+ + = = = + + รีวิว เก็นติ้ง มาเลเซีย ตอนที่ 9 ร้านอาหาร Imperial Rama อร่อยที่สุดค่ะ + + = = = + +
สวัสดีค่ะ เอนทรี่ล่าุสุด รีวิว เก็นติ้ง มาเลเซีย ตอนที่ 8 ธีมปาร์ค หลังจากปล่อยมหากาพย์เก็นติ้งมาเลเซียไปแล้วดังนี้ 1. รีวิว Genting Malaysia ตอนที่ 1 ปฐมบท+ข้อมูลเบื้องต้น+สนามบิน LCCT 2. ตอนที่ 2 PAO XIANG BAH KUT TEH 3. ตอนที่ 3 First World Hotel ส่วนของห้องพัก 4. ตอนที่ 4 First World Hotel ส่วนบริการต่างๆ 5. ตอนที่ 5 Coffee Terrace บุฟเฟท์นานาชาติ 6. Lobby Cafe อาหารเช้าง่ายๆ 7. Snow World : Minus 5 ํC Time 8. ธีมปาร์ค เอนทรี่นี้จะพาไปหม่ำร้านอาหารที่เราขอโหวตให้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดในทริปกันบ้างนะคะ นั่นก็ืคือ Imperial Rama ซึ่งเป็นห้องอาหารที่อยู่ที่ไฮแลนด์รีสอร์ทนั่นเองค่ะ สำหรับการไป ก็เป็นการนำทางไปโดยเจ้าถิ่นเหมือนเดิมหละนะคะ ที่ต้องมีเดินไปขึ้นบันไดเลื่อน เดินไปทางเชื่อม ขึ้นลิฟท์ เดินต่อ แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนอีก ระหว่างทางเจอรูปโฆษณาที่นี่ ปรากฏว่าสองสาวเจ้าถิ่นของเรา เป็นคนที่อยู่ในรูปด้วย ก็เลยให้เจ้าตัวทำท่าเหมือนในโปสเตอร์ แล้วก็แชะมาเป็นหลักฐาน (ไม่มีเซนเซอร์หน้ากันหละงานนี้ ) แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปค่ะ (แนะนำสำหรับคนที่เดินทางไปเอง หากพักเฟิร์สท์เวิลด์ กะเวลาดีๆ แล้วก็นั่งรถที่มีทรานสเฟอร์ระหว่างเฟิร์สท์เวิลด์กับไฮแลนด์ดีกว่าค่ะ เพราะถ้าเดินเอง เราว่า..ค่อนข้างงงอยู่เหมือนกัน มันหลายทอดพอสมควรอะค่ะ) ขึ้นมาแล้วก็สังเกตป้ายค่ะ มุมขวาบนจะเห็นว่าเป็นทางบอกไปโรงแรมเก็นติ้งไฮแลนด์นะคะ เดินไปหน่อย ส่องออกไปข้างนอกทางขวามือ ก็เห็นหน้าโรงแรมเก็นติ้งไฮแลนด์แล้วหละค่ะ เดินผ่านเจ้านกนี่อีกรอบ (เมื่อคืนที่หม่ำข้าวค่ำ ก็ผ่านค่ะ จำได้ปะคะ อิอิ) จากนั้นก็จะผ่านร้านอาหารอีกหลายร้านเลยค่ะ อย่างร้านสไปซ์การ์เด้น ร้านนี้เป็นต้น (เป็นอาหารอินเดียนะคะ) จนถึงร้านด้านขวามือตามภาพนี้ไป ก็เลี้ยวไปทางขวามือค่ะ ดิสเพลย์ที่หน้าร้านอาหารจากรูปเมื่อกี๊ค่ะ เก๋เนาะ สวยเชียวหละค่ะ พอเลี้ยวขวาปุ๊บ ก็จะเจอซุ้มขายขนมไหว้พระจันทร์ของเก็นติ้งค่ะ ไอ้เราก็บอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวพอใกล้ๆ วันกลับ สักพรุ่งนี้ จะแวะมาช็อปไปลองหน่อย แต่ปรากฏว่า..ฮ่ะ...ลืม จากนั้นก็เดินตรงไปยาวๆ ค่ะ ก็จะเริ่มเห็นป้ายของห้องอาหารเราแล้ว อิมพีเรียลรามาค่ะ ซึ่งเป็นห้องอาหารของโรงแรมไฮแลนด์นะคะ แต่เราก็สามารถเดินจากเส้นทางที่ผ่านมาได้ โดยไม่ต้องเข้าทางล็อบบี้ของโรงแรมค่ะ ก่อนจะไปถึงห้องอาหารอิมพีเรียลรามา ทางขวามือก็จะผ่านร้านอาหารนี้ก่อนค่ะ Bubbles&Bites ซึ่งเจ้าถิ่นก็บอกเราว่า ค่ำนี้เราจะมาหม่ำๆ กันที่นี่ค่ะ เลยแอบถ่ายเก็บขนมหน้าร้านมานิดหน่อย อิอิ เจอแว้ว ทางเข้าห้องอาหารค่ะ จะเป็นทางเดินริมระเบียงยาวๆ ตามภาพเลยนะคะ ซึ่งระหว่างทางเดิน ถ้าเรามองไปทางซ้ายมือด้านล่างนี่ก็คือบริเวณทางเดินและล็อบบี้ของโรงแรมนี้ค่ะ เดินไปจนสุดทาง ก็จะเจอทางเลี้ยวเข้าไปยังห้องอาหารทางขวามือแล้วหละค่ะ เหล่ไปทางซ้ายก่อนเข้าห้องอาหาร จะเห็นเคาน์เตอร์ของทางโรงแรมด้วยนะคะ ด้านหน้าเคาน์เตอร์จะเป็นบันไดเลื่อนขึ้น-ลงค่ะ เลี้ยวขวาอีกทีก็จะเจอห้องอาหารไพรเวทที่เค้าเตรียมไว้ให้นะคะ ชื่อว่าห้อง Regal ค่ะ โต๊ะใหญ่พอควร ห้องก็กว้างค่ะ ไม่อึดอัดสำหรับสิบเอ็ดคนนะคะ (เราเจ็ด เจ้าถิ่นอีกสี่คนค่ะ) เซ็ตอัพบนโต๊ะค่ะ (เดี๋ยวจะบอกอีกทีว่าอะไรเป็นอะไรนะคะ อิอิ) บนโต๊ะมีพริกเขียว-ส้ม แล้วก็เมนูตั้งไว้เยี่ยงนี้เรียบร้อยแล้วนะคะ เอาเมนูมาให้ดูค่ะ (เห็นรายการอาหารแล้วเริ่มเหงื่อตก จะกินกันหมดไหมหละนี่) โคมไฟใหญ่ยักษ์และสวยเรียบๆ ดีค่ะ ปูผ้า เตรียมรอการหม่ำ จากนั้นพนักงานก็รินชามาให้ค่ะ เป็นชาผูเอ่อ รสอาจจะเฝื่อน แต่ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร และละลายไขมันได้ดีเยี่ยมนะคะ ตะเกียบสีดำ เอาไว้ให้เรากินกับถ้วยเราเองค่ะ สีแดงเอาไว้คีบกับข้าวจากจานมาให้เรา ส่วนช้อนหน้าตาประหลาดขวามือสุด เอาไว้กินปูฮับผม อิอิ สำหรับมื้อนี้ เราทราบว่าราคาอยู่ที่ 2800 ริงกิตต่อ 12 คนนะคะ (มีเจ้าถิ่นที่นั่นมาเพิ่มด้วยอะค่ะ) ตกราวๆ 233 ริงกิตต่อคน ก็หัวละ 2330 บาทได้ค่ะ ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบกับอาหารที่ได้ สำหรับเรานะ...คุ้มค่ามากๆ เลยหละค่ะ เดี๋ยวไปดูกันเนาะว่าหม่ำอะไรกันบ้าง อ้อๆ สำหรับราคาคนวอล์คอินก็ราคานี้นะคะ ถามเจ้าถิ่นให้เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องจองโต๊ะและแจ้งล่วงหน้าก่อนค่ะ และแล้วจานแรกก็มาก่อนเลยค่ะ เป็นหนึ่งจานในชุด Imperial Three Treasures ตัวนี้คือ Lily Bulbs with Emperor Sprouts Orange Salad ค่ะ รสออกเปรี้ยวๆ หน่อยนะคะ กินแล้วสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้ดีค่ะ เหมาะสำหรับการมาเสิร์ฟเป็นจานแรกๆ มาก สักพักเจ้าหน้าที่ก็มารินซอสให้ค่ะ ซอสที่รินก็เพื่อกินกับจานนี้หละค่ะ ยังคงเป็นหนึ่งในชุด Imperial Three Treasures จานนี้ชื่อ Crispy Pork Belly with Preseved Beancurd Paste ตัวกระเพาะหมูกรอบดีค่ะ ส่วนตัวเครื่องเคียงเนี่ย ตัวสีเขียวออกแนวรสเค็มหน่อยค่ะ น่าจะเป็นแตงกวาดองขิงหรือไงเนี่ยค่ะ เราว่าตัวสีส้มจะชูรสได้ดีกว่านะคะ กินแล้วเข้ากับตัวกระเพาะหมูทอดกรอบมากกว่าค่ะ เราว่าอร่อยกว่าหละ (ความอร่อยเป็นรสนิยมส่วนตัว ผู้อ่านกรุณาใช้วิจารณญาณนะฮะ ) ตัวต่อไปยังคงอยู่ในชุดแรกค่ะ (บอกแล้วว่ามันเป็น three teasures) Mushroom with Truffle Oil Saladขอบอกว่า พอตัวนี้มา กลบรัศมีสองจานก่อนหน้านี้ทันทีค่ะ มันอร่อยมว้าาาาก ตัวเห็ดสด เด้ง ผัดมาได้หอมพริกไทยดำ กรุบกรอบ สัมผัสในปากเลิศ และรสชาติเยี่ยมค่ะ สุดๆ ในบรรดาสามจานแรก เราชอบจานนี้ที่สุดค่ะ อร่อยล้ำ จานต่อไปนะคะเป็น Double-boiled Chicken Essense Soup ค่ะ ตัวน้ำซุปรสค่อนข้างเข้มข้นและมีความซับซ้อนของรสพอควรค่ะ ผสมระหว่างไก่กับยาจีนที่ใช้ตุ๋น แล้วก็มีความขมเบาๆ จางๆ ด้วย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นะคะ ที่จริงเห็นด้วยว่ามีขิง แต่กลิ่นไม่โดดเด่นออกมาค่ะ ตอนเราซดครั้งแรก ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ชามนี้เหมือนสวยพิศค่ะ คือ พอซดๆ ไปแล้วจะชุ่มคอและให้ความอบอุ่นดีมากเลยหละค่ะ (ตอนไปอากาศเย็นๆ หน่อย แถมเอาเป้ไป เลยไม่ได้เอาอุปกรณ์กันหนาวไปเลยค่ะ (กระเป๋าเดินทางใบเล็กเราพังอยู่ง่ะ ซ่อมไม่ได้ด้วย ร้านไม่มีอะไหล่ เหอๆ)) ตัวปลิงทะเลค่ะ เนื้อหนาเวอร์และเด้งดึ๋งดีมาก จานต่อไปเป็น Steamed Marble Goby Fish with Crispy Ginger and Garlic ค่ะ ตัวปลาสดและเนื้อนุ่มนวลมากค่ะ ซอสอาหย่อย แต่ตัวขิงกับกระเทียมเจียวที่โรยมานี่มันกลบกลิ่นและรสอะค่ะ เราว่า มันทำให้รสชาติโดยรวมของจานนี้เสียนะคะ ไม่ได้ช่วยส่งรสชาติอ้ะ สำหรับเรา เราแนะนำให้กินเฉพาะปลากับซอสมากกว่าค่ะ แต่ก็ลองดูก็ได้นะคะ ลางเนื้อชอบลางยาเนาะ แฮ่ จานต่อไป Steamed Guinea Fowl with Spicy Sauce นะคะ ตัวไก่เนื้อแน่นและชุ่มฉ่ำดีค่ะ (ไม่แห้งเหมือนไก่ฟาร์มบ้านเรา เหอๆ) ซอสเผ็ดที่มาด้วย ออกแนวเค็มนิดๆ แล้วก็...เช่นเคยค่ะ เราว่ากินไก่กับน้ำนึ่งที่ออกมาเปล่าๆ ดีกว่าจิ้มซอสนะคะ เราว่าตัวซอสทำให้รสเสียอ้ะ มันมีกลิ่นฉุนนิดๆ แล้วก็มีส่วนผสมของถั่วด้วย แต่เราว่า..มันไม่ได้ช่วยส่งรสชาติน่อ นต่อไปเป็นหนึ่งในสองจานของ Twin Variety Snow Crab ค่ะ เป็นการเอาปูหิมะมาทำสองอย่าง แบบแรกนี่เป็นการเอาไปทอดกับไข่แดงนะคะ ชื่อเมนูเค้าใช้คำว่า Salted Egg Yolk น่ะ เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่เด่นนะคะ รสชาติดีมาก ปูหวานเจี๊ยบ (อันนี้ชุนชุนเป็นคนนิยาม ฮา) ไข่เค็มช่วยส่งรสกำลังดีด้วยค่ะ อร่อยค่ะ เป็นอีกจานที่กินเพลิน ระหว่างที่แทะไข่เค็มที่เคลือบอยู่อย่างเพลิดเพลิน (มันแทะเล็มได้เพลินจริงๆ นา) การกินเนื้อข้างในก็ต้องอาศัยเครื่องมือที่แนะนำไปเมื่อตอนต้นๆ เอนทรี่หละนะคะ เอาด้ามที่เหมือนส้อมเสียบ บิดนิดหนึ่งแล้วดึงออก งั่มๆ อาหย่อยค่า จานต่อไปเป็น Stir-Fried Deluxe Vegetables with XO Sauce ค่ะ จานนี้รสจัด+เผ็ด เบรคการกินเนื้อๆ แทบทุกจานที่ผ่านมาได้ดีเลยค่ะ อร่อย เป็นอีกจานที่รสชาติดีนะคะ จานต่อไป เป็นจานที่เราชอบน้อยที่สุดของมื้อนี้เลยค่ะ เหอๆ Stir-Fried Fresh Scallop with Preserved Olive Leaf ที่ไม่ชอบเพราะจานนี้รสชาติเค็มมันโดดเด้งออกมามาก มันเค็มแบบ...เอิ่ม..ทำเกลือหกใส่เหรอ หรือว่าไร? แต่ตัวหอยเชลล์สดนะคะ เนื้อเด้งดี วัตถุดิบดีค่ะ แต่รสชาติ...เราไม่ชอบง่ะนะ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูในทวินวาไรตี้สโนว์แคร็บค่ะ เป็นการเอาไปนึ่งกับไวน์จีน ภาษาอังกฤษใช้ Steamed with Chinese Wine สำหรับจานนี้นะคะ เราว่ากลิ่นไวน์แรงไปง่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงส่วนเนื้อตรงกระดองที่เหมือนไข่ตุ๋นนั่นน่ะค่ะ แล้วก็มีกลิ่นของไข่ (ไข่ปูหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจนะคะ) แล้วกลิ่นมันตีกันเองซะงั้นอะค่ะ แต่สำหรับตัวก้ามที่มาด้วยในจานนี้รสชาติโอนะคะ กลิ่นไวน์จะไม่เด้งออกมาเหมือนที่กระดอง ตัวความสดก็โอค่ะ แต่ความหวานของเนื้อปูตัวที่เอาไปทอดกับไข่แดงนั่นจะเด่นกว่ามากค่ะ จานต่อไปค่ะ Golden Sweet Corn Rice with Seafood ตัวนี้ ข้าวหอมกลิ่นกระทะดีค่ะ แต่แห้งไปนิดหนึ่งนะคะ แล้วก็..นะมาจานสุดท้าย รสชาติก็เลยไม่ดื่มด่ำกับมันเต็มที่ด้วยค่ะ (เพราะอิ่มจากอย่างอื่นมามากแล้วน่อ แฮ่...) ระหว่างเม้าท์ๆ กินๆ หนึ่งในผู้ประสานงานซึ่งเช็คอินห้องอาหารนี้ผ่านโฟร์สแควร์ก็บอกมาว่า อุ๊ย เค้าแนะนำเทมปุระทุเรียนด้วยค่ะ บอกว่าห้ามพลาด (ซึ่งเจ้าถิ่นก็บิ๊วท์มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ) ก็เลยทำให้ทุกคนรอของหวานที่ว่านี้อย่างรอคอยกันเลยทีเดียว แต่จะเห็นว่า เค้าบอกว่าไม่ควรสั่งปลา เพราะไม่สด แต่ที่เรากินนั่น สดมาก หวานมาก เนื้อเนียนละเอียดมากนะคะ มันก็คงเป็นเรื่องของกาละกระมัง เค้าอาจจะมาเจอตอนปลาไม่สดพอดีอะนะคะ ระหว่างรออาหารก็เล่นอะไรกันหนุกๆ ถ่ายลงอินสตาแกรมบ้างอะไรบ้าง นี่เจ้าถิ่นคนหนึ่งเอาปูมาทาบให้เห็นขนาดของปูค่ะ แฮ่... และแล้วสิ่งที่รอคอยก็มาถึงค่ะ แท่นแท้... Durian Tempura with Lemongrass Jelly อย่างที่เห็นนะคะว่ามันมาสามอย่างค่ะ อันแรกก็ได้แก่ตัวเทมปุระทุเรียนนั่นเองขอบอกว่ามันอร่อยเมิ่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กรอบนอก ข้างในเยิ้มราวกับซาลาเปาไส้ไข่แดงของฮ่องกง (เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูเนื้อข้างในค่ะ) ประมาณคัสตาร์ดแต่เหลวกว่า ตัวทุเรียนคล้ายๆ จะเป็นหมอนทองค่ะ แต่กลิ่นไม่แรงนะคะ ไม่ฉุนเกินกว่าจะรับได้ค่ะ อร่อยจริงๆ ส่วนตัวกรอบๆ ข้างบนนั่น คล้ายๆ ขนมรังนกบ้านเราค่ะ ทำมาจากมันอะนะคะ นี่ค่ะตัวเนื้อข้างในของมัน จะเห็นว่ามีความเยิ้มอยู่ แต่ไม่เหลวเละนะคะ ไม่รู้ว่าเค้าทำได้ไงจิ อร่อยค่ะ แต่ของเพื่อนอีกคน ออกแนวเหลวกว่าของเราหน่อยหนึ่งค่ะ ส่วนอีกสองตัวนะคะ ก็จะมีช็อกโกแลตเสียบกับแตงกวาและผักค่ะ นัยว่าให้เอามาดับกลิ่นและรสชาติของทุเรียน ก่อนที่จะลองหม่ำเจ้าเยลลี่ตะไคร้อะนะคะ (ไม่งั้นรสคงตีกันพิลึกนะคะ ) สำหรับรสชาตินะคะ ตัวช็อกโกแลตนี่เราว่าเกือบเป็นดาร์คช็อกเลยแหละ ขมนำ แล้วก็พอกินกับแตงกวาและผักสลัดที่แนมมาด้วยก็แปลกๆ ดีค่ะ แต่มันช่วยดับกลิ่นได้แบบไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ส่วนตัวเยลลี่ตะไคร้ หวานนิดๆ ลื่นคอและมีกลิ่นตะไคร้อ่อนๆ ค่ะ ไม่ฉุนเกินไป นอกจากนั้นก็มีเนื้อส้มโอรองก้นให้นิดหน่อยด้วยหละค่ะ แต่เจ้าส้มนี่แหละ ขมนิดๆ เลยโดนหักคะแนนไปหน่อยหนึ่งนะคะ และแล้ว แถ่นแท้...ขอเผยโฉมหน้าเชฟที่ทำหลายเมนูให้เราประทับใจท่านนี้ค่ะ เป็นชาวมาเลเซียนะคะ ชื่อคุณ Eric Lee ค่ะ อิ่มจนอืด (ตามมาด้วยความอ้วนทีหลัง ฮา) เราก็เดินออกมาจากห้องกันค่ะ หันหลังให้ห้องส่วนตัว มองตรงไปก็จะเป็นห้องอาหารอีกโซนหนึ่งนะคะ แล้วทางซ้ายมือนี่ก็เป็นห้องน้ำค่ะ (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาง่ะ แหะๆ ทว่า...สะอาดสะอ้านดูดีค่ะ) จากนั้นเจ้าถิ่นก็พาเราไปขึ้นรถเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปค่ะ รถ (สอง) คันนี้มาจอดรอที่หน้าโรงแรมไฮแลนด์เลยหละค่ะ นั่นคือฟาร์มสตรอเบอรี่ สวนลาเวนเดอร์แอนด์ชิมทุเรียนแสนแพงที่จะอัพในเอนทรี่หน้านะคะ สรุปแล้วนะคะ สำหรับที่นี่อาหารส่วนใหญ่อร่อยถึงอร่อยมาก มีผิดหวังเมนูเดียวคือหอยเชลล์ค่ะ นอกนั้นถือว่าโอหมด แถมมีเมนูที่ว้าวอย่างเห็ดผัดซอสพริกไทดำ ปูหิมะชุบไข่แดงเค็มทอด ทุเรียนเทมปุระอีก ก็เลยคิดว่า ถ้าท่านใดมาเก็นติ้ง ชอบกิน และมีงบเพียงพอ เชียร์ให้ไปลองที่นี่สุดกำลังนะคะ อิอิเมนูแนะนำ : เห็ดผัดซอสพริกไทดำ ปูหิมะชุบไข่แดงเค็มทอด ทุเรียนเทมปุระ การให้คะแนน (ความคิดเห็นส่วนตัวสุดๆ นะคะ) รสชาติ Lily Bulbs with Emperor Sprouts Orange Salad B+ / Crispy Pork Belly with Preseved Beancurd Paste B / Mushroom with Truffle Oil Salad A / Double-boiled Chicken Essense Soup B+ / Steamed Marble Goby Fish with Crispy Ginger and Garlic B+ / Steamed Guinea Fowl with Spicy Sauce B / Twin Variety Snow Crab - Salted Egg Yolk A / Steamed with Chinese Wine B Stir-Fried Deluxe Vegetables with XO Sauce B++ / Stir-Fried Fresh Scallop with Preserved Olive Leaf C+ / Golden Sweet Corn Rice with Seafood B / Durian Tempura with Lemongrass Jelly A / Lemongrass Jelly B+วัตถุดิบ B++การบริการ Aบรรยากาศ Aราคา Bความสะอาด Aความคุ้มค่า A ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2555 1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน) 2. งานทอดกฐิน ณ วัดผาซ่อนแก้ว (หลวงพ่ออำนาจ โอภาโส) จ.เพชรบูรณ์วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2555 1. ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน) เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2.ร่วมสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา เฉลิมฉลอง ๒๖ สัมพุทธศตวรรษ : ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า (กิจกรรมทุกวันอาทิตย์ตลอดทั้งปี) เวลา ๑๕.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. ณ ห้องพระบรมสารีริกธาตุ ชั้น ๔ อาคารบุญยง ว่องวานิช ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซ.เพชรเกษม ๕๔ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ โทร. ๐๒ ๔๕๕ ๒๕๒๕ หน้าเว็บรายละเอียดกิจกรรม //www.ybat.org/v4/activity_view.asp?id=229 3. งานทอดกฐิน ณ วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)วันเสาร์ที่ 3 - อาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2555 (กิจกรรมทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์แรกของเดือน) 1. เชิญทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรมแบบเนสัชชิก เจริญสติแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ณ มูลนิธิบ้านอารีย์ เช้าวันเสาร์ เวลา ๐๙.๓๐ - เย็นวันอาทิตย์ เวลา ๑๖.๐๐ น. เชิญทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรมแบบเนสัชชิก (ไม่นอน ทานอาหารมื้อเดียว และภาชนะเดียว) การปฏิบัติเจริญสติแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ นำปฏิบัติโดย พระอาจารย์โกศิล ปริปุณฺโณ วัดปลายนา จ. ปทุมธานี และ พระอาจารย์วรวิทย์ วรธมฺโม สำนักปฏิบัติธรรมอู่ตะเภา จ. เพชรบุรี เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.net/index.php 2. งานทอดกฐิน ณ วัดสุนันทวราราม จ.กาญจนบุรี (พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก) รายละเอียดตามลิงก์นี้นะคะ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=428291750565491&set=a.115953131799356.14646.115726131822056&type=1&theaterวันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2555 (ทุกวันจันทร์) 1. เรียนอภิธรรมเบื้องต้น บรรยายโดยพระครูสมุห์ทวี เกตุธมฺโม ณ บ้านอารีย์ เวลา ๑๗.๓๐-๑๙.๓๐ น. เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.netวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2555 (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน) 1. ขอเชิญร่วมฝึกสมาธิวิปัสสนาเบื้องต้น โดยพระครูปลัดมงคลวัฒน์ (พระมหาสุพล ขันติพโล) ผู้อำนวยการสถาบันพลังจิตตานุภาพ มูลนิธิหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ เวลา 13:00 น. – 15:00 น. ณ มูลนิธิบ้านอารีย์ เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.net/index.phpวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2555 1. ฟังธรรมจากหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตัสสโก วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี ณ อาคารเล้าเป้งง้วน ชั้น 26 เวลา 17.00-20.00 น. รายละเอียดอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=384800581594076&set=a.101009116639892.2552.100001924116324&type=1&theaterวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 1. ฟังธรรมจากพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส 18.30 น. - สวดมนต์ ทำวัตรเย็น / 19.00-21.00 น. - นั่งสมาธิ และ ฟังธรรม (เน้นการปฏิบัติ ตามแนวมหาสติปัฏฐาน 4) ณ หอประชุมพุทธคยา ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า รายละเอียดอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ https://www.facebook.com/events/441436632583633/?ref=ts&fref=tsวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2555 1. ตักบาตรพระกรรมฐาน (นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่น) ที่วัดบรมนิวาส (ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่นค่ะ) (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน) 2.งานทอดกฐิน ณ วัดบุญญาวาส จ.ชลบุีรี (พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต) 3. งานทอดกฐิน ณ วัดป่าสันติพุทธาราม จ.ราชบุรี (หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต)วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน) 1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร และสดับธรรม เมตตารับบาตร โดย พระอุดมธรรมสุนทร (หลวงปู่แปลง สุนทโร) วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร หลวงปู่คูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง จ. อุดรธานี เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์ เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.net/index.php ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ 1,469,696+327235=1796931/8118/733
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555
21 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 7:47:06 น.
Counter : 13006 Pageviews.