจตู้ที่บอกว่ามีเครื่องดื่มกับของว่างจำหน่ายค่ะ ก็จะเป็นตู้กดอัตโนมัติตามภาพหละนะคะ ก็เลยอุดหนุนโค้กมาขวดหนึ่ง (เป็นขวดที่ไม่แตกค่ะ)


















ต่อไปเป็นการสำรวจห้องน้ำค่ะ ถ้าต้องการแบบชักโครกก็จะต้องเลือกห้องที่มีสัญลักษณ์ western style แบบในภาพนะคะ


















ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำก็จะเป็นอ่างล้างมือ สะอาดสะอ้านค่ะ ในห้องน้ำก็สะอาดพอๆ กับห้องน้ำบนเครื่องบินเลย สุดยอดมากๆ อ้อๆ แล้วในห้องน้ำนี่ก็มีอ่างล้างมือให้ด้วยนะคะ แต่จะเล็กกว่าอ่างข้างนอกค่ะ


อีกอย่างก็มีห้องสำหรับการปัสสาวะของสุภาพบุรุษอย่างเดียวด้วยนะคะ แฮ่...


















วิวข้างทางช่วงนี้ก็แนวชนบทๆ หละค่ะ ช่วงที่เราไปก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูเพลินๆ เป็นช่วงๆ นะคะ แต่ถ้าต้องนั่งยาวๆ แล้วไม่ได้เป็นคนชอบชมวิว ถ้าไม่กดอะไรมานั่งดื่มนั่งกิน ก็คงต้องหาอะไรที่ชอบมาทำหละค่ะ อย่างเช่น นอน (ไม่ใช่แระป้า ) อ่านหนังสือ ฟังเพลง ฯลฯ อะไรไปหละนะคะ หรือถ้าใครเปิดอินเตอร์เน็ต เช่าพ็อกเก็ตไวไฟไป ก็เข้าโลกโซเชียลได้เลยค่า


















สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วและเจาะตั๋วเราเป็นรูตามภาพเลยค่ะ


















นั่งรวมๆ ทั้งหมดราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานีโตโยฮาชิแล้วค่ะ จะเห็นโรงแรม Hotel Associa Toyohashi ซึ่งมีทางเดินเชื่อมมาถึงสถานีรถไฟตามภาพเลยค่ะ (เดาเอาจากภาพนะคะ แต่ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ)


















ตรงบริเวณชานชาลาก็มีร้านค้าต่างๆ นิดหน่อยนะคะ


















จากนั้นก็ต้องขึ้นบันไดเลื่อนอีกรอบ ขึ้นไปที่ชั้นที่จะต้องสอดตั๋วเพื่อออกไปยังสถานีค่ะ มีร้านค้าและห้องน้ำให้เข้าด้วยนะคะ ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด มองตรงไปในรูปเนี่ยอะค่ะ





















มองไปทางขวามือก็จะเจอทางสำหรับสอดบัตรออกไปแล้วนะคะ จะเห็นว่ามีร้านค้าอยู่ด้วย ซึ่งร้านค้านี่แหละค่ะที่มีพายปลาไหลขายเหมือนที่ทะเลสาบฮามานะ เราก็จัดการซื้อมาซะ เพราะจะบริการลูกค้าบนรถ ก่อนจะไปแวะที่ทะเลสาบค่ะ ถ้าลูกค้าชอบก็จะได้หาซื้อไปเองเลย เพราะที่ทะเลสาบฮามานะมีขายหลายร้านเลยหละค่ะ ซื้อได้สะดวก แต่ถ้าไม่ได้ชิม บางคนไม่รู้ว่าเป็นไง ก็ไม่รู้ว่าควรซื้อไปฝากหรือเปล่าน่ะค่ะ














ราคาก็ตามป้ายเลยค่ะ แบบ 16 ชิ้นจะราคา 1160 เยน แบบ 24 ชิ้นจะ 1730 เยน แต่ถ้าเป็นแบบชิ้นที่ไม่ใส่กล่องก็ 10 ชิ้น 630 เยนจะถูกกว่าแบบกล่องค่ะ แล้วก็มีแบบพิเศษคือ V.S.O.P. (มันคืออะไรง่ะ ผสมเหล้า?) แบบนี้จะแพงค่ะ 5 ชิ้นราคา 870 เยนค่ะ

















ถ่ายย้อนกลับไปหลังจากสอดบัตรออกมาแล้วค่ะ จากภาพทางซ้ายมือคือทางที่เราออกมาจากชานชาลากันนะคะ จะเห็นว่ามีที่นั่งรอแล้วก็ร้านขายของอีกหน่อยหนึ่งด้วยนะคะ

ซึ่งพอเราออกมาแล้ว ถ้าจำไม่ผิดนี่ต้องเลี้ยวซ้ายลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่างนะคะ แต่เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แล้วเราก็ต้องรอรถบัสนานทีเดียว เพราะการวางกระเป๋าไม่เป็นไปตามนัด ทำให้รถบัสออกมาช้า แล้วมาไม่ทันชินคันเซ็นซึ่งวิ่งเร็วกว่าง่ะค่ะ (รถไฟวิ่ง 30 นาทีนี่ รถบัสใช้เวลา 3 ชั่วโมงค่ะ)















สำหรับรีวิวนี้ก็เพียงเท่านี้นะคะ รีวิวของทริปนี้เอนทรี่หน้าจะพาไปที่ทะเลสาบฮามานะ หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าทะเลสาบปลาไหลค่ะ ไปช็อป ชิม ชิลล์กันต่อนะคะ








ปฏิทินธรรม






วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2557

1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



วันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน)


1. ฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล จ.สกลนคร
ณ ห้องสมุดชั้น ๓ มูลนิธิบ้านอารีย์
เวลา 18.00-21.00 น.

https://www.facebook.com/baanareefoundation



วันอาทิตย์ที่ 10 และ 24 สิงหาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ร่วมฟังธรรมจาก พระอาจารย์มานพ อุปสโม แห่งวัดนายโรง และศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จันทบุรี

เวลา 18:30 - 21:00

หอประชุมพุทธคยา อาคารอมรินทร์พลาซ่า ชั้น ๒๒

https://www.facebook.com/events/813719878658437/?ref=5





วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน)

1. ตักบาตรพระกรรมฐาน (นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่น) ที่วัดบรมนิวาส (ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่นค่ะ)

ที่จอดรถค่อนข้างหายาก ไม่ควรนำรถส่วนตัวไปค่ะ





วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2557 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)

1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย
พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม)
วัดหนองป่าพง จ. อุบลราชธานี
พระครูสุธรรมประโชติ (หลวงพ่อคำผอง ฐิตปุญโญ)
วัดป่าพิทักษ์ธรรม จ. นครราชสีมา
พระครูภาวนาอุดมคุณ (หลวงพ่อโสภา อุตฺตโม)
วัดเขาวันชัยนวรัตน์ จ. นครราชสีมา
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ บ้านอารีย์

เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net

















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+1758437=3228133/10782/880




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2557
14 comments
Last Update : 15 สิงหาคม 2557 8:36:09 น.
Counter : 17820 Pageviews.

 

ถ้าผมไปเอง หลงแน่นอน
หลงตั้งแต่ลงเครื่องเลยล่ะครับ

555

โหยยย แถมตั๋วยังมีแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆเลยนะครับคุณเต้ย



 

โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2557 8:54:50 น.  

 

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Political Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

มาจ่ายค่าตั๋วแล้วก็กระโดดขึ้นรถไฟไปเที่ยวด้วย ฮึบๆ

ดูการจัดระเบียบตู้รถไฟของเขาแล้ว เจ๋งมากๆเลยค่ะ ตัวสัญลักษณ์ก็ชัดเจนดี ห้องน้ำ ยังกะอยู่บนเครื่องบินแหน่ะ
อยากเห็นวิวชนบทญี่ปุ่นข้างทางรถไฟบ้างจัง น่าจะเพลินเลยนะคะ

 

โดย: กาบริเอล 15 สิงหาคม 2557 9:53:10 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยนะคะ อยากไปนั่งแบบนี้มั่งจังเรย ^^

 

โดย: auau_py 15 สิงหาคม 2557 15:20:34 น.  

 

ตามพี่เต้ยมาเที่ยวญี่ปุ่นต่อครับ กดโหวตให้ครับ


ป.ล.ขอบคุณสำหรับที่กดโหวตให้ผมด้วยนะครับ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Food Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ปีศาจความฝัน 15 สิงหาคม 2557 17:42:09 น.  

 

ตามคุณเต้ยไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ^^

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: LilyHappiness (สมาชิกหมายเลข 750163 ) 15 สิงหาคม 2557 18:32:09 น.  

 

พี่รอรถไฟรางคู่บ้านเรา อย่างมีความหวังจ้ะเต้ย

ห้องน้ำเค้าสะอาดเนาะ พื้นทางเดินอะไรก็สะอาดไปหมด ญี่ปุ่นน่าเที่ยวแบบนี้เอง...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 15 สิงหาคม 2557 19:32:46 น.  

 

ป้าไม่เคยไปญี่ปุ่น แต่อ่านจากในบล็อกและดูภาพประกอบแล้วชอบค่ะ

คุณเต้ยเล่าง่ายๆ ดูภาพตามไปด้วย นึกว่ากำลังไปกับคุณเต้ยเลยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
blueberryblossom Photo Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ร่มไม้เย็น 15 สิงหาคม 2557 19:50:22 น.  

 

เรื่องช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
ได้ยินมาเยอะมากครับ
ถึงขนาดที่ว่า บางทีเดินไปส่งจนถึงที่เลย

น่าชื่นชมมากๆเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2557 22:35:36 น.  

 

สวัสดีค่า ^^
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

รถไฟบ้านเค้าดูดีจังค่ะ สะอาดสะอ้านน่าใช้บริการมากมาย ชอบๆ บ้านเราน่าจะดูเป็นตัวอย่างบ้างนะคะ

เมื่อวานนุ่นเมนท์ผิดเหรอคะ
แย่แล้ว TT
สงสัยก่งก๊งค่ะ อ่านเยอะ
ควบทีเดียวสองวันเลยมึนค่ะ

ไปอ่านเมนท์แล้วเอ๋อเลย แหะๆ

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

โดย: lovereason 15 สิงหาคม 2557 23:05:01 น.  

 

ดูดีทีเดียวครับ รถไฟความเร็วสูงดูเหมือนจะลอกแบบจากเยอรมันกันหมดเลย ได้ยินว่าจีนก็ลอกจากเยอรมัน รถไฟความเร็วสูงของจีนตอนนี้ขึ้นอันดับ 1 ในเรื่องการทำความเร็วไปแล้วครับ แต่ดูเหมือนเทคโนโลยีของจีนจะก้าวล้ำมากกว่าด้านความปลอดภัยนะ

ดูแล้วของเค้าเป็นระเบียบมากๆ เค้ารักษาสิทธิ์ไม่รบกวนคนอื่นมั้งครับ เลยไม่เปิดเสีย รถไฟใต้ดินทั่วไป หรือรถเมล์ก็เปิดสั่นกันนะ

ญี่ปุ่นเป็นประเทสที่น่าไปจริงๆ แหละครับ


โหวตให้เลย อันนี้ชอบเป็นพิเศษ ต้องประกาศดังๆ

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 สิงหาคม 2557 0:00:29 น.  

 

รีวิวได้ละเอียดมากๆค่ะ
ตอนขึ้นไปนั่ง หลับอย่างเดียวเลยค่ะ ห้องน้งห้องน้ำไม่เคยเดินไปดู อิอิ

ขอบคุณสำหรับโหวตค่า

 

โดย: AdrenalineRush 16 สิงหาคม 2557 0:52:46 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย

 

โดย: กะว่าก๋า 16 สิงหาคม 2557 6:36:35 น.  

 

เช้านี้พี่มาพร้อมฝนเลยจ้ะเต้ย

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 17 สิงหาคม 2557 6:29:10 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
รูปดอกซากุระมีเขียนภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วย
ครูเต้ยน่าจะพอเดาออกนะคะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog


 

โดย: หอมกร 17 สิงหาคม 2557 7:59:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.