ขอ Marriage License ที่ DC
เมื่อวันพฤหัสที่ 10 ม.ค. 2013 ก็ไปขอ Marriage License มานะ ไม่ได้เรียกว่าไปจดทะเบียนสมรสนะ อย่าเข้าใจผิดนะจุดนี้ มันยังไม่ใช่ทะเบียนสมรสจริง ๆ เพราะยังไม่ได้มีลายเซ็นต์ของผู้ทำการสมรสให้
ก็คือ การจดทะเบียนที่อเมริกานี่ เราก็ไปขอ Marriage License ก่อน ของที่ Washington, D.C. นี่ พอทำเรื่องขอเสร็จแล้ว 3 วันทำการ ถึงเอาใบเสร็จ $45 ไปรับใบ Marriage License มา แล้วพอจะจัดพิธีแต่งงานก็ให้คนที่ทำพิธี ไม่ว่าจะเป็นบาทหลวง, Reverend, Priest หรือ Officiant ทำพิธีแล้วก็เซ็นต์ แล้วคน ๆ นี้ล่ะ ก็จะส่งใบ Marriage License นี้ กลับไปที่ court แล้วอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ court จะส่งไปรษณีย์ทะเบียนสมรส หรือที่เรียกว่า Certificate of Marriage มาให้
เอ้า พูดยาวจัง เข้าเรื่องของบุ้งดีกว่า บุ้งไปทำเรื่องที่เขต Washington, D.C. นะคะ เพราะบ้านอยู่เขตนี้ ที่จริงไปทำที่เขตไหนก็ได้ บินไป Las Vegus , Texus , Florida ก็ได้ แต่ว่าบ้านใกล้เขตดีซี ก็เลยไปที่เขตนี้
ที่อยู่เขต 500 Indiana Ave. Washington, D.C. ห้อง #4485 ไปถึงประมาณ 15.45 คือเวลาราชการมันคือ 8 - 17.00 น. จันทร์ถึงศุกร์ พอเข้าไปถึงก็ถอดผ้าถอดผ่อน เอ้ย พูดเล่น ฮ่าๆๆ ตรวจความปลอดภัยต่างหาก ก็ส่งกระเป๋า ของส่วนตัว มือถือเข้าเครื่องสแกนเหมือนที่สนามบินน่ะแหละ ไม่ยากอะไร
พอเข้าไปถึง ตาเคร้กบอกว่า ลงไปชั้นใต้ดินกัน (ประมาณว่า หาห้องไม่เจอ ให้ไปเริ่มชั้นใต้ดิน) บุ้งก็บอก เห้ย มันห้อง 4485 มันจะเป็นชั้นใต้ดินได้ไง มันต้องชั้น 4 ดิ ทำไมเธอถึงคิดเช่นนั้น
อ้าว ก็ห้อง 4485 มันน่าจะชั้นใต้ดินไง คือ อยากบอกว่า นี่ชั้นตัดสินใจถูกป่าวอะ จะแต่งงานกะตานี่ ผ่านสอบ SAT ตอนมัธยมมาจริง ๆ ป่าวอะ กลับได้ป่าวว้า ไม่แต่งแระ เริ่มไม่มั่นใจในอนาคตตัวเอง เหมือนรู้สึกว่าอาจจะได้เป็นผู้นำครอบครัวเองเสียแล้ว (ไม่อยากเป็น อยากอยู่บ้านขัดเพชรมากกว่า) ก็เลยเถียงไปว่า บ้าเรอะ มันต้องชั้น 4 ดิ นี่ไง แผนที่ แล้วก็พบว่ามันอยู่ชั้น 4 ฝั่ง east
พอถึงไปถึงชั้น 4 ก็คงทำหน้าทำตาเหมือนชาวบ้านเพิ่งเข้ากรุงม๊าาาากกก จนท. พี่มืดสาวร่างใหญ่ดูเหมือนใจดีเลยถามว่า หาอะไรอยู่เหรอยู ตาเคร้กเลยบอกว่ามาหา Marriage Bureau หล่อนก็รีบบอกเลย
นี่เดินตรงไปแล้วพอเจอป้ายให้เลี้ยวซ้ายสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาอีกที ห้องอยู่ขวามือ เอ่อ....นี่ court หรือ farm maze คะ (เคยเห็นในทีวีป่ะ ทุ่งข้าวโพดที่เค้าตัด ๆ เป็นทาง-วน ให้นักท่องเที่ยวจ่ายตังแล้วเข้าไปแล้วหลงแล้วหาทางออกเองอะ)
ก็เดินดุ่ม ๆ เจอห้องจนได้ เดินเข้าประตูไป
ดิ้งด่องงง ดิ้งด่องงง คือมีเสียงด้วยอะ ประมาณว่าเตือนพนักงานในห้องว่า เห้ย มีเหยื่อเข้ามาแล้ว ตื่นได้แล้ว ทำงาน ๆ อะไรแบบนี้
ดิฉันนางสาวไทยรีบเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะริมห้อง เพราะเห็นเอกสารให้กรอกวางอยู่ เหมือนมันนอนรอให้เรารีบเข้าไปกรอกโดยไว
กรอกชั้นสิ กรอกชั้น !! ความรู้สึกมันบอกบุ้ง แต่ตาเคร้กครับท่าน สมแล้วที่ท่านเกิดในแผ่นดินนี้ รู้งาน เดินตรงเข้าไปเซ็นต์ชื่ออีกด้านนึงของห้อง (ที่อเมริกานี่เข้าชอบให้เซ็นชื่อ ไปธนาคารถ้าทำเรื่องฝากถอนผ่านเค้าเตอร์ นี่ไปต่อแถวได้เลย แต่ถ้าทำเรื่องอื่นให้ไปเซ็นชื่อ แล้วไปนั่งรอ แม้ไม่มีลูกค้า คนไหนแย่งเรา เราก็ต้องเซ็นชื่อก่อน ไปนั่งรอเฉย ๆ ไม่ได้ ไม่มีใครมาหา แต่พอเซ็นชื่อปั๊บ รอหนึ่งนาที พี่พนักงานเรียกชื่อเหมือนเป็นบุคคลสำคัญ)
แล้วก็กรอกใบสมัคร Marriage License (//www.dccourts.gov/internet/documents/marriage_license.pdf) ที่อเมริกานี่ เราสามารถแต่งงานใน court ได้ หรืออยากไปแต่งงานที่ไหนก็ไปก็ได้ ไม่ว่าจะแต่งในสวน ในโบสถ์ หลังบ้านเพื่อน โรงแรม ร้านอาหารนี่ได้หมด ข้อแม้คือ ถ้าพี่สมัคร Marriage License รัฐไหน พี่ต้องทำพิธีรัฐนั้นนะ อย่าสะเออะมาขอไลเซ่นที่นี่แล้วไปแต่งที่ Maryland นี่ไม่ได้นะ !!
พอกรอกเอกสารไม่นาน พนักงานพี่มืดสาวหุ่นซะบึมก็เรียกชื่อตาเคร้กเข้าคอก มันเหมือนคล้าย ๆ ธนาคารบ้านเราอ่ะ ที่เป็นคอก ๆ เวลาเราไปทำธุรกรรมส่วนตัว บุ้งก็ลังเลนิด ๆ ว่าตูจะเข้าไปด้วยดีไหมวะ เพราะเค้าไม่ได้เรียกชื่อเรา (แล้วมาทำไมเนี่ย) ตาเคร้กบอกว่า เข้ามาซี่ ยืนทำอะไร
อ่าว เค้าไม่ได้เรียกชื่อชั้นนี่นา แต่ก็เข้าไปนั่งในที่สุด นึกในใจ ทำไมตาเคร้กไม่ลงชื่อชั้นด้วยฟะ สงสัยลืม -_-" พนักงานสาวพี่มืดหุ่นซะบึมก็กรอกข้อมูลที่เรากรอกไปในกระดาษลงคอมพ์ มันก็นานพอควรอ่ะนะ บุ้งเลยหาไรทำ ก็ถามตาเคร้กว่า
นี่เธอว์....เธอว่ามีคู่ไหนที่ทะเลาะ โวยวายกันแล้วก็เข้าไปจดทะเบียนป่ะ ด้วยความอัธยาศัยดี ตาเคร้กหวังดีเลยถาม จนท. เธอบอกว่า ไม่มีหรอก แต่ละคู่ก็ปกติกันดีนะ
บุ้งลืมบอกไปว่า ก่อนจะถึงคิวบุ้ง มีคู่ก่อนหน้าด้วย เป็นเกย์สาวเชื้อสายจีนสองคน มาจดไลเซ่นที่นี่ เมื่อก่อนก็มีดีซีนี่ละ ที่ให้คู่เกย์จดทะเบียนได้ แต่ตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อีกหลายรัฐก็ให้จดได้เหมือนกันนะ ที่นึกได้ก็แมรี่แลนด์
พอ จนท. กรอกข้อมูลเสร็จก็ปรินท์ออกมา เออ ลืมบอกว่า บุ้งจะแต่งงานใน court ด้วย ก็ต้องกรอกใบ civil wedding เพิ่ม เพื่อขอแต่งงานกันที่ใน court นี่ด้วย จนท. บอกว่า เดี๋ยวลงไปจ่ายตังค์ห้อง JM 300 นะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยโทรมาจองวันแต่ง ปกติกว่าจะได้คิวก็สามอาทิตย์นะ โทรมาไว ๆ หน่อยนะ
แล้วเจ้แกก็บอกให้บุ้งกะตาเคร้ก ยกมือขวาขึ้นเหมือนสาบาน ชีถามว่า สาบานไหม ว่าที่กรอกข้อมูลมาทั้งหมดเป็นความจริง
จ๊ะ สาบาน จ๊ะ ชั้นก็สาบาน
โอเค เอามือลง แล้วชีก็ปริ้นท์ให้ดูอีกทีเผื่อมีอะไรผิดพลาด พอเราดูแล้วไม่มีอะไรผิด เจ้บอกว่าแค่นี้ล่ะ เอาเอกสารนี้ลงไปจ่ายตังค์นะ สวัสดี แล้วบุ้งกะตาเคร้กก็ใช้ลิฟท์ลงไปชั้นใต้ดิน ห้อง JM 300 เหมือนเค้าเตอร์ธนาคาร มีกระจก จนท. พี่มืดชายร่างผอมยื่นมือออกมารับเอกสารที่ จนท สาวหุ่นซะบึมด้านบนให้มา แล้วฮีก็บอกว่า $45 ลืมบอก ว่าเค้าให้จ่ายแต่เงินสดนะคะ ไม่ก็เชคสั่งจ่าย court แต่สมัยนี้คงไม่มีใครพกเชคซะแล้วมั้ง บัตรเครดิตไรนี่ไม่รับนะคะ เปลืองไฟ เปลืองตังค์ค่ารูด รัฐไม่มีเงินแล้ว (อันนี้คาดการณ์เอง) พอจ่ายเสร็จ สิบวินาทีก็ได้ใบเสร็จมา ประมาณว่า สี่วันทำการให้เอาใบเสร็จนี้มารับ Marriage License จะให้ใครมารับก็ได้ ให้อากง อาม่าที่บ้านมาก็ได้ แต่อย่าลืมเอาใบเสร็จมารับที่ห้อง JM 300 นี่ละ
แค่นี้เอง ง่ายมากเลย ใช้เวลาทั้งสิ้น 20 นาทีเห็นจะได้ รอไม่นาน ไม่ค่อยมีคน แต่รัฐอื่นไม่รู้นะ เอาล่ะ เดี๋ยวเรื่องต่อไปจะเป็นอะไร ก็ติดตามนะคะ ตอนนี้ง่วงล่ะ ไปก่อน บายยยยยยย
Create Date : 13 มกราคม 2556 |
|
2 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2556 14:13:49 น. |
Counter : 5661 Pageviews. |
|
|
|