ทางคณะกรรมการปกครองแห่งชาติ จึงได้มีมติ เพิ่มโทษ+เปลี่ยนแปลงกฎหมาย กับพลเมืองที่ทำความผิดดังนี้

 

- ดื่มสุราแล้วก่อความเดือดร้อนกับผู้อื่น

ต้องระวางโทษ ให้หนักว่า โทษปกติ (ที่ไม่ได้ดื่มสุรา) 50เท่า

เพราะการเป็นคนบ้า ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าหลังกินเหล้าแล้วตัวเองจะต้องครองสติไม่ได้ ถือเป็นการจงใจโดยต้องรับผิดชอบกับผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

การกระทำใดๆหลังจากนั้น จะต้องรับโทษที่หนักกว่าปกติ เพราะเป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคมคนบ้าอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ให้รวมพวกที่ทำผิดแล้วแกล้งเมา / โกหกว่าเมา หรือพวกเมาดิบ ต้องลงโทษให้หนักว่าโทษปกติด้วย

 

- ไม่ให้ลดโทษ กับจำเลยที่กระทำผิดแล้วรับสารภาพ โดยเฉพาะ พวกจำนนต่อหลักฐาน ต่อนี้ไปจะไม่มีการบรรเทาโทษกับจำเลยให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

ถือว่าได้กระทำผิดแล้ว มารับสารภาพแบบส่งๆ ขอไปที

เพื่อตัวเองจะรอดตัว ได้รับโทษสถานเบา

การรู้สำนึก จะมีผลเมื่อตัวเองรับโทษแล้วเท่านั้น ห้ามใช้การลดโทษมาล่อใจผู้กระทำผิด มันคนละเรื่องของคนบ้า

 

- คนบ้าผู้กระทำผิด ขณะหลบหนีการจับกุม ห้ามไปฟ้องร้องกล่าวหาผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะตัวเองทำผิดยังไม่เคารพกฎหมาย

แล้ว..ยังมีหน้าไปขอบังคับใช้กฏหมายไปกล่าวโทษผู้อื่น

ต่อจากนี้คนบ้าจะทำไม่ได้อีกต่อไป

การที่เอากฎหมายเป็นที่พึ่ง ท่านต้องเคารพกฎหมายก่อน

 

- ไม่ให้คนกระทำผิดแล้ว ไปอุ้มบ้า อุ้มบ้า ทำพิธีขอขมาลาโทษ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว เหมือนเอาไข่ ไปขอแลกกับเพชร คิดได้ไง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องเอาผิดกับคนบ้าที่ชอบอีกจัดฉากด้วย

ไปทำกับผู้อื่น รู้ว่าตัวผิด แล้วไปขอ..ขอ ขอ .รู้อย่างไรว่าเขาจะให้อะไรกลับคืนมา

 

เรื่องแบบนี้ห้ามคนบ้าทำ

 

- คนที่ทำผิดด้วยความคึกคะนอง จะต้องได้รับการเพิ่มโทษให้หนักกว่าเดิม25เท่า โดยได้รับโทษแบบคึกคะนองด้วยการไปโกยขี้ม้า เป็นเวลา90วัน เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

นอกจากนี้แล้วเมืองคนบ้า จะไม่ยอมรับคนทุจริตให้เข้ามามีหน้ามีตาในสังคม

เพราะพวกเขามี สติอยู่เสมอว่า คนเสียสติ จะไม่ทุจริต

 

คนเสียสติ ต้องมีสัจจะ

 

คนเสียสติต้องไม่พูดปด

 

ที่อดทนอ่านมาทั้งหมดนี้ตกลงว่า คนเขียนก็..บ้า / ตัวละครก็...บ้า / คนอ่าน (ก็บอกแล้วว่า เป็นคนดี ไม่บ้า)

 

 

 

จบ(แบบไม่เต็มใจ)